กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 21-10-2019, 08:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,116 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุกร์ที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๒

ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกทั้งหมดของเราไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ ที่เรามีความถนัด มีความชำนาญมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๔ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ จากการที่วันนี้มีญาติโยมถามคำถามถึงหลักการปฏิบัติ โดยที่กล่าวว่าสามารถดับภพดับชาติได้หมดแล้ว ต่อไปต้องทำอย่างไร ? อาตมาก็ตอบไปว่า ถ้าดับภพดับชาติได้หมดแล้วก็ไม่ต้องทำอะไร เพราะว่าเข้าพระนิพพานแน่ ๆ แต่สิ่งที่ญาติโยมทำนั้นไม่ใช่การดับภพดับชาติ เป็นแค่กำลังสมาธิของเราที่เกิดขึ้น แล้วก็ไปกด รัก โลภ โกรธ หลง ทุกอย่างให้นิ่งลงไปชั่วคราว ให้ดับลงไปชั่วคราว แล้วเราก็คิดไปว่าดับภพดับชาติได้แล้ว

ซึ่งเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ เราจะพบเจอมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะว่าในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็นฆราวาสก็ดี แม่ชีก็ดี ตลอดจนกระทั่งพระภิกษุสงฆ์ของเรา นิยมในการเปิดบ้านเพื่อสอนคนให้ปฏิบัติธรรม ซึ่งจะว่าไปแล้วตรงจุดนี้มีทั้งประโยชน์และโทษ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2019 เมื่อ 04:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 21-10-2019, 08:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,116 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ประโยชน์ก็คือ บุคคลที่อาศัยสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นบทเรียน ก็จะได้รู้ว่าสิ่งที่ทำนั้นมีประโยชน์จริงหรือไม่ แล้วขณะเดียวกัน ถ้าสอนดี สอนถูก ตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ในพระไตรปิฎก ต่อให้เราไม่ได้อะไรเลย บุคคลที่มีวาสนาบารมีซึ่งรับเอาคำสอนไปปฏิบัติ ก็จะเกิดผลดีแก่ตัวเอง

ส่วนข้อเสียก็คือ การไปเป็นเจ้าของบ้าน เป็นเจ้าสำนัก เท่ากับเป็นผู้ใหญ่ในสถานที่ ก็จะไม่มีใครกล้าตักเตือนว่ากล่าว กว่าที่เราจะรู้ตัว บางทีโดนกิเลสกินเกือบตายไปแล้วก็มี แล้วในส่วนของท่านทั้งหลายที่ไปเปิดบ้านสอน ก็จะเกิดปรากฏการณ์อย่างที่ญาติโยมถามมา คือ พยายามใช้คำพูดให้ดูสูงส่ง ให้ดูเหมือนได้อะไรเยอะมาก อย่างเช่นการปฏิบัติแค่ทรงสมาธิขั้นต้นได้ ก็กล่าวว่าดับภพดับชาติได้หมดแล้ว เป็นต้น ซึ่งโอกาสที่จะทำให้คนเป็นมิจฉาทิฐิ เพราะการสอนผิดพลาดก็จะมีสูงมาก

ถ้าแต่ละสำนักรู้จักสังเกต จะเห็นว่าในเบื้องต้นคนจะมากันมาก แต่พอนานไป ๆ ก็จะค่อย ๆ ลดน้อยถอยลง ยิ่งถ้าหากว่าไม่มีการที่ศึกษาเพื่อที่จะเพิ่มพูนความรู้ เพราะคิดว่าตนเองอยู่ในจุดที่สูงแล้ว เป็นครูบาอาจารย์ของเขาแล้ว โอกาสที่จะพาลูกศิษย์ออกนอกลู่นอกทางก็จะมีมาก โทษใหญ่ก็จะเกิดขึ้นแก่ตัวเราเอง เพราะว่าไปสอนคนให้เป็นมิจฉาทิฐิ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2019 เมื่อ 04:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 21-10-2019, 08:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,116 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ญาติโยมสามารถเอาไปเปรียบเทียบกับพระไตรปิฎกก็ได้ คัมภีร์วิสุทธิมรรคก็ได้ หรือแม้กระทั่งหนังสือคำสอนของหลวงพ่อวัดท่าซุง อย่างกรรมฐาน ๔๐ หรือว่าคู่มือปฏิบัติกรรมฐานก็ได้ ถ้าสอนผิดไปจากนั้น โอกาสที่ออกนอกลู่นอกทางก็จะมีสูงมาก

นักปฏิบัติที่ดีจึงต้องกล่าวโทษโจทย์ตนเองอยู่เสมอ อย่าเผลอไปคิดว่าเราบรรลุแล้ว เราได้แล้ว ทั้ง ๆ ที่กำลังสมาธิสามารถแค่กดกิเลสได้ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น ไม่เช่นนั้นแล้วท่านก็จะเสียประโยชน์ใหญ่ ก็คือโอกาสที่จะเข้าถึงมรรคผลพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ เพราะว่าไปหลงเข้าใจผิดคนตามบุคคลที่สอนเรา โดยที่ตัวเองก็ยังไม่รู้จริงว่าเราได้มรรคได้ผลแล้ว จึงไม่ดิ้นรนขวนขวายอะไรเพิ่มเติม ตายไปก็จะเกิดอาการที่อาตมาเรียกว่าเสียชาติเกิด..!

โอกาสดีที่สุดก็คือ การได้เกิดเป็นมนุษย์ ได้พบพระพุทธศาสนา ได้ศึกษาธรรม แล้วน้อมนำมาปฏิบัติให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ตัวเรา แต่ว่าเมื่อมีโอกาสครบถ้วนแล้ว เราไม่สามารถที่จะทำให้ดีได้ เพราะว่าไปเจอแนวทางที่ผิด เจอคำสอนที่ผิด ก็ต้องบอกว่าแล้วแต่เวรแต่กรรมของแต่ละคน ถ้าหากว่าตามที่หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงท่านกล่าวก็คือ บุคคลที่สร้างบารมีมาดีก็ย่อมได้รับครูบาอาจารย์ที่ดีเอง เป็นต้น

ลำดับต่อไปก็ให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านบ้านเติมบุญ
วันศุกร์ที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๒

(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2019 เมื่อ 04:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 10:09



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว