กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 13-02-2019, 08:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,027 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุุกร์ที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒

ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกทั้งหมดของเราไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ ที่เรามีความถนัด มีความชำนาญมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๑ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๒ สิ่งที่อยากจะบอกกับพวกเราก็คือว่า การรักษากำลังใจของเราให้มั่นคง ไม่หวั่นไหวต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยเฉพาะช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้ก่อการร้ายยิงพระระดับเจ้าคณะอำเภอพร้อมกับพระลูกวัดเสียชีวิต ที่วัดรัตนานุภาพ อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ถ้าเรารักษากำลังใจไว้ไม่ได้ ก็จะเสียใจ น้อยใจ โกรธแค้น แล้วก็ขาดสติ เราต้องแยกให้ออกว่านั่นเป็นการกระทำของคนกลุ่มหนึ่ง ที่ไม่หวังดีปรารถนาดีต่อประเทศชาติบ้านเมืองของเรา ถึงแม้ว่าคนทั้งหลายเหล่านั้นจะเป็นอิสลามิกชนหรือมุสลิมก็ตาม คนมุสลิมที่ดีนั้นยังมีอยู่ เพียงแต่ไม่กล้าเอ่ยปาก จึงปล่อยให้คนชั่วมีอำนาจ ใช้การกระทำสร้างความหวาดกลัว กดข่มให้ทั้งคนไทยและมุสลิมกลัวเกรง จะได้ชักนำให้ประเทศชาติของเราไปตามแนวทางที่เขาต้องการ

แต่ถ้าเรามีสติสัมปชัญญะ ก็จะเห็นว่า การที่พระครูประโชติรัตนานุรักษ์มรณภาพลงนั้น แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่น่าเสียใจและน่าเสียดาย แต่การมรณภาพของท่านก็ทำให้คนไทยส่วนใหญ่ตื่นขึ้นมา ตื่นจากความฝัน ที่เรียกกันง่าย ๆ ว่าโลกสวย มาเห็นความจริงว่า การที่เราโดนยัดเยียดความสามัคคี ยัดเยียดการอยู่ร่วมแบบพหุวัฒนธรรมให้ โดยที่ทางราชการไม่ได้แยกแยะน้ำออกจากปลา ทำให้เราเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่ตลอดเวลา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-02-2019 เมื่อ 08:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 13-02-2019, 08:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,027 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อตื่นขึ้นมา รู้จักแสดงพลัง รู้จักช่วยเหลือซึ่งกันและกัน นี่เป็นสิ่งที่พระพุทธศาสนาเราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมี เพื่อความยืนยงสถาพรของพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นศาสนาคู่กับชาติไทยของเรามาแสนนาน เพราะฉะนั้น...ถ้าหากว่าเราไม่ขาดสติ รู้จักแยกแยะผลดีผลเสียที่เกิดขึ้น เลือกทำในสิ่งที่เกิดผลดีต่อพระพุทธศาสนา ไม่เปิดโอกาสให้ความขาดสติมาครอบงำ จนกระทั่งเราต้องทำผิดทำพลาด ไปเข้าทางที่ผู้ก่อการร้ายเขาต้องการ

ก็แปลว่าหากมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นอีก เราก็ต้องแสดงพลังและแสดงออกให้รู้ว่า เราก็โกรธเป็นแค้นเป็น แต่เราไม่ขาดสติ แสดงให้เขาเห็นว่า ชาวพุทธของเรามีความสามัคคีกลมเกลียว เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน คนไหนเจ็บทุกคนเจ็บด้วย คนไหนตายเหมือนคนที่เรารักที่สุดตายด้วย ถ้าเราสามารถทำได้อย่างนี้ ศาสนาของเราจะมั่นคง ไม่มีใครมาเบียดเบียนได้

ฉะนั้น...การที่ท่านทั้งหลายจะมีสติตั้งมั่น มีปัญญามองเห็นว่าสิ่งใดควร สิ่งใดไม่ควรในวิกฤตต่าง ๆ นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเริ่มจากอานาปานสติ คือลมหายใจเข้าออก โดยเฉพาะอย่างน้อยที่สุด ต้องเข้าให้ถึงปฐมฌานละเอียด จะได้มีกำลังในการระงับยับยั้ง ไม่ให้ รัก โลภ โกรธ หลง นำทาง มีส่วนของสมาธิไปเสริมให้เกิดปัญญา แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ทั้งทางโลกทางธรรม ให้ออกมาได้ดีที่สุด เหมาะสมกับสถานการณ์นั้นอย่างที่สุด ก็แปลว่าท่านทั้งหลายจะละทิ้งการปฏิบัติสมาธิภาวนาไม่ได้ และโดยเฉพาะต้องทำให้เกิดผลจริง ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-02-2019 เมื่อ 08:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 15-02-2019, 19:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,027 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเราเข้าถึงปฐมฌานละเอียด สติ สมาธิ จะเกิดความแคล่วคล่องว่องไว สามารถประคับประคองอารมณ์เอาไว้ไม่ให้สูญหายไม่ให้ตกหล่น เมื่อท่านทั้งหลายสามารถประคับประคองอารมณ์นี้เอาไว้ได้ ยิ่งนานเท่าไรความสงบเยือกเย็นในใจก็ยิ่งมีมากเท่านั้น ไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งใดง่าย ๆ ก็แปลว่ากำลังใจของเราจะเข้มแข็งมั่นคง เมื่อกำลังใจเข้มแข็งมั่นคง ไม่ฟุ้งซ่านหวั่นไหว ปัญญาก็จะเกิด จะเห็นช่องทางว่า ในขณะนี้เราควรจะทำอย่างไรถึงจะดีที่สุดสำหรับสถานการณ์นั้น ๆ

จึงเป็นหน้าที่ซึ่งท่านทั้งหลายต้องพยายามในการกำหนดภาวนา โดยใช้ลมหายใจเข้าออกควบคู่กับคำภาวนาที่เราถนัด โดยเฉพาะอย่าเปลี่ยนคำภาวนาบ่อย เมื่อเราเริ่มเคยชินกับคำภาวนาอย่างหนึ่ง พอไปเปลี่ยนสภาพจิตก็จะห่วงหน้าพะวงหลัง ของเก่าก็จะไม่ได้ ของใหม่ก็จะไม่ดี ท่านเคยถนัดเคยชำนาญอย่างไหน ใช้คำภาวนาอย่างไรที่ทำให้สภาพจิตของเรานิ่งได้สงบได้ ให้ใช้อย่างนั้น ให้ทำอย่างนั้น เพราะว่าจุดมุ่งหมายของเราก็คือ เมื่อจิตสงบ สมาธิบังเกิด ปัญญาก็จะมีตามไปเอง ถึงเวลาเราก็จะรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรในแต่ละสถานการณ์ ถึงจะเกิดประโยชน์ที่สุด ถึงจะพอเหมาะพอดีพอควรที่สุด

โดยเฉพาะสภาพจิตไม่หวั่นไหวไปกับ รัก โลภ โกรธ หลง ก็ทำให้เรามีความสงบ ความเยือกเย็น ความสุข เกิดแก่เราได้ ตราบใดที่ยังไม่หลุดจากสมาธิ ตราบนั้นสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ก็ยังทรงตัวอยู่กับเรา


ลำดับต่อไปให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันศุกร์ที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒

(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 02:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:36



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว