กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์

Notices

เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ เก็บข้อธรรมจากบ้านอนุสาวรีย์มาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #61  
เก่า 14-09-2009, 13:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,369
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พอถึงจุดนี้ ที่หนูบอกว่าหลุดทุกครั้ง ทีนี้ถ้าออกไปพิจารณาข้างนอก เปรียบกับคนอื่นที่เขาไม่ได้หลุดไปแต่พิจารณา อย่างนี้มีผลเหมือนกันหรือเปล่าคะ
ตอบ : พิจารณาก่อนไป ถือว่าปลอดภัยกว่า เพราะว่ากำลังใจที่ไม่ยึดเกาะร่างกายจริง ๆ การรู้เห็นทุกอย่างจะชัดเจน ส่วนการออกไปพิจารณาข้างนอกง่ายกว่า ง่ายกว่าเพราะกายกับใจมันแยกออกเป็นคนละส่วนจริง ๆ มันไม่ได้ยึดไม่เกาะกันอยู่แล้ว ถือเสียว่าถนัดแบบไหนทำแบบนั้นแล้วกัน

ถาม : เมื่อหลุดไปแล้ว หนูก็คิดว่าถือโอกาสก่อประโยชน์ให้เกิดสูงสุด ก็อยากจะไปกราบพระบนนิพพาน ตั้งใจว่าไปก็พุ่งไปอย่างเร็วเลยค่ะ เสร็จแล้วมันก็ค่อยช้าลง ๆ ร่วงลงไปยังที่เดิม ๕-๖ ครั้ง เป็นอย่างนี้ทุกครั้งเลย
ตอบ : สมาธิก็ไม่พอ ปัญญาก็ไม่พอ วิปัสสนาญาณยิ่งแย่ใหญ่ เร่งสามอย่างนี้ใหม่

ถาม : แล้วหนูขอพระ อย่างหลวงพ่อฤๅษีช่วยอย่างนี้ไม่ได้หรือคะ
ตอบ : แล้วตอนนั้นขอหรือเปล่า

ถาม : ขอค่ะ ปรากฏว่าพอขอแล้วก็มีแรงดึงขาหนูไป แต่ไม่ได้ขึ้นข้างบน ไปทางราบค่ะ แล้วก็ไปโผล่กำแพงเมืองจีนค่ะ
ตอบ : ดีที่ไม่หลุดไปข้างล่าง

ถาม : การที่ในชีวิตประจำวัน หนูพิจารณาทุกข์โดยที่ไม่รู้ว่าได้ฌานหรือเปล่า ตรงนี้จะมีผลอะไรหรือเปล่าคะ
ตอบ : มี อย่างน้อยความดีที่เราทำได้ จะได้ทรงตัว มันจะได้ฌานหรือไม่ได้ฌานช่างมัน ขอให้ได้ทำก็พอ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 121 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #62  
เก่า 14-09-2009, 13:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,369
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ลูกสาวหนูคนโต เป็นเด็กที่ขาดความอดทนมาก อันเนื่องมาจากการเลี้ยงดูของหนูเอง ทีนี้หนูจะแก้ไขอะไรได้บ้าง
ตอบ : สอนให้ทำสมาธิ ถ้ากำลังใจเข้มแข็ง มันก็จะมีความอดทนมากขึ้น

ถาม : แล้วหลัง ๆ นี่หนูจะมีความรู้สึกว่าเบื่อกิเลสมาก ๆ เลยค่ะ พอกิเลสมันเข้ามาแรง ๆ ตัวเบื่อมันก็จะถีบกิเลสกระเด็นออกไปได้ ทีนี้พอมันออกไปแล้ว ตัวเบื่อมันก็ยังอยู่ หนูรู้สึกว่ามันไม่ค่อยแจ่มใส ทำอย่างไรดีคะ
ตอบ : ดี และจำเป็นต้องรักษาไว้ด้วย เพราะว่าอันนั้นเป็นเบื้องต้นเลยที่จะนำพาเราให้หลุดพ้น ตัวเบื่อเป็นนิพพิทาญาณ ถ้าไม่มีนิพพิทาญาณมันจะไม่เบื่อ ในเมื่อมันไม่เบื่อเราก็จะหลุดพ้นไม่ได้ เพราะฉะนั้นพยายามรักษาไว้ ทวนแล้วทวนอีก ซ้ำแล้วซ้ำอีก ถ้ากำลังมันพอมันจะก้าวล่วงลงไปกลายเป็นสังขารุเปกขาญาณ คราวนี้มันจะปล่อยวาง ก็สบาย

ถาม : แล้วอย่างหนูนี่ไม่ได้อะไร จะกระโดดไปถือศีล ๘ จะมีข้อดีช่วยในการปฏิบัติได้ไหมคะ
ตอบ : ปรึกษาผัวก่อน เดี๋ยวมันไม่ยอม

ถาม : คุยกันแล้วค่ะ จริง ๆ แล้วเขาเป็นคนชวนหนูเองค่ะ
แล้วเรื่องศีลแปด หนูอ่านเจอว่าในสมัยท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ท่านไม่ให้เด็กกินนมแม่ด้วยซ้ำ แล้วอย่างสมัยนี้กินนมได้หรือคะ
ตอบ : กินไปสิ

ถาม : ก็สมัยก่อนไม่ได้ค่ะ
ตอบ : นั่นของเขาตั้งใจจริง ๆ ทีนี้มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะเขากินพวกน้ำผึ้งอะไรแทน เราก็คิดเสียว่ามันมื้อเดียวก็อิ่ม ที่เขาห้ามก็คือเขาห้ามอาหารแบบปกติ เด็กมันกินนมเป็นปรกติก็เปลี่ยนซะ

อย่างนี้นี่เอง ขอบคุณมากค่ะ จบแล้วค่ะ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 14-09-2009 เมื่อ 13:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 122 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #63  
เก่า 20-09-2009, 20:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,369
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในขณะที่กำลังคุยเกี่ยวกับเรื่อง msn กันอยู่ หลวงพ่อได้กล่าวว่า "เครื่องเทคโนโลยีต่าง ๆ ถ้าขาดการชั่งใจ ขาดสติ วันเวลาต่าง ๆ จะหมดไปเร็ว ไม่ต้องทำมาหากินอะไรหรอก เหมือนกับตอนมีมือถือใหม่ ๆ เด็กไปเรียนหนังสือก็คุยโทรศัพท์อยู่นั่นแหละ คุยกันทั้งวันยังไม่พอ การกระทำลักษณะนี้เขาจะรู้สึกว่าได้รับความสนใจจากคนอื่น

คราวนี้พ่อแม่ที่เลี้ยงลูกสมัยใหม่ มักจะไม่มีเวลาให้ลูก พอไม่มีเวลาให้ลูกก็เท่ากับว่าเขาขาด ขาดในส่วนที่ต้องการในใจ เมื่อเพื่อนฝูงสามารถให้ตรงนั้นเขาได้ก็ไปติดเพื่อน โดยเฉพาะช่วงวัยรุ่น ต้องระมัดระวังให้ดี เทคโนโลยีมีคุณอนันต์และก็มีโทษมหันต์ในเวลาเดียวกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 108 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #64  
เก่า 20-09-2009, 20:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,369
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพี่คะ หนูต้องพิจารณาอะไรต่อไปคะ
ตอบ : อะไรก็ได้ที่มันไม่อยากได้ในร่างกายนี้ ซ้ำแล้วซ้ำอีก ย้ำแล้วย้ำอีก ให้เห็นความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ ไม่มีอะไรเป็นเรา เป็นของเรา เบื่อ (ทำ) ไม่ได้ เลิกไม่ได้ เบื่อ (ทำ) เมื่อไหร่กิเลสมันตีกลับ

ถาม : ทุกครั้งที่ออกจากการปฏิบัติ ตาหูมันก็เห็นค่ะ บังคับทุกตัว....
ตอบ : กำลังใจนึกถึงตลอดเวลา แบ่งความรู้สึกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งประมาณ ๒๐-๓๐ เปอร์เซ็นต์ให้ภาพพระอยู่กับเราตลอด อีกส่วนหนึ่ง ๘๐ เปอร์เซ็นต์ก็ทำงานของเราไป

เขาต้องการให้เห็นอย่างนั้นจ้ะ ไม่ใช่ไปกลัว แสดงว่ากลัวจะดี พอกำหนดรู้ไปเรื่อย ๆ ภาพพระจะเปลี่ยน สีก็จะจางลง จางลง จนกระทั่งค่อย ๆ ใสขึ้น สว่างขึ้น

ถาม : ใช่เลยค่ะ
ตอบ : ไปทำต่อ คนอื่นเขาทำแทบล้มประดาตายกว่าจะได้ แต่นี่ได้แล้วดันกลัว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 20-09-2009 เมื่อ 21:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 110 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #65  
เก่า 20-09-2009, 21:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,369
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อบอกว่า "งานอะไรที่ไม่มีอุปสรรค...มันไม่มีหรอก เพียงแต่ว่าอุปสรรคหรือปัญหาเขามีไว้ให้แก้

มีคนเขาถาม คุณเทียม โชควัฒนา ว่าแล้วถ้ามีปัญหาที่แก้ไม่ได้ล่ะ เขาก็บอกว่าปัญหาที่แก้ไม่ได้ก็ไม่ไม่ใช่ปัญหาสิ ถ้าแก้ไม่ได้มันจะเป็นปัญหาได้อย่างไร ซึ่งก็จริงของเขา"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 108 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #66  
เก่า 20-09-2009, 21:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,369
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อบอกว่า "การตักบาตรเทโว เกิดขึ้นจากวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เรียกว่า วันเทโวโรหณะ เขาจึงมาเรียกสั้น ๆ ว่า ตักบาตรเทโว

พระพุทธเจ้าเสด็จลงที่เมืองสังกัสสนคร ชาวบ้านชาวเมืองทั้งหลายก็นำข้าวปลาอาหารไปถวาย คราวนี้ว่าคนมากเป็นแสน ๆ โอกาสจะเข้าใกล้ก็น้อย เมื่อเป็นดังนั้นก็เลยมีการพัฒนาในระยะหลังเป็นข้าวต้มลูกโยน เป็นข้าวเหนียวห่อใบตอง แล้วก็มีหางยาว ๆ ที่ทำด้วยใบมะพร้าว ถึงเวลาก็โยนไป

ถามว่าใช้วิธีอย่างนั้นถวายของพระพุทธเจ้าได้ไหม....ได้ พระพุทธเจ้าท่านอนุญาตไว้ ท่านบอกว่าถ้าเจ้าของให้ด้วยใจเคารพ...รับได้ ระยะหลังบ้านเราก็พัฒนาไปอีกกลายเป็นประเพณีโยนบัว รับบัวกัน ที่พระประแดง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 21-09-2009 เมื่อ 07:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 109 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:26



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว