กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ในวาระสำคัญต่าง ๆ

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 27-04-2016, 13:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “ขึ้นไปพุทธาภิเษกที่วัดห้วยน้ำอุ่นก็น่าจะได้เจอกับครูบาอาจารย์สายภาคเหนือ ที่อยากพบมาก ๆ คือ ครูบาอินสม สุวีโร เพราะว่าไปเจอทีไรก็ได้ความรู้จากท่านทุกที อีกท่านที่อยากพบมาก ๆ คือ ครูบาอุ่น วัดโรงวัว ท่านเป็นพระแก่ที่อารมณ์ดีมาก ๆ เลย คนไป ๕๐ คน จะต้องมีคนถามท่าน ๔๙ คนว่าหลวงปู่เป็นใคร ? มาจากไหน ? แล้วท่านก็จะเสียงดังฟังชัด “ชื่อครูบาอุ่น อยู่วัดโรงวัว สันกำแพงเน้อ” ตอบได้ทุกครั้ง ถ้าเขาถามอาตมาว่ามาจากไหน จะบอกให้ไปเปิดกูเกิ้ลเอา เดี๋ยวก็เจอหน้าเองแหละ”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2016 เมื่อ 21:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 123 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 27-04-2016, 13:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "อาตมาไปปฏิบัติธรรมในฐานะพระอุปัชฌาย์ใหม่ ๑๕ วัน มีโอกาสได้เห็นหลวงพ่อเขาใหญ่แค่ ๒ ครั้ง ครั้งแรกก็คือเป็นวันปาฏิโมกข์ ก็ไปลงปาฏิโมกข์กันตรงหน้าพระประธานที่ท่านตั้งชื่อว่าหลวงพ่อเขาใหญ่ แล้วก็งง ๆ กับแนวความคิดของหลวงพ่อสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ คือรอบข้างท่านสร้างเสียอลังการ แต่บริเวณที่ใช้ลงปาฏิโมกข์เป็นลานเฉย ๆ แล้วก็มีเสาเสมาอยู่ ๘ หลักเท่านั้น เพราะถ้าหากจะสมถะเอาแบบของสวนโมกข์ ก็น่าจะไม่สร้างอย่างอื่น แต่อย่างอื่นสร้างจนหรูหราอลังการหมด ยกเว้นโบสถ์ไม่สร้าง แล้วหน้านี้ก็แดดร้อนชนิดหนังไหม้ จึงต้องลงปาฏิโมกข์กันตอน ๖ โมงเช้า

คราวนี้เดินไปถึงตรงนั้นตี ๕ ครึ่ง นั่งรออย่างเดียวก็น่าเบื่อ อาตมาก็เลยขอไมค์ท่านเจ้าคุณอาจารย์ เล่าเรื่องความต่างของศีลระหว่างพระไทยและพระพม่า ให้บรรดาพระอุปัชฌาย์และผู้ที่ร่วมลงปาฏิโมกข์ได้ฟังกัน ปรากฏว่าทุกคนชอบใจ แล้วก็เรียกร้องอยากจะให้เล่าต่อ แต่เวลาไม่มี ที่เล่าให้ฟังคือ เวลา ๑๕ วัน หลวงพ่อเขาใหญ่อยู่ห่างจากอาคารปฏิบัติธรรมไม่เกิน ๒๐๐ เมตร ได้เห็นแค่ ๒ ครั้ง มัวแต่ปฏิบัติธรรมจนไม่มีเวลาทำอย่างอื่นเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2016 เมื่อ 21:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 114 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 27-04-2016, 13:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ไปถึงวันแรกก็มีหมามายัดเยียดตัวเองเป็นหมาของอาตมาถึงกุฏิเลย เล่าให้ท่านอาจารย์มหาสันติฟังว่า อาตมาเข้ากรุงเทพฯ ไปทำงานใหม่ ๆ เงินเดือนก็น้อย อยู่ ๆ ไป ๕-๖ เดือน มีหมามาอยู่ด้วย ๘ ตัว ก็ต้องตัดสินใจว่า จะเลี้ยงหมาดีหรือเลี้ยงตัวเองดี

ไปกราบเรียนถามหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านบอกว่าให้ไปพลิกคางหมาดุู ตรงใต้คางจะมีตุ่มอยู่ตุ่มหนึ่ง แล้วมีขนแข็ง ๆ ยาว ๆ เหมือนหนวดแมว ท่านบอกว่า ถ้าขนเส้นเดียว หรือ ๒-๓ เส้น ส่วนใหญ่เป็นหมาที่มาจากข้างบน คือเป็นพรหมหรือเทวดามาก่อน ถ้าหากว่ามีขนเส้นเดียวเป็นราชาหมา ไปไหนหมาอื่นจะกลัว ท่านบอกว่าหมาพวกนี้ ถ้าหากอยู่กับเจ้าของที่มาต่ำกว่า เขาจะหนีไปหาคนที่มาเท่ากันหรือบารมีสูงกว่า

ปรากฏว่าช่วงที่มีหมาอยู่ ๘ ตัวนั้น มีตัวหนึ่งเป็นหมาตัวใหญ่มาก หน้าตาเหมือนหมาป่าชัด ๆ เลย เจ้าของเอาโซ่มาล่าม ลากกลับไปเมื่อไร ถ้ากระชากโซ่ขาดก็หนีมาหาอาตมาทุกครั้ง อาตมาก็ไม่รู้ว่าจะบอกเจ้าของเขาอย่างไรว่า บารมีคุณยังสู้หมาไม่ได้ หมาก็เลยต้องหนีไปหาคนอื่น เล่าให้ท่านอาจารย์มหาสันติฟังเสร็จสรรพเรียบร้อย เปิดประตูออกมา เจอหมานอนอยู่หน้าประตู ๑ ตัว บอกว่าเพิ่งจะเล่าจบ หมาก็ยัดเยียดตัวเองมาให้อาตมาเลี้ยงแล้ว แล้วก็เป็นหมาที่นิสัยดีมาก เพราะว่าอาหารวางอยู่เต็มหน้าห้อง ท่านอาจารย์มหาสันติขนมาจากวัด ถ้าเราส่งให้ถึงจะกิน แสดงว่าเป็นหมาที่รู้ภาษาจริง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2016 เมื่อ 21:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 117 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 27-04-2016, 13:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ตัวที่ ๒ ที่ตามมาเป็นหมาสีประหลาด ไม่รู้ว่าญาติโยมรู้จักหรือเปล่า ? ที่เขาเรียกว่าหมาสีกะเลียว เป็นสีดำออกเขียวแล้วมีน้ำตาลแซม ในชีวิตอาตมาก็เพิ่งเห็นเป็นตัวที่ ๒ แล้วที่ตลกที่สุดคือวันนั้นเจ้าตัวเล็กไป บอกว่าถ่ายรูปหมาตัวนี้ให้หน่อย จะเอาไปให้คนอื่นเขาดู ปรากฏว่าตามหาเท่าไรก็ไม่เจอ ไม่รู้ว่าหลบไปอยู่ที่ไหน พอเขากลับไปพักเดียว ก็วิ่งมาเสนอหน้าใหม่ เหมือนอย่างกับเขารู้ว่าจะเอาไปออกสื่อ เขาไม่ยินดีก็เลยหลบไป"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2016 เมื่อ 21:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 113 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 27-04-2016, 13:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "ช่วงที่อาตมาปฏิบัติธรรมอยู่ ได้ข่าวว่ามีรถเบนซ์ชนรถฟอร์ด มีคนตาย ๒ ศพ...ใช่ไหม ? คนที่อยากด่าคนขับรถเบนซ์มากที่สุดก็น่าจะเป็นลูกของคุณเฉลียว อยู่วิทยา คดีกูเงียบไปแล้วแท้ ๆ มึงทำให้กูเดือดร้อนอีก พอเขาขุดคุ้ยย้อนหลังไป ก็เลยเห็นว่าเขาถ่วงเวลาจนคดีหมดอายุความไปแล้ว เวลาเรารับข่าวอะไรมา ถ้าทำตัวเป็นคนดูเฉย ๆ ไม่ลงไปเป็นคนเล่นอยู่กลางเวที จะเห็นอะไรแปลก ๆ เยอะ โดยเฉพาะกฎหมายบ้านเรา ที่เขาให้คำว่า “คุกมีไว้ขังคนจนกับหมา”

มีคนเขาถามอาตมาที่ไปต่างประเทศ ยุโรป อเมริกา ว่ามีอะไรดี บอกว่าเขาไม่ได้มีอะไรดีกว่าเราหรอก ยกเว้นว่ากฎหมายเขาเป็นกฎหมาย คือมีการบังคับใช้ค่อนข้างจะเข้มงวดมากกว่าบ้านเรา อาตมาสรุปผลการดูงานของนิสิตปริญญาเอกรุ่นนั้นส่งให้อาจารย์ ๕ บรรทัด เล่นเอาท่านอาจารย์ปากอ้าตาค้าง ถามว่า "เอาแค่นี้จริง ๆ หรือ ?" ก็เรียนท่านอาจารย์ว่า “แล้วครบถ้วนไหมครับ ?” ท่านบอกว่า "เออ...ก็ครบนะ" “ถ้าครบผมก็ส่งแค่นี้แหละ” คนอื่นเขาส่งรายงานกันที ๗-๘ หน้ากระดาษ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2016 เมื่อ 21:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 114 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 27-04-2016, 13:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"อาตมาสรุปรายงานการดูงานว่า “ถ้าเรารักษาของเก่าจนขายได้เหมือนอิตาลี รักษาธรรมชาติจนขายได้เหมือนสวิตเซอร์แลนด์ แล้วสร้างแบรนด์จนขายได้เหมือนฝรั่งเศสก็พอแล้ว แต่ทั้งหมดที่ว่ามานี่ไม่ต้องทำหรอก สร้างจิตสำนึกของคนเราให้ได้อย่างเขาก็พอแล้ว" เพราะว่าคนของเขา อย่างเช่นว่าขับรถ อาตมาหันหน้าเข้าหาถนน ยังห่างจากถนนเกือบ ๒ เมตร รถทุกคันหยุดหมดเลย ยืนงง ๆ อยู่พักหนึ่ง ไม่ได้คิดจะข้ามถนนสักหน่อยแล้วหยุดทำไมวะ ? แล้วก็เกรงใจ...ข้ามสักหน่อยก็ได้ ข้ามไปแล้วค่อยเดินกลับมาอีกรอบหนึ่ง

แต่ถ้าหากว่าอยู่ตรงที่มีสัญญาณไฟนี่ต้องรอไฟเขียวคนข้ามก่อน ถ้าไฟเขียวคนข้ามยังไม่ขึ้นแล้วไปข้าม รับรองว่าคุณได้ตายฟรีแน่ แต่ถ้าอยู่ในที่ซึ่งไม่มีทางม้าลาย ไม่มีสัญญาณไฟนี่ หันหน้าเข้าหาถนนคนขับจะหยุดให้เลย

แล้วสัญญาณไฟที่โน่นเขาเอื้อเฟื้อมาก คือมีไฟสูงอยู่ข้างบนให้คนขับรถดู แล้วมีอยู่ตรงกลาง ๆ เสาให้คนเดินถนนดู ความจริงของเราจะบังคับใช้กฎหมายอย่างนั้นก็ได้ แต่ต้องวางรากฐานมาตั้งแต่เล็ก แบบเดียวกับญี่ปุ่นที่ฝึกหัดเด็กให้ซื่อสัตย์ มีจิตสำนึกต่อสาธารณะ เขาฝึกมา ๓๐-๔๐ ปี รุ่นนั้นปัจจุบันก็คือรุ่นพ่อรุ่นแม่ ในเมื่อเป็นรุ่นพ่อรุ่นแม่แล้วรุ่นลูกของเขาก็ต้องทำตามแบบนั้น เพราะพ่อแม่เขาอบรมมาอย่างนี้ ฝึกมาอย่างนี้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2016 เมื่อ 21:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 114 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 27-04-2016, 13:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เพื่อนไปญี่ปุ่น โดยสารรถแท็กซี่คันหนึ่ง พูดง่าย ๆ ว่าเขาค่อนข้างมีฐานะ ก็เลยเหมาแท็กซี่ ไม่กลัวแพง ปรากฏว่าพอถึงแหล่งเที่ยว พอคนขับจอดรถก็เปิดท้ายรถ หยิบไม้กวาดกับที่ตักขยะออกมา กวาดทำความสะอาดแถวนั้น กว่าเขาจะไปเที่ยวกลับมาบางทีเป็นชั่วโมง บางทีกวาดไปกี่แถบแล้วก็ไม่รู้ วันหนึ่งเพื่อนก็ทนไม่ไหว ถามว่าทำไมต้องกวาดด้วย ? เขาบอกว่า “ถ้าประเทศเขาสะอาดสะอ้านดี คนก็อยากมาเที่ยว เขาเองก็มีงานทำ” นั่นคือจิตสำนึกที่เป็นสาธารณะต่อส่วนรวม

แบบเดียวกับที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เขาระเบิด หรือโดนสึนามิ บ้านเรือนไม่มีจะอยู่ ที่นอนไม่มีจะนอน แต่ถึงเวลาคนไปแจกของ คนญี่ปุ่นเข้าแถวรับ ถ้าเป็นบ้านเราคนแจกโดนเหยียบตายไปแล้ว เข้าแถวรับทั้ง ๆ ที่เดือดร้อนขนาดนั้น เพราะเขาได้รับการฝึกมาจนเป็นธรรมชาติเลย"



พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
งานทำบุญฉลองบ้านวิริยบารมี
วันที่ ๒๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙

(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย รัตนาวุธ)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2016 เมื่อ 21:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 119 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 12:35



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว