กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 08-11-2023, 17:40
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 340
ได้ให้อนุโมทนา: 3,307
ได้รับอนุโมทนา 18,645 ครั้ง ใน 818 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๖


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 09-11-2023, 00:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,410,941 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ทั้งที่กระผม/อาตมภาพเร่งเดินทางขึ้นมาจากหาดใหญ่ เพื่อที่จะมาให้ทันงานในวันนี้ แต่ปรากฏว่า "โดนเท" ครับท่าน..!

เนื่องเพราะว่าหน่วยงานนี้ตั้งใจที่จะแต่งตั้งให้กระผม/อาตมภาพรับตำแหน่งใหญ่ในหน่วยงาน ไม่ทราบเหมือนกันว่าต้องการจะเอาชื่อเสียงของกระผม/อาตมภาพไปค้ำจุนหน่วยงาน ที่ลงท้ายด้วยคำว่า "แห่งประเทศไทย" หรืออย่างไรก็ไม่ทราบ ปรากฏว่าชื่อหน่วยงานเป็นระดับประเทศ แต่ว่าทำงานเหมือนอย่างกับระดับหมู่บ้าน..!

โดยเฉพาะไม่มีการประสานกับพระผู้ใหญ่ล่วงหน้า ถึงเวลาก็ไปขอให้ท่านมาเป็นประธานเพื่อมอบตราตั้งให้ ในเมื่อพระผู้ใหญ่ท่านไม่ได้รับการประสานงานล่วงหน้า อยู่ ๆ ไประบุว่าจะเอาวันนี้ เวลานี้ พระผู้ใหญ่ท่านจึงไม่สามารถที่จะมาได้ แทนที่จะบอกจะกล่าวให้กับผู้ร่วมงานอื่นได้ทราบ ท่านกลับยกเลิกงานไปเฉย ๆ โดยที่ไม่ได้บอกให้รู้เลย

กระผม/อาตมภาพยังดีใจว่า ไม่ได้ไปรับตราตั้งตามตำแหน่งที่เขาจะแต่งตั้งให้เป็น ไม่เช่นนั้นแล้วเจอการทำงานลักษณะแบบนี้ เวลาเข้าประชุมก็คงจะได้อาละวาดกันจนกระทั่งหูตาสว่างกันไปข้างหนึ่ง..!

ในเรื่องของการทำงานนั้น ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่เราควรจะมีจิตสำนึกและความรับผิดชอบในงานของเราอย่างเต็มที่ ไม่ใช่ว่าจะอาศัยแต่คนอื่นมาช่วยงาน แล้วตนเองบริหารจัดการอะไรในลักษณะ "ไม่เป็นโล้เป็นพาย" ถ้าแบบนี้ก็คงจะเจริญได้ยาก แล้วขณะเดียวกันพระผู้ใหญ่เมื่อเจอในลักษณะนี้บ่อย ๆ ท่านก็อาจจะเข็ดและสาปส่งหน่วยงานนี้ไปเลยก็ได้ กระผม/อาตมภาพจึงได้พักผ่อนสะสางการงาน ๑ วัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-11-2023 เมื่อ 00:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 09-11-2023, 00:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,410,941 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สำหรับวันนี้อยากจะบอกกล่าวต่อเนื่องจากวันก่อน ที่ได้กล่าวถึงอาสาสมัครทหารพรานกรกต เกตุแก้ว ซึ่งไม่ทราบเหมือนกันว่าท่านเป็นรุ่นพี่หรือว่ารุ่นน้อง แต่ตามที่ท่านบอกกล่าวมา ก็คือท่านออกชายแดนเขมรในปี ๒๕๒๘ แต่ว่ากระผม/อาตมภาพนั้นไปตั้งแต่ปี ๒๕๒๔ เพียงแต่ว่าประสบการณ์ในการรบต่าง ๆ นั้นคล้ายคลึงกันหมด

กระผม/อาตมภาพเองทั้ง ๆ ที่เป็นกำลังทหารหลัก แต่ก็ได้อาสาสมัครทหารพรานช่วยในการรบมาหลายครั้ง โดยเฉพาะครั้งสำคัญก็คือปะทะกับกองโจรเขมรที่ชื่อว่า "ไอ้บอด" เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าตัวหัวหน้ากองโจรนั้น ตาโดนสะเก็ดระเบิดบอดไปข้างหนึ่ง เที่ยวตระเวนปล้นตามแนวชายแดนไทยอยู่ตลอดเวลา หน่วยทหารไทยปะทะเข้าทีไร ก็มักจะเสียเปรียบตลอดมา

เนื่องเพราะว่าทีมของ "ไอ้บอด" นั้นมีอยู่ ๑๑ คน แต่ว่ามีอาร์พีจี หรือว่าเครื่องยิงลูกระเบิดถึง ๙ กระบอก..! ขณะที่หน่วยทหารของเราในช่วงนั้น ถ้าไม่ถึงระดับหมวดหรือว่ากองร้อย จะไม่มีอาวุธหนักอย่างอาร์พีจี อย่างเก่งก็มีแค่เครื่องยิงลูกระเบิดขนาด ๔๐ มิลลิเมตรที่เรียกว่าเอ็ม ๗๙ เท่านั้น

ถ้าหากว่าถึงระดับหมวดขึ้นไป มีอาร์พีจีได้ ๒ กระบอก แต่ว่าจะยิงแต่ละครั้ง ต้องขออนุญาตผู้บังคับบัญชาหน่วยเหนือก่อน ขณะที่อีกฝ่ายมีอยู่ ๙ กระบอก ยิงได้อิสระตามใจตนเอง..! ปะทะกันเมื่อไร ทหารไทยก็โดนยิงกดจนโงหัวไม่ขึ้น อีกฝ่ายก็เอ้อระเหยลอยชายเผ่นหนีข้ามแดนไป พอถึงเวลาก็เลาะกลับเข้ามาปล้นพี่น้องชาวไทยอีก

วันนั้นหน่วยของกระผม/อาตมภาพปะทะกันจัง ๆ ทั้งหมอบทั้งคลานยิงกันอยู่เกือบ ๒๐ นาที เห็นว่าไม่ไหวแน่ เพราะอีกฝ่ายอาวุธหนักมากเหลือเกิน จึงได้วิทยุขอกำลังเสริม แต่ปรากฏว่าระหว่างที่ยังรออนุมัติกำลังเสริมอยู่นั้น ทางหน่วยอาสาสมัครทหารพรานที่ตั้งฐานอยู่ใกล้เคียงกันได้รับสัญญาณวิทยุ ก็สอบถามว่าต้องการให้ช่วยเหลือหรือไม่ ? ซึ่งพวกเราก็รีบตอบรับด้วยความยินดี

ปรากฏว่าทหารพรานเหล่านั้นเมื่อมาถึง กระโดดลงจากรถได้ทั้ง ๘ นายก็เดินเรียงหน้ากระดานรัวปืนเข้าไปเลย พวกกระผม/อาตมภาพยังทึ่งว่า พี่น้องทหารพรานนี่ดุเดือดขนาดนี้เลยหรือ ? พวกเราเองหมอบ ๆ คลาน ๆ กว่าที่จะเข้าไปได้สัก ๕ เมตร ๑๐ เมตร ก็เสียเวลาตั้งนาน แต่บรรดาพี่น้องทหารพรานมาถึง ชักแถวเดินเรียงหน้ากระดานก็กราดอาวุธเข้าใส่เลย แบบนี้อีกฝ่ายหนึ่งต่อให้ใจถึงแค่ไหนก็เผ่นกระเจิง..! เนื่องเพราะว่าเจอคนที่ไม่กลัวตายเข้า งานนั้นต้องบอกว่ารอดมาได้เพราะพี่น้องทหารพรานช่วยเหลือแท้ ๆ เลย

แล้วส่วนที่น่าทึ่งก็คือว่า พวกของกระผม/อาตมภาพนอกจากเงินเดือนปกติแล้ว ก็ยังมีเบี้ยเลี้ยงสนาม มีเบี้ยชายแดน มีเบี้ยกันดาร แต่ว่าพี่น้องอาสาสมัครทหารพรานในสมัยนั้น มีแค่เบี้ยเลี้ยงรายวัน ๆ ละ ๓๐ บาทเท่านั้น..! แต่ว่าบรรดาพี่น้องทหารพรานหรือว่า "นักรบชุดดำ" ทั้งหลายเหล่านี้ สร้างคุณประโยชน์เอนกอนันต์ให้กับประเทศชาติและประชาชนคนไทยมานับครั้งไม่ถ้วน

วีรกรรมของท่านทั้งหลายเหล่านี้ ต้องบอกว่าใครที่ร่วมรบด้วยก็ล้วนแต่ต้องยอมรับในความใจถึงพึ่งได้ ตลอดจนกระทั่งความโหดของแต่ละคน ซึ่งไม่ได้เห็นชีวิตของตนเองว่ามีราคาไปกว่าความสงบสุขของประเทศชาติเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-11-2023 เมื่อ 01:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 09-11-2023, 00:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,410,941 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

และโดยเฉพาะสิ่งที่ทหารพรานกรกต เกตุแก้วท่านได้บรรยายมานั้น คล้ายคลึงกันหมด ไม่ว่าจะเป็นการสู้รบแบบถึงเลือดถึงเนื้อ เนื่องเพราะว่ากระผม/อาตมภาพนั้นอยู่ชายแดนตอนแนวหน้า ความจริงแล้วภารกิจจะมีแค่ ๔ เดือนเท่านั้น ก็คือจะเป็นกองหนุนจุดที่ ๑ ที่บ้านแซออร์ ๔ เดือน บ้านโคกสูง ๔ เดือน แล้วอีก ๔ เดือนจะต้องไปอยู่หน้าแนวที่บ้านหนองเสม็ด สลับผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป

แต่ปรากฏว่าชุดของกระผม/อาตมภาพขึ้นไป หลังจากที่เหตุการณ์โนนหมากมุ่นจบลงไม่นาน บรรดาซากศพโครงกระดูกต่าง ๆ ยังเกลื่อนทุ่งไปหมด ในเมื่อขึ้นไปแล้ว มีการปะทะเล็ก ๆ ใหญ่ ๆ กันแทบจะนับครั้งไม่ถ้วน ทำให้สูญเสียพรรคพวกเพื่อนฝูง พี่น้อง และผู้บังคับบัญชาไปถึง ๒๖ รายด้วยกัน ทำให้เห็นว่าบรรดาท่านที่คิดว่าทหารไม่มีความจำเป็นนั้น ลองคิดดูว่าถ้าหากว่าบ้านเราเป็นรัสเซีย - ยูเครน หรือว่าเป็นอิสราเอล - ปาเลสไตน์ ถ้าไม่มีทหารแล้วใครจะป้องกันพี่น้องชาวไทยของเรา ?

โดยเฉพาะในส่วนของทหารทั้งหลายที่ออกอยู่แนวหน้า นอกจากพระบารมีที่คุ้มเกศคุ้มเกล้าของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่พวกเรายกไว้เหนือเศียรเหนือเกล้าแล้ว ส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือวัตถุมงคล ใครมั่นใจอะไรก็พกอย่างนั้นไป จนเป็นที่กล่าวกันว่า "ทหารออกรบ ๑ กองร้อย หลวงปู่หลวงพ่อไปด้วย ๑ กองพลเป็นอย่างต่ำ..!" ก็คือแต่ละคนพกกันไปหลายสิบองค์ หลายสิบชิ้น แล้วแต่ความมั่นใจของตนเอง

ในสมัยนั้นหลวงปู่หลวงพ่อสายเหนียวที่ได้รับการพกไปแนวหน้าเป็นที่เลื่องลือกันเลยก็มี หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ซึ่งทุกคนก็รู้ดีว่า ถ้าหากว่าพกวัตถุมงคลของหลวงพ่อพรหมนั้น ถ้าไม่ผิดศีลผิดธรรมแล้ว รับรองว่าแมลงวันไม่ได้กินเลือดแน่นอน

อีกท่านหนึ่งก็คือหลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอร์เหนือ ซึ่งแม้กระทั่งทหารต่างชาติอย่างพวกอเมริกันก็ยังยอมรับนับถือ สร้างเหรียญถวายท่าน มีภาษาอังกฤษเขียนว่า PAPA MUM เป็นต้น จึงทำให้เป็นสิ่งที่ใครก็ตาม ที่มีประสบการณ์จากวัตถุมงคลใด ก็จะยึดถือกันไปตามนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-11-2023 เมื่อ 01:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 09-11-2023, 01:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,410,941 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพพกธงมหาพิชัยสงคราม ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงเมตตามอบให้ติดตัวเอาไว้ ผ่านการปะทะมานับครั้งไม่ถ้วน ไม่เคยมีอะไรมาแผ้วพานเลย ทำให้เชื่อมั่นเสียยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด

แม้แต่ตอนที่โดนปืนใหญ่ของทหารญวนเฮง สัมริน ซึ่งสนธิกำลังเข้าตีกองร้อยของกระผม/อาตมภาพ ปืนใหญ่ ๓ กระบอกถล่มต่อเนื่องกันอยู่เกือบ ๒๐ นาที เป็นร้อย ๆ นัด เหลือเชื่อว่าแม้แต่ลูกเดียวก็ไม่ได้ตกเข้ามาในฐาน..! ส่วนใหญ่เหมือนกับชนกำแพงแล้วตกอยู่หน้าฐานทั้งหมด ซึ่งกระผม/อาตมภาพนึกถึงที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ยืนยันกับพวกเราในขณะที่รับวัตถุมงคลว่า "ผืนเดียวคุ้มได้ทั้งฐาน..!"

แล้วขณะเดียวกัน รถเสบียงที่จ่าสิบเอกสมชัย สะอิ้งทองเบิกมาจากตอนยานยนต์ ก็มีธงมหาพิชัยสงครามติดมาจากตอนยานยนต์อยู่ก่อนแล้ว มีประสบการณ์แคล้วคลาดจากอาวุธหนักอาวุธเบามานับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งกระผม/อาตมภาพชอบใจมาก เพราะว่านอกจากปลอดภัยแล้ว ยังเสียงดัง รู้สึกมันในชีวิตเป็นอย่างยิ่ง..!

เรื่องพวกนี้ถ้าท่านทั้งหลายรู้สึกแบบเดียวกัน ก็ขอให้ทราบว่า นอกจากจะเป็นกำลังใจส่วนตัวแล้ว บางทีอาจจะเป็นกำลังของพรหม เทวดา ที่รักษาวัตถุมงคลด้วย เรายิ่งฮึกเหิม กล้าหาญ รู้ว่าอยู่ในฝ่ายที่ถูกต้อง ก็ยิ่งอยากที่จะกระโดดใส่เขาอยู่ตลอดเวลา เรื่องพวกนี้ท่านต้องมีประสบการณ์เอาเอง

ขณะเดียวกัน เมื่ออยู่ชายแดนที่ตายซับตายซ้อน เรื่องของการโดนผีหลอกบ้าง หรือว่ามีไสยศาสตร์เขมรบ้าง ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ อย่างที่ทหารพรานกรกต เกตุแก้วเล่าให้ฟังเกี่ยวกับการพบผีกระสือ ผีโพลง กระผม/อาตมภาพก็พบผีที่ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นอะไร เพราะว่าได้ยินแต่เสียง ถึงเวลาส่องไฟไปก็ไม่พบไม่เห็นอะไร หรือว่าพบผีกระหังที่ทางอีกฝ่ายหนึ่งส่งมา เพื่อที่จะเล่นงานพวกเราด้วยไสยเวทย์อาคม เหล่านี้เป็นต้น

บรรดาทหารชายแดนยุคนั้น นอกจากจะเจอปืนเจอระเบิดเป็นปกติแล้ว ยังจะต้องผจญกับบรรดาไสยเวทย์อาคม ที่ทางฝ่ายเขมรส่งมารบกวนอยู่ตลอดเวลา เมื่อได้ฟังเรื่องราวของท่านแล้วมานึกถึงตนเอง ก็เลยทำให้คิดว่าทำไมประสบการณ์ถึงได้คล้ายคลึงกันได้ขนาดนี้ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-11-2023 เมื่อ 01:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 09-11-2023, 01:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,410,941 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ แม้ว่าปัจจุบันจะเปลี่ยนจากทหารของชาติ มาเป็นทหารในกองทัพธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ว่าจิตใจที่ห่วงใยบรรดานักรบเพื่อนพ้องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นน้อง รุ่นลูก รุ่นหลานก็ตาม ก็ยังคงมีอยู่ตามปกติ และพยายามเอาใจช่วยให้เขาทั้งหลายเหล่านั้นปลอดภัยอยู่เสมอ จะได้รักษาผืนแผ่นดินไทยนี้เอาไว้ ให้บรรดาท่านทั้งหลายได้อยู่อาศัยกันอย่างสงบร่มเย็น

เพียงแต่บางทีก็รู้สึกเหมือนกันว่า บรรดาผู้ที่สร้างความวุ่นวายอยู่ในบ้านในเมืองในปัจจุบันทั้งหลายเหล่านี้ ถ้ากระผม/อาตมภาพมีอำนาจอยู่ ก็อาจจะโดนจับกุมคุมขังอย่างชนิดขังลืมไปแล้ว..! ดังนั้น..คนแบบกระผม/อาตมภาพจึงไม่สมควรที่จะมีอำนาจอยู่ในมือ เนื่องเพราะว่าค่อนข้างจะมีนิสัยเผด็จการ ทนเห็นสิ่งวุ่นวายในบ้านในเมืองของเราที่จะมาถ่วงให้ประเทศชาติพัฒนาช้าไม่ได้

วันนี้ก็เลยกลายเป็นว่าเอากิเลสของตนเองมาเล่าให้ทุกท่านได้ฟัง เนื่องเพราะว่าฟังประวัติของทหารพรานกรกต เกตุแก้วแล้ว ทำให้ระลึกถึงความหลังครั้งที่ยังอยู่ชายแดนขึ้นมาได้ ใครอยากจะอ่านเรื่องทั้งหลายเหล่านั้น ลองไปหาบันทึกที่กระผม/อาตมภาพเขียนเอาไว้ ก็คืออดีตที่ผ่านพ้นในช่วงแรก ๆ ซึ่งจะมีอยู่ในเว็บไซต์วัดท่าขนุน ลองไปดูว่าประสบการณ์ต่าง ๆ ที่พบที่เห็นในระหว่างรับใช้ชาติอยู่นั้นเป็นอย่างไร

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๘ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-11-2023 เมื่อ 02:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 04:04



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว