กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #61  
เก่า 17-12-2015, 20:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,120 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ของผมต้องยุ่งเกี่ยวกับผู้มีอำนาจในแผ่นดินครับ ?
ตอบ : ถ้าถึงผู้มีอำนาจก็ระมัดระวังไว้หน่อยแล้วกัน เพราะท่านทั้งหลายเหล่านี้ความต้องการของท่านเป็นใหญ่ สมัยก่อนบางท่านต้องการให้อาตมาไปเสริมดวงให้ บอกว่าไม่มีเวลา ก็ติดต่อมาครั้งแล้วครั้งเล่า ท้ายสุดเลยไปบีบผู้กำกับการตำรวจทองผาภูมิ ถ้าแกเอาอาตมาไปไม่ได้ก็ไม่รู้จะโดนอะไรเข้า ท้ายสุดอาตมาก็ต้องยอมรับปากไป เรื่องของผู้ใหญ่นี่ลำบาก

เขาศรัทธาก็จริง แต่ก็อย่างว่า คนที่มาติดต่อถ้าสนองความต้องการเจ้านายไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะโดนดองหรือเปล่า เพราะฉะนั้น...บางอย่างถึงไม่ได้คิดจะทำ แต่ก็ต้องทำ ทำเพราะสงสารไอ้ตาดำ ๆ ที่อยู่ตรงหน้า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2015 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #62  
เก่า 17-12-2015, 20:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,120 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หนูเปลี่ยนชื่อค่ะ ?
ตอบ : การเปลี่ยนชื่อช่วยได้น้อยมาก ได้แค่กำลังใจเรา ถ้าเปลี่ยนความประพฤติก็จะดีแน่ ๆ ถ้าหมอบอกให้ไปเปลี่ยนชื่อนี่ ให้รีบเปลี่ยนความประพฤติได้แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2015 เมื่อ 02:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #63  
เก่า 17-12-2015, 21:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,120 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : "องปลัด" ถือศีลมากกว่าของเราหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ศีลเท่ากัน แต่ว่าธรรมเนียมบางอย่างเยอะกว่าเรา อย่างเช่นว่าเขาเข้าพรรษากันตอนวิสาขบูชา ถามว่าทำไม ? ท่านบอกไม่อย่างนั้นเดี๋ยวออกพรรษาไม่ทันเทศกาลกินเจ เพราะฉะนั้นอนัมนิกายหรือจีนนิกายเขาจึงเข้าพรรษาตั้งแต่วันวิสาขบูชา จีนนิกายนี่ทำให้เกิดอนัมนิกาย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2015 เมื่อ 02:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #64  
เก่า 17-12-2015, 21:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,120 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อวานซืนไปประชุมคณะกรรมการจัดงานพระราชทานเพลิงสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก อาตมาถือไมโครโฟนแล้วพูด เจ้าหน้าที่ดันไปเร่งเสียง บอกว่า “คุณอย่าเร่งได้ไหม ? อาตมาตั้งใจพูดเสียงเบา” การพูดเสียงดัง ๆ บางทีคนที่ร่างกายไม่ดีหรือเจ็บป่วยอยู่ เสียงไปกระแทกเขาปางตายเลย ถ้าห้องประชุมไหนที่ไม่มีระบบเก็บเสียง แล้วไปกระแทก ๆ ใส่ บางทีเขาประชุมออกมานี่เหนื่อยแทบคลาน บอกเขาว่าตั้งใจพูดเสียงเบา แต่เขาเองคิดว่าไมโครโฟนเบาจึงไปเร่งใหญ่ เป็นอะไรที่หัวเราะไม่ออก

สรุปแล้วงานนี้เป็นงานของทางราชการ เป็นคำสั่งของกระทรวงลงมา ให้ทุกอำเภอจัดงานถวายให้สมพระเกียรติ แต่ปรากฏว่าหน่วยราชการในอำเภอทองผาภูมิ ตลอดจนกระทั่งเอกชน ๒๙ แห่ง มีแต่เกี่ยงกัน ก็คือไม่มีงบประมาณให้ ก็ไม่มีใครอยากรับงาน ท้ายสุดคณะสงฆ์ก็เลยต้องเริ่มก่อน รับในส่วนของการผูกผ้า จัดหาดอกไม้จันทน์ ในส่วนของการจัดสถานที่ ในส่วนของการเลี้ยงน้ำเลี้ยงอาหารญาติโยมที่มาร่วมงาน คนอื่นถึงได้ขยับกัน

สรุปแล้ว ๒๙ แห่งที่ทางอำเภอแต่งตั้งมา มีอยู่แค่ ๓ แห่ง ก็คือ เทศบาลตำบลท่าขนุน เทศบาลตำบลทองผาภูมิ และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตเขื่อนวชิราลงกรณที่รับงาน คณะสงฆ์ซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นแค่ที่ปรึกษารับงานไปเกินครึ่ง

ส่วนใหญ่ทางส่วนราชการเขาไม่ได้คิดว่าเป็นคำสั่งเจ้านายให้ทำงาน แต่เขาคิดว่าในเมื่อไม่มีงบประมาณให้และเป็นศพพระก็ให้พระรับไปสิ เป็นอะไรที่หัวเราะไม่ออกเหมือนกัน ท้ายสุดเจ้าคณะอำเภอกับรองเจ้าคณะอำเภอก็มองหน้า วัดท่าขนุนไหวไหม ? วัดอู่ล่องไหวไหม ? สองรูปบอกว่าไหวในฐานะเจ้าของพื้นที่ เพราะท่านเป็นเจ้าคณะตำบลท่าขนุน เขต ๑ ของอาตมาเป็นเจ้าคณะตำบลท่าขนุน เขต ๒ เป็นเจ้าของพื้นที่จึงทิ้งงานไม่ได้ ท้ายสุดพอบอกว่าไหวก็รับไปแล้วกัน

การทำงานต้องหาคนเสียสละ รับผิดบ้าง ไม่ใช่รับแต่ชอบอย่างเดียว รับแต่ชอบอย่างเดียวใครก็รับได้ เป็นที่น่าเสียดายว่า ในเมื่อเขาไม่คิดจะทำงาน ประสบการณ์ตรงนี้ของเขาก็จะไม่มี ถ้าต้องไปทำงานจริง ๆ เมื่อไรจะมีปัญหามากเลย เพราะไม่รู้งานมาก่อน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2015 เมื่อ 03:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #65  
เก่า 17-12-2015, 21:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,120 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เรื่องนี้มีคำสั่งแต่งตั้งมาเลย ก็ในเมื่อทางกระทรวงสั่งลงมา นายอำเภอท่านก็แต่งตั้งคณะกรรมการ ปรากฏว่าที่เลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ก็คือตำรวจ ทหาร และโรงพยาบาล เพราะตำรวจต้องดูแลการจราจร ทหารต้องดูแลความสงบเรียบร้อย พยาบาลต้องมาคอยตั้งเต็นท์ เผื่อว่ามีใครเจ็บไข้ได้ป่วย ส่วนที่อื่นเลี่ยงได้ก็หุบปากกันเงียบ ถามอะไรไม่มีใครพูด ไม่มีใครแสดงความเห็น ต้องบอกว่าเลี่ยงภาระ ไม่อยากมีภาระ ไม่อยากจะจ่าย ต้องบอกว่าน่าเสียดาย เพราะว่าไม่ทำงานก็ไม่มีประสบการณ์ ต่อไปถ้าต้องทำงานจริง ๆ แล้วทำงานไม่เป็น ก็จะเป็นปัญหาใหญ่มาก

ของเขื่อนวชิราลงกรณ ระบบของเขาแน่นอนอยู่แล้ว อย่าง
เวลาวัดท่าขนุนไปขอน้ำดื่ม เพื่อเอามาเลี้ยงญาติโยมตอนไปจัดปฏิบัติธรรม ก็ต้องทำหนังสือไป เพราะเขาบอกแล้วว่าให้ แต่ถ้าไปเอาออกมาเฉย ๆ เจ้าหน้าที่ฝ่ายคลังพัสดุเขาจะลำบาก เขาจะ "จำหน่าย" วัสดุอย่างไร ? แต่ถ้าเราทำหนังสือไปเขาก็แทงจำหน่ายให้มาได้เลยว่า ๑,๐๐๐ ขวด ๕๐๐ ขวด ก็เลยกลายเป็นว่าถ้าของเขื่อนฯ เราก็ต้องรีบทำหนังสือไปให้เขา ถึงได้เตือนทางอำเภอไปว่า ต้องการยืมอะไรของเขื่อนมาจัดงาน รีบทำหนังสือไปแต่เนิ่น ๆ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2015 เมื่อ 03:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #66  
เก่า 17-12-2015, 21:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,120 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ส่วนใหญ่แล้วข้าราชการของเราส่วนหนึ่งจะมีนิสัยอย่างนี้ คือเลี่ยงงาน ที่เขาสรุปกันว่าเช้าชามเย็นชาม เอาตัวรอดไปวัน ๆ ถ้าหากเป็นวัดท่าขนุนคงโดนไล่ออกหมดแล้ว บางครั้งเจ้านายก็ไม่อยากจะใช้พระเดช เพราะรู้ว่าคนจะเกลียดขี้หน้ามากกว่า แต่ถ้าใช้พระคุณมากเกินไป ก็อย่างที่หลวงปู่พระพุทธพจนวราภรณ์ วัดเจดีย์หลวงท่านบอก ถ้าเมตตาเกินประมาณก็มีแต่คนพาลทั้งเมือง

เหมือนกับเณรเป็นร้อยมาอยู่ด้วยกัน แล้วเป็นวัยรุ่นทั้งนั้น ถ้าไม่ดุเอาไว้นี่เอาไม่อยู่หรอก อาจารย์ปกครองของโรงเรียนเข้ามาถาม “เป็นอย่างไรครับพระอาจารย์ ไหวไหมครับ ?” บอกว่าเอาอยู่ ไม่ต้องห่วง ตีกระจาย ถ้าหากว่าไม่มีตัวอย่าง เขาก็ไม่กลัวกัน

วันแรกให้เจริญกรรมฐานตี ๔ ปลุกตี ๐๓.๑๕ น. ปรากฏว่าเตรียมตัวมากันทัน ก็เลยบอกถ้าอย่างนั้นวันต่อไปจะปลุกตี ๓ ครึ่ง ให้เวลาพวกคุณนอนอีก ๑๕ นาที ปรากฏว่าตี ๓ ครึ่งมาไม่ทัน เพราะเห็นว่าวันแรกไม่มีอะไร ก็เลยบอกว่าใครมาไม่ทันเดี๋ยวจะได้รางวัล เขาก็ยังคิดว่าพูดเล่น ท้ายสุด ๓ คนสุดท้ายโดนฟาดตูดไป รุ่งขึ้นมากันตรงเวลาเป๊ะ ก็ยังบอกเขาว่า "คนเราทำไมต้องเป็นวัวเป็นควายให้ลงไม้ลงมือกันด้วย ? ก็ในเมื่อทำดีทำได้ คุณทำเสียตั้งแต่แรกก็หมดเรื่องไปแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2015 เมื่อ 03:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 198 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #67  
เก่า 17-12-2015, 21:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,120 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ระวังนะ...เศรษฐกิจปีหน้าไม่ได้เรื่อง เป็นฟรีแลนซ์ระวังจะฟรียาว..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2015 เมื่อ 03:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #68  
เก่า 18-12-2015, 13:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,120 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "สามเณรที่บวชถวายเป็นพระราชกุศลมักจะเลือกกิน พูดง่าย ๆ ว่าถ้าอาหารไม่อร่อยก็ไม่ค่อยจะกินกัน ก็เลยบอกว่าอยากจะให้ไปดูที่เนปาล โดยเฉพาะพวกแค้มป์ที่เราไปช่วยเขา เด็ก ๆ ที่นั่นต้องนับเม็ดถั่วแบ่งกัน พูดง่าย ๆ คืออะไรสำหรับเขาเป็นของดีหมด บ้านเรากินทิ้งกินขว้าง ไปบ้านเขาถั่วถุงหนึ่งต้องมานับเม็ดแบ่งกัน ไม่อย่างนั้นก็ไม่พอ เพราะฉะนั้น...ถ้าบุญของคุณดีก็กินทิ้งกินขว้างต่อไป แต่ถ้ากลัวว่าบุญไม่ดีพอก็หัดประหยัดเสียบ้าง

ไปนึกว่าเอธิโอเปียหรือบางประเทศในแอฟริกา ที่มีสภาพเหมือนกับเปรตเดินดิน อดอยากเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ตากลวงพุงโรเลย ลักษณะตากลวงพุงโร คือ ร่างกายดึงโปรตีนในกล้ามเนื้อหรือในอวัยวะอื่นไปใช้งานแทน เพราะไม่มีจะกิน เด็ก ๆ นอนฟุบกองอยู่ แมลงวันตอมหึ่ง ไม่ใช่ตายนะ แต่ไม่มีแรงจะปัดแมลงวัน อีแร้งก็ยืนรอ รอว่าเมื่อไรจะได้กิน

ที่เนปาลเต็นท์หนึ่งก็ประมาณพรมแดง ๔ ผืนของเรานี่แหละ เขาบอกว่าอยู่กัน ๕-๗ ครอบครัว อาตมาได้ยินสะดุ้งเฮือก เฮ้ย...คุณพูดผิดหรือเปล่า ? ๕-๗ คนใช่ไหม ? เขายืนยันว่าไม่ผิด ๑๕-๒๑ คน หรือ ๕-๗ ครอบครัวอยู่ในเต็นท์หลังเดียว ยัดกันเข้าไปได้ ขอให้มีที่หลบแดดหลบฝนเท่านั้น

อาหารการกินที่ไปดูก็ต้มฟักทองเละ ๆ ราดข้าวคลุกกิน ดีกว่าไม่มีกิน แล้วเวลาที่เราเอาขนมหรือของที่กินเหลือแล้ว ที่ไม่มีใครจะกินแล้ว เอาไปให้ เด็กที่นั่นแทบจะตีกันตาย ต้องให้ "เปม่า (Pema)" หัวหน้าเด็กมาแบ่ง อาตมาเรียกเขา "ว่าที่กำนัน" แจกโคตรจะยุติธรรมเลย นับเม็ดถั่วแจกเพื่อน เห็นแล้วก็อดช่วยเขาไม่ได้ ท้ายสุดก็เทกระเป๋าทำบุญไปแสนกว่ารูปี บอกแล้วว่าเหลือแค่ค่าแท็กซี่กลับบ้านก็พอ ที่เหลือก็ให้เขาไปเถอะ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2015 เมื่อ 16:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #69  
เก่า 18-12-2015, 13:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,120 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"บ้านเราอุดมสมบูรณ์เกินไป ไม่เคยอดอยาก ไม่เคยไปดูค่ายผู้อพยพ ไม่เคยไปดูค่ายผู้ประสบภัยพิบัติ ไม่รู้หรอกว่าเขาอยู่กันลำบากแค่ไหน แต่ว่าที่โฮปแค้มป์นี่ระบบการจัดการเขาดี ขนาดเต็นท์เล็ก ๆ ยัดเข้าไป ๒๐ กว่าคน แต่สะอาดมากเลย ไม่มีกลิ่นอะไรเลย รอบบริเวณระบบระบายน้ำดี ห้องน้ำห้องส้วมดี มีเต็นท์อำนวยการ มีเต็นท์รักษาพยาบาล มีเต็นท์ที่เหมือนกับศาลาวัด มีพระตั้งอยู่ มีรูปพระโพธิสัตว์ เป็นที่สวดมนต์และนั่งกรรมฐาน เขาจัดการได้ดีมาก

เจ้าของโฮปแค้มป์ก็คือเจ้าของโรงแรมทวาริกะ ซึ่งเป็นโรงแรม ๕ ดาวแห่งเดียวในเนปาล คนรวยที่มีกำลังใจในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์นั้นหายาก หมู่บ้านนั้นโดนแผ่นดินไหวพังหมดทั้งหมู่บ้าน ไม่เหลือดีเลย ตอนแรกแกก็ตั้งแค้มป์ขึ้นมา กะว่ารับได้ประมาณ ๑๐๐ คน ปรากฏว่าไปจริง ๆ ๓๐๐ กว่าเกือบ ๔๐๐ คน ก็ต้องเอามาทั้งหมด ระบบการจัดการเขาดีตรงที่ว่า เด็ก ๆ ได้รับการศึกษา ผู้ใหญ่ได้รับการสอนว่าจะต้องไปสร้างไปเสริมอย่างไร เรือนชานบ้านช่องตัวเองถึงจะกลับคืนดีมา

โดยเฉพาะเด็ก ๆ เรียนภาษาอังกฤษได้ดีมาก ไม่มีสำเนียงแขกเลย แสดงว่าครูที่อาสาเป็นต่างชาติเข้าไปสอน ทำให้เด็กต้องตามสำเนียงครู เด็ก ๆ ๓ ขวบ ๕ ขวบ ๗-๘ ขวบพูดภาษาอังกฤษระดับสื่อสารได้ พวกเราต้องอยู่ในสถานการณ์อย่างนั้นถึงจะกระตือรือร้นดิ้นรน ในช่วงนั้นสติปัญญาความสามารถทุกอย่างต้องทุ่มเทออกมาจนหมด ของเรามั่นใจเลยว่าใช้สมรรถภาพของร่างกายและสมองน่าจะใช้กันไม่ถึง ๕๐ เปอร์เซ็นต์ เพราะเหตุถึงแก่ชีวิตยังไม่ปรากฏ ในเมื่อเหตุถึงแก่ชีวิตยังไม่ปรากฏ ก็ไม่คิดที่จะดิ้นรนให้มากกว่านี้ ต้องบอกว่าเป็นที่น่าเสียดายมาก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2015 เมื่อ 16:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #70  
เก่า 18-12-2015, 13:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,120 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ทุกวันนี้เนปาลยังไม่เข้าที่เข้าทาง อาคารเรือนชานบ้านช่องมีแต่ไม้ค้ำเอาไว้กันถล่มลงมา อยู่ไปพลาง ๆ ก่อน พวกที่เคยมีตึก ๔-๕ ชั้น ตอนนี้เหลือมาตรฐาน ๑ ชั้นหรือชั้นกว่า เพราะส่วนบนถล่มลงมาหมดแล้ว เขาก็พยายามหาสังกะสีมาปิดข้างบนเพื่อให้อยู่ได้ไปก่อน แล้วถามว่าทำไมไม่สร้างขึ้นใหม่ ? คำตอบคือ ไม่มีเงิน

คนเนปาลจริง ๆ ไปทำงานที่อื่น แทบจะไม่ได้อยู่ในประเทศตัวเอง แรงงานที่จะใช้ก่อสร้างเลยไม่มี ทางด้านโฮปแค้มป์ถึงได้สอนพวกเด็กว่าทำอย่างไรจะได้สร้างบ้านได้ เอาแค่ทองผาภูมิ ถึงเวลารถบัส ๕-๖ คันมา พวกเนปาลมาต่อใบอนุญาตทำงาน แต่ละปีมาที ๕-๖ คัน ตอนอาตมาเป็นเจ้าอาวาสวัดทองผาภูมินี่ซาบซึ้งเลย เขาจะมาอาศัยจอดนอนในวัด เสร็จแล้วก็ติดต่อทางอำเภอขออนุญาตต่อใบอนุญาต รวบรวมค่าธรรมเนียมมาจ่ายรวดเดียว มีผู้ประสานงานคอยวิ่งเรื่องให้ แต่ตัวต้องมาทั้งหมด พอถึงเวลาเขาเรียกตัวนี่ต้องถือหนังสือไปคนต่อคนเลย ต้องมาต่อใบอนุญาตกันทุกปี

อาจารย์วิปัสสีเขายังบอกว่ากาญจนบุรีคนเนปาลเยอะนะ บอกว่ามีเยอะแต่เขาไม่ได้อยู่รวมกัน จะได้อยู่รวมกันปีหนึ่งตอนขอใบอนุญาต บ้านของเขาหากินยาก เรื่องการทำไร่ไถนาพื้นที่ก็น้อย น้ำก็หายาก เลยมีวิธีว่าออกไปทำมาหากินที่อื่น ได้เงินแล้วก็ไปหาซื้อเอา

คุณราชัน ประธานไลอ้อนส์คลับกาฐมาณฑุ เป็นตัวแทนมาขอบคุณพวกเรา เขาบอกว่าเขาได้รับการช่วยเหลือจากสมาชิกไลอ้อนส์คลับทั่วโลก แต่พวกเราที่ไม่ได้เป็นสมาชิกเลยกลับช่วยเขาไปเยอะขนาดนั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่เขาประทับใจมาก แล้วก็แปลกใจด้วย เว็บวัดท่าขนุนเป็นใครมาจากไหนช่วยไป ๔,๐๐๐ กว่าดอลลาร์ คิดเป็นเงินเขานี่มหาศาลเลยนะ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2015 เมื่อ 16:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #71  
เก่า 18-12-2015, 14:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,120 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"พวกเราไปพักกันที่โรงแรมคันทรี่วิลล่าที่นากาก็อต เขาเองอุตส่าห์ตามไปเพื่อขอบคุณ ปรากฏว่าคุณรามไม่ได้ไป ไม่มีน้ำมันรถ เนปาลกำลังประสบปัญหาวิกฤติ เครื่องอุปโภคบริโภคขาดแคลนทุกอย่าง ประเทศจีนเข้าไปช่วยเหลือเนปาลไว้เยอะ โดยเฉพาะสร้างถนนหนทางให้ เนปาลคบค้าสมาคมกับจีนอย่างสนิทสนม อินเดียก็เลยหมั่นไส้ เพราะปกติต้องพึ่งอินเดียตลอด เขาก็เลยปิดชายแดนไม่ให้ส่งเครื่องอุปโภคบริโภคเข้าไป ของกินของใช้ทุกอย่างก็เลยหายาก น้ำมันก็ไม่มี รถจอดตายเป็นหมื่น ๆ คัน

คุณรามเขามีกำหนดการนัดกับเราอยู่ที่นากาก็อต เขาไปไม่ได้ บอกว่าไม่มีน้ำมัน ขากลับหลวงพ่อวิปัสสีเดินจากภักตรปุระมาดักเราทางด้านกาฐมาณฑุ ๑๒ กิโลเมตรกว่า อยากจะมาขอบคุณพวกเราที่ช่วยเขาไปเยอะแยะขนาดนั้น เขาบอกว่ายังไม่เคยได้เงินกฐินมากอย่างนี้มาก่อน ของเราไป ๔ ล้านกว่าบาทแล้วก็ไปรับที่นั่น บวกกับทางด้านวัดบวรฯ ที่ได้ไปอีก ๑๓,๐๐๐ กว่าดอลลาร์ รวม ๆ แล้วตก ๕ ล้านบาทเศษ เลยอยากจะมาขอบคุณ อุตส่าห์เดินมา ๑๐ กว่ากิโลเมตร เพื่อที่จะมาดักรถพวกเราที่ลงมาจากนากาก็อต เสร็จแล้วก็ขึ้นรถมาขอบคุณ แจกของที่ระลึก

เรียนท่านไปว่า ถือว่าอันนี้เป็นสถิติโลกไว้ก่อน ถ้ามีใครทำลายสถิติได้ให้แจ้งมา เดี๋ยวผมจะกลับไปทำสถิติใหม่ ดูท่าว่าถ้าหาไม่ได้ก็พวกเราเองนี่แหละ ที่ต้องไปทำลายสถิติกันเอง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 21-12-2015 เมื่อ 14:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #72  
เก่า 18-12-2015, 14:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,120 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ไปเนปาลเที่ยวนี้ "เจ้าแม่" กับบริวารดูแลอย่างกับไข่ในหิน ห้ามเป็นอะไรเด็ดขาดจนกว่าจะทอดกฐินเสร็จ เขากลัวจะไม่ได้โมทนาบุญ อาตมาขู่เอาไว้แล้วว่าถ้าเที่ยวนี้มีกั๊กจะไม่อุทิศส่วนกุศล ก็เลยได้ดูหิมาลัยทั้งไปและกลับ

ขากลับหิมาลัยจะอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนเรานั่งขวา แต่แกสามารถทำให้เห็นได้ สุดยอดจริง ๆ เลย ถ่ายรูปมาเสร็จ หิมาลัยย้ายมาอยู่ทางซ้ายเฉยเลย แกเก่งว่ะ..! เอารูปให้กัปตันวิทย์ดู “หลวงพี่ถ่ายมาได้อย่างไร ?” “ไม่รู้ ก็เห็น ๆ อยู่นี่หว่า” ตูมองออกไปข้างนอกยังสงสัย ทำไมหิมาลัยมาอยู่ตรงนี้วะ ก็ถ่ายไปเรื่อย ๆ พอคนอื่นเขาฮือฮาอยู่ทางซ้าย อาตมาถึง อ๋อ...ของเราเห็นผิดมุมเอง มาได้อย่างไรไม่รู้ ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2015 เมื่อ 16:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #73  
เก่า 18-12-2015, 14:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,120 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"แม้กระทั่งถนนหนทางบ้านเขาที่คับแคบมาก ๆ เขายังถ้อยทีถ้อยอาศัย ผลัดกันไปผลัดกันมาได้ รถของเราวิ่งเข้าไปก็เต็มซอยแล้ว แต่รถที่สวนมาเขาก็ไปกันได้ บ้านเขาขาดแคลนแต่วัตถุสิ่งของ แต่น้ำใจเพียบ ผลัดกันไป แบ่งกันไป

ระบบการจัดการเกี่ยวกับเรื่องน้ำมันของเขา ให้รถนักท่องเที่ยวก่อน เพราะถ้ามีนักท่องเที่ยวเข้าไป รถยนต์ คนขับรถ เด็กรถ ไกด์ ก็ได้เงิน ร้านขายของที่ระลึกได้เงิน โรงแรมได้เงิน ร้านอาหารได้เงิน เขาก็เลยต้องให้ทางด้านรถนักท่องเที่ยวก่อน คันอื่น ๆ ก็ต้องเสียสละ คุณก็จอดตายไปก่อนเถอะ

ไปเดินดูรถเขา เขียนตัวเลขไว้ที่กระจกรถ ๓๔๕, ๓๔๖ ไล่ไป อยู่ ๆ เริ่ม ๑ ใหม่เฉยเลย แล้วก็ไล่ไปอีก ๓๐๐-๔๐๐ อีก ก็สงสัย ถามเขาว่าแปลว่าอะไร ? เขาบอกคันโน้นมาจอดเมื่อ ๒ วันที่แล้ว คันนี้จอดของวันก่อน คันนี้ของวันนี้ จอดมา ๒ วันกว่าแล้วยังไม่ได้น้ำมันเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2015 เมื่อ 16:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #74  
เก่า 18-12-2015, 14:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,120 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องความเจ็บไข้ได้ป่วยนี่ญาติโยมหลายคนยังเข้าใจผิด เมื่อหลายปีก่อน ช่วงที่อาตมายังเป็นเจ้าอาวาสวัดทองผาภูมิอยู่ มีโยมอยู่คนหนึ่งอยู่แถวใกล้ ๆ ห้องสมุดเฉลิมราชกุมารี แกเป็นโรคเส้นยึดเส้นจม จนกระทั่งหลังโกงเดินเอียงไปข้างหนึ่ง แกก็ใส่บาตรอยู่หลายเดือนเกือบปี แล้วก็หายไปเฉย ๆ ก็เลยถามลูกหลานโยมเขาว่าโยมไปไหน ? เขาบอกว่าแกใส่บาตรอยู่ตั้งนานไม่หายป่วยสักที แกเลยไม่ใส่

เขาไปเข้าใจอย่างนั้น เข้าใจว่าทำบุญแล้วจะต้องได้อย่างใจทุกอย่าง โดยที่ไม่เข้าใจว่าส่วนใหญ่สิ่งที่เราทำ โอกาสที่จะสำเร็จชาตินี้มีน้อย ถ้าไม่ใช่ทิฏฐธรรมเวทนียกรรม แกจะให้เห็นผลทันตาว่าแกต้องหาย แล้วก็ดันมาใส่บาตรตอนชำรุดเสียขนาดนั้นแล้ว

ส่วนอีกรายหนึ่ง ยายแกตั้งใจจะมาใส่บาตร แต่คราวนี้หน้าฝนพื้นซีเมนต์ลื่น แกก็เลยล้มกระดูกสะโพกแตก พอรักษาหายแกก็เลยเลิกใส่บาตรไปเลย คงคิดว่าตั้งใจจะทำบุญแล้วยังเป็นเสียอย่างนี้ เลยไม่ทำอีก เป็นอะไรที่น่าเสียดาย ต้องบอกว่ามารเขาเก่ง เขาดลใจให้คิดไปในทางที่ออกจากความดีได้ตลอด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2015 เมื่อ 16:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #75  
เก่า 19-12-2015, 14:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,120 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ยาคุมธาตุที่ปรุงถวาย ต้องขึ้นอยู่กับปีเกิดอย่างเดียวหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : วันเดือนปีเกิด จะระบุว่าตอนช่วงนี้ของเราพอคูณออกมาแล้วธาตุไหนพร่องก็เพิ่มธาตุนั้น ไม่ได้พร่องอย่างเดียวนะ มีเกินด้วย ถ้ามีเกินก็ต้องลด ของอาตมาธาตุดินเหลือ ๐ ธาตุลมเหลือ ๑ น่าจะตายแล้ว ไม่รู้ว่าอยู่มาได้อย่างไร ?

ถ้าธาตุใดธาตุหนึ่งเริ่มพร่องจะเจ็บป่วย ถ้าพร่องมากเกินไป ร่างกายรับไม่ไหวจะตาย แสดงว่าตำราเขาก็แม่นนะ เพียงแต่ว่าอาตมาค่อนข้างจะนอกเหตุเหนือผล เห็นร่างกายเป็นหุ่นก็ใช้ไปเรื่อย

ความจริงเรื่องการเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นปัญหามานานแล้ว แต่มาหนักจริง ๆ เอาตอนสะโพกหลุด ถ้าโยมสังเกตจะเห็นว่าบางทีอาตมาจะคอยกดอยู่เรื่อย เนื่องจากสร้างกรรมไว้เยอะ ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะเล่นไม่เลิก เกิดจากสมัยหนึ่งเคยรบกับเขา แม่ทัพข้าศึกคนนี้เขาเก่งมาก ทางฝ่ายผู้บังคับบัญชาของอาตมาบอกว่าให้จับเป็น จะเกลี้ยกล่อมให้เป็นพวก ก็เลยต้องหาวิธีจับเป็น

คราวนี้ขี่ม้าปะทะอาวุธกัน พอม้าเขาถลำเลยไป อาตมาก็กระทุ้งด้วยด้ามทวนกลับไปโดนหลังเขาพอดี ตกหลังม้าไปแล้วก็จับได้ แต่ทำเอาเขาต้องนอนเตียงไปเป็นเดือน แล้วพอเขามา จะเก่งขนาดไหนก็ตาม แต่ในลักษณะอยู่ใต้เงาของอาตมาไปตลอด ก็เลยทำให้เขาโกรธฝังลึกอยู่ในใจ เขาเองโด่งดังมาก ไม่เคยแพ้ใครแล้วต้องมาแพ้อาตมา พอมาอยู่ฝั่งนี้ ถึงทุกคนจะยกย่องเขา แต่ก็มาเพราะการแพ้อาตมา ก็เลยกลายเป็นเวรเป็นกรรมเนื่องกันข้ามชาติข้ามภพ ไปกระทุ้งเขาเข้าตรงนี้พอดี อัดเขาตกหลังม้าไปเลย


ถาม : เป็นตรงช่วงเกราะ ?
ตอบ : เป็นช่วงที่เกราะคุ้มไม่ถึง อยู่ระหว่างช่วงบนกับช่วงล่างพอดี เพราะถ้าเกราะยาวเกินไปจะนั่งหลังม้าไม่ถนัด เวลาไปดูกรรมเก่า ๆ ของตัวเองก็เซ็งเหมือนกัน เล่นเขาไว้เยอะเหลือเกิน หลวงพ่อท่านถึงได้เตือนนักเตือนหนา ว่าเป็นทหารสร้างกรรมมาทุกชาติ ผลกรรมจะตามมาทำให้ป่วยบ่อย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 20-12-2015 เมื่อ 07:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #76  
เก่า 19-12-2015, 14:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,120 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตอนนั้นเป็นอย่างไรคะ ?
ตอบ : ตอนนั้นก็ไม่มีอะไร แค่ทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา แต่ก็ไม่ได้คิดว่า สิ่งที่ทำไปจะทำให้เขาเสียหน้า แล้วทำให้ถือเป็นข้อผูกโกรธมาตลอด

กรรมนิมิตเวลาเกิดขึ้น จะเหมือนกับเราไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นเลย ความคิดอารมณ์ทุกอย่างคือตอนนั้น ก็เลยทำให้เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร ได้แต่ทนเอา มานึกดูอย่างเก่งชาตินี้ก็ไม่ถึง ๑๐๐ ปี ตายแล้วไปพระนิพพานได้ก็คุ้มค่าสุด ๆ

ขนาดว่านอนหลับอยู่แท้ ๆ พอเผลอพลิกตัวอัตโนมัติแล้วต้องสะดุ้งตื่น ปล่อยเขาก็ทวงอยู่ระยะหนึ่ง ใช้เขามา ๓๐ กว่าปีแล้ว ถ้าหากว่ายังไม่ดีขึ้นก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร หนี้มีเยอะก็ค่อย ๆ ผ่อนไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-12-2015 เมื่อ 16:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #77  
เก่า 19-12-2015, 14:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,120 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : กรรมยังส่งผลอยู่หรือคะ ถึงใช้หนี้ไม่หมด ?
ตอบ : เขาเรียกว่าบุญรักษา และกรรมก็รักษา แบบเดียวกับพระโลสกะที่พระสารีบุตรพาไปบวช ในแต่ละวันฉันข้าวได้ไม่เกิน ๗ เม็ด แล้วท่านก็อยู่ของท่านมาได้จนอายุครบบวช ทั้งชีวิตได้กินข้าวอิ่มมื้อเดียว แล้วก็พิจารณาธรรม พอร่างกายสบาย บรรลุตรงนั้นก็นิพพานตรงนั้น

ฉะนั้น...ถ้าบุญยังไม่หมดก็ไม่ตาย กรรมยังไม่หมดก็ไม่ตาย คนบางประเภทหมดบุญแล้วตาย คนบางประเภทหมดกรรมแล้วตาย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-12-2015 เมื่อ 16:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #78  
เก่า 19-12-2015, 15:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,120 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีญาติโยมหลายคนกราบเรียนถึงวิธีการรักษาโรคให้พระอาจารย์ ท่านจึงกล่าวว่า "อาตมาโดนมาทุกวิธีแล้ว อะไรที่ใครบอกว่าดีอาตมายินดีทั้งนั้นแหละ...มาเถอะ แล้วผลที่ออกมาก็คือเหมือนเดิม เพราะกรรมหนักเกิน ทุกวันนี้เวลาคนมาให้ความหวังว่ารักษาได้ แหม...ยิ้มเลย ที่ยิ้มไม่ใช่อะไรหรอก กูต้องลำบากกินยาอีกแล้ว

เมื่อเดือนก่อนกินยาหม้อไปเป็นเดือนเลย เพราะยาตัวนี้เขายืนยันว่ารักษามาลาเรียได้แน่ เอามาฉันลงไปวันแรกรู้ว่ามีปฏิกิริยานิดหน่อยกับเชื้อโรคในตัว พอวันที่ ๒ ก็เหมือนเดิม รู้ว่ารักษาไม่ได้แล้ว แต่กินเพื่อให้โยมรู้ว่าอาตมากินจริง ๆ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเขาจะหาว่าไม่หายเพราะไม่กินยาของเขา

เพราะฉะนั้น...ทุกวันนี้ที่กินยา กินเพื่อให้โยมรู้ว่าไม่ต้องหามาอีก ไม่มีประโยชน์ แต่อย่างน้อย ๆ เวลากินยาก็อิ่มกว่ากินน้ำเปล่าหน่อยหนึ่ง นึกแล้วก็ขำ ท่านเก่งเลขานุการวัดท่าขนุนท่านก็เป็นมาลาเรีย ไปกินยาตัวนั้นเข้า ท่านบอกว่าท่านถ่ายจนไม่มีแรงจะเดินแล้ว อาตมาก็ว่าสงสัยตัวเองกินยามากจนตายด้านหรือเปล่า ? เพราะว่ากินไปเท่าไรก็ไม่รู้สึกรู้สา
ทุกครั้งเลยที่เปลี่ยนยาตัวใหม่ ร่างกายจะมีปฏิกิริยาในการกินครั้งแรก เหมือนกับเชื้อโรคขยับตัว ระวังว่าไอ้นี่มาแล้ว แต่พอถึงเวลาเห็นว่าข้าศึกทำอันตรายไม่ได้ เชื้อโรคก็นอนเขลงต่อไป พอขยับนี่รู้เลยว่ามีปฏิกิริยา"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-12-2015 เมื่อ 16:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #79  
เก่า 19-12-2015, 15:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,120 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ที่สุโขทัยยังไม่มีศาลหลักเมือง ?
ตอบ : ยาก เพราะว่าประเทศเราน่าจะมีศาลหลักเมืองแทบทุกเมืองแล้ว ยกเว้นจังหวัดตั้งใหม่

ถาม : โยมที่เดินเรื่องย้ายแม่ย่าจากวัดพระพุทธชินราชกลับเขาหลวง อาจจะได้ทำเรื่องเสาหลักเมืองด้วยค่ะ ?
ตอบ : ไม่ใช่ง่าย ๆ นะ ต้องรอมหาดไทยเขาอนุญาตด้วย

ถาม : คาดว่าต้องขอสำนักพระราชวังด้วยค่ะ ?
ตอบ : ต้องให้กองราชพิธีสำนักพระราชวัง เพราะราชครูต่าง ๆ เขายังศึกษาเรื่องนี้มาเต็มที่ เพียงแต่ว่าถ้าเป็นอย่างของนครศรีธรรมราชเขาไม่เอาใครเลย เขาเอาพ่อปู่ขุนพันธ์ไปตั้ง ปกติเสาหลักเมืองเขาจะใช้ไม้ชัยพฤกษ์ พ่อปู่ขุนพันธ์เล่นไปเอาตะเคียนทองมาทั้งต้นเลย ไปบวงสรวงขอพลีมา แล้วก็ขุดเอาตอตะเคียนไปด้วย เพราะถ้าหากตอยังอยู่ เขาก็ยังสามารถเอาวิมานแปะได้ แถวนั้นไปพุทธาภิเษกมาหลายครั้งแล้ว โดยเฉพาะที่วัดศรีชุม เล่นจัดพิธีในวัด ปัจจุบันนี้เขากำลังเล็งเพชรบูรณ์ใหม่อีกรอบแล้ว จะเอาเพชรบูรณ์หรือไม่ก็สระบุรีเป็นเมืองหลวงใหม่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-12-2015 เมื่อ 16:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #80  
เก่า 19-12-2015, 17:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,120 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมเป็นข้าราชการ มีวันหนึ่งเจ้านายชั้นสูงให้ไปพบและยื่นซองให้ และพูดว่า "ไม่ว่ากันนะ" ผมเดินออกมางง ๆ เปิดดูก็พบว่าเป็นเงิน ก็มานึกดูว่าทำไมถึงให้ ? ผมเดาว่าเมื่อหลายเดือนก่อนเจ้านายให้ผมไปคุมงานหนึ่ง เขาอาจจะให้เพราะเรื่องนี้ ผมก็คิดว่าเขาให้ด้วยความเสน่หา คงไม่เป็นอะไร แต่ทำใจเอาไม่ลง ถ้าผมเอามาทำบุญ เช่น สร้างพระทองคำ แล้วได้วัตถุมงคลที่ระลึก ผมจะมีโทษอะไรไหมครับ ?
ตอบ : คุณคิดถูกแล้วที่ว่าเขาให้โดยเสน่หา เดี๋ยวนี้บรรดาผู้ประมูลงานทุกคน จะกันงบส่วนหนึ่งเอาไว้สำหรับเรื่องนี้โดยเฉพาะ เขาตั้งใจให้เพื่อความสะดวกคล่องตัวในการงาน ถึงเราจะเรียกร้องหรือไม่เรียกร้องเขาก็ให้ ส่วนใหญ่ผู้ใหญ่เขากลัวว่าถ้าเขากินคนเดียวเดี๋ยวลูกน้องจะฟ้อง เขาก็เลยแบ่งมาด้วย สมัยก่อนอาตมาก็เจอมาแบบนี้แหละ ก็ถือว่าเขาให้โดยเสน่หา เราจะเอาไปทำอะไรก็ทำไปเถอะ เราไม่ได้เรียกร้องเขาเองนี่หว่า..!

พวกเรามักเสียอยู่อย่างก็คือ ละอายชั่วกลัวบาป พอถึงเวลาก็ไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไร โดยเฉพาะบางคนกังวลไปถึงว่ายันต์เกราะเพชรจะอยู่ไหม ? เขากลัวว่าจะเป็นการขโมย ขโมยตรงไหนในเมื่อเขาส่งให้ ไม่รับนั่นแหละจะเดือดร้อน เพราะว่าเขาจะเห็นเราเป็นคนละพวกกัน แล้วเดี๋ยวเรื่องเละเทะจะมาอีกเยอะ

เราต้องยอมรับว่าระบบนี่ฝังรากลึกมากแล้ว เพราะฉะนั้น...เรื่องอุทยานราชภักดิ์ เขากินกันก็ถือเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ปกติตรงที่ว่ารัฐบาลนี้ประกาศว่าจะมาล้างคอร์รัปชั่น ในเมื่อรัฐบาลประกาศว่าจะมาล้างคอร์รัปชั่น ก็เลยบรรลัยกันจนทุกวันนี้ กลายเป็นข้อเปรียบเทียบว่า ถ้าหากว่ารัฐบาลเก่าโกงต้องไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด แต่รัฐบาลใหม่โกงไม่เป็นไรเพราะเป็นคนดี เป็นอะไรที่เจ็บแสบมาก แล้วรัฐบาลเก่า เขาใช้คำว่า "น่าจะมีการทุจริตเกิดขึ้น" แล้วก็ทำการสอบสวนกันเอาเป็นเอาตาย ส่วนรัฐบาลใหม่ไม่ได้ทุจริต แต่ทหารมีทั้งลาออก มีทั้งหนีไปนอก ไม่ทุจริตแล้วจะหนีไปทำไม ? บอกเด็กเอานิ้วตีนคิดยังรู้เลย แล้วก็พยายามที่จะปกปิดกัน พยายามที่จะขัดขวางกัน

เขารู้ไหมว่ายิ่งเขายิ่งขัดขวาง ยิ่งทำให้ชาวบ้านเห็นชัด ? ถ้าคุณบริสุทธิ์ใจ แล้วคุณไปกลัวอะไรกับคนที่ไปตรวจสอบ แล้วเมื่อวานทางสวนนงนุชก็ดันออกมาซ้ำอีกดอกหนึ่ง บอกว่าบริจาคต้นไม้ไป ๑,๐๐๐ กว่าต้น บรรลัยสิ...พวกนั้นออกใบเสร็จเบิกมาทุกต้นเลย โดยเฉพาะต้นปาล์มต้นละ ๓๐๐,๐๐๐ บาท..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-12-2015 เมื่อ 16:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:43



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว