กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ในวาระสำคัญต่าง ๆ

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #61  
เก่า 15-07-2019, 09:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เขาบอกว่ารู้หนึ่งโปร่งร้อย ก็คือเป็นเสียทุกงานเลย มีผีฝรั่งกลายเป็นเทวดาได้ ถามว่าทำไม ? เขาบอกว่าตั้งใจสร้างผลงานศิลปะ ทรงสมาธิได้ไม่รู้ตัว ก็เลยกลายเป็นเทวดาไป

เดี๋ยวปีนี้จะไปคุยกับผีต่างประเทศอีก พวกนี้เวลาเห็นพระไทยเขาชอบ วิ่งเข้าหาเลย เพราะว่าอย่างไรก็ได้บุญแน่ ตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่าเขารู้ได้อย่างไรว่าเรามีบุญ ปรากฏว่าพวกผี เขาเหมือนอย่างกับอยู่ในความมืดมิด ไม่มีกำลังบุญที่จะส่องทาง พอคนที่มีบุญมา บุญมากบุญน้อย ก็จะเป็นความสว่างมากน้อย ตามกำลังบุญของตัว

เพราะฉะนั้น..พวกนี้เหมือนอยู่ในที่มืด พอเห็นแสงสว่าง รู้ว่าตรงนี้ใช่แน่ ก็วิ่งเข้าหาเลย แต่ว่าน้อยรายที่เขาสามารถติดต่อได้ สามารถที่จะขอส่วนบุญส่วนกุศลได้ ก็เลยกลายเป็นว่าถ้าขอใครได้ก็กวนอย่าบอกใครเลย บางคนไปต่างประเทศบอกว่านอนไม่หลับ หารู้ไม่ว่าผีมาขอส่วนกุศลเป็นพัน ๆ เลย ในเมื่อเขาไม่ได้ เขาก็ไม่เลิก สรุปว่าไม่รู้เรื่องว่าทำไมนอนไม่หลับ นี่ถ้าไม่ได้คุยกับผีก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นอย่างนี้

โดยเฉพาะไปอินโดนีเซีย ประเทศอิสลาม ผีมาทีหนึ่งเจ็ดแปดพัน ถามว่าพวกแกตายทำไมไม่ลงนรก ? เขาบอกว่าเขาตายก่อนหมดอายุ เออ...รอดไป แล้วมาหาทำไม คนละศาสนากัน ? เขาบอก ตอนเป็นคนโง่พอแล้ว ตอนเป็นผีนี่รู้แล้วว่าอะไรดีอะไรชั่ว ก็ยังดีที่ฉลาดทัน ก็เลยอุทิศส่วนกุศลให้เขาไป เพราะถ้าไม่ให้เขาก็กวนทั้งคืน ไม่ต้องนอนกันพอดี

ล่าสุดไปที่ประเทศญี่ปุ่น ไปได้องครักษ์คอยเฝ้าให้ ประเทศญี่ปุ่นต้องบอกว่าน่าสงสารหรือเราน่าสงสาร เตียงก็สั้น ๆ ผ้าห่มก็สั้น ๆ นอนไปนี่ตีนโผล่ แล้วอากาศ ๕ องศา หนาวอย่าบอกใครเลย นอนไม่หลับ ท้ายสุดก็เลยต้องโวยกับพ่อองครักษ์ ขอให้เขาช่วยให้หายหนาวถึงนอนได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-07-2019 เมื่อ 10:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 84 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #62  
เก่า 15-07-2019, 09:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อาตมามีเพื่อนเป็นด็อกเตอร์ เรียนจบด็อกเตอร์ ๒ ใบเลย พิการแบบนี้แหละ แต่ความสามารถสูงมาก อาตมาเห็นไม่ได้นึกว่าเป็นคนพิการ เขาเก่งกว่าเรา สอบได้คะแนนเท่ากันเป๊ะเลย คือวิทยานิพนธ์ท่านได้เกรดเอ แสดงว่าคะแนนต้องนำเยอะมาก แต่คอร์สเวิร์คของอาตมาน่าจะนำท่านมาก สองอย่างรวมกันแล้วตัดคะแนนมาได้เท่ากับเป๊ะเลย คนเก่ง ๆ มีความสามารถ ร่างกายพิการนิดหน่อย คนเขามองข้ามกันหมด เพราะว่าเขาดูที่ความสามารถของเรา

แบบเดียวกับครูไอซ์ที่ตาบอดแล้วสอนหนังสือที่โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย ครูไอซ์สอนภาษาอังกฤษได้ยอดมาก เด็ก ๆ ทุกคนรักครูไอซ์ แต่ครูไอซ์ตาบอด มองอะไรไม่เห็น

คนที่พิการจะพัฒนาความสามารถด้านอื่นขึ้นมาแทน สายตาพิการจะพัฒนาประสาทสัมผัสอื่นขึ้นมาแทน ร่างกายพิการ มือพิการก็จะใช้เท้า เท้าพิการก็ใช้มือ ดูแล้วก็คืออยู่ในลักษณะว่าพัฒนาเพื่อให้อยู่รอด ซึ่งเป็นหลักของการดำรงชีวิตของสรรพสัตว์เลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-07-2019 เมื่อ 16:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 84 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #63  
เก่า 15-07-2019, 09:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ท่านทั้งหลายเป็นผู้ที่ไม่ประมาท ตั้งใจปฏิบัติในทาน ในศีล ในภาวนาเป็นปกติ การให้ทานเกิดใหม่ก็ร่ำรวย การรักษาศีลเกิดใหม่ก็มีรูปร่างหน้าตาสะสวยหล่อเหลา การภาวนาเกิดมาก็มีปัญญาฉลาดมาก

ฉะนั้น...ในสามส่วนนี้ควรที่จะทำให้เสมอกัน เพราะว่าถ้าคนสวยคนหล่อ แต่ไม่มีปัญญา ก็อาจจะโดนเขาหลอกลวง คนหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่มีเงินเยอะเลย คนก็คงไม่สนใจเราเท่าไร อีกคนหนึ่งประเภทหน้าตาดี๊ดี แต่พูดอะไรซื่อบื้อไปหมด คนเขาคงไม่อยากจะคบหาด้วย ก็เลยกลายเป็นว่าควรที่จะทำทั้งสามอย่างให้เสมอกัน เมื่อถึงเวลาได้รับอานิสงส์ก็จะได้รับเหมือน ๆ กัน สวย รวย ดีเสมอกัน มีปัญญามากเสมอกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-07-2019 เมื่อ 10:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 76 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #64  
เก่า 15-07-2019, 09:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันก่อนอาตมาไปรับรางวัลที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ทั้งดารา ทั้งนักร้องมากันตั้งหลายคน ถ่ายรูปกัน อาตมาก็..เออ...เด็กรุ่นใหม่ ๆ เขามารยาทดี หน้าตาก็หล่อเหลาสะสวยดี โยมเขาบอกว่า "นั่นดารานะหลวงพ่อ" อาตมาบอกไม่รู้จักหรอก ดาราคู่สุดท้ายที่รู้จัก ผู้ชายชื่อทูน ผู้หญิงชื่อจารุณี ถ้าอายุน้อยกว่านั้นไม่รู้จัก

จะมีรู้จักเป็นพิเศษอยู่ก็กึ่งดารากึ่งนางงาม ก็คือคุณอรอนงค์ ปัญญาวงศ์ นางสาวไทยปี ๒๕๓๕ อันนี้รู้จักเพราะว่ามีคลิปเกี่ยวกับการฟ้อนข้าวประดับดิน ส่วนอีกท่านหนึ่งก็น้องป๊อป (อารียา) อันนั้นเป็นญาติกันเอง ไม่รู้จักก็ไม่ได้ นอกนั้นมานี่ไม่รู้

บางทีอยู่วัด เด็ก ๆ เขาวิ่งมา "หลวงพ่อ ๆ รถเมล์มา" บอกว่า "รถเมล์มาก็ดู อย่าให้เกี่ยวสายไฟ เพราะว่าถ้ารถสองชั้นเข้ามา บางทีก็เกี่ยวสายไฟของวัดขาด" เด็กบอกว่า "ไม่ใช่หลวงพ่อ รถเมล์เป็นดารา" "รถเมล์เป็นดารา ? เขาเอาไปขับรับใครในหนังหรือ ?"

ฉะนั้น...อย่าเอาอะไรกับพระแก่ ถึงเวลาเขาแนะนำตัวดารา บอกตรง ๆ เลย ไม่รู้จัก ขอโทษด้วยนะ โตช้าไปหน่อย ถ้าโตเร็วกว่านี้ อาตมาอาจจะรู้จัก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-07-2019 เมื่อ 10:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 81 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #65  
เก่า 15-07-2019, 09:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ครูบาอาจารย์ท่านอธิบายว่า ยันต์เกราะเพชรเป็นบารมีพระพุทธเจ้า ในเมื่อเป็นบารมีพระพุทธเจ้าก็คือมาจากพุทธศาสตร์ ความรู้ของผู้ตื่น ก็คือตื่นจากกิเลสแล้ว ส่วนไสยศาสตร์เป็นความรู้ของผู้หลับ ผู้ถูกถ่วงหนักด้วยอวิชชา หลงงมงายเหมือนคนที่อยู่ในความหลับ ในเมื่อความตื่นกับความหลับ ความสว่างกับความมืด ก็เลยอยู่ด้วยกันไม่ได้โดยธรรมชาติ

เมื่อถึงเวลาผู้ที่รับยันต์เกราะเพชรไป ถ้ามีการภาวนาเป็นปกติ จากประสบการณ์ของอาตมาที่ลงปักษ์ใต้ไปครั้งแรกเมื่อเกือบ ๓๐ ปีที่แล้ว ไปอยู่ในดงไสยศาสตร์พอดี ก็สงสัยว่าสัมผัสปุ๊บก็หาย สัมผัสปุ๊บก็หาย ก็เลยตั้งใจพิจารณาดูก็รู้ว่า ด้วยความที่เรามียันต์เกราะเพชรอยู่ เมื่อผ่านไปก็เลยทำลายไสยศาสตร์เขาไปด้วย

ทันทีที่รู้สึกว่าเป็นไสยศาสตร์ ยันต์เกราะเพชรก็แสดงอานุภาพด้วยตัวเอง ก็เลยทำให้มั่นใจว่าไสยศาสตร์นั้นไม่สามารถที่จะสู้กับอำนาจของยันต์เกราะเพชรได้ แต่ก็มีบุคคลที่เคยรับยันต์เกราะเพชรไปแล้ว กินไม่ได้ นอนไม่หลับหลายวัน จะตายเอา ไปหาครูบาอาจารย์ของตน เขาก็บอกว่าแกครอบครูโนราห์ แล้วดันไปรับยันต์เกราะเพชร ครูโนราห์มาทางสายไสยศาสตร์ ก็เลยทำให้เดือดร้อน

อาตมาก็แนะนำว่าให้อธิษฐานขอบารมีพระว่า ให้ครูโนราห์สามารถเข้าออก ทำหน้าที่ของตัวเองได้ ผู้ที่รับไปก็บอกว่าทำไม่เป็น ท้ายสุดอาตมาก็เลยต้องอธิษฐานแทน ไม่อย่างนั้นแล้วครูโนราห์โดนกดอยู่ข้างใน ออกไม่ได้ ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็เตือนผ่านลูกผ่านหลาน เจ็บไข้ได้ป่วย หัวไม่วาง หางไม่เว้น

เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าใครครอบครูสายโนราห์ทางปักษ์ใต้มา ก็ขอให้รู้ว่าถ้ามารับยันต์เกราะเพชรไป อาจจะมีปัญหานี้ ถ้ามีปัญหานี้ วิธีแก้ก็คือจุดธูปบอกพระพุทธเจ้าว่าขอให้ครูโนราห์ ซึ่งเป็นครูตามสายวิชาของครอบครัวของตน หรือว่าสายวิชาตามสายครูบาอาจารย์ของตนสามารถเข้าออกได้ ไม่อย่างนั้นโดนกดอยู่ข้างใน เดี๋ยวอาละวาดอีก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-07-2019 เมื่อ 10:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 80 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #66  
เก่า 15-07-2019, 09:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกส่วนหนึ่งที่พบมาโดยประสบการณ์เลยก็คือ บรรดาวัตถุที่ปลุกเสกด้วยวิธีไสยศาสตร์ต่าง ๆ ที่เป็นของต่ำ พวกนี้ถ้าเข้ามาในพิธียันต์เกราะเพชรนี่สลายตัวหมด ถ้าใครเสียดาย เคยแนะนำหลายคนแล้วว่าอย่าเอามา ถ้าเอามาเท่ากับเราตั้งใจทำลายทิ้งด้วยตนเอง

บางทีเวลาเป่ายันต์เกราะเพชร ตั้งใจดู เห็นบารมีพระครอบลงไป บรรดาสิ่งไม่ดีต่าง ๆ ที่เป็นคุณผีคุณคน ไสยเวทย์อาคม วัตถุอาถรรพ์ต่าง ๆ ก็กระจายออกรอบข้าง เหมือนกับเราโยนถ่านร้อน ๆ ลงไปกลางฝูงมด มดก็แตกฮือไปรอบข้างในลักษณะอย่างนั้น

ในส่วนนี้ทำให้เข้าใจมากขึ้นว่า ในเรื่องของพุทธศาสตร์กับไสยศาสตร์นั้น ต่อให้ไม่ทำผิดคิดร้าย อย่างไรก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ เพราะว่าเป็นสิ่งที่ต่อต้านกันโดยธรรมชาติ เหมือนความสว่างมา ความมืดก็ต้องหายไป

เมื่อเข้าใจในจุดนี้แล้ว ญาติโยมทั้งหลายที่รับยันต์เกราะเพชรไป ก็ขอให้มั่นใจว่าเรารับเอาความดี ความสว่างเข้าไป เมื่อถึงเวลาถ้ามีการรักษาไว้ถูกต้องตามวิธีกรรม ก็คือพยายามภาวนาไว้ทุกเช้า พออารมณ์ใจทรงตัวตั้งมั่นแล้ว ก็ให้กลืนน้ำลายสัก ๓ ครั้ง ยันต์เกราะเพชรจะคุ้มเราได้ทั้งวัน แต่ถ้าอยากให้มั่นใจก็ก่อนนอนว่าสักอีกรอบหนึ่ง ทำในลักษณะเดียวกัน ถึงเวลาเรานอนอยู่ ยันต์เกราะเพชรจะได้รักษาเราได้

เพราะว่าสมัยนี้เรื่องของไสยศาสตร์ลมเพลมพัดก็มีมาก กลางค่ำกลางคืนโดยเฉพาะวันอังคารและวันเสาร์ ประมาณ ๕ ทุ่มไปแล้ว ก็มักจะมีการปล่อยไสยศาสตร์ไป เพราะว่าถ้าไม่ปล่อย ตัวเองก็ร้อน อยู่ไม่ได้ ถึงเวลาได้ยินเสียงผิดปกติ โบราณถึงได้บอกว่าห้ามทัก เพราะว่าถ้าทักก็เหมือนกับเราเปิดประตูรับโจรเข้าบ้าน ตำรวจเห็นเราเปิดประตูรับ ก็คิดว่าโจรเป็นพวกเดียวกัน เลยไม่ช่วยป้องกัน

ในเรื่องของเจ้าที่เจ้าทางเทวดาผีบ้านผีเรือนก็ตาม ถ้าหากว่าเราทัก เท่ากับเราเปิดโอกาสให้เขาเอง ท่านก็ไม่กันให้เหมือนกัน ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ท่านจึงจำเป็นที่จะต้องรับยันต์เกราะเพชรหรือมียันต์เกราะเพชรติดตัวเอาไว้ อาตมาเองก็ยังคงพกอยู่เป็นปกติ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-07-2019 เมื่อ 10:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 75 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #67  
เก่า 15-07-2019, 09:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

(คุยกับนักศึกษาปริญญาตรี สาขาวิปัสสนาภาวนา) งานนี้เราเน้นตรงการรับศีลและภาวนา เป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งที่ให้ทำความดี นี่เป็นแค่งานมุมเดียวของสำนักปฏิบัติธรรมเท่านั้น หลัก ๆ เลยเรายังมีจัดปฏิบัติธรรมอย่างน้อยปีละ ๖ รุ่น มีงานอุปสมบทหมู่ฟรีปีละ ๔ ครั้ง มีบวชสามเณรภาคฤดูร้อนฟรี เหล่านี้เป็นต้น แล้วก็พวกอบรมค่ายพุทธบุตร อบรมญาติโยมต่าง ๆ ฉะนั้นที่เราเห็นนี่แค่งานมุมเดียวเท่านั้น ค่อย ๆ เสนอเอา เก็บข้อมูลสัก ๒ ปีน่าจะหมด

วัดท่าขนุนของเราตั้งเป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดกาญจนบุรี ปี ๒๕๕๑ ปลายปีด้วย จำได้ว่าเป็นเดือนตุลาคม พอมาปี ๒๕๕๓ รับรางวัลสำนักปฏิบัติธรรมดีเด่นเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งทั่วประเทศมี ๘๓ แห่งเท่านั้น บรรดานิสิตปริญญาตรีสาขาวิปัสสนาภาวนาเขามาเก็บข้อมูลกัน ว่าสำนักปฏิบัติธรรมที่ได้รับรางวัลดีเด่น มีการกระทำอะไรที่สมควรแก่การได้รับรางวัลบ้าง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-07-2019 เมื่อ 10:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 73 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #68  
เก่า 15-07-2019, 09:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ่ายไปกี่ครั้ง หลวงตาก็เหมือนเดิม พวกเอ็งน่ะแก่ไปเรื่อย พวกเหลน ๆ ถ่ายรูปไว้ดู คงเครียดไปตาม ๆ กันว่าตัวเองแก่ขึ้นเรื่อย ๆ หลวงตาก็อยู่เท่าเดิม

เดี๋ยวอีก ๒๐ ปีให้หลังมาดูรูปนี้ว่าโยมแก่ไปเท่าไร ส่วนอาตมานี่ไม่ต้องห่วง จะอยู่แค่นี้แหละ มีคนพยายามพิสูจน์ทราบมาเกิน ๓๐ ปีแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-07-2019 เมื่อ 10:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 75 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #69  
เก่า 15-07-2019, 09:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

(บอกกับผู้ที่ช่วยงานใกล้ชิด) ต้องบอกว่าซักซ้อมไว้ให้ดีแล้วจะยืนระยะได้ ของคุณเผลอหน่อยเป็นหลุด ไปอารมณ์เสียใส่โยมเขาอยู่เรื่อย

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
งานบวงสรวงไหว้ครูประจำปีและเป่ายันต์เกราะเพชร ณ วัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๒

(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-07-2019 เมื่อ 10:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 84 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:48



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว