กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 14-09-2019, 23:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุกร์ที่ ๖ กันยายน ๒๕๖๒

ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ ที่เรามีความถนัด มีความชำนาญมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๖ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๒ ดังที่ได้กล่าวไว้ตั้งแต่ก่อนเจริญกรรมฐานว่า พวกเราเสียทีที่นับถือพระพุทธศาสนา ปฏิบัติตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่นำเอาหลักธรรมไปใช้ในชีวิตจริงได้น้อยมาก สังเกตจากการขาดความพอดีในแต่ละอย่าง ในแต่ละงาน

ในเมื่อเราไม่สามารถนำหลักธรรมที่มีประโยชน์สูงสุดมาใช้งานได้ ก็ต้องบอกว่าเสียทีที่เกิดเป็นมนุษย์ ได้พบพระพุทธศาสนา ได้ฟังธรรมและน้อมนำมาปฏิบัติ เพราะว่าการปฏิบัติธรรมของเรานั้น ยังอยู่ในลักษณะของงู ๆ ปลา ๆ ไม่สามารถที่จะสำเร็จสัมฤทธิ์ผลอย่างจริงจังได้ ซึ่งคำตอบของความไม่สำเร็จนั้นก็คือขาดความตั้งใจจริง

บุคคลที่ตั้งใจจริง ที่จะปฏิบัติภาวนานั้น ต้องยอมแลกกันด้วยชีวิต ไม่ใช่ลำบากหน่อยก็ท้อ ลำบากหน่อยก็ไม่เอาแล้ว ถ้าอย่างนั้นโอกาสที่จะประสบความสำเร็จจะมีน้อยมาก แม้กระทั่งจะรักษาสภาพจิตของเราให้ผ่องใสในแต่ละวันก็ยาก ไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องของมรรคของผลเลย

การที่ท่านทั้งหลายมาปฏิบัติธรรม บาลีใช้คำว่า ธัมมานุธัมมปฏิปัตติ ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม คำว่าสมควรแก่ธรรมนี้ควรจะจับอะไรเป็นหลัก ก็ต้องดูบารมี ๑๐ เรามีการให้ทานเป็นปกติหรือไม่ ? รักษาศีลเป็นปกติหรือไม่ ? พยายาม ลด ละ เลิก ละเว้นออกจากกามทั้งหลายหรือไม่ ? ใช้ปัญญาประกอบในการปฏิบัติธรรมหรือไม่ ? มีความพากเพียรเต็มกำลังของเราแล้วหรือไม่ ? มีความอดกลั้นอดทนที่จะต่อสู้ จนกระทั่งประสบความสำเร็จหรือไม่ ?

มีความจริงจังจริงใจต่อการปฏิบัติของเราหรือไม่ ? ปักใจมั่นแน่วแน่อยู่กับเป้าหมายของเราไม่คลอนคลายหรือไม่ ? มีความรัก ความสงสาร ความเห็นใจต่อสรรพชีวิตแม้กระทั่งต่อตนเองหรือไม่ ? เมื่อเกินความสามารถของเราที่จะแก้ไขในเรื่องต่าง ๆ แล้ว รู้จักปล่อยวางหรือไม่ ? เราสามารถตรวจสอบได้ทุกวัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-09-2019 เมื่อ 10:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 15-09-2019, 22:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ทุกเช้าเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมา ภาวนาจนกำลังใจทรงตัวแล้ว ให้ตรวจสอบดูว่า ถ้าวันนี้จิตของเราต้องสละ มีความพร้อมที่จะสละหรือไม่ ? วันนี้เราพร้อมที่จะรักษาศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์หรือไม่ ? เมื่อพิจารณาตั้งแต่ต้นจนปลายแล้ว ก็ไปประกอบหน้าที่การงานของตน เมื่อถึงเวลาหมดวัน อาบน้ำอาบท่า กินข้าวกินปลา ถ้าร่างกายไม่เหนื่อยไม่เพลียจนเกินไป ก็สวดมนต์ไหว้พระเจริญกรรมฐานก่อน ถ้าเพลียมากไม่ไหวก็นอนภาวนาแทน

แต่ก่อนที่จะหลับก็ให้ทบทวนในบารมี ๑๐ อีกว่า วันนี้มีโอกาสให้ทาน เราได้ให้หรือไม่ ? เรารักษาศีลบริสุทธิ์บริบูรณ์หรือไม่ ? เราพยายามเว้นจากรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ธรรมารมณ์หรือไม่ ? ไล่ไปจนถึงข้อสุดท้าย รู้จักอุเบกขาปล่อยวางต่อเรื่องราวต่าง ๆ บ้างหรือไม่ ? ก็แปลว่าตื่นนอนและก่อนนอน เราต้องทบทวนอยู่เสมอว่าบารมี ๑๐ ของเราสมบูรณ์บริบูรณ์หรือไม่ ?

ถ้าบารมี ๑๐ สมบูรณ์บริบูรณ์ โดยเฉพาะปัญญาบารมี เราก็จะกระทำทุกสิ่งทุกอย่างโดยพอเหมาะพอดี โดยสมควรแก่ธรรมไม่ขาดไม่เกิน ถ้าเป็นเช่นนั้นก็แปลว่าท่านทั้งหลาย ได้ใช้ประโยชน์ของการปฏิบัติธรรมในชีวิตจริงของเรา แต่ถ้าทำไม่ถึงตรงจุดนี้ โอกาสที่จะได้รับผลของการปฏิบัติก็ยาก โอกาสที่จะเข้าถึงมรรคถึงผลก็ยิ่งยาก จึงเป็นเรื่องที่ท่านทั้งหลายจะต้องพึงสังวรระวัง

พยายามใช้ประโยชน์จากหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยเฉพาะมัชฌิมาปฏิปทา ซึ่งเป็นหนทางที่พระองค์ท่านค้นพบมา เอาไปใช้ในชีวิตประจำวันของเรา ดูความพอเหมาะพอดี ตึงเกินไปก็หย่อนลงนิดหนึ่ง หย่อนเกินไปก็ไขตึงขึ้นมาหน่อยหนึ่ง ถ้าทำอย่างนี้ไม่ว่าจะเป็นทางโลกหรือทางธรรม เราก็จะประสบความสำเร็จได้โดยง่าย

ลำดับต่อไปขอให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านบ้านเติมบุญ
วันศุกร์ที่ ๖ กันยายน ๒๕๖๒

(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-09-2019 เมื่อ 02:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:50



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว