กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนธันวาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 02-12-2023, 20:01
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 340
ได้ให้อนุโมทนา: 3,307
ได้รับอนุโมทนา 18,658 ครั้ง ใน 818 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๖๖


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 03-12-2023, 00:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,575
ได้ให้อนุโมทนา: 151,708
ได้รับอนุโมทนา 4,411,113 ครั้ง ใน 34,165 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ ตอนเช้าหลังจากที่ทำการบวชเนกขัมมะให้แก่ทุกคนแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ต้องเดินทางไปยังสนามสอบนักธรรมชั้นโท - ชั้นเอก (สนามหลวง) ที่วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) ซึ่งเป็นสนามสอบที่ ๑ ของคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อร่วมพิธีเปิดการสอบวันสุดท้ายของปีนี้

คราวนี้การที่ท่านทั้งหลายบางคน หวังว่ากระผม/อาตมภาพจะเป็นผู้นำในการปฏิบัติธรรมเอง ก็ต้องบอกว่าหลายท่านได้พลาดไปแล้ว เนื่องเพราะว่าเริ่มนำปฏิบัติตั้งแต่ตี ๓ ครึ่ง แต่พวกเรามาเอาตี ๔ ครึ่ง..! เป็นต้น

โดยเฉพาะในส่วนของการปฏิบัติธรรมนั้น ครูบาอาจารย์มีหน้าที่ในการแก้ปัญหาให้กับลูกศิษย์ ไม่ได้มีหน้าที่ในการแบก ในการหาม ในการฉุดกระชากลากถูพวกเราไป แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ตรัสเอาไว้ชัดเจนว่า "อักขาตาโร ตถาคตา แม้แต่ตถาคตก็เป็นได้เพียงผู้บอกเท่านั้น" ส่วนบอกแล้ว พวกเราจะทำหรือไม่ทำ ก็ต้องอยู่ในลักษณะของ "ตัวใครตัวมัน" เพราะว่าการปฏิบัติธรรมนั้น ถ้าเราเอาแต่หวังพึ่งพิงคนอื่นอยู่ ย่อมไม่สามารถที่จะเอาตัวรอดได้

การปฏิบัติธรรมไม่ใช่การลอกข้อสอบ คนอื่นทำได้ แล้วเราลอกตามก็สอบได้ด้วย การปฏิบัติธรรมเป็นสิ่งที่ใครทำใครได้ ไม่สามารถที่จะทำแทนกันได้ แต่ว่าถ้าหากว่ามีบุคคลบางประเภท ที่ผู้อื่นแค่บอกกล่าวก็สามารถที่จะทำตามได้เลย ถ้าอย่างนั้นต้องบอกว่าเป็นบุคคลที่ค่อนข้างจะหาได้ยาก

ตัวกระผม/อาตมภาพเอง สมัยที่ปฏิบัติธรรมอยู่ ใครที่ทำได้มากกว่า อย่ามาเล่าให้ฟัง เล่าให้ฟังเดี๋ยวนั้นก็ตามทันเดี๋ยวนั้นเลย..! ดังนั้น..ถ้าหากว่ามีการสนทนาธรรมกันตามกาลที่เหมาะสม ซึ่งบาลีกล่าวว่า กาเลน ธมฺมสากจฺฉา เอตมฺมํคลมุตฺตมํ ก็จะเปิดโอกาสให้บุคคลประเภทนี้แหละ ที่สามารถปรับกำลังใจ ไล่ตามบุคคลที่ทำได้มากกว่า อยู่ในลักษณะว่า น้ำขึ้นถึงไหน เรือก็ลอยสูงไปแค่นั้น

เพียงแต่อย่าลืมตรงที่ว่า "สนทนาธรรมกันตามกาล" ก็คือเวลาที่เหมาะสม ไม่ใช่เอาแต่พล่ามกันทั้งวัน จนกลายเป็นฟุ้งซ่านไปแทน ดังนั้น..การปฏิบัติธรรม ถ้าเรามีกัลยาณมิตรที่เป็นคู่แข่ง ความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมก็จะมีมาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-12-2023 เมื่อ 02:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 03-12-2023, 01:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,575
ได้ให้อนุโมทนา: 151,708
ได้รับอนุโมทนา 4,411,113 ครั้ง ใน 34,165 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สมัยที่กระผม/อาตมภาพทุ่มเทให้กับการปฏิบัติธรรม ช่วงที่เป็นฆราวาสก็มีคู่แข่ง ซึ่งเป็นผู้หญิงด้วย เป็นคนที่เก่งมาก ถ้ากระผม/อาตมภาพทำอะไรได้ภายในวันสองวัน เขาก็จะทำแบบนั้นได้ แล้วเมื่อนำมาบอกกล่าวกัน ก็จะยันกันอยู่แค่นั้นทุกครั้ง ก็คือเขาทำได้เท่าไร เราทำได้เท่านั้น เราทำได้เท่าไร เขาก็ทำได้เท่านั้น

จนกระทั่งบางทีอีกฝ่ายก็เริ่มรู้สึกว่า กระผม/อาตมภาพกำลังหลอกอำเขาอยู่หรือเปล่า ? ก็คือน่าจะทำได้มากกว่านี้ แต่ไม่ยอมบอก เพราะว่าพอเขาทำได้มากขึ้น แล้วพูดมา ก็จะตรงกันทุกครั้ง สิ่งนี้จะเป็นตัวกระตุ้นว่า เรามีคู่แข่งขันที่มุ่งเป้าหมายเดียวกัน จึงทำให้ต้องขยัน ขี้เกียจไม่ได้

เมื่อมาบวชเป็นพระ ได้รุ่นพี่ดี ก็คือท่านเจ้าคุณหลวงตาวัชรชัย (พระราชภาวนาพัชรญาณ วิ.) เจ้าอาวาสวัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) ตอนนั้นท่านเป็นพี่เลี้ยงให้ แล้วก็มีเพื่อนร่วมอุดมการณ์อยู่ ๓ - ๔ รูป หลังจากกรรมฐานรอบค่ำแล้ว เมื่อไปนั่งฉันน้ำปานะกัน ก็จะมีวิเคราะห์วิจัยกันว่า สิ่งที่เราทำมาถูกหรือผิดประการใด ท่านที่มีประสบการณ์มากกว่าก็จะแนะแนวทางให้ แล้วทำให้ผู้อื่นสามารถก้าวเดินตามไปได้ง่ายมาก

บางเรื่องที่วิเคราะห์วิจัยกัน เชื่อว่าท่านทั้งหลายไม่เคยคิดเลย อย่างเช่นว่ามีอยู่วันหนึ่ง เมื่อบิณฑบาตขากลับ มาถึงประตูวัด ก็มีผู้ปฏิบัติธรรมใส่บาตรกันเป็นจำนวนมาก แต่ผู้ปฏิบัติธรรมหญิงผู้หนึ่ง น่าจะไม่ทราบว่าการปฏิบัติธรรมนั้น เขาห้ามตกแต่งร่างกาย ห้ามใช้ของหอม เครื่องย้อม เครื่องทา ก็เลยใส่น้ำหอมมาด้วย ทันทีที่ได้กลิ่น กระผม/อาตมภาพกลั้นหายใจโดยอัตโนมัติ แล้วก็กำหนดใจดูพี่น้องที่เดินตามกันรับบาตร ปรากฏว่าพระสายใต้ทั้ง ๑๑ รูป กลั้นหายใจกันหมดเลย..!

ดังนั้น..เมื่อตอนเย็นหลังการปฏิบัติธรรมแล้ว ก็มานั่งวิเคราะห์กันว่า "การกลั้นลมหายใจแบบนี้ เป็นการใช้ปัญญาหรือเปล่า ? หรือว่าเป็นการหนีปัญหา ?" เห็นหรือยังว่าพวกท่านเคยคิดแบบนี้บ้างไหม ? ท้ายที่สุด..หลังจากที่วิเคราะห์วิจัยกันแล้วพักใหญ่ ก็สรุปได้ว่า เป็นการใช้ปัญญา เพราะรู้ว่าสู้ไม่ได้ เราต้องหลบก่อน อย่างที่หลวงปู่หล้า วัดภูจ้อก้อ ครูบาอาจารย์ท่านหนึ่ง ท่านเคยบอกไว้ว่า "นักปฏิบัติธรรมอย่าเอาแต่เป็นนักรบอย่างเดียว ต้องรู้จักเป็นนักหลบด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-12-2023 เมื่อ 02:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 03-12-2023, 01:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,575
ได้ให้อนุโมทนา: 151,708
ได้รับอนุโมทนา 4,411,113 ครั้ง ใน 34,165 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้ารู้ว่าสู้ไม่ได้ รบไปแล้วตายเปล่า ก็ไม่มีประโยชน์อะไร หลบไปจนกำลังของเรากล้าแข็งพอ แล้วค่อยออกมารบกันใหม่ ก็ในเมื่อรู้ว่าเราไม่สามารถที่จะสู้ได้ ถ้าหากว่าหายใจต่อไป ต้องคิดฟุ้งซ่านแน่นอน ก็กลั้นหายใจไปเลย..หมดเรื่อง เพียงแต่ว่าทั้ง ๑๑ รูป กลั้นใจกันหมด ดูแล้วอยากจะหัวเราะเหมือนกัน โดยเฉพาะเจ้าคุณหลวงตาสมัยนั้น ท่านก็บ่นว่า "ไอ้ห่...Chanel no.5 ด้วย ของโปรดกูเลย..!" แล้วแบบนั้นถ้าหายใจต่อไปจะรอดไหม !?

ในเมื่อมีคู่แข่งในขณะที่เป็นฆราวาส มีพระพี่พระน้องช่วยกันหนุนเสริมการปฏิบัติในขณะที่เป็นพระ เท่านี้ยังไม่พอ ว่างเว้นจากภารกิจประจำเมื่อไร สิ่งที่กระผม/อาตมภาพทำก็คือ
อยู่กับการภาวนาทุกลมหายใจเข้าออก ไม่สนใจในเรื่องของการพักผ่อนหลับนอน เดินจงกรมภาวนาไปเรื่อย หมดสภาพตรงไหนก็ "เลื้อย" ตรงนั้นแหละ นอนโดยกำหนดสติว่าเราจะตื่นเมื่อนั้นเมื่อนี้ ครั้นตื่นขึ้นมาก็เริ่มต้นปฏิบัติธรรมต่อ

คอยระวังอยู่อย่างเดียวว่า งานประจำอย่างเช่นว่า การทำความสะอาดสถานที่ การดูแลโรงครัวตามวันที่ได้รับมอบหมาย การตีกลองเพล เหล่านี้ ตลอดจนกระทั่งการอยู่เวรยามที่หน้าตึกเวลาหลวงพ่อท่านพักผ่อนอยู่ จะไม่ให้พลาด เท่ากับว่าเราฝึกตัวเองด้วย ก็คือต้องกำหนดใจให้ได้ว่า ถึงเวลานั้นแล้วเราต้องรู้สึก ระลึกได้ถึงหน้าที่นั้น เท่ากับเป็นการกำหนดใจให้ทรงสมาธิตามเวลา เมื่อถึงเวลา กำลังใจคลายออกมาก็จะได้รู้ว่า ถึงเวลาที่เราต้องไปปฏิบัติหน้าที่เฉพาะของตัวเองแล้ว พ้นจากหน้าที่เมื่อไร ก็รีบกลับเข้าสู่ที่ภาวนาต่อ

กระผม/อาตมภาพทำโดยไม่เคยคิดว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านจะอยู่ได้ข้ามคืน เนื่องเพราะว่าอาการป่วยของท่านหนักมาก แถมภารกิจยังหนักหนาสาหัส อย่างพรุ่งนี้กระผม/อาตมภาพต้องไปประชุมอีก ของหลวงพ่อท่าน นอกจากงานทางโลกแล้ว งานทางธรรมก็ยังหนัก เพราะว่าพระท่านสั่งให้บันทึกเสียงเอาไว้ เพื่อที่คนรุ่นหลังจะได้มีแนวทางไว้ศึกษา แล้วขณะเดียวกัน แขกที่ไม่เห็นตัว ยังมีมากกว่าแขกที่เห็นตัวเสียอีก จึงแทบจะไม่มีเวลาให้พวกกระผม/อาตมภาพเลย ท่านใช้คำว่า "เมื่อบวชเข้ามาแล้วถือว่าเป็นผู้ใหญ่ หนังสือมี เทปมี ไปอ่านเอาไปฟังเอา แล้วปฏิบัติตาม ติดขัดตรงไหนค่อยมาสอบถาม"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-12-2023 เมื่อ 02:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 03-12-2023, 01:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,575
ได้ให้อนุโมทนา: 151,708
ได้รับอนุโมทนา 4,411,113 ครั้ง ใน 34,165 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..ที่กล่าวมาในเบื้องต้น ก็อยากจะสรุปลงตรงที่ว่า ครูบาอาจารย์ไม่ใช่ที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริงของเรา ที่พึ่งที่แท้จริงของเราคือตัวเอง "อัตตาหิ อัตตโน นาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน" เพราะว่าเรื่องของการปฏิบัติธรรมไม่สามารถที่จะทำแทนกันได้ ไม่สามารถที่จะบรรลุแล้วลอกแบบกันได้ ยกเว้นอยู่อย่างเดียวคือ สามารถปรับกำลังใจจนกระทั่งตามเขาได้ทัน

ดังนั้น..ต่อให้ไม่มีกระผม/อาตมภาพอยู่ ท่านทั้งหลายก็ต้องยืนหยัดให้ได้ด้วยตัวเอง เพราะว่าถ้ามัวแต่หวังพึ่งพิงครูบาอาจารย์แบบนั้น ทุกวันนี้กระผม/อาตมภาพก็ไม่ได้มานั่งอยู่ตรงนี้ เพราะคิดอยู่เสมอว่า ครูบาอาจารย์อยู่ได้ไม่ข้ามคืน ระหว่างที่ท่านมีชีวิตอยู่ เราต้องกอบโกยความรู้ความสามารถให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ติดขัดตรงไหน เรายังมีครูบาอาจารย์ไว้สอบถาม ถ้าสิ้นท่านแล้ว ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะหาครูบาอาจารย์แบบนี้ได้ที่ไหนอีก

จึงเป็นเรื่องที่ท่านทั้งหลายควรที่จะสังวร และนำไปเป็นแบบอย่าง ว่าสิ่งที่เราทำอยู่ทุกวันนี้ ที่กระผม/อาตมภาพพูดว่า "ทำเหมือนกับแก้บน" นั่นคืออะไร

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-12-2023 เมื่อ 02:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:01



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว