กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนเมษายน ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 16-04-2024, 16:52
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 335
ได้ให้อนุโมทนา: 3,307
ได้รับอนุโมทนา 18,430 ครั้ง ใน 813 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๗


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 17-04-2024, 00:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,539
ได้ให้อนุโมทนา: 151,560
ได้รับอนุโมทนา 4,406,873 ครั้ง ใน 34,129 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๑๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ ถือว่ายังอยู่ในช่วงควันหลงวันสงกรานต์ เพราะว่าเป็นวันหยุดชดเชย ทางวัดท่าขนุนของเราส่งท้ายการปฏิบัติธรรมช่วงนี้ ด้วยการภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ

ด้วยทางที่ว่าทางด้านวัดพุทธบริษัทก็ดี ทางด้านไอ้ตัวเล็กก็ตาม ตลอดจนกระทั่งแม่ชีชื่น (อุบาสิกาชื่น ศรีสองแคว) ของวัดท่าขนุน ขอนำเอาวัตถุมงคลไปเข้าพิธีในวันเสาร์ ๕ ที่ผ่านมา แต่กระผม/อาตมภาพบอกว่าอนุญาตให้ไม่ได้ เพราะว่าถ้าอนุญาตเมื่อไร ก็ตามมาอีกเป็นร้อย จึงให้เอามาเข้าพิธีในวันนี้แทน ของทางวัดพุทธบริษัทนั้น ส่วนใหญ่ก็จะเป็นมีดหมอ ส่วนของไอ้ตัวเล็กไม่ทราบว่ามีอะไรบ้าง

ส่วนของแม่ชีชื่น ซึ่งกระผม/อาตมภาพเองก็ไม่ได้อยากให้นำเอาวัตถุมงคลมาเข้าพิธี เนื่องเพราะว่าวัตถุมงคลส่วนที่กระผม/อาตมภาพสร้างเองก็มีอยู่แล้ว แต่ทางด้านแม่ชีก็อยากที่จะช่วยเหลือในเรื่องของรายจ่ายต่าง ๆ ของวัดท่าขนุน จึงไปขนเอาครกกระบากสากกะเบือมาเข้าพิธีมากมาย จนกระทั่งบางทีกระผม/อาตมภาพก็ไม่ทราบว่ามีอะไรบ้าง

ก็คือพอมีผู้สอบถามว่าเป็นวัตถุมงคลของทางวัดท่าขนุนหรือไม่ กระผม/อาตมภาพก็ไม่สามารถที่จะตอบได้ เนื่องเพราะว่าวัตถุมงคลของวัดท่าขนุนนั้น จะมีการลงทะเบียน ระบุเอาไว้ชัดเจนว่าวัตถุมงคลรุ่นไหน สร้างเป็นจำนวนเท่าไร เข้าพิธีเมื่อไร เป็นต้น แต่ในเมื่อแม่ชีไปเอาสารพัดข้าวของมาเข้าพิธี ก็ทำให้สับสนกับชีวิตอยู่เหมือนกัน แต่ก็ขึ้นอยู่กับท่านที่บูชาไป ว่าจะมีความเชื่อมั่นเท่าไร เนื่องเพราะว่าส่วนนี้จะไม่มีการลงทะเบียนไว้ ว่าเป็นวัตถุมงคลของวัดท่าขนุน

ดังนั้น..การภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบในวันนี้ กระผม/อาตมภาพจึงต้องกราบขอบารมีพระอนุเคราะห์สงเคราะห์ ในการปลุกเสกวัตถุมงคลไปด้วย เมื่อเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว ก็ยังต้องนั่งรับญาติโยมทั้งหลายที่ทำบุญส่งท้ายวันสงกรานต์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-04-2024 เมื่อ 14:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 17-04-2024, 00:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,539
ได้ให้อนุโมทนา: 151,560
ได้รับอนุโมทนา 4,406,873 ครั้ง ใน 34,129 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเรื่องของการภาวนาพระคาถาเงินล้านนั้น กระผม/อาตมภาพเคยบอกไปหลายครั้งแล้วว่าต้องวางกำลังใจอย่างไรบ้าง แต่ว่าญาติโยมส่วนหนึ่งก็มักจะวางกำลังใจผิด หรือไม่ก็เชื่อมั่นตัวเองมากจนเกินไป ซึ่งกระผม/อาตมภาพเองนั้น ก็ไม่ได้ต้องการให้เขาไปทำในลักษณะอย่างนั้น

แต่ว่ามีบางท่าน บางคณะ ก็ไปภาวนาพระคาถาเงินล้านแข่งกัน พูดง่าย ๆ ว่าใครจะได้จำนวนจบมากกว่ากัน แล้วก็ไปอาศัยผลบุญจากพระคาถาเงินล้านนี้ในการเล่นหุ้นบ้าง ในการซื้อกองทุนต่าง ๆ บ้าง ปรากฏว่าเข้าเนื้อเจ็บตัวไปตาม ๆ กัน..! เพราะลืมในส่วนที่กระผม/อาตมภาพบอกไปว่า ถ้าเราทำเพราะอยากได้ ผลจะโดนตัดไปเกือบหมด..!

แบบเดียวกับที่กระผม/อาตมภาพเคยนำเงินส่วนตัวก้อนหนึ่ง มอบให้กับโยมท่านหนึ่ง ซึ่งมีบุญสัมพันธ์กันมา บอกว่าให้โยมท่านนี้นำไปลงทุนในตลาดหุ้น เมื่อมีบุญสัมพันธ์กันมา โยมท่านนั้นนำไปลงทุนเพียงครั้งแรก ก็มีกำไรมา ๒๐๐ กว่าดอลลาร์ ญาติโยมที่ภาวนาพระคาถาเงินล้าน พอทราบดังนั้นก็ขอทำหน้าที่นั้นแทน ด้วยการรับเอาเงินก้อนนั้นไปลงทุน โดยที่พ่วงตนเองกับคณะเข้าไปด้วย โดยที่ไม่ทราบในเรื่องของบุญสัมพันธ์กรรมสัมพันธ์ตรงนี้มา คิดอยู่อย่างเดียวว่า จะอาศัยพ่วงกับกระผม/อาตมภาพ ให้ช่วยลากเขาทั้งคณะให้ทำกำไรได้ไปด้วย

ลักษณะอย่างนี้ต้องบอกว่าหาเรื่องเจ็บตัวอย่างชัดเจน เพราะอันดับแรก..ไม่ทราบในยถากัมมุตาญาน ก็คือไม่รู้ว่าตัวเองสร้างบุญสร้างกรรมอะไรมากับใคร แล้วจะคิดว่าได้กำไรเหมือน ๆ กันนั้น ย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าบุคคลที่ร่วมบุญมา ถึงเวลาผลบุญก็ส่งผล ส่วนบุคคลที่ร่วมกรรมกันมา ถึงเวลาผลกรรมก็ส่งผล จึงทำให้เกิดการขาดทุนย่อยยับ เพราะไปย่ามใจว่ากระผม/อาตมภาพนั้น เป็นต้นทุนในการเล่นครั้งนี้

กระผม/อาตมภาพที่ต้องการจะพิสูจน์เรื่องของบุญเรื่องของกรรมว่า ถ้ามาทางด้านนี้จะไปได้หรือไม่ จึงต้องหยุด แล้วก็ถอนเอาเงินก้อนนั้นกลับคืนมา ปล่อยให้ทั้งคณะถลำไปคนละทิศคนละทาง ได้ยินว่าเจ็บตัวไปตาม ๆ กัน..!

ดังนั้น..ในเรื่องของการภาวนาพระคาถาเงินล้าน ส่วนที่ต้องจดจำเลยก็คือ อย่าทำเพราะความโลภ และจะต้องมีผลของทานบารมีคอยหนุนเสริมอยู่เสมอ ถ้าหากว่ามีบุญกุศลด้านอื่น ๆ หนุนเสริมด้วย ก็จะยิ่งดี เพราะว่าสิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนเรามาด้วย ก็คือศีล สมาธิ และปัญญา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-04-2024 เมื่อ 14:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 17-04-2024, 00:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,539
ได้ให้อนุโมทนา: 151,560
ได้รับอนุโมทนา 4,406,873 ครั้ง ใน 34,129 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าเรามีศีลบริสุทธิ์บริบูรณ์ มีการภาวนาพระคาถาเงินล้าน เป็นการสร้างสมาธิเป็นปกติ มีปัญญาเห็นว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ เราทำไปก็เพื่อรักษาสมบัติที่พ่อให้เอาไว้ ถ้าหากว่าได้มา ก็พร้อมที่จะสละต่อ เพื่อพระพุทธศาสนา ถ้าหากว่าวางกำลังใจในลักษณะนี้ สิ่งที่ท่านทำก็จะเกิดผลเร็ว และเกิดผลมาก แต่ถ้าหากว่าท่านทำเพราะความอยากได้ อยากมี อยากรวย โอกาสที่จะเป็นไปตามความต้องการของตนก็น้อยมาก เพราะว่าวางกำลังใจผิดเสียตั้งแต่แรกแล้ว

ส่วนในเทศกาลสงกรานต์ครั้งนี้นั้น ทางรัฐบาลภูมิใจว่า อุบัติเหตุต่าง ๆ ลดน้อยถอยลง กระผม/อาตมภาพอยากจะบอกว่า เหตุที่อุบัติเหตุน้อยลง เพราะว่าญาติโยมมัวแต่สาดน้ำกันอยู่ หรือไม่ก็ถ้าหากว่าเป็นผู้ไม่ประมาท อย่างผู้ที่เข้าร่วมโครงการบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติของวัดท่าขนุน วัน ๆ ก็อยู่ร่วมกิจกรรมในการปฏิบัติธรรม สร้างบุญสร้างกุศลตามประเพณี

ไม่ว่าจะเป็นการทำบุญใส่บาตร สมาทานศีล ฟังเทศน์ ฟังธรรม ตลอดจนกระทั่งการบังสุกุลอัฐิ การสวดพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์สะเดาะเคราะห์ ตลอดจนกระทั่งการสรงน้ำพระเป็นต้น ในเมื่อเราทั้งหลายอยู่แต่ในวัดวาอาราม โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุอันตรายต่าง ๆ ก็ไม่มีอยู่แล้ว ซ้ำยังได้สร้างสมบุญกุศลให้แก่ตนเองอย่างเป็นกอบเป็นกำอีกด้วย

เมื่อมาปิดท้ายด้วยการภาวนาพระคาถาเงินล้าน ท่านทั้งหลายเหล่านี้เมื่อจบโครงการไป ก็คือแบกบุญกลับบ้านนั่นเอง ในเมื่อเราแบกบุญกลับบ้าน ถ้าหากว่ารู้วิธีการ มีการขอให้เจ้าที่เจ้าทางที่รักษาตลอดเส้นทาง และพรหมเทวดาทั้งหลาย อนุโมทนาบุญของเรา และช่วยรักษาให้เราเดินทางโดยปลอดภัยทั้งไปและกลับ ท่านทั้งหลายก็จะมีความปลอดภัย ในที่ทุกสถานในกาลทุกเมื่อ

แต่ถ้าหากว่าเป็นท่านอื่น ๆ ที่ไม่รู้เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ แถมยังไปกินเหล้าเมายา คึกคะนองขับรถเร็ว โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุก็มีสูงมาก ดังนั้น ..อุบัติเหตุในช่วง ๕ วันอันตราย ๗ วันอันตราย จะว่าไปแล้วก็ไม่ได้ลดน้อยถอยลง หากแต่โยมไปสนุกสนานกับการสาดน้ำ แล้วไม่ได้ขับยานพาหนะต่างหาก จึงทำให้อุบัติเหตุต่าง ๆ นั้นลดน้อยถอยลงไป

ส่วนวันนี้ ถ้าหากว่าเป็นอย่างที่กระผม/อาตมภาพเรียกก็คือ "วันนรกแตก" เพราะว่าเป็นวัดสุดท้ายของการหยุดยาว ทุกคนก็จะแห่กลับถิ่นฐานบ้านช่อง หรือที่ทำงานของตนเอง บรรดาท่านที่มาจากทางภาคอีสาน ถ้าไม่ได้กลับตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้ ๕ ทุ่ม เที่ยงคืนถึงที่พัก หรือถึงกรุงเทพฯ ได้ก็ถือว่าเก่งมากแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-04-2024 เมื่อ 14:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 17-04-2024, 00:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,539
ได้ให้อนุโมทนา: 151,560
ได้รับอนุโมทนา 4,406,873 ครั้ง ใน 34,129 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนท่านที่มาจากทางด้านอื่น ๆ อย่างเช่นว่าจากปักษ์ใต้มาก็ดี จากภาคตะวันตกหรือภาคเหนือก็ตาม ในเส้นทางแต่ละเส้นนั้น ก็จะแออัดยัดเยียดกันไปหมด แล้วแต่ละคนก็เหน็ดเหนื่อยกับงานสงกรานต์มา อยากจะบอกว่าถ้าพลาดเมื่อไร ก็จะมีการหลับใน แล้วเกิดอุบัติเหตุได้ เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังอย่างมาก

ส่วนกระผม/อาตมภาพนั้น ต้องเดินทางไปยังจังหวัดนครพนม เนื่องเพราะว่าคณะพระวิปัสสนาจารย์รุ่นปี ๒๕๖๔ ของกองการวิปัสสนาธุระแห่งประเทศไทยในพระสังฆราชูปถัมภ์ ซึ่งกระผม/อาตมภาพขอเป็นที่ปรึกษาเท่านั้น ไม่รับตำแหน่งบริหารอื่น มีการเดินธุดงค์จากวัดมหาวนาราม (พระอารามหลวง) จังหวัดอุบลราชธานี ไปสิ้นสุดเส้นทางที่วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร จังหวัดสกลนคร

ตอนแรกกระผม/อาตมภาพก็ตั้งใจว่าจะไปบรรยายธรรมให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการที่วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร จังหวัดสกลนคร เนื่องเพราะว่าอยู่ใกล้กับอาศรมศรีชัยรัตนโคตร ของท่านอาจารย์นิล (พระครูวินัยธรธวัชชัย ชาครธมฺโม) ประธานที่พักสงฆ์อาศรมศรีชัยรัตนโคตร แต่ปรากฏว่าวันที่เขากำหนดว่าเดินทางไปถึงสกลนครนั้น เป็นวันที่กระผม/อาตมภาพติดภารกิจสำคัญ จึงได้แจ้งทางกองการวิปัสสนาธุระแห่งประเทศไทย ว่าจะไปบรรยายให้ในช่วงที่ท่านทั้งหลายเดินทางถึงจังหวัดนครพนมก็แล้วกัน

ดังนั้น..ในช่วงที่ทุกคนกำลังแห่กันกลับกรุงเทพมหานคร กระผม/อาตมภาพต้องวิ่งสวนทางเขาเพื่อไปยังนครพนม จะต้องใช้เวลาในการเดินทาง ๗ - ๘ ชั่วโมง และงานนี้คณะกรรมการบริหารกองการวิปัสสนาฯ ปี ๒๕๖๔ ซึ่งมีพระครูสังฆรักษ์ศิริวัฒน์ รกฺขิโต จากวัดน้อยนางหงษ์ จังหวัดสมุทรสาคร และพระสมุห์ทศพล สุภทฺโท จากวัดเทพมงคล จังหวัดกาญจนบุรี ติดตามไปอีก ๒ รูป

ตัวกระผม/อาตมภาพซึ่งไม่พยายามรับตำแหน่งแล้ว แต่ในเมื่ออาวุโสมาก เขานิมนต์ไปบรรยายธรรม เพื่อประโยชน์ของกิจกรรมครั้งนี้ ก็จำเป็นที่จะต้องไป คาดว่าแม้จะเดินทางไกลและหลายชั่วโมงหน่อย แต่ถ้าหากว่านอนไปบนรถก็ไม่น่าที่จะโทรมมากนัก ก่อนที่จะบรรยายธรรม ก็ฉันยาค้ำจุนขันธ์ ๕ เอาไว้ พอบรรยายธรรมเสร็จแล้ว จะสิ้นชีวิตหรือไม่ก็ค่อยดูกันอีกครั้งหนึ่ง..!

ก็ได้แต่คาดว่าการทำกิจกรรมของคณะกรรมการบริหารกองการวิปัสสนาฯ ปี ๒๕๖๔ นี้ จะก่อประโยชน์ให้กับตนเอง และสถานที่ต่าง ๆ ที่ผ่านไปทุกแห่ง ตลอดจนกระทั่งแสดงให้คนอื่นเขารู้ว่า มีองค์กรนี้เป็นตัวเป็นตนอยู่เหมือนกัน

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๑๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-04-2024 เมื่อ 14:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
ณภัทร๘๖๓๕

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:52



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว