กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #141  
เก่า 21-08-2018, 23:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,328
ได้ให้อนุโมทนา: 149,906
ได้รับอนุโมทนา 4,395,384 ครั้ง ใน 33,917 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"อย่าให้เขากล่าวหาวัดอย่างเดียว ด่าเขาคืนไปบ้าง ด่าไพเราะอย่างนี้แหละ มีพวกเรา (พระ) ประเภทตั้งกระทู้แรง ๆ ถามขึ้นไป "ในเมื่อตำรวจทหารผิด รู้ ๆ อยู่ ทำไมถึงไม่จัดการ ?" ตอบไปว่า "คุณดูสภาพความเป็นจริงไหม ? อันดับแรกไม่มีหลักฐาน แล้วใครจะไปจัดการได้ ไปขอหมายศาล ศาลจะออกให้คุณหรือถ้าไม่มีหลักฐาน ? แค่ได้ยินเขาว่า ต่อให้รู้ ๆ ว่าเขาทำ แล้วถ้าหากต่อกันมา ๗ ช่วง ๘ ช่วง แล้วจะถึงตัวคนผิดไหม ?

ถ้าคุณไปกล่าวหาว่าทหารตำรวจเขาทำ ก็เป็นเพียงส่วนนิดเดียวเท่านั้นเอง เป็นจุดดำจุดเดียวในผ้าขาว แล้วไปกล่าวหาว่าเป็นทหารตำรวจทั้งหมด ก็พอ ๆ กับที่คุณโยนขี้มาบอกว่าพระผิดนั่นแหละ พระ ๒ แสนกว่ารูปมีผิดกี่รูป ? คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ยังไม่ได้เลย ฉะนั้น...ของพวกนี้จึงต้องร่วมมือกัน"

นึกถึงสภาพความเป็นจริงบ้าง ว่ารัฐบาลนี้พยายามจะแก้ไขพวกข้าราชการคอรัปชั่นอยู่ ถ้าเขาทำไม่ทันก็รอรัฐบาลใหม่ ถ้ารัฐบาลใหม่ทำไม่ทัน คุณก็ต้องนึกถึงพระพุทธเจ้าของเรา พระองค์ท่านตรัสว่า "ใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น" อย่าไปใจร้อน


ด่าไม่ดูหน้าคนเลย ตำรวจทหารนั่งเต็มเวที ส่วนใหญ่เขาไปคิดว่าแรงแล้วเท่ ไม่ดูกาลเทศะ แรงได้..แต่ให้อยู่ในกรอบ พูดง่าย ๆ คือพูดให้ชัด แต่อย่าให้เขาเตะถึง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2018 เมื่อ 01:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #142  
เก่า 21-08-2018, 23:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,328
ได้ให้อนุโมทนา: 149,906
ได้รับอนุโมทนา 4,395,384 ครั้ง ใน 33,917 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"อาตมาลงมาบอกท่านมหาจีรพันธ์ว่า "พรุ่งนี้หาดี ๆ หน่อยนะ ถ้าไม่ได้เขาต้อนตายเลย โดยเฉพาะพิธีกรสองคนจากหน่วยเฉพาะกิจ รับส่งลูกกันสุดยอดเลย มีแล่บออกข้างนอกด้วยนะ"

ในเมื่อหลวงพ่อชัดเจนขนาดนี้ ขอนอกเรื่องนิดหนึ่งครับ “พระขับรถได้ไหม ?" ก็ถามเขาว่า "แล้วโยมเห็นเขาขับไหมล่ะ ? ถ้าเห็นเขาขับต้องแสดงว่าเขาขับได้สิ ถ้าขับไม่ได้จะเอารถไปได้อย่างไร เพียงแต่ว่าสมควรไหม ?”

“เรื่องนี้ไม่ได้มีข้อห้ามอยู่ในศีลพระ แต่เนื่องจากชาวบ้านเห็นว่าไม่สมควร เราก็มาเอาข้ออ้างในการตีความพระธรรมวินัยในมหาปเทส ๔ ของพระพุทธเจ้ามาจับ "ของที่สมควร พระพุทธเจ้าไม่ได้ห้าม เพราะว่าสมัยนั้นไม่มี แต่ถ้าพิจารณาแล้วว่าไม่สมควร ของนั้นย่อมไม่สมควร" ในเมื่อพิจารณาแล้วว่าการขับรถของพระไม่สมควร ก็เป็นของที่ไม่สมควรแน่ ๆ เพียงแต่เขาปรับแค่อาบัติทุกกฎ คือทำอาการประหนึ่งฆราวาส ถามว่าอาบัติทุกกฎหนักแค่ไหน ? ก็หนักเท่ากับยืนฉี่เท่านั้นเอง"

ชี้แจงไปให้ชัดเจน ดูความจำเป็นของเขาด้วย ถ้าเกิดว่าวัดวาอารามอยู่ในป่าไป ๔๐-๕๐ กิโลเมตร โยมก็ไม่อยู่ขับรถให้เขา เจ็บไข้ได้ป่วยจะตายขึ้นมาใครจะขับล่ะ ? ก็ต้องพระขับเอง ทำอะไรต้องดูบริบท ดูกาลเทศะ ไม่ใช่ถึงเวลาก็ตำหนิอย่างเดียว

ทำไมโยมไม่คิดบ้าง ในเมื่อเรารู้อยู่ว่าการเล่นหวยบนดิน ใต้ดิน เป็นของไม่ดี กินเหล้าเป็นของไม่ดี สูบบุหรี่เป็นของไม่ดี แล้วทำไมโยมไม่ไปด่ารัฐบาล ไม่ไปปิดโรงงานพวกนี้ จะได้หมดเรื่องหมดราวไป เขาไม่ผลิตออกมาคนก็ไม่ต้องกิน ไม่ต้องเล่นกัน แต่ดันมามองว่าพระขับรถก็ผิด
แล้ว

ต้องเล่นคืนให้ได้ อย่าปล่อยให้เขาสอยเราฝ่ายเดียว เอาคืนไปบ้าง ขึ้นเวทีพวกนี้เป็นอะไรที่สนุกมากเลย จนเพลแล้วเขายังไม่อยากลุกเลย อยากฟังต่อ อาตมาบอกว่า “ไป ๆ ๆ ฉันเพลกันได้แล้ว ผมมีธุระ ต้องเข้ากรุงเทพฯ แล้ว”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2018 เมื่อ 01:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #143  
เก่า 22-08-2018, 21:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,328
ได้ให้อนุโมทนา: 149,906
ได้รับอนุโมทนา 4,395,384 ครั้ง ใน 33,917 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ญาติโยมหลายคนเริ่มจะใกล้เคียงกับที่อาตมาเคยทำสมัยโน้น ถามว่าสมัยโน้นคือสมัยไหน ? สมัยก่อนอายุ ๒๐ ปี สมัยนั้นหลวงพ่อวัดท่าซุงมารับสังฆทานที่บ้านสายลม พี่ชายก็ไปทำบุญทุกต้นเดือน พอพี่ชายชวนทำบุญ อาตมาก็ฝากเงินไปทำบุญเดือนละ ๑๐ บาท ถามว่า ๑๐ บาทตอนนั้นมีราคาแค่ไหน ? สมัยนั้นกล้วยหอมลูกละ ๕๐ สตางค์ เดี๋ยวนี้อยู่ในร้านสะดวกซื้อลูกละ ๘ บาท..!

ทำอย่างนั้นอยู่เป็นปี ๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเกิดสงสัยว่า หลวงพ่อท่านมีอะไรดี ถึงต้องไปทำบุญอยู่ทุกเดือน ? ต้องไปดูเสียหน่อย ปรากฏว่าไปแล้วไม่หน่อย หลังจากนั้นก็ไปทุกเดือน แล้วเป็นคนชอบไปไหนแต่เช้า ออกไปถึงบ้านสายลม ไปนั่งรอ พอ ๘ โมงครึ่ง หลวงพ่อท่านก็ลงมารับสังฆทาน พอท่านลงมาก็ไปเข้าคิวถวายกับท่าน ถวายเสร็จก็กลับ เป็นอย่างนั้นอยู่เป็นปี ๆ

จนกระทั่งมีอยู่วันหนึ่งเกิดสงสัยว่า แล้วตอนบ่ายเขาทำอะไรกัน ? ด้วยความสงสัยก็เลยอยู่ดูต่อไป ก็ปรากฏว่าช่วงบ่ายโมงมีการฝึกมโนมยิทธิ จึงเข้าร่วมการฝึกกับเขา ด้วยความที่ซื่อมากตามประสาเด็กบ้านนอก ไม่ได้เตรียมอะไรไปเลย บรรดาพี่ป้าน้าอาเตรียมเครื่องบูชาครูให้ ดอกไม้สามสี สีละ ๑ ดอก ธูป ๓ ดอก เทียน ๑ เล่ม และเขาบอกว่าเงิน ๑ สลึงเป็นทานบารมี เธอต้องออกเอง ด้วยความซื่อมาก จึงวิ่งไปยังปากซอยเพื่อแลกเหรียญสลึงมา ไม่รู้ว่าใส่เกินก็ได้

ฝึกมโนมยิทธิครั้งแรกก็ได้เลย พี่ชายไปอยู่ตั้งหลายปีฝึกไม่ได้สักที ด้วยความรู้สึกเดียวกับอาตมาในระยะแรก ๆ คือต้องตาเห็นเท่านั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-08-2018 เมื่อ 02:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #144  
เก่า 22-08-2018, 21:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,328
ได้ให้อนุโมทนา: 149,906
ได้รับอนุโมทนา 4,395,384 ครั้ง ใน 33,917 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"จนกระทั่งหลวงพ่อท่านลงมารับรับสังฆทานช่วงบ่าย พอช่วงเย็นท่านขึ้นข้างบนอาตมาก็กลับบ้าน หลังจากนั้นบรรดาพี่ป้าน้าอาเห็นว่าเป็นเด็กวัยรุ่น ใช้งานสะดวกก็เรียกใช้ แต่พอถึงสี่โมงเย็น หลวงพ่อท่านขึ้นข้างบนก็กลับ ทำอย่างนั้นอยู่เรื่อย จนกระทั่งท้ายสุดก็อยากรู้ว่า แล้วกลางคืนเขามีอะไรกัน ? ก็อยู่ต่อ เห็นว่าเขามีการฝึกกรรมฐานรอบค่ำกัน ก็ไปร่วมฝึกกับเขาด้วย หลังกรรมฐานถวายสังฆทานกับหลวงพ่อเสร็จก็กลับ ก็ยังอยู่แบบนั้นอีกเป็นปีเหมือนกัน

พองานเยอะขึ้น บรรดาลุงบรรดาป้าอายุมากขึ้น ทำงานช้าลง เรียกใช้มากขึ้น ท้ายสุดก็ค้างที่บ้านสายลมนั่นแหละ ออกจากบ้านหลังเที่ยงวันศุกร์ กลับเข้าบ้านเช้าวันอังคาร

ระยะนั้นไปวัดเฉพาะตอนวันงาน หลังจากที่ค้างบ้านสายลม คราวนี้ก็ไปวัดก่อนงาน ๒ วันเพื่อไปเตรียมงาน หลังงานเลิกก็เก็บงานอีก ๑ วันถึงจะกลับบ้าน

จากที่กล่าวมานี้ถึงพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า เรื่องของการสร้างบารมีจะเข้มข้นขึ้นไปเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาที่เราทำจริง ๆ จัง ๆ และสม่ำเสมอ อยู่ที่นี่อาตมาสังเกตว่าหลายคนก็เริ่มอยู่ยาวกันแล้ว เช้ากลางวันเย็นกลางคืน เสียดายที่นี่ไม่มีที่ให้พัก จริง ๆ บ้านสายลมก็ไม่มีที่ให้พัก แต่อาตมาเป็นคนกินง่ายนอนง่าย ถึงเวลาก็มุดเข้าห้องกรรมฐานนอนที่นั่นแหละ

พวกเราอย่าเอาหนักขนาดนั้นเลยนะ คงไม่เล่นกันเป็นอาชีพอย่างอาตมา เอาแค่ว่าพอหลังกรรมฐานภาคค่ำก็ให้รีบกลับ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-08-2018 เมื่อ 03:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #145  
เก่า 22-08-2018, 22:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,328
ได้ให้อนุโมทนา: 149,906
ได้รับอนุโมทนา 4,395,384 ครั้ง ใน 33,917 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ชีวิตสมัยนั้นต้องบอกว่าอาชีพหลักคือไปวัด อาชีพรองคือทำงาน เถ้าแก่ก็ต้องจ่ายงานให้คุ้มกับที่อาตมาไม่ค่อยจะอยู่ เนื่องจากว่าฝีมือดีจึงเลือกได้ ไปทำงานที่ไหนก็บอกเจ้านายเสมอว่า "ถ้าคิดว่าสิ่งที่ผมทำนี้ไม่ดี ก็ไล่ผมออกแล้วกัน" แต่ไม่มีใครไล่ออก ท้ายสุดกลายเป็นว่า เถ้าแก่จะรู้กำหนดการของวัดท่าซุงดีกว่าอาตมาอีก เพราะเขาจะต้องศึกษาเลยว่า ช่วงงานวัดอาตมาจะต้องไปกี่วัน ? ช่วงบ้านสายลมอาตมาจะต้องไปกี่วัน แล้วจ่ายงานเผื่อไว้เลย

อาตมาเป็นคนไม่กลัวงานหนัก ขอให้ได้ทำสิ่งที่ตนเองชอบ งานหนักแค่ไหนก็สู้ โดยเฉพาะทำงานไปภาวนาไปจะไม่รู้สึกว่าเหนื่อย ก็เลยเป็นลูกน้องบรรดาศักดิ์ เจ้านายเขาไม่อยากไล่ออก เพราะกลัวว่าอาตมาไปอยู่ที่อื่นแล้ว จะมาเป็นคู่แข่งของตัวเอง ฉะนั้น...ถ้าหากว่าใครเป็นประเภทเดียวกันแบบนี้ก็หยิ่งได้

แต่คนสมัยนี้ไม่เห็นจะต้องรอใครไล่ออก ส่วนใหญ่ทำที่ไหน ๓ เดือน ๖ เดือนก็ลาออกกันหมดแล้ว อ้างว่ามีประสบการณ์การทำงาน ไปสมัครงานที่อื่นง่ายขึ้น กำลังใจที่ทุ่มเทให้กับหน่วยงานไม่มี ถ้าอาตมาดูประวัติแล้ว คนประเภทนี้จะไม่รับเข้าทำงานเลย เพราะว่างานของเราจะกลายเป็นทางผ่านเท่านั้น

ต้องดูอย่างญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นเข้าทำงานบริษัท ทุ่มเทยิ่งกว่าเป็นงานของตัวเอง ทำกันชนิดตายคาบริษัทไปเลย เข้าทำงานที่ไหนได้ก็ไม่เปลี่ยนงานจนกว่าจะเกษียณอายุ เกษียณอายุแล้วก็ยังไปหางานอื่นทำ ถ้าใครไปญี่ปุ่นจะเห็นว่า คนทำงานส่วนใหญ่เป็นระดับคุณลุงคุณป้าทั้งนั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-08-2018 เมื่อ 03:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #146  
เก่า 22-08-2018, 22:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,328
ได้ให้อนุโมทนา: 149,906
ได้รับอนุโมทนา 4,395,384 ครั้ง ใน 33,917 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ฎีกาเขาบอกว่า ๑ หัวเข็มหมุด เทวดาสามารถอยู่ได้ตั้ง ๘ องค์"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-08-2018 เมื่อ 03:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 167 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #147  
เก่า 22-08-2018, 22:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,328
ได้ให้อนุโมทนา: 149,906
ได้รับอนุโมทนา 4,395,384 ครั้ง ใน 33,917 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เราเคยไปช่วยคนแล้ว เขาทำกับเรากลับมาไม่ดี รู้สึกเคือง ยังละไม่ได้ ?
ตอบ : เรายังใช้ปัญญาพิจารณาไม่พอ ทำอย่างไรที่เราจะเห็นว่า โกรธหรือไม่โกรธเราก็ตาย โกรธหรือไม่โกรธเขาก็ตาย เรื่องพวกนี้เหมือนอย่างกับพูดง่าย เอาเข้าจริงแล้วก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องกำลังของสมาธิเพียงพอ กดกิเลสให้อยู่ก่อน พอนิ่งแล้ว หลังจากนั้นเราค่อยไปแก้ไขกัน อย่างเช่นว่าจะตัดจะละกันแบบไหน ทำอย่างไรเราถึงจะไม่รู้สึกในเรื่องนี้อีก

แรก ๆ ก็อาจจะต้องอยู่กับการภาวนาให้เป็นปกติ เพื่อที่กำลังใจจะได้ไม่หลุดไปกับ รัก โลภ โกรธ หลง แล้วก็ค่อย ๆ พิจารณา ค่อย ๆ ตัด ค่อย ๆ ละไป เราเองโกรธหรือไม่โกรธเราก็ตาย เราเองโกรธหรือไม่โกรธเขาก็ตาย ใจเราค่อย ๆ คลายออกมา ท้ายสุดไม่ไปแตะต้องอีกก็จบ ตอนนี้ก็ทนไปก่อนแล้วกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-08-2018 เมื่อ 03:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #148  
เก่า 25-08-2018, 07:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,328
ได้ให้อนุโมทนา: 149,906
ได้รับอนุโมทนา 4,395,384 ครั้ง ใน 33,917 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระธาตุมอละอิตกับมอละอะอันเดียวกันไหมครับ ?
ตอบ : คนละองค์กัน เป็นเจดีย์คู่ ยุคนั้นอาตมาวางแผนว่าจะไปอย่างดี แต่ไปไม่ได้สักที ตอนนี้มีโอกาสไป แต่ก็หมดอารมณ์ไปแล้ว

ถาม : เขาบอกว่าปีหนึ่งเปิดแค่ ๓ เดือน ?
ตอบ : ตอนนั้นจะไปจากทางด้านหนองบัว ต้องนั่งรถไป ๒ วัน อุตส่าห์เช่ารถไว้ดิบดี ปรากฏว่าพม่ากำลังรบกับกะเหรี่ยง เขาเลยไม่ให้ผ่าน

ถาม : อยู่ในรัฐอะไรหรือครับ ?
ตอบ : รัฐกะเหรี่ยงต่อไทยนี่แหละ อีกครั้งหนึ่งท่านโมเช่จะพาเดินป่าจากฝั่งไทยลัดข้ามไป ปรากฏว่าหลงกันอยู่ ๒ วัน หลงแบบตลกมากเลย เจอรอยเท้าคน โอ้ย...ดีใจ รีบเดินตาม ที่ไหน...ได้รอยเท้าตัวเอง เพราะว่าจำรอยหยักของรองเท้าได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2018 เมื่อ 15:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #149  
เก่า 25-08-2018, 07:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,328
ได้ให้อนุโมทนา: 149,906
ได้รับอนุโมทนา 4,395,384 ครั้ง ใน 33,917 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "ยอดเขาเอเวอร์เรสต์เป็นเรื่องมหัศจรรย์ อินเดียเรียกว่าไกรลาส เพราะว่าเป็นที่สถิตของเทพเจ้าของเขา เนปาลเรียกว่าสักการะมาตา แปลว่า คุณแม่ที่เคารพอย่างยิ่ง ภาษาอังกฤษเขียนคำอ่านแค่ ซาการ์มาทา ทิเบตเรียกว่า โชโมลังมา เหมือนกันเลย แปลออกมาอย่างเดียวกัน ไปที่โน่นแล้วจะรู้ว่าตัวเราเป็นแค่เสี้ยวหนึ่งของโลกเท่านั้นเอง ถ้าเปรียบเทียบกับจักรวาลก็เป็นแค่เศษฝุ่นชัด ๆ"

ถาม : คนที่ไปไต่ยอดเขาได้ต้องใช้ความสามารถสูง ?
ตอบ : กำลังกาย กำลังใจ และกำลังเงิน ถ้าเงินไม่พอก็ขึ้นไม่ได้ เพราะว่าค่าใช้จ่ายสูงมาก ต้องจ้างลูกหาบด้วยอะไรด้วย เป็นหมื่นดอลลาร์ เอาชีวิตไปทิ้งกันไม่รู้เท่าไรแล้ว ตอนแผ่นดินไหวที่เนปาล ที่ Base Camp ก็โดนถมไป ๑๗ ศพ นอนอยู่ดี ๆ หิมะถล่มลงมาเป็นภูเขาเลากา จนป่านนี้ยังหาศพกันไม่ครบเลย แต่ก็อยู่นั่นแหละไม่เป็นไรหรอก อย่างไรก็ไม่เน่า จะช้าจะเร็วก็หาจนเจอ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2018 เมื่อ 15:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #150  
เก่า 25-08-2018, 08:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,328
ได้ให้อนุโมทนา: 149,906
ได้รับอนุโมทนา 4,395,384 ครั้ง ใน 33,917 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องความดันขึ้นอาตมาไม่กลัวหรอก เกิดมายังไม่เคยเป็นเลย ยกเว้นตอนมาลาเรียกำเริบ ที่ไม่เคยเป็นเพราะว่า ถ้าสมาธิทรงตัวความดันไม่ขึ้นหรอก"

ถาม : ถ้าเป็นความดันต่ำ ก็ไม่ลงด้วยใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ไม่ลง ขนาดช็อกแล้วยังไปต่อได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2018 เมื่อ 15:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #151  
เก่า 25-08-2018, 08:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,328
ได้ให้อนุโมทนา: 149,906
ได้รับอนุโมทนา 4,395,384 ครั้ง ใน 33,917 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พูดถึงหนังสือที่โยมมาถวาย "ขยันซื้อมาอ่านกัน เสร็จแล้วก็เอามาถวายพระต่อ ประเภทนี้เป็นทาสทาน อ่านเสร็จแล้วค่อยเอามาถวายพระ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2018 เมื่อ 15:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #152  
เก่า 25-08-2018, 08:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,328
ได้ให้อนุโมทนา: 149,906
ได้รับอนุโมทนา 4,395,384 ครั้ง ใน 33,917 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีคนเชื่อว่าเขาโดนทำเสน่ห์ และตอนนี้เขามีอาการทางจิตแล้ว หมอคิดว่าเป็นไบโพลาร์ พวกทำเสน่ห์เหมือนกับใส่ยากล่อมประสาทหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : ถ้าจะแก้กันให้ถึงรากเลยก็ให้เขาฝึกกรรมฐาน ทรงฌานให้ได้ โดยเฉพาะปฐมฌานละเอียดขึ้นไป ไสยศาสตร์พวกนี้จะโดนทำลายหมดไปเอง เพราะสภาพจิตตัวเองบริสุทธิ์กว่า ประการที่สอง...ถ้าหาอะไรไม่ได้ ก็เอาน้ำมันชาตรีของหลวงพ่อวัดท่าซุงให้เขากินลงไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2018 เมื่อ 15:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #153  
เก่า 25-08-2018, 08:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,328
ได้ให้อนุโมทนา: 149,906
ได้รับอนุโมทนา 4,395,384 ครั้ง ใน 33,917 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การดูพระหลวงปู่ปานขี่ไก่ว่าแท้ ตรงไหนที่เป็นจุดตาย ?
ตอบ : อันดับแรกเลยอักขระทุกตัวจะนูนเด่นชัดขึ้นมา อันดับที่สองคือตาจะกลมชัดเจน แล้วหลังจากนั้นค่อยไปดูเนื้อ ถ้าผิดเนื้อผิดพิมพ์ก็เจ๊งเลย อย่างนี้คือพิมพ์ หลังจากนั้นเราก็ค่อยไปศึกษาวัสดุ ว่าถ้าดินท้องนาแบบนี้ถึงเวลาเขาทำออกมาแล้ว การเผาถ้าโดนไฟแรงเป็นอย่างไร ถ้าโดนไฟอ่อนเป็นอย่างไร ไม่อย่างนั้นเสียของดีไปโดยไม่รู้ตัว ถ้าหากว่าโดนไฟแรงจะแกร่งเป็นสีแดง ถ้าเราดูเป็นอย่างเดียวก็ตาย เสียของดีไปโดยไม่รู้ตัว

การเล่นพระหรือเล่นเครื่องราง เขาให้เล่นไปทีละอย่าง ทำเป็นสักอย่างหนึ่งแล้วค่อยขยับไปศึกษาอย่างอื่นต่อ ถ้าโลภมากเอาหลาย ๆ อย่างพร้อมกันแล้วเอาดีไม่ได้หรอก ของพวกนี้ต่อให้เรียนมาด้วยกัน เรียนมาพร้อมกันก็ขึ้นอยู่กับความช่างสังเกต ถ้าไม่ช่างสังเกตนี่ตายเลย ตะกรุดหลวงปู่ศุข วัดปากคลองฯ หรือหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม ลายถักเกือบจะลายเดียวกันเลย คราวนี้แล้วเราต้องดูว่าของหลวงปู่ศุข ส่วนใหญ่แล้วร้อยละ ๙๙ ทำด้วยตะกั่ว แล้วก็ต้องไปดูว่าอายุตะกั่วเป็นอย่างไร ตะกรุดที่คนใช้งาน
ตะกั่วหัวตะกรุดจะละลายติดเป็นเนื้อเดียวกันไปเสียมาก แล้วก็ดูความยาว ส่วนใหญ่ของท่านจะตายตัวอยู่ที่ ๓.๔ นิ้ว ด้วยความเคยชินของแต่ละคนที่ทำมา ทำให้พอแยกแยะออก ไม่อย่างนั้นไปเจอเหมือนกันแล้วแต่ตีผิด ถ้าตีผิดแล้วราคาถูกลงก็ดี แล้วไปตีที่ราคาแพงขึ้นก็จบเห่..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 25-08-2018 เมื่อ 17:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #154  
เก่า 25-08-2018, 21:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,328
ได้ให้อนุโมทนา: 149,906
ได้รับอนุโมทนา 4,395,384 ครั้ง ใน 33,917 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

บางคนก็มีทัศนคติในแง่ที่เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ อย่างเช่นคิดว่าพระสมัยโบราณท่านเคร่งครัดมาก ไม่จับเงินไม่จับทอง เพราะฉะนั้นตะกรุดเงินตะกรุดทองไม่มี ถ้าอย่างนั้นเสียของดีไปโดยปริยายเลย ก็ท่านไม่ได้จับเงินจับทองแต่ว่าลูกศิษย์หามา หลวงพ่อก็จารให้ ไม่ต้องใครหรอก...หลวงปู่มั่นเองนั่นแหละจารตะกรุดทองคำเลย นั่นต้นตำรับธรรมยุตเลย ในเมื่อลูกศิษย์ขอท่านก็จารให้

เคยเล่าเรื่องตอนที่ทิดกวางบวชเป็นพระอยู่ พี่สาวพาแม่มาเยี่ยมลูกพระ แล้วบังคับไม่ให้แม่พูดด้วย เพราะว่าพูดแล้วบาป พระพูดกับผู้หญิงไม่ได้ จะเอาเงินถวายพระก็ไม่ได้
เพราะจะทำให้พระตกนรก พระพุทธเจ้าท่านห้ามพระรับเงิน นั่นแหละพวกเรียนอภิธรรมมาสายนี้ทั้งนั้นแหละ เขาเรียกว่ามาแต่นิติศาสตร์ล้วน ๆ รัฐศาสตร์ไม่มีเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2018 เมื่อ 02:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #155  
เก่า 25-08-2018, 22:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,328
ได้ให้อนุโมทนา: 149,906
ได้รับอนุโมทนา 4,395,384 ครั้ง ใน 33,917 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “ข้าวของทุกอย่างเวลาใช้ จะได้รับปราณหรือว่าพลังชีวิตของคนใช้ไปด้วย เราจะเห็นว่าข้าวของเวลาใช้งาน หลายอย่างเวลาอยู่กับคนแล้วจะดูสวยกว่าปกติ จริง ๆ แล้วเป็นรัศมีของพลังที่เปล่งออกมา แต่หลังจากที่ทิ้งเอาไว้ระยะหนึ่ง ปราณเริ่มลดลงเราก็จะเห็นว่าหมอง ดูไม่ได้เลย โดยเฉพาะพวกลูกประคำนี่ชัดเลย ขี้ฟ้องเป็นที่สุด”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2018 เมื่อ 02:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #156  
เก่า 25-08-2018, 22:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,328
ได้ให้อนุโมทนา: 149,906
ได้รับอนุโมทนา 4,395,384 ครั้ง ใน 33,917 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : แม่ถามว่าทำไมท่องคาถาเงินล้านแล้วไม่ได้ผลเลยคะ ?
ตอบ : เพราะไปท่องอยากจะให้ได้ผล ตัดตัวอยากออกไปแล้วจะได้ผล

ถาม : เลิกคิดไม่ได้ค่ะ ?
ตอบ : ถ้าอย่างนั้นก็จงไม่ได้ผลต่อไป เขาให้ภาวนาเป็นกรรมฐาน ไม่ใช่ให้ท่อง ส่วนใหญ่ไปท่องคาถาเงินล้านก็เจริญ ท่องคือสักแต่ให้จบ ๆ ไป แต่ภาวนานี่คือต้องตั้งใจทำให้ดีที่สุด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2018 เมื่อ 02:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #157  
เก่า 25-08-2018, 22:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,328
ได้ให้อนุโมทนา: 149,906
ได้รับอนุโมทนา 4,395,384 ครั้ง ใน 33,917 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมปฏิบัติเพื่อการละมานะ ต้องใช้ความพยายามเยอะไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ใช่แค่เยอะเฉย ๆ ต้องเรียกว่าเยอะเป็นพิเศษ คนที่มีอายุมาก คนที่มีความรู้สูง คนที่มีหน้าที่การงานดี ส่วนใหญ่จะมีมานะเป็นปกติ ต้องพิจารณาให้เห็นด้วยว่า ถ้าเราแบกไว้อย่างนี้ตายแล้วเราจะไปไหน ? แล้วก็ค่อย ๆ ปล่อย ค่อย ๆ วางไป

ถาม : บางทีพิจารณาสักกายทิฐิตามเทปหลวงพ่อฤๅษี พอไปเจอของจริงจึงรู้ว่ามานะละเอียด ?
ตอบ : ทำไมจะไม่ละเอียด ต้องกำลังระดับพระอนาคามีถึงจะละมานะกันได้ รูปราคะ อรูปราคะ อุทธัจจะ มานะ อวิชชา ต้องระดับพระอนาคามีขึ้นไปแล้วถึงจะคุยกันรู้เรื่อง แต่ก็ค่อย ๆ ซ้อมไปก่อน ถึงพระอนาคามีเมื่อไรแล้วถึงจะมีโอกาสตัดได้จริง ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2018 เมื่อ 02:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #158  
เก่า 27-08-2018, 08:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,328
ได้ให้อนุโมทนา: 149,906
ได้รับอนุโมทนา 4,395,384 ครั้ง ใน 33,917 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "บาตรที่ใช้รับเงินส่วนตัวที่เห็นอยู่นี่ มีโยมเขาเอามาถวาย โดยที่ไม่รู้ว่าพระห้ามใช้บาตรไม้ เพราะว่าบาตรไม้เวลาใส่อาหารลงไป จะดูดกลิ่นแล้วก็ดูดเอารสอาหารเอาไว้ ถึงเวลาอาหารก็จะบูดง่าย พระพุทธเจ้าจึงห้ามใช้ อย่างเช่นว่าบาตรทองเหลือง บาตรทองแดง บาตรสังกะสี พวกนั้นเป็นสนิมแน่นอน

ส่วนบาตรกะโหลกผีท่านห้าม เพราะว่าส่วนใหญ่พวกเดียรถีย์เขาใช้เพื่อให้ดูขลัง อย่างเช่นเอาผมคนมาทอเป็นผ้านุ่ง เอากะโหลกผีมาทำเป็นบาตร เรียกว่า กปาละ ก็คือกบาลนั่นแหละ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-08-2018 เมื่อ 09:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 153 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #159  
เก่า 27-08-2018, 09:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,328
ได้ให้อนุโมทนา: 149,906
ได้รับอนุโมทนา 4,395,384 ครั้ง ใน 33,917 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีคนเขียนจดหมายมาประท้วงว่า วัตถุมงคลในกระทู้หนูออกราคาถูกเกินไป ?
ตอบ : บอกเขาว่า “เอ็งขายห้าพันในตลาด แต่ข้าได้มาฟรี ขายสามพันก็แพงตายชักแล้ว” สมัยก่อนวัตถุมงคลของหลวงพ่อวัดท่าซุงราคามาตรฐานที่ ๒๐ บาท

พวกโรงงาน พวกเซียนพระเขาก็มาต่อว่าหลวงพ่อ ว่าขายผิดราคา เหรียญชุบทองสมัยนั้นต่ำสุด ๕๐ บาท ๖๐ บาท หลายแห่งก็ ๘๐ บาท หลวงพ่อท่านก็ยังขาย ๒๐ บาทเหมือนเดิม เมื่อไปต่อว่า ว่าท่านขายผิดราคา ท่านว่า “ผิดตรงไหน ? ข้าได้มาฟรี เขาถวายมา ขาย ๒๐ บาทก็ได้ ๒๐ บาท ไม่ได้ลงทุนอะไรเลย”

สมัยนี้ในเว็บวัดท่าขนุนมาตรฐาน ๑๐๐ บาท แพงกว่าสมัยนั้นตั้ง ๕ เท่าแล้ว ขายร้อยเดียวก็พอ เพราะว่าได้มาฟรี

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-08-2018 เมื่อ 09:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #160  
เก่า 27-08-2018, 19:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,328
ได้ให้อนุโมทนา: 149,906
ได้รับอนุโมทนา 4,395,384 ครั้ง ใน 33,917 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หนูเป็นหวัด หายใจไม่ได้มาสามเดือนแล้วค่ะ กินยาจนเลิกกินแล้ว ?
ตอบ : เปลี่ยนไปใช้สมุนไพรแทน หรือยาคูณธาตุแบบนี้ก็ได้ มันจะไปปรับธาตุในร่างกายของเราให้ดีขึ้น ลองเข้าไปตามร้านหมอแผนโบราณดู ว่าจัดยาคูณธาตุให้ได้ไหม เอาวันเดือนปีเกิดให้เขา

ถาม : จับอานาปานสติไม่ได้ ต้องหายใจทางปากแทน ?
ตอบ : นั่นก็อานาปานสติเหมือนกัน ถ้าหากว่าหมดทางจริง ๆ ก็เอาอย่างชอลิ้วเฮียง หายใจทางผิวหนังแทน ชอลิ้วเฮียงเป็นสุดยอดวิทยายุทธ์แต่ป่วยเป็นไซนัส ต้องหายใจทางผิวหนังแทน คนก็เลยสงสัยว่าไอ้นี่ตกน้ำแล้วทำไมสู้กับเขาไม่เลิก คนอื่นจะตายอยู่แล้วชอลิ้วเฮียงยังไม่ขึ้นมาสักที อ๋อ...ที่แท้หายใจทางผิวแทน จึงไม่เดือดร้อน

ถาม : หายใจทางผิวหนังได้หรือคะ ?
ตอบ : ได้...ขอยืนยัน ถ้าหากว่าใครทรงฌานได้ โอกาสหายใจทางผิวหนังมีเยอะมาก ถึงเวลาแล้วสภาพร่างกายของเราไม่ใช่แท่งทึบนะ แบบเดียวกับพวกต้นเสา เราเห็นว่ามันทึบ แต่ในสายตาของโลกทิพย์ที่ละเอียด เขาจะเห็นว่าช่องโหว่ของวัตถุนี่ใหญ่ขนาด ๑๐ ล้อวิ่งผ่านได้เลย ไม่ต้องแปลกใจว่าพวกที่ได้อภิญญาเดินทะลุกำแพงไปได้ ก็แค่ลอดช่องว่างนั้นไป ฉะนั้น...เรื่องที่ไม่ใช้จมูกหายใจถือเป็นเรื่องปกติของเขา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-08-2018 เมื่อ 00:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 146 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 15:53



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว