กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องบูรพาจารย์ > ประวัติและปฏิปทาของพระสุปฏิปันโน

Notices

ประวัติและปฏิปทาของพระสุปฏิปันโน รวมประวัติ ปฏิปทาของครูบาอาจารย์อันเป็นที่เคารพจากทั่วเมืองไทย

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 28-01-2009, 04:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default หลวงตาเล่าถึงหลวงพ่อฤๅษี


พระครูภาวนาพิลาศ
หลวงตาวัชรชัย วัดถ้ำนารายณ์
วัดถ้ำนารายณ์(เขาวง) จ.สระบุรี

ครั้งหนึ่ง...ก่อนจะได้บวช สมัยกำลังประจบยื่นหน้ายื่นตายื่นอารมณ์เลวให้พ่อเห็น ตอนนั้นนะของกำลังขึ้น กำลังร้อนวิชา(มาร) หลวงตานี่คิดเลยนะว่าคนอย่างเรานี่หาอาจารย์ยาก ! จะมีใครมีวิชาพอที่จะเป็นครูเราได้หนอ แล้วพระองค์นี้คือ หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ

เมื่อไรท่านจะแสดงอานุภาพกำราบมาร เช่น เหาะให้เราดู หรือจะทำตัวลอยนิด ๆ พอหายคันความอยาก หรืออย่างน้อยก็พูดทักเราเสียหน่อยว่า เรากำลังคิดอะไร จะได้บวชเมื่อไหร่ บวชแล้วจะเป็นพระอรหันต์พรรษาไหน ตอนนั้นกล้านึกกล้าคิดถึงขนาดนั้นแหละ ไอ้หลวงตาองค์นี้ละ


แต่เปล่าเลย เงียบสนิท.....
หน้าพ่อยังไม่หันมามองหลวงตาเลยลูกเอ๋ย เหมือนไม่รู้กระแสจิตว่าเราคิด...เอ้อ..ทะลุนรกไปแล้วเลยหนอ
ท่านก็คุยกับญาติโยมไปเรื่อย ๆ พูดถึงเรื่องศีล ๕ (ซึ่งเราก็มีแล้วละ)
พูดถึงเรื่องความเคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ (เราก็เหนียวแน่นมากมายถวายชีวิตแล้ว..คิดว่ายังนั้นนา)
พูดถึงเรื่องความตายของร่างกาย (เราก็พร้อมตายอันนี้ไม่สงสัย)
แล้วพ่อก็พูดถึงการปรารถนานิพพานในชาติปัจจุบัน (เราก็อยากไป)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 08-02-2011 เมื่อ 22:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 117 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 28-01-2009, 04:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตอนนั้นเป็นเวลาบ่าย ที่บ้านซอยสายลมของเรานั่นแหละ แล้วพ่อก็พูดว่า

"เออ คิดแค่นี้ลูก คิดแค่นี้ไปนิพพานกันแน่ ไม่ต้องคิดมาก อย่าให้เหมือนกับคนบ้าบางคนที่คอยแต่จะคิดว่า เมื่อไรครูบาอาจารย์จะแสดงฤทธิ์ทายใจมัน เออ..คิดอย่างนั้นไปนรกลูก ! เพราะอะไร..เพราะความเลวของตัวเองมีเต็มตัวเต็มหัวใจ ไม่เคยคิดจะละออก ความดีของศีล ของพระรัตนตรัยไม่เคยคิดน้อมนำเข้ามาเป็นที่พึ่ง ความตายจ่อจมูกอยู่ไม่เคยคิดหวาดระแวงในความตาย จะได้มุ่งสู่พระนิพพานเสียชาตินี้"

หลวงตานี่ เหงื่อแตกเลย ก้มหน้าต่ำง้ำพื้นเลย แล้วพ่อก็ส่งท้ายให้อีก....

"มันจะให้ครูบาอาจารย์ทายใจมัน ทายที่ว่ามันคิดได้ไม่เกินหมาคิด ครูเขาพูดออกไปแล้วกิเลสมันหมดไปจากใจไหม ศีลจะผ่องใสขึ้นไหม จะเบื่อร่างกายหรือจะหลงใหลทะนงในชีวิตร่างกายมากขึ้น ความคิดระยำอย่างนั้นใครอย่าเอาอย่างลูกเอ๊ย"

จบครึ่งม้วน...ม้วนต้วนเลย !
ลูกหลานฟังแล้ว คิดว่าพ่อเรามีญาณหยั่งรู้หรือไม่ลูก?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 08-02-2011 เมื่อ 22:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 121 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 28-01-2009, 04:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ฟังต่อ...พอตกค่ำก็ถึงเวลาปฏิบัติพระกรรมฐานกัน พวกลูกหลานของพ่อก็นั่งเบียดกันชนิดกราบไม่ถึงพื้นเลยละ
หลวงตาก็นั่งใจตะลึงตะลานอยู่ ใจก็นึกว่าทำไมเราจะต้องมารบกวนให้พ่อลำบากปากด่าสั่งสอนด้วยหนอ ทำไมต้องอยากรู้ว่าท่านเก่งหรือไม่เก่ง หรือว่าให้ท่านเห็นเราเป็นลูกศิษย์คนสำคัญชนิดต้องเอาใจทายทักถึงอดีตอนาคตด้วยหนอ

ไม่เอาละ ตั้งแต่นี้ไป เราจะไม่กวนอารมณ์ใจท่าน วันนี้เราจะนั่งภาวนาพุทโธคอยท่าน ประเดี๋ยวท่านลงมานั่งประจำที่จะได้ไม่ต้องหนักใจกับเรามากนัก

๑ ทุ่มตรง...พ่อก็เปิดประตูลงมาจากห้องพักที่บ้านซอยสายลม ตามธรรมดาปกติพ่อจะทักคนข้างทาง เออ ๆ คะ ๆ พองาม แล้วจะขึ้นนั่งบนแท่นอาสนะในที่สูง เปิดไมค์ลองเสียง แต่วันนั้นพอเปิดประตูผางออกมา ก้าวยืนหน้าประตูได้ก้าวเดียว ก็ยกมือชี้หน้าหลวงตาทันที

"เออ ให้มันได้อย่างนี้สิ ภาวนาพุทโธไปซี อย่างนี้จึงจะดี...ดีลูก..ดี"

พระคุณพ่อเอย...ช่างทรมานใจนักหนา ใจหลวงตานี่สลด ก้มหน้าขอบพระคุณพ่อที่สั่งสอนสมสันดานลูกนัก

จบม้วนแรกแล้วลูก หนังประวัติลีลาการสอนของพ่อพวกเราทั้งหลาย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 08-02-2011 เมื่อ 22:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 123 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 28-01-2009, 04:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ลูกหลานเอย..หลวงตานั่งคิดย้อนหลังไปถึงเวลาแรกที่พบพ่อ ความมุ่งมั่นฝันใฝ่ตอนนั้นคืออยากได้พระอภิญญามาเป็นอาจารย์ เฝ้ามองพ่อมาแต่บัดนั้นว่าองค์นี้ใช่ไหมหนอ เมื่อไหร่ท่านจะแสดงฤทธิ์ให้เราดูประจักษ์ตากระชับใจ จะได้ลงมือปฏิบัติพระกรรมฐานแบบถวายชีวิตเสียที น่าจะทายใจเราให้ถึงก้นบึ้งสักครั้ง น่าจะเหาะน้อย ๆ ลอยก้น เหนือพื้นสักคืบก็ยังดี จนวันดีคืนดีท่านก็แสดงให้ดู ทายถึงใจเลย !

"นี่ไอ้บ้า อย่ามานั่งขวางทางคนทำงาน อย่านั่งรอฤทธิ์รอเดชเอาไว้เหาะไปนรกขุมไหน คนที่ใจมีฤทธิ์นี่เขากล้าทำดี ขยันทำดีผิดมนุษย์ทั่ว ๆ ไป เขามีน้ำใจรักศีลยิ่งกว่าชีวิตของตัวเอง เขาคิดทีละอย่าง แล้วทำให้เสร็จไปทีละอย่าง ทำให้มันเห็นฤทธิ์ขยันซะบ้าง นี่ฤทธิ์น้อย ๆ เขาคิดกันทำกันอย่างนี้ พอจะเข้าใจไหม ถอยไป..ถอยไป.."


โอย ตายเลย ตายเลย เล่นด่าอย่างนี้อายตายเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทิดตู่ : 03-05-2009 เมื่อ 23:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 119 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 28-01-2009, 16:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ก็อย่างที่รู้ ๆ กัน ในหมู่พระลูก ๆ ของพ่อ ว่าใจของพวกเรานี่ ยังมีพลานุภาพมหาศาล คาใจอยู่อย่างน้อยก็หนึ่งอย่าง นั่นคือ ความอยากเป็นพระอรหันต์
แล้วไม่ใช่พระอรหันต์แบบธรรมดา ต้องเป็นพระทรงอภิญญา สำหรับหลวงตานี่อยากเป็นปฏิสัมภิทาญาณไปโน่น..ถึงขนาดนั้นนั่นแหละ..โอยอายมือผู้เขียน อายสายตาท่านผู้อ่านแล้วก็คิดว่าการที่จะบรรลุมรรคผลขนาดนั้น จะต้องเป็นพระที่ได้ใกล้ชิดหลวงพ่อ ได้รับคำรับรองจากหลวงพ่อ

ภาพที่ออกมาก็คือ คอยจะเสนอหน้า สบตา กระดิกหู คอยสดับเสียงให้พ่อทัก (ว่าพระดีมาแล้วหรือ หลวงตาต้องขอชมตัวเองที่กล้าเขียนถึงขนาดนี้)
แต่ผลก็คือ พ่อไม่เคยมองหน้าสักแว้บเดียว
เออ..เราก็เสียใจ พี่น้องท่านอื่นเขานั่งล้อมหน้าดาหลังอุ่นหนาฝาคั่ง เราทำไมเกิดมาเงียบเหงา..อย่างนี้หนอ
แล้ววันที่หลวงตารอคอยก็มาถึง...


วันนั้นพ่อนั่งอยู่ใต้ร่มหูกวางหลังโบสถ์ ริมบันไดทางขึ้นไปศาลา ๑๒ ไร่ หลวงตาก็เดินมาจากศาลานวราชหน้าโบถส์จะกลับที่พัก ก็ต้องเดินผ่านพ่อผู้นั่งสบายอิริยาบถอยู่
ใจหนึ่งอยากจะแวะเข้าไปกราบให้ท่านเห็น ใจหนึ่งบอกว่าให้หลีกเลี่ยงเข้ากุฏิเสีย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 19-08-2009 เมื่อ 16:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 114 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 28-01-2009, 16:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เสียงพ่อทักดังชัดเจน

"สิงห์ดอกหรือลูก..เอ้อ..หายไปไหนมาหว่า มา..มา เข้ามานั่งใกล้ ๆ พ่อ" ท่านตบหัวลูบหลังหมาตัวโปรด

"เออ คนเก่งของพ่อเชียวนี่ เป็นนายยามใกล้ชิดตัวเดียวเลยละนี่ เอ้อ..นี่ ! ต้องเข้าใกล้กันจึงจะเก่งจึงจะดี เออ..นี่ละคนเก่ง เขาเป็นกันอย่างนี้ !"

โอยยย พูดไปก็ลูบหลังตบหัวหมาไป แต่เสียงท่านทำไมมันวิ่งดังเข้าไปกินแก้วหูเรา พูดจบก็เงยหน้ามามองทางเราพอดี

"อ้าว (เรียกชื่อหลวงตา) หรือ ไปไหนมาหว่า เออ อยู่กุฏิหลังไหนนี่"
"กุฏิ ๓ ครับผม" ตอบพลางไหว้เดินเข้ากุฏิดิ่งไม่ว่อกแว่ก กลัวท่านจะทักต่อ (กลัวทักต่อว่า เออ เข้ามานั่งใกล้ ๆ คนเก่งเชียวนี่ อะไรทำนองนี้)


วันนั้นจึงเพิ่งรู้ว่าตัวเราเองนี่อยากเป็นหมา เป็นหมาของหลวงพ่อที่คอยให้พ่อปลอบทายทัก นี่ไม่ได้บังอาจพูดกระทบน้อง พี่ ครูอาจารย์ที่นั่งล้อมรอบสนองงานพ่อเป็นประจำ วาสนาบารมีหน้าที่อธิษฐานกันมาอย่างไรก็ต้องทำอย่างนั้น นี่พูดเล่าถึงอารมณ์เลวของหลวงตาที่ไม่รู้จักวาสนา ไม่ใช้ปัญญาแต่ไปเทียบบารมีกับพี่น้องต่างหน้าที่ ก็ไปริษยามานะเอากับท่าน จนเสียเวลาทำความดีไปนานหลายปีนัก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทิดตู่ : 03-05-2009 เมื่อ 23:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 117 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 28-01-2009, 16:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พอมาอยู่ที่วัดเขาวงจึงนึกขึ้นมาได้ว่า พ่อเคยถามว่า ตอนนี้ทำ(หน้าที่) อะไรอยู่ ก็กราบเรียนว่ากวาดทำความสะอาดโบสถ์ สวดปาติโมกข์ และสอนพระกรรมฐานตามที่พ่อสั่งทราบอยู่ ท่านก็พูดขึ้นมาในตอนนั้นว่า

"เออ ขณะที่ยังไม่ได้เรียกใช้ ไม่ได้มอบหมายหน้าที่อื่น ก็ไม่ต้องไปหางานอื่นทำ รีบทำความเพียรให้มากที่สุดไปก่อน เมื่อถึงเวลาใช้ทำงาน จะได้เหนื่อยแต่กาย แต่ใจเป็นสุข"

พอนึกออก จึงได้เข้าใจว่าตัวเองนี่ โง่ยิ่งกว่าหมา
คำสอนอันแยบยล คือมรดกธรรมอันล้ำค่า
ยากเกินกว่าที่คนน่ารักน่าชังแบบหมา ๆ จะเข้าใจได้จริง ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 22-04-2009 เมื่อ 00:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 123 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:48



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว