กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #101  
เก่า 19-07-2019, 21:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,155 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เมื่อประสานกับทุกฝ่าย ที่ตรงนี้กลับได้มาง่าย ๆ กรมธนารักษ์ก็พยายามทำเรื่องที่จะให้เสียค่าเช่าให้ถูกที่สุด โดยการดึงเอาสำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดเข้ามาด้วย ให้สร้างอาคารสักหลังหนึ่ง ให้เป็นที่ทำงานของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด จะได้เป็นการขอใช้ที่ของหน่วยราชการซึ่งจะเสียค่าเช่าถูกมาก

ต่อไปถ้าหากว่าจะเรียนก็ต้องมีคนเดินทางเพิ่มขึ้นประมาณ ๒๐ กิโลเมตร แต่ก็จะได้ลงตัวสักที ขยับไปขยับมาเพิ่งจะมาลงตัวเอาปีนี้แหละ หนังสือแต่งตั้งจะสร้างตั้งแต่สมัยเฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ ๙ พระชนมายุ ๙๐ พรรษา ปรากฏว่า ๘๙ พรรษา พระองค์ท่านก็ไปแล้ว ถ้าจำไม่ผิด หลังจากแต่งตั้งอาตมาได้อาทิตย์หนึ่ง ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ก็สวรรคต

ถ้าเห็นหนังสือแต่งตั้ง จะเห็นว่ายังสร้างวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรี เพื่อเฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ ๙ พระชนมายุ ๙๐ พรรษา รวมแล้วเนื้อที่ตรงนั้นประมาณ ๑๓๖ ไร่ ก่อนหน้านี้ทางวัดถาวรวรารามของหลวงพ่อองสรภาณมธุรส ให้ที่ตรงบริเวณเขาตองไว้เกือบ ๑๒๐ ไร่เหมือนกัน ปรากฏว่าที่เขาสวยเกินไป คำว่าสวยเกินไปก็คือติดถนนยาว ๆ ไปเลย เป็นกิโลเมตร ซึ่งถ้าจะสร้างอาคารพาณิชย์หรืออะไรนี่จะสุดยอดมากเลย เพราะด้านหน้าติดถนนตลอดแนว

คราวนี้ถ้าหากว่าสร้างวิทยาสงฆ์ แล้วเราลองนึกดูว่า อาคารก็จะยาว ๆ ไปตามถนน จะไม่เหมาะ ต้องบอกว่าทางด้านหลวงพ่อองสรภาณมธุรสท่านเสียสละมาก ที่สวยขนาดนั้นยังยกให้สร้างวิทยาลัยสงฆ์ ที่ดินลักษณะอย่างนั้นถ้าให้เช่าทำอาคารพาณิชย์ก็รวยตายชักเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-07-2019 เมื่อ 03:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #102  
เก่า 19-07-2019, 21:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,155 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เมื่อไม่ได้ใช้ที่ของทางด้านวัดญวน ก็ต้องหาที่กันใหม่ ถึงได้ยืดเยื้อกันมาจนกระทั่งมาลงตัวเอาปีนี้

ตอนนี้มีปัญหาอยู่ก็คือว่า ที่ดินนั้นเราดูด้วยสายตา จะราบเรียบน่าสนใจมาก ที่สวยจริง ๆ แต่พอถึงเวลาจับระดับน้ำเพื่อจะสร้างอาคาร ตัวอาคาร ๓๐ เมตร หัวท้ายสูงต่างกัน ๒ เมตร..! ก็คงต้องถมดินกันเยอะ แล้วสถานที่ ถ้าถมดินก็มีโอกาสทรุดได้ คราวนี้มีอย่างเดียวก็คือ หาให้ได้ว่าจะต้องตีเสาเข็มกี่เมตร เอาให้อยู่ก่อน หลังจากนั้นพอถมดินขึ้นมาเสร็จสรรพเรียบร้อย ก็ใช้วิธีเหมือนอย่างกับก่อกำแพงกันดินทรุด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-07-2019 เมื่อ 03:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 145 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #103  
เก่า 19-07-2019, 22:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,155 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โยมถวายที่ดินให้พระอาจารย์ "อาตมาไม่คิดจะรับที่ดินใครเลย ส่วนใหญ่พวกเราถวาย เป้าหมายคือจะให้ไปสร้างวัด แล้วตูจะเอาเวลาที่ไหนไปสร้าง ? ถ้าหากว่าอยากจะสร้างวัด ไปถวายที่อื่นที่เขาคิดจะสร้าง ถวายอาตมาก็อยู่แค่นั้นทั้งปีทั้งชาติ อาจจะไม่ได้ทำอะไรเลย

พวกนี้ถ้าหากว่าโอนเป็นของวัดเมื่อไร ก็จะเป็นของสงฆ์ไปจนชั่วฟ้าดินสลาย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-07-2019 เมื่อ 14:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 156 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #104  
เก่า 19-07-2019, 22:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,155 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ทางด้านคุณวีรชัย เจ้าของเว็บพลังจิตแจ้งมาว่าทางแคลิฟอร์เนียจะถวายที่ให้ ๕ เอเคอร์ ก็บอกกับเขาไปว่า ถ้าตั้งใจให้สร้างวัดให้ไปถวายท่านอื่น แต่ถ้าถวายแล้วไม่รู้ว่าชาติไหนจะไปสร้างให้ อาตมาก็จะรับไว้

ปีที่แล้วเพิ่งจะปฏิเสธทางด้านเชียงรายไป ตรงนั้น ๒๒ ไร่ พื้นที่สวยมาก มีทั้งเขา มีทั้งห้วย ก็เลยบอกเขาว่าให้ขายทำรีสอร์ทหรือไม่ก็ถวายวัดอื่นไป ท้ายสุดเจ้าของก็ไปถวายหลวงพ่อเยื้อน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-07-2019 เมื่อ 03:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #105  
เก่า 20-07-2019, 20:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,155 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ของทุกอย่างต้องพอดีถึงจะก่อประโยชน์ มากเกินไปก็เป็นโทษ หลายคนรู้ว่าสิ่งนี้ดีก็กินไปเรื่อย กว่าจะรู้ก็เกือบตายแล้ว มีอยู่บ้านหนึ่งเป็นลูกคนจีน ได้แต่เห็นปู่ย่าตายายต้มน้ำรากบัวให้ลูกกิน ก็ไม่รู้ว่าเขาต้มให้กินแก้ร้อนใน ก็ต้มให้ลูกชายกินไปเรื่อย ลูกชายอายุ ๓๐ ปีหมดสมรรถภาพ เพราะว่ากินแต่ของเย็นเข้าไป ทำลายธาตุร้อนหมด ไฟราคะหมดเลย

ดังนั้น...ที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้นั้นใช้ได้ทุกอย่าง ต้องพอดีถึงจะเกิดประโยชน์ ขาดหรือเกินก็เป็นโทษ แต่พวกเราส่วนใหญ่ไม่มีคำว่าพอดี พออะไรเห่อขึ้นมาก็แห่ตามกัน ถั่งเช่าของแท้ยากที่จะปรากฏในโลก เพราะว่าบรรดาเศรษฐีจีนหรือเจ้าของร้านยาใหญ่ ๆ ไปจ่ายเงินให้ชาวบ้านล่วงหน้าแล้ว พอถึงเวลาขุดได้ต้องขายให้เขา ได้ของแท้มาปรากฏว่าได้มาแต่เปลือก เพราะว่าเขาเอาไปต้มสกัดเอาตัวยาไปหมดแล้ว เอาเปลือกมาตากแห้งขายให้เราอีกรอบหนึ่ง

ตอนไปทิเบต เขาขายเฉลี่ยตัวละ ๒,๕๐๐ บาท ต้มกินวันละ ๓ ตัว วันละเกือบหมื่น..! อาตมาก็ได้แต่นั่งหัวเราะ แพงขนาดนี้ตูไม่กินหรอก"

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-07-2019 เมื่อ 21:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #106  
เก่า 20-07-2019, 21:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,155 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "พิธีสามหาบคือเอาข้าวของเครื่องใช้ที่ควรแก่สมณบริโภค แล้วก็ข้าวปลาอาหารใส่หาบ ไปเดินวนรอบเมรุเรียกผู้ตาย ถามว่าเขาทำอย่างนั้นทำไม ? เผื่อว่าผู้ตายยังไม่ไปไหน ยังวนเวียนอยู่ จะได้มาทำบุญครั้งสุดท้าย ถึงเวลาเรียกวนครบ ๓ รอบก็มาประเคนพระ พระรับเสร็จก็ฉันตรงนั้นเลย แล้วให้พร

พิธีกรรมหลายอย่างที่โบราณเขาทำมีจุดมุ่งหมายชัดเจน เพียงแต่คนรุ่นหลังรู้ทันหรือเปล่า ? เห็นหาบเรียกผีเหย็ง ๆ ก็ไปคิดว่าเรียกทำไม ? ที่ตลกยิ่งกว่านั้นก็คือไม่มีใครหาบเป็นสักคน ท้ายสุดพระต้องไปแนะนำว่า เวลาคุณหาบเอามือขวาจับกระจาดหน้า มือซ้ายไขว้ไปจับกระจาดหลัง เวลาหาบต้องย่อตัวหน่อยหนึ่ง จังหวะไม้คานจะเด้งพอดีกับจังหวะเดินของเรา

พวกนี้ไม่เคยหาบ เด็กบ้านนอกอย่างอาตมาหาบมาเยอะแล้ว โดยเฉพาะหาบน้ำ ถึงเวลาน้ำกินน้ำใช้ในบ้านต้องไปเอาในบ่อ หาบแล้วเดินมา ยิ่งลูกเจ๊กอย่างอาตมาส่วนใหญ่ทำไร่ผัก ต้องหาบน้ำรดผักเดินกันจนน่องโต"


__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-07-2019 เมื่อ 10:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 151 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #107  
เก่า 20-07-2019, 21:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,155 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เห็นเขาทำอะไรไม่ค่อยเป็น ก็เลยสงสัยว่าทำไมตูทำเป็นทุกเรื่องเลย ? ถึงได้บอกว่าภูมิใจในความเป็นเด็กบ้านนอก จะหาอยู่หากินอย่างไรก็ต้องเป็น ถ้าไม่เป็นก็อด โดยเฉพาะการเรื่องวางกับดักสัตว์ สุดยอดมือฉมังเลย มีไอ้บ้าที่ไหนถือเบ็ดตกปลาลุยน้ำลงไปครึ่งตัวยังตกได้กิน สร้างเวรสร้างกรรมอะไรขึ้นได้ขนาดนั้น...! ปกติคนลงน้ำปลาก็หนีหมดแล้ว ผู้ใหญ่เขายึดทำเลดี ๆ บนริมฝั่งหมด อาตมามองซ้ายมองขวาไม่มีที่ดี ๆ เหลือเลย จึงลุยลงไปกลางน้ำ แช่น้ำอยู่ครึ่งตัวตกปลา

สิ่งที่โบราณเขาบอกว่าส่วนใหญ่เป็นภูมิปัญญาที่ตกผลึกแล้ว มักจะเป็นความจริงเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ท่านบอกว่าลำบากก่อนแล้วสบายเมื่อปลายมือ พอทำเรื่องยากได้แล้วต่อไปไม่มีอะไรยากเกินนั้นอีก ถึงเวลาอาตมามักจะวิ่งหางานยากทำ ส่วนพวกเรามักจะหาที่ง่าย ๆ หรือไม่ก็อู้ไม่ต้องทำได้เลยยิ่งดี ความสำเร็จถึงได้ต่างกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-07-2019 เมื่อ 10:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 151 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #108  
เก่า 20-07-2019, 21:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,155 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เรื่องของการปฏิบัติธรรมเป็นการทวนกระแส ไม่สังเกตหรือว่าเรานั่งหลับตาเมื่อไรก็จะมีเสียงว่า “อยากจะเป็นพระอรหันต์หรือ ?” “อยากจะบรรลุหรืออย่างไร ?” “เดี๋ยวก็บ้าหรอก” สารพัดจะว่า ในเมื่อทวนกระแสก็ต้องแกร่งพอ โดนเขาว่าต้องไม่ยุบ มีใครเคยอ่านไหม ? เรื่อง "ปากคน" ที่อาตมาเขียนไว้ ตั้งแต่พรรษาแรกเลยนะ

เมื่อแรกทำความดีสิ่งที่พบ........คือประสบความเจ็บปวดรวดร้าวแสน
ถูกเยาะเย้ยถากถางทั้งดินแดน.........ซ้ำหมิ่นแคลนดั่งเราไซร้ไร้ฝีมือ
คนทำดีมีเท่าใดหล้าโลก................คิดว่าโชคจะเข้าข้างเจ้าหรือ ?
อยากจะเป็นคนดีที่โลกลือ..............ช่างซื่อบื้อน่าทุเรศสังเวชใจ ฯ


ไปหาอ่านเอา..ยังเหลืออีกครึ่งหนึ่ง

เขียนมา ๓๔ ปีแล้ว ๓๔ ปีแล้วยังจำได้ นั่นก็คือประสบการณ์จริงที่เจอมา คือนอกจากไม่ยินดี ไม่โมทนาด้วยแล้ว ยังสารพัดจะเยาะเย้ยถากถาง แม้กระทั่งคนในครอบครัวเดียวกันก็เป็น แต่ถ้าเราฝ่าฟันฝืนสู้ไป ท้ายที่สุดก็จะประสบความสำเร็จ ต้องสู้ทนจนถึงครายามฟ้าคืน กลับพลิกฟื้นเป็นรุ้งทองผ่องอำไพ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-07-2019 เมื่อ 10:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #109  
เก่า 20-07-2019, 22:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,155 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"อาตมากับพระครูแสง (พระน้องชาย) นอนอยู่ห้องเดียวกัน อาตมาก็ฝึกกสิณของตัวเองไป เจ้านั่นวันดีคืนดีก็โผล่หน้ามา “ใกล้จะบ้าแล้ว” คราวนี้พอตัวเองบวชได้ ๓-๔ พรรษาก็มาบ่น “รู้อย่างนี้ผมทำอย่างหลวงพี่ตั้งแต่ตอนนั้น..ผมก็สบายแล้ว” “อ้าว...ก็ตอนนั้นเอ็งว่าข้าบ้าไม่ใช่หรือ ?”

ตอนที่ฝึกกสิณใจจะคลาดจากดวงกสิณไม่ได้ ก็ต้องมีดวงกสิณอยู่รอบทิศรอบทาง แม้กระทั่งหลังคามุ้งนอนอยู่ก็ต้องเห็น คราวนี้สิ่งที่ทำไม่เหมือนเด็กวัยรุ่น เด็กวัยรุ่นที่ไหนจะมาตั้งหน้าตั้งตาฝึกกรรมฐาน ก็มีแต่กินแต่เที่ยว ทุกคนเลยว่าบ้า เพื่อนฝูงก็ว่าบ้า ครูบาอาจารย์ก็ว่าบ้า คนในครอบครัวก็ว่าบ้า ก็สำคัญที่ว่าเรามั่นคงแค่ไหน ? รู้จริงหรือไม่ว่าสิ่งที่ทำมีประโยชน์ ? ถ้ารู้จริงก็ไม่จำเป็นต้องฟังใคร ก็บ้าของเราไปเรื่อย ๆ ท้ายสุดคนอื่นก็ต้องบ้าตามเราเอง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นายกระรอก : 23-07-2019 เมื่อ 13:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 154 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #110  
เก่า 20-07-2019, 22:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,155 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ส่วนใหญ่พอพวกเราโดนหน่อยก็ไม่ไหวแล้ว เลิกดีกว่า...เกรงใจกิเลส แต่ถ้ารู้ว่าสิ่งที่เราทำจะเป็นทุกข์เป็นโทษกับคนอื่นก็แอบทำ ฝึกฝนมาจนป่านนี้แล้วปัญญาต้องมี อย่าไปทำต่อหน้าคนอื่น ไม่อย่างนั้นแล้วต่อให้เราไม่ได้คิด ไม่ได้พูดอะไรที่เป็นโทษกับเขา แต่โทษก็จะเกิด เพราะเขาคิด เขาพูด เขาทำกับเรา

ถึงเวลารักษาศีลก็ไม่จำเป็นต้องไปบอกว่าเรารักษาศีล เขาชวนกินเหล้าก็ “กินไม่ได้หรอก แพ้แอลกอฮอล์” ถ้ายังจะตื๊ออีกก็บอกว่า “หมอบอกว่าคนที่แพ้แอลกอฮอล์กินเข้าไปก็ถึงตาย” นั่นคนแพ้แอลกอฮอล์...ไม่ใช่เรา ส่วนเราแพ้เพราะว่าเราไม่กิน ถึงเวลาเหมือนอย่างกับน้ำกลิ้งบนใบบอน ก็กลิ้งไปได้เรื่อย

ถึงเวลารักษาศีล ๘ เขาชวนกินข้าวเย็น ก็ไม่จำเป็นต้องไปบอกว่ารักษาศีล ๘ ก็บอกว่า “อ้วนแล้ว ขอลดความอ้วนหน่อย ตอนนี้ยังไม่กินข้าวเย็น” อันนี้เขารับได้ แต่ถ้าบอกว่ารักษาศีล ๘ เขาจะมองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเลย กลายเป็นสัตว์ประหลาดไป"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-08-2019 เมื่อ 03:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #111  
เก่า 23-07-2019, 23:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,155 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันนี้หลวงพี่มหาเอถวายทองคำ น่าจะประมาณ ๒๕ บาท ให้เนื่องในวันเกิด ถ้ารู้ว่าวันเกิดเขาให้อะไรเยอะขนาดนี้อาตมาคงเกิดไปนานแล้ว เพราะว่าจนป่านนี้ยังไม่ได้กลับวัดไปดูเลย เมื่อคราวงานวัดรับมาก็แยก ๆ ใส่กะละมังไว้ จำได้ว่ามีพระเลี่ยมทองหลายองค์ ยังไม่ได้ดูว่ามีอะไรบ้าง เวลาจะดูยังไม่มีเลย ถ้าอยู่ถึงก็พบกันอีกทีตอนอายุ ๗๒ ปี จะจัดงานวันเกิดอีกรอบหนึ่ง พยายามกัดฟันหายใจไว้ เดี๋ยวก็ถึงเอง แค่อีก ๑๒ ปีเท่านั้น..!

พอถึงเวลาวีซ่าหมด ถ้าต่อไม่ทัน ก็ขอบ๊ายบายไปก่อน อาตมาสร้างเวรสร้างกรรมไว้เยอะ ตั้งแต่อายุ ๒๗ ปีก็หมดวาระแล้ว ที่อยู่มาจนบัดนี้ใช้วีซ่ามาตลอด ตอนตายเพื่อนผู้หญิงเห็น โอ๊ย...ใจคอไม่ดี จะขาดใจตายแทน พออาตมาฟื้นคืนมาใหม่ ดันหัวเราะเยาะอาตมาเหมือนคนบ้าเลย..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2019 เมื่อ 02:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 145 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #112  
เก่า 23-07-2019, 23:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,155 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"จริง ๆ แล้วเพื่อนหญิงคนนี้เขาเป็นนักปฏิบัติที่สุดยอดมาก เป็นคู่แข่งกัน คราวนี้อาตมารู้ว่าบอกไปแล้วเขารับได้ ก็เลยบอกว่าวันนี้หมดอายุ จะตายวันนี้แหละ เขาก็เฝ้าดู ตอนไปเขาทำท่าจะตายแทน พอฟื้นคืนมาใหม่ ดีใจเป็นไอ้บ้าไปเลย สรุปว่าไล่อาตมาไม่ทัน ยินดียินร้ายมากเกินไป กำลังใจไม่มั่นคง โดนอาตมาแซงเลย ไม่อย่างนั้นปกติแล้วหนีกันไม่พ้น อาตมาได้อะไรเขาได้อย่างนั้น เขาได้อะไรอาตมาได้อย่างนั้น

ที่ชอบที่สุดก็คือ เวลาไปหาท่านที่ทำได้มากกว่า ทั้งสองคนนิสัยขโมยเหมือนกัน ถ้าคนที่ทำได้มากกว่าเล่าให้ฟังว่าทำแบบไหน พวกเราจะทำได้เดี๋ยวนั้น ขโมยกันต่อหน้าต่อตา ทั้งสองคนเป็นเหมือนกัน ฟังอารมณ์ปฏิบัติของรุ่นพี่หรือรุ่นอาจารย์ เขาทำถึงตรงไหน อาการเป็นอย่างไร จะขโมยมาต่อหน้าต่อตาเลย ทำได้เหมือนเขาเดี๋ยวนั้นเลย

ตรงจุดนี้ต้องบอกว่า เกิดจากคุณูปการที่ฝึกสมาธิไว้มาก เหมือนคนมีเงินเยอะ พอจะซื้ออะไร ถ้าเขาซื้อได้ บอกว่าซื้อได้ด้วยวิธีนี้ พวกเราก็ควักกระเป๋าซื้อเลย ถึงได้กล้ายืนยันว่าสมาธิเป็นคำตอบในการปฏิบัติเกือบทุกอย่าง ยกเว้นตอนเปลี่ยนอารมณ์เป็นพระอริยเจ้าเท่านั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2019 เมื่อ 03:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 141 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #113  
เก่า 23-07-2019, 23:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,155 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ฉะนั้น...ใครบอกว่าฝึกสมาธิมากจะติดในสมาธิ คนพูดประเภทยังทำไม่ได้จริง ถ้าทำได้จริงต้องรู้ว่าสมาธิมีคุณค่าอย่างไร ขนาดพระพุทธเจ้ายังยืนยันว่าถ้าทรงฌานได้ มารจะมองไม่เห็น รัก โลภ โกรธ หลง โดนกดดับชั่วคราว กิเลสต่าง ๆ เกิดไม่ได้ชั่วคราว แล้วมารที่ไหนจะครอบงำได้ ? หลังจากนั้นก็อาศัยกำลังสมาธิมาช่วยในการพิจารณาตัดกิเลส

ถ้าหากว่าพวกเรามีคู่แข่งในการปฏิบัติลักษณะเดียวกับอาตมา จะทำอะไรได้เร็วมาก เพราะว่าไม่อย่างนั้นเราจะตามเขาไม่ทัน มีอยู่อย่างหนึ่งก็คือหนีเขาได้ไหม ? ถ้าหนีเขาไม่ได้ต้องตามเขาให้ทัน พอดีอาตมาโชคดีเจอคู่แข่งลักษณะนั้นเข้า เจอหน้ากันแต่ละทีก็มาไล่อารมณ์การปฏิบัติกัน ที่หลวงพ่อฤๅษีท่านใช้คำว่า ถึงเวลาแล้วยันกัน ก็คือความรู้เท่ากัน ไม่มีใครได้มากกว่า ของอาตมาก็หมดกระเป๋าพอดี ของเขาก็หมดกระเป๋าพอดี มีคู่แข่งแล้วจะกระตือรือร้น ถ้าไม่มีก็ต้องแข่งกับตัวเอง

จริง ๆ แล้วสมาธิในการเล่นเกมส์ บางคนระดับนิโรธสมาบัติเลย เห็นเด็กฝรั่งคนหนึ่งที่เล่นเกมจนตาย เล่นต่อเนื่องกันเป็นเดือน กำลังระดับนั้นถ้าเอามาตัดกิเลสก็บรรลุไปนานแล้ว

ถึงเวลาอาตมากับเขาก็นั่งคุยนั่งไล่อารมณ์การปฏิบัติกัน พ่อเขาก็สงสัย มาจีบลูกสาวทำไมไม่เอ่ยปากขอเสียที ถึงเวลาก็หิ้วกาน้ำชา ถือถ้วยมา นั่งซดน้ำชาไป ๒ กา "คุยอะไรกันวะ ? ฟังไม่รู้เรื่อง ไปดีกว่า" ก็พ่อเขาไม่ใช่นักปฏิบัติ คิดว่าอาตมาไปจีบลูกสาวเขา

พวกเราถ้าไม่มีใครเป็นคู่แข่ง ก็ให้แข่งกับตัวเอง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2019 เมื่อ 03:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 142 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #114  
เก่า 24-07-2019, 17:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,155 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “ญาติโยมที่ซื้อเทียนพรรษามาถวาย ไม่ต้องเอาแบบแกะลายมา แบบแกะลายนั้นแพง จะแกะหรือไม่แกะมา อาตมาก็หลอมทำผางประทีปหมด เพราะฉะนั้น...ลายจึงไม่มีประโยชน์ ยกเว้นว่าชอบของสวยก็ว่าไปอีกอย่าง”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-07-2019 เมื่อ 03:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 135 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #115  
เก่า 24-07-2019, 17:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,155 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “เมื่อวานหลวงปู่ปวง สมณศักดิ์ คือ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ สมเด็จพระราชาคณะชั้นหิรัญบัฏ วัดศรีโคมคำ จังหวัดพะเยา ท่านมรณภาพด้วยอายุ ๑๐๒ ปี พรรษา ๘๒

ต้องบอกว่าเป็นพระเถระที่อาวุโสพรรษาสูงสุดในประเทศของเรา แต่ยังไม่ทำลายสถิติ สถิติเดิมเป็นของหลวงปู่สี ฉนฺทสิริ วัดเขาถ้ำบุญนาค อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ท่านมรณภาพอายุ ๑๒๘ ปี พรรษา ๘๘ คนเราจะอยู่ให้ได้ ๘๘ ปีก็ยากแล้ว นี่เฉพาะที่บวช ๘๘ ปี..!

หลวงปู่สีท่านเคยบวชตามประเพณี เสร็จแล้วก็สึกมามีครอบครัว มีลูกมีเมีย ทำมาหากินเหมือนคนอื่นเขา จนอายุ ๔๐ ปี ท่านเห็นว่าแก่มากแล้ว ลูกเมียครอบครัวก็ไม่เดือดร้อนอะไรแล้ว จึงขอไปบวช กะว่าจะตายในผ้าเหลือง ท่านกลับอยู่มาอีก ๘๘ ปี หลวงปู่มรณภาพตอนอายุ ๑๒๘ ปี อาตมาตอนนั้นยังไม่ได้เศษอายุของท่านเลย”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-07-2019 เมื่อ 03:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 131 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #116  
เก่า 24-07-2019, 17:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,155 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงปู่ท่านมรณภาพปีไหนครับ ?
ตอบ : จำไม่ได้ น่าจะปี ๒๕๒๐ ตอนนั้นอาตมายังไม่ได้เศษ ๆ ๒๘ ปีของท่านเลย อย่าว่าแต่ร้อยปี จำได้แต่ว่าพระน้องชายตอนนั้นยังเป็นวัยรุ่นอยู่ด้วยกัน พาไปตามหาเหรียญหลวงปู่ เพราะว่าของหลวงปู่ท่านเหนียวชนิดเชื่อขนมกินได้ ขนาดชานหมากท่านเคี้ยวอยู่ในปาก คายออกมาเดี๋ยวนั้น ทหารชักปืนลองยิง ไม่ออกสักนัดเดียว..!

ไปหาเหรียญหลวงปู่กัน ตอนนั้นเหรียญนวโลหะของท่านราคา ๘๐ บาท ในความรู้สึกของอาตมาคือ โคตรแพงเลย..! เพราะว่าช่วงวัยรุ่นนั้นทำงานเป็นลูกจ้างรายวัน วันละ ๒๕ บาท เหรียญหลวงปู่ราคา ๘๐ บาท เท่ากับค่าแรงสามวันกว่า

ด้วยความที่เป็นเด็ก เงินทองก็ไม่ได้มีมาก จ่ายค่ารถไปกลับแล้ว เหลือเงินบูชาเหรียญท่านได้เหรียญเดียว ...(หัวเราะ)... ตอนหลังเก็บเงินได้ใหม่ก็ไปใหม่ ไปบูชาพระปิดตาท่านมา ปรากฏว่าใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อตอนซ่อมรถ ตอนถอดเสื้อทำงาน เอาเสื้อพาดประตูรถไว้ ถึงเวลาเปิดปิดประตูรถเพื่อเข้าออกทำงาน ดันไปหนีบพระของท่านแตก ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร แตกเป็นชิ้น ๆ แล้ว จึงกลืนลงท้องไปเลย ...(หัวเราะ)...
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-07-2019 เมื่อ 03:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 130 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #117  
เก่า 24-07-2019, 17:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,155 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สมัยที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านรวมพระสุปฏิปันโน เพื่อให้ลูกหลานได้ทำบุญกับเนื้อนาบุญชั้นสุดยอด พี่อรรณพตอนนั้นมียศร้อยตำรวจโท ยังเป็นตำรวจตระเวนชายแดนอยู่ ตอนหลังพี่อรรณพย้ายจาก ตชด. มาอยู่ส่วนกลาง พี่อรรณพเป็นคนไปนิมนต์หลวงปู่ หลวงปู่ท่านบอกว่า “ตัวไปไม่ได้” คำว่าตัวไปไม่ได้ก็คือ ร่างกายไปไม่ไหว เพราะว่าท่านอายุเป็นร้อยปีแล้ว ท่านอั้นปัสสาวะไม่ได้ ถ้าปวดนี่ต้องเข้าห้องน้ำเดี๋ยวนั้นเลย จึงไปงานเขาลำบาก แต่ท่านก็มอบสังฆาฏิของท่านมาให้ทำวัตถุมงคล

หลวงปู่สีท่านเล่าว่าที่ท่านอายุยืนมาก เพราะว่าช่วงธุดงค์ตอนอยู่รอยต่อไทย–พม่า ท่านไปเจอชาวลับแล เขาทำยาอายุวัฒนะกินกัน หลวงปู่ไปถึง เขากินกันเสร็จแล้ว เขาก็เลยรวบรวมเศษ ๆ ที่หกติดใบไม้อยู่ให้หลวงปู่ฉันเข้าไป นั่นขนาดกินเศษนิดเดียว อายุถึง ๑๒๘ ปี ถ้ากินเต็มที่ตามสูตรเขา ไม่รู้ว่าจะอายุเท่าไร..!?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-07-2019 เมื่อ 03:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 129 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #118  
เก่า 24-07-2019, 17:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,155 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลังจากหลวงปู่สีแล้ว ก็ไม่มีพระมหาเถระที่อายุขัยยืนยาวขนาดนั้นอีก ส่วนใหญ่ก็อยู่ที่ร้อยปี ร้อยปีนิดหน่อย ก็จะมีหลวงปู่สุภา วัดเขารัง จังหวัดภูเก็ต ท่านอายุได้ ๑๑๔ ปี ส่วนหลวงปู่น้อย วัดภูกำพร้า กับหลวงปู่ละมัย ที่เพชรบูรณ์ อันนั้นท่านไม่มีหลักฐาน มีแต่วาจา บอกว่าอายุเท่านั้นเท่านี้

อีกท่านหนึ่งก็คือ หลวงปู่สรวง ออยเตียนสรูล มีแต่คนบอกว่า ตอนปู่ย่าตาทวดเป็นเด็กก็เห็นหลวงปู่อยู่แล้ว จนกระทั่งมารุ่นหลาน ๆ แก่หมด หลวงปู่ก็ยังอยู่ ก็เลยไม่รู้ว่าท่านอายุเท่าไร ? นี่ก็มีแค่คำบอกเล่า เพราะว่าหลักฐานชัดเจนไม่มี ถ้าหากว่าอย่างของหลวงปู่สี หลักฐานชัดเจนนั้นมี เพราะว่ามีบันทึก มีหนังสือสุทธิในการบวช แม้ว่าหนังสือสุทธิจะมามีในปี ๒๔๘๐ แต่ว่าหลวงปู่ก็ไปขึ้นทะเบียนลงประวัติไว้ชัดเจน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-07-2019 เมื่อ 03:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 129 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #119  
เก่า 24-07-2019, 17:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,155 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “ถ้าจากประสบการณ์ของอาตมาเอง ชาวลับแลมีอยู่ทั่ว ๆ ไป เหมือนอย่างกับว่าเขาซ้อนอยู่กับโลกของเรานี่แหละ เพียงแต่ว่าเขาจะเปิดให้เราเข้าไปหรือเปล่า ? ถ้าไม่เคยมีเวรมีกรรมเนื่องกันมาก็ไม่มีโอกาสได้เข้าไป

ที่รอยต่อระหว่างจังหวัดสุพรรณบุรี กาญจนบุรี กับอุทัยธานี มีอยู่จุดหนึ่งเรียกว่า เขาเทวดา ตรงนั้นเป็นแดนลับแล ชาวบ้านเขาบอกว่า ก่อนหน้านี้พวกชาวลับแลยังออกมาช่วยเกี่ยวข้าว ช่วยนวดข้าว แต่พอผู้ชายไปวุ่นวายกับสาวของเขามาก ๆ เขาก็เลยไม่ออกมาอีก ช่วงที่ยังเป็นพระใหม่เดินธุดงค์อยู่ อาตมาก็เตือนรุ่นน้องว่า ตรงจุดนั้นถ้าจะเข้าไปต้องระวังให้ดี เพราะถ้าพลาดจะหลุดเข้าไปในเขตของลับแล”

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-07-2019 เมื่อ 03:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 125 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #120  
เก่า 24-07-2019, 17:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,155 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

“ปรากฏว่ารุ่นน้องจากวัดท่าซุงคือ พระสหชาติ สุธมฺมเทวธฺมโม ท่านธุดงค์ไปเจอชาวบ้านแล้วถามทาง เดินหายไปหนึ่งวันกับอีกหนึ่งคืน ออกมาแล้วบอกสั้น ๆ แค่ว่า "หลงทาง" แล้วไม่พูดเรื่องอะไรอีกเลย ส่วนอีกท่านคือ ท่านชาติชาย สุธมฺมธนปาโล ก็รุ่นน้องที่วัดท่าซุงเหมือนกัน ท่านบอกว่าก้มหน้าก้มตาเดินแล้วรู้สึกผิดปกติ เพราะว่าแสงสว่างไม่เหมือนกับดวงอาทิตย์ คือสว่างมาทุกทิศทุกทาง ไม่มีเงา ท่านก็เลยรีบถอยออกมา ท่านบอกว่าตอนที่เดินเข้าไป ดูนาฬิกาแล้วประมาณแปดโมงครึ่ง แค่ไม่กี่นาทีถอยออกมา เกือบบ่ายสองโมง ระยะเวลาของเขาต่างกับเรามาก

ส่วนอาตมาเองนั้นไปเจอที่ทางฝั่งพม่า วันพระญาติโยมเขามาทำบุญกันมาก ดูวุ่นวาย อาตมาก็หลบไปหลังวัด นั่งกรรมฐานเงียบ ๆ อยู่คนเดียว ปรากฏว่ามีคนโผล่มาตรงหน้า เห็นแล้วผิดปกติ มาลักษณะอย่างนี้ จู่ ๆ มาปรากฏอยู่ตรงหน้า ไม่น่าจะใช่คนทั่วไป ก็เลยถามว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน ? เขาบอกว่าเขาเป็นหัวหน้าชาวลับแลอยู่ตรงจุดนั้น ก็เลยถามเขาว่าการปรากฏตัวแบบนี้ เป็นอภิญญาหรือกัมมวิปากชาฤทธิ์ ?”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-07-2019 เมื่อ 03:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 126 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:31



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว