กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 21-10-2016, 16:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๙

ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราอยู่ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกของเราไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอย่างไรก็ได้ที่เราถนัดมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ ดังที่ได้กล่าวไปตั้งแต่ตอนก่อนที่เราจะเจริญพระกรรมฐานแล้วว่า ส่วนใหญ่พวกเราไปไขว่คว้าหาหลักธรรมที่เกินความต้องการอย่างแท้จริง แทนที่จะมุ่งตรงเข้าหา ศีล สมาธิ ปัญญา ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ เราก็ไปแสวงหาฤทธิ์เดชความสนุกสนานต่าง ๆ มาใส่ตัว ซึ่งนอกจากจะปฏิบัติยากแล้ว ยังทำให้ยึดติดได้ง่ายด้วย

โดยเฉพาะว่า ในยุคสมัยนี้ความเป็นอุคฆฏิตัญญูบุคคลก็ดี วิปจิตัญญูบุคคลก็ดี ทั้งสองประเภทนี้แทบจะไม่เหลือให้เห็นแล้ว พวกเราควรจะกำหนดตนเองว่า เราทั้งหลายเป็นแค่เนยยะ คือเวไนยสัตว์ที่สั่งสอนได้ แต่ต้องจ้ำจี้จ้ำไชกันอยู่บ่อย ๆ

การที่จะให้ครูบาอาจารย์ท่านมาจ้ำจี้จ้ำไชบ่อย ๆ ก็ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง แต่ตัวเราต้องรู้จักตักเตือนตนเอง ย้ำเตือนตนเองอยู่บ่อย ๆ ว่า เรามาปฏิบัติธรรม เราทำอะไร ? เพื่ออะไร ? อาการเตือนตนของตนทั้งหลายเหล่านี้ จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราทั้งหลายรู้ตัว สำรวจตนเองดูว่าในหลักการปฏิบัติของเรามีข้อบกพร่องตรงไหนหรือไม่ ? ศีลทุกสิกขาบทมีข้อใดบกพร่องบ้าง ? การทำสมาธิของเราได้ตั้งแต่ปฐมฌานขึ้นไปบ้างหรือไม่ ? และท้ายสุดเราได้ใช้ปัญญาในการพินิจพิจารณาให้เห็น ความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ ความไม่มีตัวตนของร่างกายเรา ของร่างกายคนอื่น ของสัตว์อื่น ๆ บ้างหรือไม่ ? ถ้าเรารู้จักเตือนตนเองในลักษณะอย่างนี้ โอกาสที่เราปฏิบัติธรรมแล้วก้าวหน้าก็จะมีสูง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-10-2016 เมื่อ 18:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 21-10-2016, 16:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกส่วนหนึ่งก็คือ อย่าไปสนใจในจริยาผู้อื่น การสนใจในจริยาผู้อื่นมีแต่จะสร้างความเศร้าหมองให้แก่ตัวเราเอง เพราะเรามักจะไปมองเขาในแง่จับผิด ว่าเขาทำไม่ดีอย่างนั้น เขาพูดไม่ดีอย่างนี้ อาการที่เราจะมองคนอื่นนั้น ถ้าจะมองให้เกิดประโยชน์ก็คือ มองว่าเขามีความบกพร่องต่อสิ่งใด ถ้าเราบกพร่องเช่นนั้นเราก็รีบนำมาแก้ไข เขามีความก้าวหน้าตรงไหนบ้าง เราต้องพยายามเลียนแบบและทำตามเขาให้ได้

ไม่ใช่ไปดูในลักษณะจ้องจับผิดคนอื่น ทำให้จิตประกอบไปด้วยวิหิงสาวิตก คือ ตรึกในการเบียดเบียนผู้อื่นอยู่เสมอ มีแต่สร้างความเศร้าหมองให้เกิดขึ้นกับใจของตนเอง หาประโยชน์ หาสาระอะไรไม่ได้

ในแต่ละวันเราควรจะใช้เวลาในการทบทวนดูว่า ศีลทุกข้อของเราบริสุทธิ์บริบูรณ์หรือไม่ ? ถ้ามีข้อไหนบกพร่อง เราต้องรีบตั้งใจว่า ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป เราจะรักษาศีลทุกข้อให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ในส่วนของสมาธิภาวนานั้น เราดูง่าย ๆ แค่ว่า มีนิวรณ์ ๕ กินใจเราได้หรือไม่ ? กำลังใจเราคล้อยตามไปในด้านของ รูปสวย เสียงเพราะ รสอร่อย กลิ่นหอม และสัมผัสระหว่างเพศหรือไม่ ?

มีความโกรธเกลียดอาฆาตพยาบาทคนอื่นหรือไม่ ? มีความง่วงเหงาหาวนอนชวนให้ขี้เกียจปฏิบัติหรือไม่ ? มีความฟุ้งซ่านรำคาญใจ จิตใจไม่สงบหรือไม่ ? และท้ายที่สุดมีความลังเลสงสัยในคุณความดีของ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บ้างหรือไม่ ? ถ้ามีอยู่ก็รีบขับไล่สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ออกไปจากใจ และระมัดระวังไว้อย่าให้เข้ามาได้อีก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-10-2016 เมื่อ 16:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 50 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 22-10-2016, 20:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วิธีการขับไล่ที่ดีที่สุดก็คือ อยู่กับลมหายใจเข้าออกของเรา ถ้าสภาพจิตจดจ่ออยู่กับลมหายใจเข้า ลมหายใจออก สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ก็จะกวนเราไม่ได้ และข้อสุดท้ายก็คือ หลังจากภาวนาแล้ว เมื่อเราคลายกำลังใจออกมา เราได้นำวิปัสสนาญาณมาพินิจพิจารณาบ้างหรือไม่ ? ถ้าหากว่าเรานำวิปัสสนามาพินิจพิจารณาอยู่ เราสามารถเห็นได้ชัดเจนหรือไม่ ? ทั้งหลายเหล่านี้เราจำเป็นต้องเตือนตนเองอยู่ทุกวัน ๆ

การปฏิบัติธรรมนั้นเราจะเบื่อไม่ได้ หน่ายไม่ได้ เพราะเหมือนกับการปีนเขาหรือว่ายทวนน้ำ ตราบใดที่ยังไม่ถึงจุดหมายปลายทาง ก็ต้องเหนื่อยต้องหนักอยู่ตลอดไป แต่ถ้าถึงจุดหมายปลายทางเมื่อไร เราก็จะพ้นจากความเหนื่อยยากทั้งปวง เราจะเห็นว่าความทุกข์ยากตั้งแต่ต้นมาจนถึงบัดนี้ ล้วนแล้วแต่คุ้มค่ามหาศาล เพราะว่าเราไม่ต้องย้อนกลับไปหาความทุกข์ทั้งหลายเหล่านั้นอีก

ดังนั้น...ในแต่ละวันให้ทบทวนในเรื่องของศีล ว่าแต่ละสิกขาบทบริสุทธิ์บริบูรณ์หรือไม่ ? ในเรื่องของสมาธิคือ สภาพจิตของเราโดนนิวรณ์ครอบงำบ้างหรือไม่ ? ในเรื่องของปัญญาคือ เราได้พินิจพิจารณาให้เห็นความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ ความไม่มีอะไรเป็นตัวตนของร่างกายของเราหรือไม่ ? ถ้ายังไม่มีก็ทำให้เกิดขึ้น ถ้ามีอยู่แล้วก็ทำให้เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป ถ้าปฏิบัติได้ดังนี้ โอกาสที่เราจะเจริญก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม โอกาสที่เราจะล่วงพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานจึงจะมีขึ้นแก่เราได้

ลำดับต่อไปให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันเสาร์ที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๙

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยคะน้าอ่อน)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-10-2016 เมื่อ 02:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:29



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว