กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #101  
เก่า 20-03-2012, 11:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,411,003 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ที่ท่านเล่าว่างานพุทธาภิเษกที่ชลบุรี ท่านออกมาก่อน ท่านอื่นใช้กำลังตัวเอง แล้วงานที่เขาวงละครับ ?
ตอบ : อ๋อ..ที่นั่นท่านพี่ทั้งหมดประเภทรอผมอยู่คนเดียว (หัวเราะ)

ถาม : เขารู้จริง ?
ตอบ : รู้จริง..ผมยอมรับท่านเป็นพี่ผมได้จริง ๆ บางคนก็นั่งรอ ถ้าเล็กบอกอย่างไรพี่ก็ไปแค่นั้น โคตรสบายเลย ถึงเวลาก็นั่งรอ รอผมให้สัญญาณ พอให้สัญญาณท่านก็เลิก..เต็มแล้ว

ผมโดนมาตั้งแต่สมัยเป็นพระใหม่เลย ถึงเวลาออกงานออกการ ให้เจิมให้อะไรก็ "เล็ก..ไปทำหน่อย" จนกระทั่งบางทีผมก็เบื่อเต็มที กี่งาน ๆ ก็ใช้แต่ผม ทำไมพี่ไม่ทำบ้างละ ? พี่เขาบอกว่า "ไม่ได้หัดไว้..เป็นแล้วมันเหนื่อยว่ะ" เพิ่งจะมารู้ว่าพอสิ้นหลวงพ่อแล้ว ไม่เป็นก็ต้องเป็นให้ได้ คราวนี้ก็วิ่งหาความรู้กันทั่วประเทศจนตีนพลิก

จนป่านนี้ผมยังไม่รู้ว่าสมุดบันทึกของผมไปอยู่กับใคร ทั้งหมดที่บันทึกไว้เกี่ยวกับความรู้ที่ได้รับจากหลวงพ่อมา เขาขอไปลอกต่อกันเรื่อย ๆ ตอนนี้หาคืนไม่ได้เลย ไม่รู้ไปอยู่กับใคร ถ้าหากว่าเจอสมุดบันทึกไดอารี่ปกดำ ๆ หน้าปกมีสติ๊กเกอร์รูปหลวงพ่อวัดท่าซุง ตัดเป็นแฉกเหมือนดอกทานตะวัน ถ้าเห็นยึดมาได้เลยนะ บอกท่านว่าจะเอาไปคืนพระอาจารย์"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-03-2012 เมื่อ 02:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 226 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #102  
เก่า 20-03-2012, 16:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,411,003 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การตอบปัญหาของบางคน เราต้องปรับกำลังใจลงมาเท่าเขา ?
ตอบ : ต้องปรับลงมาเท่าเขา แต่เราจะเหนื่อยมาก เป็นเรื่องที่คนกำลังใจสูงจะเบื่อมากเลย เพราะต้องเสียเวลาไปปรับลง และทำให้ตัวเองไม่มั่นคง รัก โลภ โกรธ หลง จะเข้าได้ง่าย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-03-2012 เมื่อ 02:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #103  
เก่า 20-03-2012, 16:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,411,003 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : อาตมาก็เป็นเหมือนกัน ถึงเวลาจะไอ เพื่อกระแทกให้หัวใจกลับไปเต้นจังหวะเดิม ถ้าไม่ไอหัวใจจะวาย ลักษณะเหมือนกับกระแสไฟฟ้าที่ควบคุมการเต้นของหัวใจสะดุดเป็นระยะ แต่หมอเขาหาสาเหตุไม่เจอ ต้องบอกว่าโรคเวรโรคกรรม นั่ง ๆ อยู่พอหัวใจเต้นผิดจังหวะก็จะไออัตโนมัติเลย เพื่อกระแทกให้หัวใจกลับไปเต้นจังหวะเดิม

สร้างเวรสร้างกรรมไว้มาก ถึงเวลาเขาก็มาทวงเป็นปกติ โรคพวกนี้กรรมบัง หมอเขาเลยหาสาเหตุไม่เจอ

ถาม : หมอเขาบอกว่าเกิดจากความเครียด เป็นกรดไหลย้อน
ตอบ: เดี๋ยวนี้หมอเป็นอย่างนั้นไปหมด อะไรก็กรดไหลย้อนไว้ก่อน บอกว่าไม่ต้องกังวลหรอก นึกถึงพระไว้ ถ้าตายตอนนั้นก็ไปเลยเท่านั้นเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-03-2012 เมื่อ 02:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #104  
เก่า 20-03-2012, 16:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,411,003 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระโสดาบันรู้ว่าต้องตาย แล้วยังกลัวตายไหมครับ ?
ตอบ : ยังกลัวอยู่ แต่กลัวแบบมีสติมากกว่าเรา เพราะรู้ว่าปกติของร่างกายนี้จะต้องตายแน่ ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-03-2012 เมื่อ 02:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #105  
เก่า 21-03-2012, 08:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,411,003 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลานอน จะหลับก็ไม่หลับ แต่ก็นอนไปอย่างนั้น ?
ตอบ : ดีจ้ะ..แต่จริง ๆ แล้วเราไม่ควรไปใส่ใจตรงนั้น ให้เราภาวนาไปเรื่อย ๆ จะหลับหรือไม่หลับก็ช่าง เผลอหน่อยเดียวก็จะตัดหลับเลย ถ้าไม่เผลอ ไปตั้งใจดูว่าจะหลับเมื่อไร ก็จะอยู่แบบนั้นไปเรื่อย

ให้สังเกตว่าเราไม่ได้ง่วง เพราะนอนมาพอแล้ว ไม่ได้ง่วง ไม่ได้เพลีย การไม่หลับแบบนั้นเป็นลักษณะของปีติหรือไม่ก็สติสมบูรณ์ ให้สังเกตดูเอง..ถ้าเราภาวนาก่อนนอน ส่วนใหญ่จะเป็นปีติค้ำอยู่ สว่างโพลงอยู่ แต่ถ้าหากว่าสติสมบูรณ์จะรู้ลมหายใจเองโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องบังคับก็รู้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2012 เมื่อ 02:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 214 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #106  
เก่า 21-03-2012, 08:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,411,003 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ขอยกลูกให้เป็นลูกของท่านครับ ?
ตอบ : เลิกรับไปนานแล้วจ้ะ เดี๋ยวเด็กจะซนเป็นลิงหนักกว่าเก่าอีก ไม่เป็นไร..พามาบ่อย ๆ แล้วกัน พวกนี้ถ้ายกเป็นลูกพระ เวลาดื้อแล้วเราไปตีเขา จะเป็นไข้แบบหาสาเหตุไม่ได้จนกว่าจะขอขมาพระก่อน เพราะฉะนั้น..อย่ายกให้พระเลยจะดีที่สุด

เป็นเรื่องแปลก ลองดูได้เลย คนไหนยกเป็นลูกพระแล้วไปตีดูสิ จะเป็นไข้แบบหาสาเหตุไม่ได้ หมอก็รักษาไม่หาย จนกว่าจะขอขมาพระถึงจะหาย เพราะฉะนั้น..ถ้าไม่จำเป็นอย่าไปยกลูกให้เป็นลูกพระเลย เดี๋ยวจะตีไม่ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2012 เมื่อ 02:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #107  
เก่า 21-03-2012, 08:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,411,003 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "มีหนังสือขอความร่วมมือจากกระทรวงวัฒนธรรม ขอวัตถุมงคลที่มีชื่อเสียงของแต่ละจังหวัด นำไปจำหน่ายเพื่อหารายได้เข้าสภากาชาดไทย อาตมาก็เลยบอกว่าวัตถุมงคลของอาตมายังไม่ใช่หรอก เพราะว่ายังไม่มีชื่อเสียง แต่แหม..เขารู้ได้อย่างไร เล่นจิกมาตรงตัวเลย

ต่อไปจะมีพวกที่น่ารำคาญยิ่งกว่านั้น ก็คือพวกที่มาขอความช่วยเหลือแบบไม่ดูเวล่ำเวลา ไปนึกถึงครูบาเทืองสมัยรุ่ง ๆ ท่านต้องติดป้ายไว้เลย “ใครมาขอ ครูบาให้ทั้งนั้นแต่ไม่จ่าย ใครมานิมนต์ ครูบารับทั้งนั้นแต่ไม่ไป” ติดป้ายไว้อย่างนั้นเลย เพราะท่านโดนแบบหัวไม่วางหางไม่เว้น จนกระทั่งท่านเข็ด ต้องติดป้ายไว้ให้เห็น ๆ

เมื่อเช้าอาตมาไปนิมนต์หลวงพ่อพระครูสิริบุญโสภิต เจ้าอาวาสวัดใหม่ยายนุ้ยมาสวดมนต์ฉันเพลวันที่ ๒๙ นี้ ไปเจอลูกศิษย์ท่านกำลังตื๊อจะเอากุมารทอง ท่านมีกุมารทองอยู่ ๒ ตัว เป็นกุมารรุ่นหนึ่งของหลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของท่านเอง

ลูกศิษย์เข้าไปเห็นกุมารทองหายไปตัวหนึ่ง เขาคร่ำครวญหวนโหยจะขาดใจตาย บอกว่า “หายไปได้อย่างไร เพราะฉะนั้น..ตัวนี้ผมเอาแล้ว ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวหายอีก" ประเภทนี้ถ้ามาคร่ำครวญใกล้ ๆ อาตมารับรองว่าได้ทันที..! วัตถุมงคลของครูบาอาจารย์ท่านให้ไว้ โดยเฉพาะรุ่น ๑ ก็เหมือนกับของแทนตัว ยังจะไปตื๊อจะเอาให้ได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2012 เมื่อ 02:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #108  
เก่า 21-03-2012, 09:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,411,003 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันที่ ๒๙ มีนาคมนี้ ใครจะเอาอาหารมาเลี้ยงโรงทานที่นี่คิดให้ดี ๆ นะ คนอาจจะเยอะกว่าที่คิด ถ้าเราตั้งใจมากินจะปลอดภัยกว่า แนะนำถูกหรือเปล่านี่ ? ..(หัวเราะ).. ถ้าคิดจะเลี้ยงโรงทานแจ้งมาล่วงหน้าก่อนก็ดีนะจ๊ะ เขาจะได้เตรียมโต๊ะไว้ให้

ปกติอยากจะทำบุญให้ตรงวัน คือ ๓๑ มีนาคม แต่วันนั้นอาตมาติดงานอยู่ที่วัดพระธาตุดอยกวางคำ ก็เลยต้องมาทำบุญวันที่ ๒๙ แทน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2012 เมื่อ 02:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #109  
เก่า 21-03-2012, 10:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,411,003 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "เรื่องของภาษา มีฝรั่งอยู่คนหนึ่ง น่าจะมีพื้นฐานของนิรุกติปฏิสัมภิทา พูดได้ ๒๐๐ กว่าภาษา โดยเฉพาะภาษาเผ่าพื้นเมืองเล็ก ๆ น้อย ๆ ของแอฟริกัน เขาพูดได้ทั้งนั้นเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2012 เมื่อ 02:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 216 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #110  
เก่า 21-03-2012, 10:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,411,003 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ขณะที่โยมถวายสังฆทาน พระอาจารย์กล่าวว่า "โยมประเคนพระเลยธงไปหน่อย วางเลยขึ้นมาบนกองหนังสือเลย คำว่า "เลยธง" เป็นศัพท์เก่า สมัยนี้เราเรียกว่า "ออฟไซด์" พวกทำอะไรเลยธง ก็คือ พวกเกิน ไม่มีขาด

มีคำศัพท์หลายคำที่ไม่ติดตลาด คนยังนิยมใช้คำเดิมของเขา เช่น “คอมพิวเตอร์” เขาบัญญัติว่า “สมองกล” จนป่านนี้ก็ไม่มีใครใช้กัน เขาก็เรียกทับศัพท์ว่าคอมพิวเตอร์ ปัจจุบันนี้เปลี่ยนใหม่เป็น “คณิตกรณ์” ฟังแล้วบ้าไปเลย แสดงว่าทำอย่างอื่นไม่ได้นอกจากคิดเลขอย่างเดียว ตอนนี้ราชบัณฑิตฯ บัญญัติยังเป็นคณิตกรณ์อยู่นะ

คำว่า "สอบไล่" สมัยนี้เรียกว่า "สอบไฟนอล" ความจริงคำว่าสอบไล่มาจาก “ไล่ระดับความรู้” เขาเรียกย่อลงมาเหลือแค่สอบไล่"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2012 เมื่อ 03:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #111  
เก่า 21-03-2012, 11:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,411,003 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เปิดร้านอยู่ที่เยอรมัน แต่กิจการไม่ค่อยดี
ตอบ : ภาวนาคาถาเงินล้านเยอะ ๆ

ถาม : เครื่องบวงสรวง เราต้องทำไหม?
ตอบ : จุดธูปเทียนบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางเขาว่าขอให้กิจการเราเจริญรุ่งเรือง แล้วจะถวายสังฆทานให้เขาเป็นประจำ จะถวายปีละครั้งหรือเดือนละครั้งอยู่ที่เรา ถ้าทำเองไม่ได้ก็โทรมาบอกทางนี้ให้ทำแทน บอกเทวดาว่าเอา "หมาก" เยอะ ๆ

ถาม : หมาก ?
ตอบ : เงินมาร์ก สกุลเงินของเยอรมัน บอกเทวดาว่าเอาหมากเยอะ ๆ อาตมาพูดศัพท์แสลงโยมเลยไม่เข้าใจ

สมัยนี้คำที่หายไปอีกคำหนึ่งก็คือ แจกหมากแจกแว่น สมัยก่อนเวลาตีกัน ต่อยจนปากแตกตาเขียว เขาเรียกว่าแจกหมากแจกแว่น ต่อยกันปากแตกเลือดแดงเหมือนคนกินหมาก เจอกำปั้นเข้าไปเบ้าตาเขียวเป็นเบ้าขนมครกอย่างกับใส่แว่น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2012 เมื่อ 03:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #112  
เก่า 21-03-2012, 11:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,411,003 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ประเทศเยอรมันมีวัดสาขาของวัดท่าซุงอยู่ด้วยนะ ท่านพระครูประสิทธิ์สรการหรือหลวงพี่อาจินต์ ธมฺมจิตฺโต รักษาการณ์เจ้าอาวาสอยู่

หลวงพี่อาจินต์ท่านได้ตำแหน่งพระครูฐานานุกรมของท่านเจ้าคุณพรหมสิทธิ วัดสระเกศ เป็นพระครูคู่สวด มหาปิงเรียนถามท่านเจ้าคุณพรหมสิทธิว่า “ตำแหน่งพระครูวินัยธร พระครูธรรมธร ใหญ่กว่าตั้งเยอะทำไมไม่ให้ ไปให้พระคู่สวด” เจ้าคุณพรหมสิทธิท่านบอกว่า “ตำแหน่งพระคู่สวดชื่อเหมือนกับพระครูสัญญาบัตร คนได้ยินจะให้ความเกรงใจมากกว่า” ถ้าเป็นพระครูวินัยธร พระครูธรรมธร เขาฟังดูก็รู้ว่าเป็นพระครูฐานานุกรม

แบบเดียวกับท่านเจ้าคุณพิพัฒน์ศึกษากร ก่อนนั้นท่านเป็นพระครูพินิจสุนทร อาตมาก็นึกว่าท่านเป็นพระครูสัญญาบัตร ที่ไหนได้ท่านเป็นพระครูฐานานุกรม เป็นพระครูคู่สวด

สมัยก่อนพระครูคู่สวดมีนิตยภัตให้ สมัยนี้ไม่รู้ว่ายังมีอยู่หรือเปล่า ? สมัยนี้ถ้าเป็นพระครูปลัดของรองสมเด็จพระราชาคณะขึ้นไปมีนิตยภัต “นิตยภัต” ก็คือค่าอาหารที่จ่ายให้ประจำ เมื่อก่อนเขาจะขีดกากบาทแล้วก็ลงตัวเลข ลงผิดช่องนี่จ่ายหนักเลย เพราะจะมี ชั่ง ตำลึง บาท สลึง เฟื้อง ไพ เด็กรุ่นหลังไปดูไม่รู้หรอกว่าขีดอะไร ถ้าลงผิดช่องแทนที่จะเป็น ๔ ตำลึง กลายเป็น ๔ ชั่ง นี่จ่ายกันตายเลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2012 เมื่อ 03:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #113  
เก่า 21-03-2012, 11:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,411,003 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีคุณป้ากำลังเล่นกับสุนัขอยู่ พระอาจารย์ท่านว่า "ท่านี้คือยอมแพ้ ท่านอนหงายเปิดพุงคือไม่มีอะไรป้องกันส่วนอันตรายของตัวเอง แปลว่ายอมแล้วจ้ะ

แต่ถ้าเป็นมวยไทยรุ่นเก่า ล้มแล้วหงายเขาซ้ำนะ เขาถือว่ายังป้องกันตัวได้ ถ้าล้มแล้วไม่อยากโดนซ้ำให้รีบพลิกคว่ำ เพราะว่าคนที่ล้มนอนหงาย เขาสามารถใช้เท้าข้างหนึ่งเกี่ยวส้นเท้าแล้วเท้าอีกข้างหนึ่งถีบใส่หัวเข่า คู่ต่อสู้อาจจะบาดเจ็บถึงพิการเอาง่าย ๆ เลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2012 เมื่อ 03:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #114  
เก่า 21-03-2012, 13:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,411,003 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "สมัยเด็ก ๆ เวลาเล่นประทัดกัน ถึงเวลาจุดจะไปเก็บเอานัดที่ไม่ระเบิดมา เพราะว่าไส้ประทัดบางอันเขาใส่ดินปืนไม่ต่อเนื่องกัน เวลาจุดเท่ากับไหม้กระดาษเปล่า ๆ เด็ก ๆ ก็เก็บมาจุดเล่นกัน จุดเฉย ๆ ไม่สนุก ก็ใช้วิธีกอบดินขึ้นมาเอาประทัดเสียบไว้ เอากะลาครอบแล้วจุด เวลาระเบิดแล้วกะลาจะลอยสูงดี

มีพวกวิตถารกว่านั้นอีก เอายัดใส่ปากคางคกแล้วก็จุด..! คางคกไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย อยู่ ๆ ก็โดนจนไส้ไหลลิ้นห้อย เวลาเด็ก ๆ เล่นจะนึกถึงแต่ความสนุกอย่างเดียว ไม่ได้นึกถึงเรื่องอื่น ฉะนั้น..ไม่ต้องแปลกใจหรอกว่า การทำอะไรพิลึกพิลั่น บางทีก็ทำให้คนอื่นสัตว์อื่นเดือดร้อนโดยไม่รู้ตัว

กว่าจะรู้บุญรู้บาปก็ต้องผ่านการอบรมสั่งสอนมาระยะหนึ่ง แต่เด็กสมัยก่อนรู้บุญรู้บาปง่ายเพราะอยู่ใกล้วัด สมัยหลังพอเขาแยกโรงเรียนกับวัดออกจากกันก็แทบจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย แล้วยิ่งโดนตัดหลักสูตรศีลธรรมออกไปก็ยิ่งบรรลัยใหญ่ สมัยที่โดนตัดหลักสูตรศีลธรรมออกไป เพราะรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการท่านเป็นคริสต์..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2012 เมื่อ 03:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #115  
เก่า 22-03-2012, 08:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,411,003 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คิดอย่างไรกับการเช่าพระเพื่อเก็งกำไรคะ ?
ตอบ : ไม่มีปัญหา ทำไปได้เลย

ถาม : การเช่าพระที่แท้จริง ควรเช่าเพื่ออะไรคะ ?
ตอบ : จริง ๆ ก็คือติดตัวไว้เป็นอนุสติ แต่มีส่วนหนึ่งที่เขาตั้งใจทำกำไรโดยตรง แต่ก็ว่ากันไม่ได้ เพราะถ้าคนไม่ต้องการ เขาก็ไม่มาซื้อ ต้องเรียกว่าสมยอมด้วยกัน คือถ้าราคาไม่เกินความสามารถ เขาก็ซื้ออยู่แล้ว

เพียงแต่ว่าให้ทำด้วยความเคารพ ไม่ใช่ไปวางเกะกะเกลื่อนกลาดหมด อย่างสมัยนี้เขาบังคับแถวท่าพระจันทร์ ถ้าหากว่าไม่วางพระบนโต๊ะก็ห้ามตั้งขาย สมัยก่อนเขาวางบนทางเท้าเลย สมัยนี้ถูกบังคับก็เลยดีขึ้นมาหน่อย

ถาม : ถ้าคนที่เช่าพระเพื่อเก็งกำไรอย่างเดียว โดยไม่ได้คิดมีไว้เพื่อเป็นอนุสติเลย ?
ตอบ : ปล่อยให้เขาทำมาหากินตามปกติไป ไม่ได้ไปปล้น ไปจี้ ไปโกงใคร แต่อย่างน้อยก็ให้ปฏิบัติด้วยความเคารพ มีสมัยหนึ่งเขาเอาพระไปเล่นประเภทกำถั่วทายกัน จะออกคู่ ออกคี่ เล่นได้เสียกันอีกต่างหาก ถ้าอย่างนั้นมีหวังลงนรกหมด ถ้าจะทำก็ให้ทำด้วยความเคารพ

มีบางร้านเขาทำดีมาก ก่อนที่จะเอาพระออกมาให้ลูกค้าดู เขาล้างมือให้สะอาด แล้วก็ปูผ้าขาวแล้วค่อยหยิบพระออกมาวางให้ลูกค้าดู เขาทำขนาดนั้นแสดงว่าเคารพพระจริง ๆ

ถาม : อย่างในสมัยอดีต ที่เขาไปตกพระตามกรุล่ะครับ ?
ตอบ : อันนั้นติดหนี้สงฆ์แน่นอน ถ้าตกพระก็มีกรุเดียว คือกรุบางขุนพรหม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2012 เมื่อ 16:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #116  
เก่า 22-03-2012, 11:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,411,003 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีเด็กมาขอวัตถุมงคลเนื่องในวันคล้ายวันเกิด พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของเด็ก ๆ เราควรทำให้เขารู้สึกว่ามาวัดหรือมาหาพระแล้วได้อะไรไปบ้าง โดยเฉพาะในวันเกิดของเขา

เด็กรุ่นหลังนี้วันเกิดเป็นเรื่องสำคัญ บางคนเป็นเด็กอนุบาลอยู่ ยังไม่ทันจะรู้เรื่องเลยก็จัดงานวันเกิดแล้ว บางทีเด็ก ๆ เขามาจัดงานวันเกิดให้อาตมา เขาปักเทียนแบบที่เป่าแล้วติดใหม่ ช่วยกันจุดกลั่นแกล้งหลวงตา อาตมาเป่าพรวดเดียวเทียนดับเกลี้ยง เด็ก ๆ บอกว่าหลวงตาใช้ไสยศาสตร์ แล้วสงสัยว่าอาตมาเป่าดับได้อย่างไร เพราะตัวเขาเองเป่าเท่าไรก็ไม่ดับ พอดับแล้วก็ติดใหม่

คนสมัยก่อนจะจัดงานวันเกิดก็ต่อเมื่ออายุครบ ๖๐ ปี เพราะว่าการสาธารณสุขต่าง ๆ ช่วงนั้นยังไม่เจริญ คนมักจะตายตั้งแต่อายุน้อย ๆ อีกอย่างหนึ่งเขานิยมแต่งงานกันตั้งแต่อายุ ๑๖ ปี ฉะนั้น..คนสมัยก่อนพออายุ ๓๐ ปีนี่ดูแก่มากเลย อายุ ๖๐ ปีก็คือคุณปู่ คุณตา คุณทวดแล้ว จึงมีการจัดงานวันเกิดแล้วก็จัดงานทำบุญ

คนจีนเขาเรียกวันเกิดว่า "แซยิด" จริง ๆ เขานิยมจัดแซยิดตอนอายุ ๖๐ ปี พอจัดงาน ๖๐ ปีไปแล้ว ต่อไปก็อยู่ในลักษณะแบ่งเป็น ๒ อย่าง อย่างหนึ่งก็คือจัดทุก ๑๐ ปี เช่นว่า ๗๐, ๘๐, ๙๐ อีกอย่างหนึ่งก็จัดทุก ๑๒ ปี ก็เป็น ๗๒, ๘๔, ๙๖ เป็นต้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2012 เมื่อ 16:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #117  
เก่า 22-03-2012, 11:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,411,003 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ที่เป็นอย่างนั้นเพราะว่าคนโบราณเขารอบคอบ คนที่จะจัดงานบุญฉลองอายุใหญ่ ๆ โต ๆ ได้ ส่วนใหญ่เป็นท่านที่มียศมีอำนาจ คราวนี้คนที่มียศมีอำนาจส่วนใหญ่ก็มีบริวารมาก เวลาจัดงานบริวารก็ต้องมา บางทีบริวารอยู่หัวเมืองไกล ๆ ต้องพายเรือ ต้องขี่เกวียน ต้องเดินเท้ามา ทำให้เขาลำบาก ฉะนั้น..การจัดงานทุกปีจึงเป็นการรบกวนบริวารตัวเองมากจนเกินไป ก็เลยเปลี่ยนเป็นจัด ๑๐ ปีครั้งหนึ่ง หรือว่า ๑๒ ปีครั้งหนึ่ง

สมัยนี้รถราม้าช้างไม่ค่อยได้ใช้แล้ว ส่วนใหญ่มีรถส่วนตัวกัน เดินทางสะดวก ผู้ใหญ่ท่านจะจัดงานวัดเกิดทุกปีก็ไม่มีใครว่าอะไร ไปให้ท่านเห็นหน้าเสียหน่อย “ไม่ไปก็ไม่ว่า..แต่ผมจำแม่นนะ” อะไรอย่างนี้ มีการขู่อีกด้วย

เพราะฉะนั้น..งานวันเกิดก็เลยกลายเป็นงานที่ค่อนข้างเกร่อเป็นสาธารณะ ไม่เหมือนโบราณที่โอกาสจัดงานวันเกิดคนหนึ่งมีแค่ไม่กี่ครั้ง สมัยนี้เด็ก ๆ ปักเทียน ๒ เล่มก็เป่าเค้กกันแล้ว ต่อไปถ้าจะให้อาตมาเป่าเค้ก ขอให้เปลี่ยนเป็นขนมครกนะจ๊ะ ถ้าไม่ใช่ขนมครกจะเป็นขนมชั้นก็ได้

อาตมาฉันเค้กได้อย่างเดียวก็คือเค้กผลไม้ ต้องใส่ผลไม้เยอะ ๆ ด้วยนะ เวลาอาตมาสั่งเค้กผลไม้พิเศษ จะเป็นเค้ก ๑ ปอนด์ ใส่ผลไม้ไป ๓ ปอนด์ เค้กเป็นอาหารฝรั่ง เด็กรุ่นหลัง ๆ กินอาหารตามแบบฝรั่งโดยที่ไม่ได้ดูดินฟ้าอากาศ บ้านเขาอากาศหนาวก็ต้องกินนมกินเนย กินไอศกรีม เพื่อที่จะเอาพลังงานไปสู้ความหนาว บ้านเราอากาศร้อน กินเข้าไปร่างกายก็เก็บหมด จึงกลายเป็นโรคอ้วนกันมาก

วันเกิดอาตมาไม่ค่อยได้นึกถึงหรอก บางคนมาบอกว่าวันนี้วันเกิดอาจารย์ อาตมาถึงนึกได้ เพราะไม่ได้ให้ความสำคัญเลย ที่ให้ความสำคัญคือวันตาย กำลังรออยู่ ถึงคิวเมื่อไรก็..ไปละนะ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2012 เมื่อ 16:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #118  
เก่า 22-03-2012, 12:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,411,003 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตะกรุดโสฬสมหามงคล เวลาเลี่ยมให้เอาห่วงตรงหัวท้ายออกด้วยหรือเปล่าคะ?
ตอบ : อยู่ที่เราสิจ๊ะ เอาออกก็ได้ไม่มีใครเขาว่า เขาทำมาไว้สำหรับแขวน เราจะไม่แขวนก็เอาออกไป เอาห่วงไปหล่อพระก็ได้ เก็บไว้เป็นชนวน ต่อไปนาน ๆ ถ้าไม่มีชนวนก็มาเอาไปนิดหนึ่ง ตอนหลวงพ่อยังอยู่ไม่เท่าไรหรอก ตอนหลวงพ่อมรณภาพเมื่อไรกลายเป็นของวิเศษทุกอย่างแหละ แย่งกันจะเป็นจะตาย

ถาม : ตะกรุดโสฬสไม่ได้บังคับใช่ไหมครับ ว่าต้องเป็นทอง นาก เงิน ?
ตอบ : ตะกรุดโสฬสของหลวงพ่อสมเด็จพระสังฆราชวัดสุทัศน์ฯ ท่านใช้ทองคำ เขียนแล้วไม่ได้ม้วนด้วยนะ ท่านสอดเอาไว้ใต้หมอนนอนหนุนทุกวัน

หลวงพ่อสมเด็จพระสังฆราชวัดสุทัศน์ฯ ต้องบอกว่าท่านแหวกฟ้ามาปรากฏ เพราะ ๗๐ กว่าปีที่ตำแหน่งพระสังฆราชเป็นฝ่ายธรรมยุติมาตลอด มีอยู่ ๑๑ ปีที่ว่างเว้นตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช ที่ไม่ทรงแต่งตั้งเนื่องจากรอสมเด็จพระสังฆราชกรมพระยาวชิรญาณวโรรส ซึ่งตอนนั้นยังอาวุโสไม่พอ รอให้อาวุโสได้ก่อนแล้วถึงทรงตั้งขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช

ความเด็ดขาดของสมเด็จพระสังฆราชวัดสุทัศน์ฯ เกิดขึ้นจากการที่สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ก่อนตั้งใจจะให้พระทั้งประเทศห่มผ้าแบบธรรมยุติทั้งหมด แต่หลวงพ่อสมเด็จพระสังฆราชวัดสุทัศน์ฯ เองท่านห่มมังกรแบบมหานิกาย ท่านบอกว่าห่มอย่างนี้มาตลอด ถ้าจะให้เปลี่ยนก็ไม่เปลี่ยน ถ้าไม่เปลี่ยนแล้วจะลงโทษก็ยินดีรับโทษ เล่นเอาท่านที่ออกคำสั่งไปไม่เป็นเหมือนกัน ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าสมเด็จพระสังฆราชวัดสุทัศน์ฯ ท่านยังเป็นสมเด็จพระวันรัตอยู่

เพราะท่านเด็ดขาดแบบนี้แหละ จึงได้แหวกวงธรรมยุติขึ้นมาเป็นพระสังฆราชองค์แรกของมหานิกายในรอบ ๘๐ ปี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 01-10-2020 เมื่อ 14:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #119  
เก่า 22-03-2012, 12:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,411,003 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์ท่านบอกว่า "เรียนหนังสืออย่าไปกลัว ถ้ากลัวแล้วเรียนไม่สนุกหรอก ต้องเรียนเพราะอยากรู้ อยากรู้ว่าชั่วโมงนี้อาจารย์จะสอนอะไรเรา อยากรู้ว่าชั่วโมงนี้เราจะเถียงอาจารย์ได้ไหม ถ้าแบบนี้จะสนุกมากเลย เถียงให้มีศิลปะด้วยนะ ถ้าเถียงไม่มีศิลปะเดี๋ยวอาจารย์โกรธ เราก็หมดอนาคตอีก

อาตมาเถียงอาจารย์ทุกชั่วโมงแหละ แต่เถียงในลักษณะที่ว่า “อาจารย์ครับ เป็นไปได้ไหมครับว่า..” หรือไม่ก็ “ท่านอาจารย์ครับ อาจารย์คิดว่าเป็นอย่างนี้ได้ไหมครับ” เป็นลูกศิษย์ที่นั่งเถียงอาจารย์ทุกชั่วโมง แต่เถียงแล้วอาจารย์โกรธไม่ได้ เพราะไม่มีความคิดของอาตมาเลย ที่เถียงกันมีแต่ความคิดอาจารย์ จนกระทั่งอาจารย์พลตรีเฉลิมชัยท่านบอกว่า “ถ้าพระคุณเจ้าทักท้วงนี่ผมต้องพิจารณาทันทีเลยว่า ผมพลาดแล้วแน่นอน”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2012 เมื่อ 16:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #120  
เก่า 22-03-2012, 16:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,411,003 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนเราเวลากฎแห่งกรรมเล่นงาน ทำไมถึงรวม ๆ เล่นมาทีเดียวเลย ?
ตอบ : เราไปปิดกั้นเขาไว้ด้วยกุศลมานาน อกุศลเหมือนกับแขก ไปไหนไม่ได้ก็ยืนรออยู่หน้าบ้าน ยิ่งรอนานก็ยิ่งมาก เราเปิดประตูเมื่อไรอกุศลก็พรวดเข้ามาพร้อม ๆ กัน

ถาม : แสดงว่าไม่ได้ดึงไว้ แต่อกุศลรออยู่แล้วใช่ไหมครับ ?
ตอบ : รออยู่แล้ว ทางรอดก็คือต่อกุศลของเราไว้อย่าให้ขาด ขาดช่วงเมื่อไหร่โดนแน่..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2012 เมื่อ 16:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 09:45



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว