กรรมนิมิต

[โอรส]

ถาม : ในความฝัน เราจะเข้าใจความฝันและแปลออก อีกไม่นานเหตุการณ์ที่เราฝันจะเป็นจริงตามนั้นเลย อย่างนี้เขาเรียกว่าเทพนิมิต... ?
ตอบ : บางครั้งก็เป็นกรรมนิมิต

อาตมาเคยเจอกลางวันแสก ๆ กำลังนอนภาวนาอยู่ เห็นงูจงอางตัวเบ้อเริ่มเลื้อยเข้ามา ตอนนั้นบวชใหม่ ๆ ก็อยู่กุฏิเล็ก ๆ ตรงหลังร้านอาหารของป้ากิมกี กุฏิหลังนั้นจะมีต้นพุทราขึ้นคลุมอยู่ครึ่งค่อนกุฏิ อากาศตอนบ่ายจะเย็นสบายมาก เพราะต้นพุทราคลุมอยู่แดดส่องไม่ถึง นอนภาวนาเพลิน ๆ งูจงอางยักษ์เลื้อยมาตามยอดพุทรา ไหวระเนนมาตลอดเลย

พองูเห็นอาตมาเข้า ก็พุ่งเข้ามาทางหน้าต่างฉกใส่ อาตมาตกใจตัวแข็งขยับไม่ได้ หลวงพ่อวัดท่าซุงไม่รู้ท่านมาจากไหน เอาไม้เท้าสะกิดคางงูแทนที่จะฉกใส่หน้าอาตมา ก็ฉกเลยหัวอาตมาไป ฉกใส่พื้นเสียงดังปังสนั่นเลย แล้วงูก็เลื้อยลงข้างล่างบันไดไป เสียงเลื้อยไปตามพื้นเสียงดังแสก ๆ ๆ ได้ยินถนัดหู อาตมาตกใจสุดขีด...

พอดิ้นหลุดออกจากอาการช็อกได้ อารามตกใจจึงวิ่งหนีงูด้วยการเผ่นลงบันได กลายเป็นวิ่งตามงูลงบันไดไป พอลงไปถึงตีนบันไดก็ชะงัก..เฮ้ย..! งูมันเลื้อยลงไปนี่หว่า จึงมองดูใต้บันได..ไม่มี มองรอบ ๆ กุฏิ..ไม่มี ก็เหลือห้องน้ำแห่งเดียว เปิดห้องน้ำดูก็..อ้าว..ไม่มี นึกขึ้นมาได้ เฮ้ย..! หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านยังอยู่ข้างบน วิ่งขึ้นมาท่านก็ไม่อยู่ ดูไปดูมา..อ้าว..หน้าต่างมีทั้งเหล็กดัดทั้งมุ้งลวด แล้วงูเข้ามาทางไหน..?

ตัวนิมิตเวลาเกิดจะชัดถึงขนาดนี้ เวลาที่งูฉกอาตมาผิด ตัวงูตกฟาดใส่อาตมายังรู้สึกจุกเลย เพราะตัวหนักมาก ก็เลยมานั่งตีความ อ๋อ..ลักษณะนี้ต้องเป็นนิมิตแน่เลย งูนั้นโบราณส่วนใหญ่เขาว่าเป็นผู้หญิง งานนี้เขาเอาแน่แล้ว ถ้าหลวงพ่อวัดท่าซุงไม่ช่วยมีหวังตายแน่เลย

หลังจากนั้นไม่กี่วันเขามาจริง ๆ แปลกมาก..ผู้หญิงคนนี้ถ้านับว่าสวยก็ไม่ใช่คนสวย หน้าตารูปร่างลักษณะแบบนี้ก็ไม่เคยอยู่ในความสนใจ แต่มีแรงดึงดูดมหาศาลเลย ทำให้อาตมาต้องมองเขาท่าเดียว กลายเป็นว่าทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าเขาอยู่บริเวณนั้นต้องมองเขาอย่างเดียว สวดมนต์ตาก็เหลือบมองเขา เวลาทำวัตร เวลานั่งกรรมฐานแทนที่จะนั่งหลับตาภาวนาก็กลายเป็นว่าลืมตามองเขา ฟุ้งซ่านจนทำอะไรไม่ถูก

[โอรส]

อาตมารู้ตัวว่าลักษณะอย่างนี้แย่แน่ ๆ ถ้าหากอาตมาพูดด้วยแม้แต่คำเดียวเสร็จเขาแน่นอนเลย อาตมาจึงพยายามจะเลี่ยงหลบ เขาเองก็เหมือนจะรู้ตัว ไม่ว่าอาตมาอยู่ตรงไหนเขาก็จะแถเข้ามาใกล้ ๆ พยายามที่จะพูดด้วย พอเขาเอ่ยปากอาตมาก็เดินหนีเลย รู้ตัวว่าขืนต่อปากต่อคำแม้แต่คำเดียวต้องเสร็จแน่ ๆ หัวหมุนหัวปั่นอยู่ได้ ๒ วัน

พอวันที่ ๓ หลวงพ่อวัดท่าซุงก็เรียกให้ไปเป็นยามหน้าตึก ตรงจุดนั้นเขาถือว่าเป็นเขตหวงห้ามกลาย ๆ ถ้าไม่มีธุระห้ามทุกคนเข้าอยู่แล้ว เขาก็เลยเข้าไปไม่ได้ ในเมื่อเขาเข้าไปไม่ได้แล้วเรื่องอะไรอาตมาจะโผล่หัวออกมา ...(หัวเราะ)...

พอพ้นระยะพ้นเวลาไปแล้ว เขาก็ไม่มีอำนาจเหนือจิตใจของอาตมาได้อีก แล้วของพวกนี้ประมาทไม่ได้ เดี๋ยวคนใหม่ก็จะมาอีก นิมิตแบบนี้ถ้าหากว่าเรารู้ตัวแล้วระวังล่วงหน้า ก็ช่วยได้มากเหมือนกัน

ที่แปลกมากคือผู้หญิงแบบนี้ไม่ได้อยู่ในความชอบของอาตมาเลย แต่โอ้โฮ...มีแรงดึงดูดมหาศาล เล่นเอาทำอะไรไม่ถูกเลย ต้องมองเขาอย่างเดียว ประเภทคู่เวรคู่กรรมกันมาแน่ ๆ พอพ้นระยะไปแล้วก็พ้นไปเลย แต่ทีนี้เราไม่ได้เกิดชาติเดียว เดี๋ยวคนอื่นก็จะมามีอิทธิพลอีกอย่างนี้ แต่ว่าที่หนัก ๆ แบบนี้เพิ่งเจอรายเดียว เล่นเอาอาตมาป่วนเหมือนกัน นอกนั้นเรื่องเล็ก

คนไหนเกิดร่วมกับเรามากก็มีอิทธิพลมากหน่อย เกิดร่วมกับเราน้อยอิทธิพลก็น้อยหน่อย


สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๕