กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 18-02-2024, 18:24
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,532
ได้ให้อนุโมทนา: 216,752
ได้รับอนุโมทนา 743,757 ครั้ง ใน 36,244 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 19-02-2024, 00:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,566
ได้ให้อนุโมทนา: 151,672
ได้รับอนุโมทนา 4,410,921 ครั้ง ใน 34,156 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปยังสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษีแต่เช้ามืด เพื่อทำการบวงสรวงบูชาพระรัตนตรัย และปลุกเสกวัตถุมงคลให้กับพระวินัยธรจิตศิลป์ เหมรํสี, ดร. เหตุที่ต้องรีบไปตั้งแต่เช้ามืดเช่นนั้น ก็เพราะว่ายังมีภารกิจต่อเนื่องอีกหลายแห่ง เมื่อเสร็จจากการปลุกเสกวัตถุมงคลแล้ว พระวินัยธรจิตศิลป์, ดร.ถวายปัจจัยมา ๑๐๐,๐๐๐ บาท

เรื่องนี้กระผม/อาตมภาพรับมาก็ไม่ได้รู้สึกดีใจนัก เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าบรรดาศิษยานุศิษย์ต่าง ๆ นั้น ต่างก็พยายามที่จะช่วยกันแบ่งเบาภาระของกระผม/อาตมภาพ ตามกำลังที่ตนทำได้ การถวายปัจจัยในครั้งนี้ก็เช่นกัน แต่กระผม/อาตมภาพนั้นเกรงว่า
ในเมื่อตนเองไม่บอกบุญ ไม่เรี่ยไร ผู้อื่นไปดำเนินการแทนในลักษณะอย่างนี้ จะทำให้เกิดความเดือดร้อนขึ้นในหมู่ลูกศิษย์หรือไม่ ?

จะว่าไปแล้ว ก็อาจจะเป็นการฟุ้งซ่านไปล่วงหน้าของกระผม/อาตมภาพเองก็ได้ เพราะว่าบรรดาลูกศิษย์แต่ละท่าน ก็ได้อยู่รับการอบรมสั่งสอนไปหลายปี กว่าที่จะออกไปเป็นเจ้าสำนักต่าง ๆ แต่ว่าส่วนหนึ่งก็ต้องบอกว่า ท่านทั้งหลายเหล่านั้น "ยังไม่สุกงอม" ในเมื่อเป็นเช่นนั้น โอกาสที่จะทำผิดทำพลาดก็ย่อมมีอยู่ กระผม/อาตมภาพจึงค่อนข้างที่จะเป็นห่วง เมื่อเห็นในสิ่งที่ท่านทั้งหลายเหล่านั้นคิดจะแบ่งเบาภาระ ด้วยการหาเงินหาทอง
มาถวาย เพื่อกระผม/อาตมภาพจะได้นำไปใช้จ่ายในง่านต่าง ๆ แบบนี้

เมื่อออกมาจากเกาะพระฤๅษีแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เดินทางไปยังวัดตะคร้ำเอน ตำบลตะคร้ำเอน อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อร่วมงานวันบูรพาจารย์ของวัดตะคร้ำเอน โดยนำปัจจัย ๑๐๐,๐๐๐ บาท ไปถวายแก่หลวงพ่อโท (พระครูวิสาลกาญจนกิจ) เจ้าอาวาสวัดตะคร้ำเอน รองเจ้าคณะอำเภอท่ามะกา เพื่อร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างอุโบสถไม้หลังใหม่ของวัดตะคร้ำเอน

หลวงพ่อโทนั้น อายุกาลผ่านวัยก็มาถึง ๗๖ ปีแล้ว ท่านตั้งใจจะสร้างเป็นผลงานชิ้นสุดท้าย ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงต้องใช้ปัจจัยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเสาอุโบสถซึ่งทั้งสูงทั้งใหญ่นั้น เป็นไม้สักทองทั้งสิ้น กระผม/อาตมภาพเมื่อได้คุยกับท่านเมื่อวันก่อน ปรารภมาถึงเรื่องนี้ ก็บอกว่า กระผม/อาตมภาพจะร่วมบุญในการสร้างอุโบสถไม้หลังประวัติศาสตร์กับท่านด้วย วันนี้จึงนำเอาปัจจัยจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท มาถวายให้กับท่านตามที่ได้ตั้งใจไว้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-02-2024 เมื่อ 03:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 19-02-2024, 00:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,566
ได้ให้อนุโมทนา: 151,672
ได้รับอนุโมทนา 4,410,921 ครั้ง ใน 34,156 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลังจากที่พิจารณาผ้าไตรบังสุกุลในงานวันบูรพาจารย์ของวัดตะคร้ำเอนแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ขอตัวเดินทางต่อไปยังวัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) นำเอาปัจจัยอีก ๑๐๐,๐๐๐ บาท ไปถวายต่อพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ เพื่อสนับสนุนงานอบรมบาลีก่อนสอบประจำปี ๒๕๖๗

เนื่องเพราะว่างานอบรมบาลีนั้น มีการถวายภัตตาหารแก่พระภิกษุสามเณรผู้เข้าอบรม รวมทั้งพระวิทยากร ประมาณ ๕๐๐ รูป ถือว่าเป็นมหาสังฆทานอันยิ่งใหญ่ ซึ่งเราควรจะฉวยโอกาสได้ทำบุญในครั้งนี้ไว้ แล้วในขณะเดียวกัน ก็ช่วยแบ่งเบาภาระของผู้บังคับบัญชา ก็คือหลวงพ่อเจ้าคุณแย้ม ซึ่งหลายท่านเรียกกันง่าย ๆ แบบนี้ด้วยความเคารพนับถือเป็นการส่วนตัว

เนื่องจากว่าแต่ละมื้อ แต่ละงานนั้น ล้วนแล้วแต่มีค่าใช้จ่ายในระดับเป็นแสนบาท แล้วการอบรมบาลีก่อนสอบนั้นก็มีถึง ๑๗ วันด้วยกัน แต่ละวัน ถ้าหากว่าจ่ายค่าอาหาร ๑๐๐,๐๐๐ บาท ท่านต้องคิดว่าเป็นเงินเท่าไร ต่อให้วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) มีมูลนิธิอยู่ แต่ว่าการเบิกเงินจากมูลนิธิ ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปโดยยาก เพราะว่าไม่สามารถที่จะเบิกเงินต้นได้ แล้วการเบิกดอกผลออกมา เพื่อทำการบุญต่าง ๆ นั้น ก็ต้องมีคณะกรรมการที่จะประชุมลงความเห็นว่า งานนี้จะอนุมัติหรือไม่อนุมัติให้เบิกจ่ายได้เท่าไร เป็นต้น

ท่านทั้งหลายจะเห็นว่า กระผม/อาตมภาพนั้นเป็นบุคคลที่ใช้เงินไม่คิด เพิ่งจะรับมา ๑๐๐,๐๐๐ บาท ยังไม่ถึงครึ่งวัน ก็จ่ายออกไป ๒๐๐,๐๐๐ บาทแล้ว..!
เรื่องพวกนี้ถ้าหากว่าท่านที่เป็นฆราวาส จะต้องยั้งคิดว่า การทำบุญของเรานั้น ทำให้ตนเองและคนรอบข้างเดือดร้อนหรือไม่ ? ส่วนกระผม/อาตมภาพ ในฐานะของพระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนานั้น จะว่าไปแล้ว เงินเป็นส่วนเกินในชีวิต มีแต่จะสร้างภาระให้เสียด้วยซ้ำไป กระผม/อาตมภาพเองจึงมักจะใช้เงินแบบไม่คิดอย่างนี้

ยังดีที่ว่าวันนี้ในช่วงบ่ายมีการประชุมคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมินั้น ตัวกระผม/อาตมภาพซึ่งได้รับการประสานงานจากท่านเจ้าคุณอาจารย์มีชัย - พระธรรมวชิรเมธี (มีชัย วีรปญฺโญ ป.ธ.๙, ผศ.ดร.) เจ้าคณะภาค ๑ เจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนาราม ซึ่งท่านเองเป็นครูบาอาจารย์ในสังกัดของวิทยาลัยสงฆ์บาฬีพุทธโฆส ได้ติดต่อขอนำพระนิสิตโครงการทุนเล่าเรียนหลวง สาขาวิปัสสนาภาวนา ไปเดินธุดงค์ธรรมยาตราที่ทางอำเภอทองผาภูมิ เป็นเวลา ๑ อาทิตย์ ก็คือตั้งแต่วันที่ ๕ มีนาคม ถึงวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๗ นี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-02-2024 เมื่อ 03:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 19-02-2024, 00:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,566
ได้ให้อนุโมทนา: 151,672
ได้รับอนุโมทนา 4,410,921 ครั้ง ใน 34,156 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพจึงจัดให้เดินธุดงค์จากวัดท่าขนุนไปวัดวังปะโท่ จากวัดวังปะโท่ไปวัดนพเก้าทายิการาม จากวัดนพเก้าทายิการามเข้าไปยังสำนักสงฆ์ถ้ำโป่งช้าง แล้วหลังจากนั้นก็เดินธุดงค์ย้อนรอยถอยหลังกลับมา ทำการปิดโครงการที่วัดท่าขนุน

โดยได้รับความเมตตาจากทางท่านพระครูสุตกาญจนวัฒน์. ดร. เจ้าอาวาสวัดวังปะโท่ เป็นกำลังใหญ่ในการถวายภัตตาหารเช้า - เพล ในช่วงที่อยู่ที่วัดวังปะโท่

ได้รับความเมตตาจากพระสมุห์ณัฐพสิษฐ์ ปญฺญาคโม เจ้าสำนักสงฆ์ถ้ำโป่งช้าง เลขานุการรองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ รับภาระถวายภัตตาหารเช้า - เพล ในขณะอยู่ที่สำนักสงฆ์ถ้ำโป่งช้าง

พระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ และพระครูกิตติกาญจนคุณ เจ้าคณะตำบลปิล็อก เจ้าอาวาสวัดนพเก้าทายิการาม รับภาระถวายภัตตาหารเช้า - เพลในช่วงอยู่ที่วัดนพเก้าทายิการาม

พระครูกาญจนปัญญาวุฒิ รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ วัดเขื่อนวชิราลงกรณ จะถวายน้ำปานะทั้งขาไปและขากลับ ช่วงผ่านวัดเขื่อนวชิราลงกรณ จึงทำให้กระผม/อาตมภาพนั้น เบาในเรื่องภาระไปเป็นอันมาก รับผิดชอบภาระเฉพาะช่วงที่ท่านมาพักอยู่ที่วัดท่าขนุน ในช่วงวันที่ ๕ และขากลับในวันที่ ๑๑ เท่านั้น

ท่านทั้งหลายจะเห็นว่า แม้แต่คณะสงฆ์ของเรา ก็ยังมีการสร้างกองบุญการกุศลเป็นปกติ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ว่า สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย การสั่งสมบุญนั้นย่อมนำมาซึ่งความสุข

แม้แต่หลวงปู่สมเด็จพระสังฆราช (ญาโณทยมหาเถร) วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ก็ได้กล่าวเอาไว้เป็นอมตวาจาว่า "ตราบใดที่ยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่ ตราบนั้นเรายังจำเป็นต้องสร้างบุญกุศลให้มากเข้าไว้ เนื่องเพราะว่าบุญกุศลนั้น จะส่งผลแต่ในด้านดีอย่างเดียวต่อชีวิตของเราในทุกชาติทุกภพ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-02-2024 เมื่อ 03:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 19-02-2024, 00:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,566
ได้ให้อนุโมทนา: 151,672
ได้รับอนุโมทนา 4,410,921 ครั้ง ใน 34,156 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ญาติโยมทั้งหลายที่ได้เห็นพระภิกษุสามเณร ได้กระทำกองบุญการกุศล ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือวัดวาอารามอื่นในการสร้างถาวรวัตถุก็ดี ช่วยในการศึกษาของพระภิกษุสามเณร ด้วยการสนับสนุนปัจจัยหรือว่าภัตตาหารก็ดี ตลอดจนกระทั่งสนับสนุนโครงการต่าง ๆ เช่นโครงการธุดงค์ธรรมยาตราในครั้งนี้ก็ตาม ในเมื่อท่านเป็นนักบวช เป็นปูชนียบุคคล ยังเพียรสร้างบุญสร้างกุศลขนาดนี้ แล้วเราท่านทั้งหลายจะอยู่ในความประมาท ไม่ยอมสร้างบุญกุศลแล้วหรือ ?

บุคคลเป็นจำนวนมากต่อมากด้วยกัน ที่ชีวิตเห็นผิดเป็นชอบ อย่างเช่นว่ามีความต้องการแก้กฎหมายเพื่อความเป็นธรรมต่าง ๆ จนกระทั่งไปละเมิดสถาบันเบื้องสูง ซึ่งแนวคิดทั้งหลายเหล่านี้ เคยมีปรากฏในลัทธิคอมมิวนิสต์มาแล้ว ซึ่งลัทธินั้นต้องการให้เกิดความเสมอภาค แต่ไม่ได้คำนึงถึงว่า แต่ละคนสร้างกรรมดีกรรมชั่วมาไม่เท่าเทียมกัน จะให้ทุกคนได้รับความเสมอภาคเหมือนกันนั้น ย่อมเป็นไปไม่ได้ ประกอบกับมีกำลังจากภายนอกที่ไม่หวังดีปรารถนาดีต่อประเทศชาติของเรา แอบให้การสนับสนุน เพื่อสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้น แล้วก็จะมาแสวงหาประโยชน์จากประเทศชาติของเรา

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากว่าเราเดินอยู่ถูกที่ถูกทาง มีความเป็นสัมมาทิฏฐิ เพราะว่าเรามีบุญเป็นเครื่องหนุนเสริม เราก็จะไม่พลาดไปทำในสิ่งที่ไม่ดีไม่งามอย่างที่ทุกท่านเห็นอยู่ เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ จะว่าไปแล้วก็เป็นภาระหน้าที่ของฝ่ายปกครอง เราท่านทั้งหลายทำแค่เพียรสั่งสมบุญกุศลไปด้วยกัน

และขออาศัยโอกาสนี้เจริญพรขอบพระคุณท่านผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ที่ควักตลับสีผึ้งเก่า ๆ ของท่าน นำเอาเสือหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ยในตลับสีผึ้งออกมาถึง ๙ ตัว มอบให้กระผม/อาตมภาพ ร่วมบุญกุศลในการสร้างพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุน โดยที่กำชับมาว่า "ขอตัวละ ๕๐,๐๐๐ บาทก็พอนะครับหลวงพ่อ เพราะว่าสมัยก่อนนั้น ผมได้บูชามาในตัวละไม่ถึง ๕๐,๐๐๐ บาทเท่านั้น" กระผม/อาตมภาพขอเจริญพรขอบคุณท่าน ทั้งที่อยากจะเปิดเผยชื่อเสียงเรียงนาม แต่ท่านไม่ยินดีด้วย คงจะกลัวว่ามีผู้รู้แล้วไปรบกวนท่านถึงบ้านอย่างไรก็ไม่ทราบ ?!

ญาติโยมทั้งหลายที่ต้องการบูชาเสือหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็เป็นตัวเล็ก ๆ ประเภทที่เรียกว่า "สาลิกา" แม้จะไม่ถึงขนาดสาลิกาจิ๋วที่กระผม/อาตมภาพนำออกให้บูชา ซึ่งสร้างมาจากเขี้ยวเสือไฟ บางตัวก็เล็กแค่เมล็ดถั่วเขียวเท่านั้น แต่ว่าสาลิกาของท่านก็จัดอยู่ในประเภทเล็ก เพราะว่าตลับสีผึ้งใบเดียวบรรจุถึง ๙ ตัวด้วยกัน..!

เพียงแต่ว่าผู้ที่จองเข้ามา คงไม่สามารถที่จะเลือกได้ว่าต้องการตัวไหน ต้องขอให้วัตถุมงคลเป็นผู้เลือกเจ้าของเอาเองก็แล้วกัน อีกไม่กี่วัน น่าจะให้ไอ้ตัวเล็กนำลงในกระทู้สร้างพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุน ให้ทุกท่านได้บูชากันต่อไป

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-02-2024 เมื่อ 03:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:01



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว