กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 01-11-2015, 21:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๘

ถาม : บุคคลที่บรรลุเป็นพระโสดาบัน แต่ยังไม่ได้สมาบัติ ๘ พอมาบรรลุเป็นพระโสดาบันแล้ว จะสามารถสร้างสมาบัติ ๘ แล้วเป็นพระอรหันต์แบบปฏิสัมภิทาญาณได้ไหมครับ ?
ตอบ : โอกาสมีน้อยมาก ถ้าท่านมีอารมณ์อยากทำก็เป็นไปได้ เหตุที่โอกาสมีน้อยมากเกิดจากเหตุสองอย่างด้วยกัน อย่างแรก คือ พอเข้าถึงความเป็นพระโสดาบัน ก็เร่งรัดตัดเข้าหาพระนิพพานในระยะสุดท้าย ไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่น

ประการที่สอง คือ พอเข้าถึงความเป็นพระโสดาบันแล้ว การเข้าถึงความสุขในระดับนั้น ก็ทำให้ติดสุขอยู่อย่างนั้น ไม่คิดที่จะทำอย่างอื่นอีก

สรุปว่า ถ้าอยากเป็นพระปฏิสัมภิทาญาณ ให้ตะเกียกตะกายเสียตั้งแต่ต้น หากไปรอเข้าถึงมรรคถึงผลแล้ว
ถ้าวิสัยไม่ได้มีมา โอกาสที่จะเป็นมีน้อยมาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-11-2015 เมื่อ 21:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 270 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 01-11-2015, 21:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เนื่องจากคุณพ่อผมตัดต้นโพธิ์และเผาจนเหลือแต่รากที่อยู่ในดิน ไม่เหลือกิ่งหนึ่งคืบที่จะใช้แล้ว ผมตั้งใจจะสร้างศาลให้ กราบเรียนถามว่า เคยมีพระและคนทรงให้ตั้งที่บูชาเป็นศาลสี่ทิศที่ต้นโพธิ์ และมีป้ายเขียนเป็นภาษาจีนว่าเทวดาที่มาจากฟ้า เลยไม่แน่ใจว่าโดยนัยจะถือว่าเป็นศาลอากาศเทวดาหรือไม่ ?
ตอบ : ต้นโพธิ์เป็นต้นไม้ตระกูลหนึ่งที่ตายยากที่สุด ต่อให้เหลือแต่รากก็งอกใหม่ได้ เพราะฉะนั้น..ถ้าเป็นอาตมาจะไม่เสียเวลาไปตั้งศาลหรอก รดน้ำให้รากงอกใหม่ง่ายกว่าเยอะ ประการที่สอง ในเรื่องของศาลนั้น ความหมายชัดแค่ไหนต้องไปถามคนบอก เพราะเทวดาที่อาศัยต้นโพธิ์อยู่ คือ รุกขเทวดา ส่วนที่เขาบอกว่า เทวดามาจากฟ้า อยู่ในความหมายของอากาศเทวดา จึงอาจจะเป็นผิดฝาผิดตัวกัน ตั้งศาลไปก็ไร้ประโยชน์ ถ้าเอาให้แน่ ๆ ก็ถามคนบอกให้ตั้ง เดี๋ยวเขาก็ตอบมั่วไปเรื่อยเองแหละ..!

ถาม : ถ้าสร้างใหม่ทับที่ต้นโพธิ์ จะเป็นศาลของพระภูมิ หรือ ศาลรุกขเทวดา หรือ ศาลอากาศเทวดา ? (ที่บ้านมีแต่ "ตี่จู้" ไม่มีศาลพระภูมิแบบไทยทางทิศเหนือหรือตะวันออก)
ตอบ : ต้องถามว่าตั้งใจจะสร้างให้ใคร ? ถ้าตั้งใจสร้างให้รุกขเทวดาก็เป็นรุกขเทวดา แต่ถ้าทะลึ่งไปสร้างให้ภุมมเทวดา รุกขเทวดาก็ไม่มีสิทธิ์ ฉะนั้น..อยู่ที่ความตั้งใจของคนทำ

ถาม : ถ้าที่สร้างเป็นศาลรุกขเทวดา หรือศาลอากาศเทวดาที่เดิม แล้วไม่สร้างศาลพระภูมิทางทิศเหนือหน้าบ้านเพราะมีตี่จู้อยู่แล้วได้หรือไม่ครับ ? เนื่องจากไม่เคยตั้งศาลพระภูมิ ถือเอาต้นโพธิ์เป็นศาลพระภูมิไปในตัว
ตอบ : ถือเอาต้นโพธิ์เป็นศาลพระภูมิจะได้อย่างไร ? ความจริงตี่จู้ของคนจีนก็คือภุมมเทวดา แล้วคนจีนรู้สึกว่าจะรู้จริงกว่าด้วย เพราะสร้างด้วยการเอาศาลวางอยู่กับพื้น คำว่าตี่จู้ก็คือพระภูมิเจ้าที่ เขาบอกไว้ชัด ๆ เลย ในเมื่อเป็นดังนั้น ต่อให้ไม่ได้สร้างศาลเพียงตาให้ภุมมเทวดา ก็ถือว่ามีศาลอยู่แล้ว ให้ความเคารพท่านอยู่แล้ว ไม่จำเป็นจะต้องสร้างใหม่ก็ได้

ถาม : พระและคนทรงให้บูชาด้วยผลไม้และของหวานไม่มีเนื้อสัตว์ ถ้าหากตั้งศาลใหม่ ผมสามารถใช้ตามสายวัดท่าซุงได้เลยหรือไม่ครับ ? เกรงว่าจะไม่ถูกหลัก (เนื่องจากเป็นที่เก่าเลยคาดเดาว่ามีเทวดาทั้งไทย จีน อินเดียครับ) แต่ถ้าใช้ได้จะได้ตีขลุมไปเลยว่าให้ใช้ตามนี้ แต่อาจจะมีปัญหากับที่บ้านเพราะความไม่รู้ ซึ่งจะพยายามหาทางแก้เอา
ตอบ : ถ้าทางบ้านเขายอมรับก็เอาตามตำราหลวงพ่อวัดท่าซุงไปใช้ เพราะว่าตรงแน่นอนกว่า ถ้าไม่อย่างนั้นก็มั่ว ๆ ไปตามเขานั่นแหละ

ถาม : สามารถตั้งศาลวันพฤหัสบดี ข้างขึ้นฤกษ์พรหมประสิทธิ์ ซึ่งน่าจะหายากและนาน ดังนั้น..จึงคาดว่าจะใช้ฤกษ์สามดาวเลยและน่าจะออกพรรษาไปแล้ว ไม่มั่นใจว่าจะนานเกินไป แล้วก่อให้เกิดโทษหรือไม่ ? ถ้านานไปควรเลือกวันไหนเป็นหลักครับ ?
ตอบ : จุดธูปบอกท่านแล้วรอฤกษ์ที่เหมาะสม ทำอะไรอย่าให้มีข้อให้คนเขาตำหนิได้ เพราะว่าเราจะเสียกำลังใจทีหลัง ในเมื่อใช้ฤกษ์ที่ถูกต้องแน่นอน ถึงจะช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร แจ้งท่านไปว่าเราตั้งใจทำให้อยู่แล้ว

ถาม : ถ้ามีรายละเอียดอื่นที่ควรต้องกระทำเพิ่มเติม ขอความเมตตาแนะนำด้วยครับ ?
ตอบ : สิ่งที่อยากจะแนะนำก็คือ คราวหน้าอย่าทะลึ่งไปตัดและเผาต้นโพธิ์อีก...!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2015 เมื่อ 03:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 235 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 01-11-2015, 21:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผ้ายันต์พิชัยสงครามสามารถตัดแบ่งเป็นชิ้น ๆ แจกให้กับคนอื่นได้ไหมครับ ? หมายถึงกรณีที่มีผืนเดียวแล้วมีคนต้องการหลายคน หรือภาวะในช่วงสงคราม ถ้าจำเป็นจะต้องแบ่งสามารถตัดแบ่งได้ไหมครับ ?
ตอบ : เพื่อความปลอดภัยของเราเอง ก็ตัดขอบแบ่งให้คนอื่นไป แต่เราเอาตรงกลางไว้...!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2015 เมื่อ 03:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 251 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 01-11-2015, 21:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้ากระผมฝึกในกองกรรมฐาน โดยเริ่มจากอุปสมานุสติกรรมฐาน เกาะพระนิพพานเป็นอารมณ์ ตั้งใจว่าจะทรงกรรมฐานกองนี้ ๑ เดือน ในระหว่างที่ทำนั้นก็เอาใจเกาะพระนิพพานในระหว่างวันเรื่อย ๆ ทำมาได้เป็นระยะเวลา ๑๐ วันแล้ว ก็มีบ้างที่ออกจากพระนิพพานไปพิจารณาอย่างอื่น หรือมีหลุดไปฟุ้งซ่านบ้าง แต่อย่างไรก็เอาพระนิพพานเป็นหลัก กราบเรียนถามว่าอย่างไรจึงจะเรียกว่า ทำ "อุปสมานุสติกรรมฐาน" สำเร็จ ? ใช่การมีวสีหรือไม่ครับ ?
ตอบ : การจะทำอุปสมานุสติได้สำเร็จจริง ๆ คือ การเป็นพระอรหันต์ไปเลย แปลว่าต้องเกาะพระนิพพานไปเรื่อย ๆ ความเคยชินกับอารมณ์หมดกิเลสที่ปราศจากรัก โลภ โกรธ หลง ของพระนิพพาน ถ้าหากว่าเข้ามาสู่ใจของเรานานไป ๆ กิเลสอื่นเจริญเติบโตไม่ได้ ท้ายสุดก็จะหมดกำลังตายไปเอง เรียกว่าบรรลุโดยเจโตวิมุตติ คือใช้กำลังใจข่มกิเลสไว้ จนกิเลสหมดสภาพไปเอง เพราะฉะนั้น...ถ้าจะเอาที่สุดของอุปสมานุสติก็ต้องเป็นพระอรหันต์ไปเลย

ถาม : แล้วการที่เห็นพระนิพพานได้ชัดเจน ละเอียด หรือท่องเที่ยวไปได้ทั่วบนพระนิพพานนั้น จัดว่าสำเร็จในกองกรรมฐานนี้หรือไม่ครับ ? หรือไม่เกี่ยวกัน การเห็นชัดเจนละเอียดเป็นเรื่องของทิพจักขุญาณเท่านั้นหรือไม่ ? แต่กระผมเองไม่สามารถเห็นได้ชัดเจนและละเอียดเท่าไร แค่ใช้ใจเกาะเฉย ๆ ครับ ?
ตอบ : เอาใจเกาะเฉย ๆ ก็พอแล้ว ถามว่าสำเร็จหรือไม่ ? ถือว่ากำลังปฏิบัติในกองกรรมฐานนั้นอยู่ ยังไม่นับว่าสำเร็จ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2015 เมื่อ 03:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 233 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 01-11-2015, 21:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : กระผมอยากทราบว่า กำลังใจของบุคคลที่สามารถรักษาวัตตบท ๗ ประการ ได้สมบูรณ์ กำลังใจของบุคคลนั้นเทียบเท่ากับกำลังใจของผู้ที่บรรลุเป็นพระโสดาบันหรือไม่ครับ ?
ตอบ : บรรลุอนาคามี ไม่ใช่ท่านบรรลุ แต่เทียบเท่าท่านที่บรรลุอนาคามี เพราะวัตตบท ๗ ประการ มีข้อหนึ่งที่ห้ามโกรธตลอดชีวิต

ถาม : มีอะไรบ้างครับ ?
ตอบ : ไปค้นดูในกูเกิ้ล
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2015 เมื่อ 03:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 236 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 01-11-2015, 22:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนที่เป็นแฟนกัน แต่ยังไม่ได้แต่งงานกัน แต่ผู้ชายไปซื้อบริการทางเพศ โดยที่ผู้หญิงที่เป็นแฟนไม่รู้ ทำให้ศีลข้อสามด่างพร้อยไหมครับ ?
ตอบ : ถ้านับแค่ด่างพร้อยนี่ด่างแน่ แต่ถ้าถามว่าศีลขาดไหม ? ถ้าหญิงบริการนั้นประกาศตนเป็นสาธารณะ ศีลเราก็ไม่ขาด ถึงแม้ศีลเราจะไม่ขาด แต่ชะตาอาจจะขาด...!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2015 เมื่อ 03:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 251 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 01-11-2015, 22:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมเคยไปไหว้พระ ทำบุญที่วัดครั้งหนึ่ง และได้หยิบแผ่นทองคำเปลวที่ใช้ปิดทองพระพุทธรูปกลับมาที่บ้านด้วย เพื่อนำมาปิดทองพระพุทธรูปที่บ้าน โดยที่ผมได้ทำบุญหยอดตู้ถวายค่าบูชาดอกไม้ ธูปเทียนแล้ว การกระทำแบบนี้ถือว่าเป็นการติดหนี้สงฆ์หรือไม่ ? และจะสามารถชำระหนี้สงฆ์ครั้งนี้ได้อย่างไรครับ ?
ตอบ : ถ้าอยู่ในลักษณะผาติกรรม ก็คือ เอาเงินของเราไปแลกมา ถือว่าเป็นของเราแล้ว จะเอาไปใช้งานที่ไหนก็ได้ แต่โดยมารยาทแล้วควรใช้ในสถานที่นั้น ไม่อย่างนั้นแล้วจะมีสภาพเหมือนวัดท่าซุงอยู่ยุคหนึ่ง เป็นช่วงทอดกฐิน พวกอาตมาเตรียมผ้าไตรและสังฆทานไว้ ๓๐๐ ชุด จะได้หมุนเวียนไปเรื่อย ปรากฏว่าหายไปเรื่อย ๆ ก็เลยสงสัย ต่อมาจึงรู้ว่ามีญาติโยมคณะหนึ่งมาจากทางภาคอีสาน เห็นว่าสังฆทานพร้อมผ้าไตรชุดละ ๕๐๐ บาทราคาถูกมาก ก็เลยซื้อแล้วยกขึ้นรถไปหมดเลย...!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2015 เมื่อ 03:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 249 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #8  
เก่า 01-11-2015, 22:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พลังที่เรียกกันว่า Psi ball นั้น แท้ที่จริงแล้วคืออะไรครับ ?
ตอบ : เป็นพลังจิต ถ้านับแล้วในสายทางจีนเขาเรียกว่ากำลังภายใน เหมือนพลังของท่านอาจารย์ผู้เฒ่าเต่าในเรื่องดรากอนบอลนั่นแหละ เราเองก็สามารถทำได้ เพียงแต่ว่าอย่างน้อย ๆ ต้องมีความคล่องตัวในกสิณ ๑๐ ถ้าไม่มีความคล่องตัวในกสิณ ๑๐ ก็ใช้งานลำบาก

ถาม : สามารถนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อทั้งตนเองและผู้อื่นได้หรือไม่ อย่างไรครับ ?
ตอบ : ไม่เห็นใช้อะไร นอกจากเอาไปตีกัน สงสัยจะเล่นวีดีโอเกมมากเกินไปกระมัง ? ยกเว้นว่าจะหันมาตัดกิเลส ก็จะสามารถใช้ตัดกิเลสได้ง่ายกว่าคนอื่นเขา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2015 เมื่อ 03:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 244 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #9  
เก่า 02-11-2015, 11:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมสงสัยเกี่ยวกับบทสวดมนต์ที่มีในปัจจุบัน ไม่ว่าบททำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น บทสวดในงานบุญ บทสวดในงานศพ และบทอื่น ๆ บทสวดซึ่งมีจำนวนมาก บทสวดเหล่านี้มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าทำบุญงานศพอย่าง ๕๐ วัน ๑๐๐ วัน เขาสวดอนัตตลักขณสูตรหรือไม่ก็อาทิตตปริยายสูตร บทสวดนี้มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้ว เพราะว่าเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าเอง แต่การมีมาไม่ได้หมายความว่าสมัยนั้นใช้สวดอย่างนี้ เพราะฉะนั้น...ต้องแยกประเด็นให้ชัดก่อน อะไรที่เป็นคำสอนในพระไตรปิฎกส่วนมากมีมาแต่สมัยพุทธกาล ส่วนหนึ่งที่มีมาในรุ่นหลังแล้วระบุไว้ชัดเจนก็คือ กถาวัตถุของพระอภิธรรม ที่แต่งโดยพระโมคคัลลีบุตรติสสเถรเจ้า

ถาม : หากบทสวดมีมาตั้งแต่ในสมัยพุทธกาล มีบทสวดอะไรบ้างครับ ? เพราะผมอ่านหนังสือธรรมะ ผมพบว่าพระพุทธองค์ทรงตรัสสอนเป็นคำพูดใช่หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ใช่...ตัง กิง มัญญะถะ ภิกขะเว ดังนี้ภิกษุทั้งหลาย รูปัง นิจจัง วา อะนิจจัง วา รูปนี้เที่ยงหรือไม่เที่ยง อะนิจจัง ภันเต ไม่เที่ยงขอรับ ยัมปะนานิจจัง ถ้าเป็นดังนั้น ทุกขัง วาตัง สุขัง วาติ เป็นสุขหรือทุกข์ ทุกขัง ภันเต เป็น ทุกข์ขอรับ

ท่านสอนอย่างนี้ แต่เราเอามาท่องกันเอง ที่เราเอามาท่องกันนั้นเพื่อความทรงจำได้ง่าย จะได้บอกต่อกันได้ถูกต้อง สอนต่อกันโดยไม่ผิดพลาด ดังนั้น...บทสวดที่เรามาสาธยายกันทีหลังนี้ เริ่มตั้งแต่สมัยสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ ๑

คำว่า สังคีติ ก็คือ ร้อยกรอง หรือสวดสาธยายนั่นเอง เป็นการสวดสาธยายและตรวจสอบกันในระหว่างพระอรหันต์ทั้ง ๕๐๐ รูป ซึ่งถ้านับกันแล้วก็คือ สุดยอดนักวิชาการในสมัยนั้น ว่ามีข้อไหนผิดพลาดบ้าง ถ้าไม่ผิดพลาด ทุกท่านยืนยันว่าใช่ ก็สวดสาธยายขึ้นพร้อมกัน เพื่อให้ทราบว่าเนื้อหาที่ถูกต้องคืออะไร พอมาสมัยหลังเป็นการทรงจำในลักษณะของมุขปาฐะ คือ สวดปากเปล่าสืบต่อ ๆ กันมา

จนกระทั่งถึงยุคกลางของการสังคายนาพระไตรปิฎก ก็คือ ครั้งที่ ๕ ที่ศรีลังกา บรรดาพระเถระสมัยนั้นเห็นว่า ความจำของคนเสื่อมลงไปเรื่อย ๆ อาจจะหลงลืมได้ จึงให้จารึกลงในใบลานเป็นอักษร เขียนแล้วใส่ตะกร้าแยกออกเป็นสามหมวด จึงเรียกว่า ไตรปิฎก คือ สามตะกร้า หลังจากนั้นพอเรานำบทสวดต่าง ๆ มาสวดสาธยาย มีบางท่านเห็นว่าบทสวดต่าง ๆ นี้มีอานุภาพจึงนำมากำหนดเป็นบทสวด ๗ ตำนานบ้าง ๑๒ ตำนานบ้าง แล้วก็ใช้สวดเป็นประเพณีสืบ ๆ กันมา


ถาม : บทสวดมนต์เหล่านี้มีที่มาได้อย่างไร ? ใครแต่งขึ้น ? และตอนทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น พระท่านในสมัยพุทธกาลต้องทำวัตรเหมือนสมัยนี้หรือไม่ครับ ?
ตอบ : สมัยนั้นเขาใช้วิธีเจริญกรรมฐานหรือนั่งสนทนาธรรมกัน พอมาสมัยหลังการประพฤติปฏิบัติน้อยลง จึงต้องบังคับโดยการให้นั่งท่องหนังสือ หรือทรงจำกันโดยการสวดสาธยาย กลายเป็นการทำวัตรเช้า - ทำวัตรเย็นขึ้นมา ส่วนการที่สงสัยว่าบทไหนใครเป็นคนสวด ให้ยกมาทีละบทแล้วจะบอกให้ เพราะอย่างบท "โย จักขุมาฯ" ก็แต่งโดยในหลวงรัชกาลที่ ๔ ถ้า "ชินบัญชรคาถา" ก็ชำระขึ้นใหม่โดยหลวงพ่อโต วัดระฆัง เป็นต้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2015 เมื่อ 13:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 226 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #10  
เก่า 02-11-2015, 11:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ท่านเจ้าที่ผู้ดูแลมหาวิทยาลัยขอนแก่น จังหวัดขอนแก่นและจังหวัดยโสธรครับ ท่านมีนามว่าอะไรครับ ? จะทำสังฆทานอุทิศถวายท่าน
ตอบ : ถามได้เลย

ถาม : ถามใครครับ ?
ตอบ : ถามท่านที่ยืนอยู่ตรงนี้ ยังไม่ทันจะถาม ท่านมายืนแล้ว บอกว่า "ผมชื่อเจ้าพ่อแก่นนครครับ"

ถาม : มาเร็วนะนี่ ?
ตอบ : เร็วกว่าคำถามคุณอีก ยังไม่ทันถามท่านก็มายืนรายงานตัวแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-11-2015 เมื่อ 15:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 245 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #11  
เก่า 02-11-2015, 11:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เมื่อประมาณสิบกว่าปีที่แล้ว กระผมได้มีโอกาสไปฝึกงานที่โรงแรมแห่งหนึ่ง และได้ขอเช่าบูชาพระเครื่องจากผู้จัดการโรงแรมมาหนึ่งกล่อง โดยผู้จัดการเล่าให้ฟังว่า มีพระเคยมาเข้าพักที่โรงแรม เมื่อเช็คเอาท์ออกไปแล้ว ปรากฏว่าท่านลืมพระเครื่องทิ้งเอาไว้หนึ่งกล่อง ภายในมีพระหนึ่งร้อยองค์ ผู้จัดการเลยเก็บเอาไว้เผื่อท่านจะติดต่อกลับมาเพื่อขอรับคืน แต่เก็บไว้สองปีแล้ว ท่านก็ไม่ติดต่อกลับมา จะส่งคืนก็ไม่ทราบว่าท่านอยู่วัดไหน เมื่อผมไปฝึกงานที่นี่ ผู้จัดการเห็นผมชอบพระเครื่องเลยเอามาให้บูชา ผมเลยขอบูชามาทั้งหมดเก้าสิบแปดองค์เพราะผู้จัดการขอไว้สององค์ ภายหลังได้ถวายวัดไปจำนวนหนึ่ง และแจกให้คนใกล้ชิดไปบ้าง ที่อยากกราบเรียนถามคือ การที่ผมได้เช่าบูชาพระเครื่องมาในกรณีเช่นนี้เป็นการติดหนี้สงฆ์หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ติดหนี้สงฆ์ร้อยเปอร์เซ็นต์

ถาม : ถ้าเป็นการติดหนี้สงฆ์ เข้าใจว่าต้องถวายพระเครื่องที่เหลือคืนให้เป็นของสงฆ์ แต่ในกรณีที่แจกให้คนอื่นไปบ้างแล้วและไม่สามารถทวงคืนได้ ควรทำเช่นไรครับ ?
ตอบ : ถ้ารวบรวมคืนได้ก็ไปรวบรวมคืนมา แล้วก็ส่งให้ท่านผู้จัดการไปดูแลต่อ จนกว่าเจ้าของจะมารับคืน ถ้ารวบรวมไม่ได้ก็สร้างพระชำระหนี้สงฆ์ได้แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2015 เมื่อ 13:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 233 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #12  
เก่า 02-11-2015, 12:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ขอกราบเรียนถามเรื่องอาหารที่ถวายพระครับ กระผมเข้าใจว่าธรรมเนียมปฏิบัติ และประเพณีในแต่ละท้องถิ่นนั้นต่างกัน ผมเป็นคนจังหวัดกระบี่ ที่นี่เวลาไปวัด ชาวบ้านจะนำปิ่นโตใส่อาหารไปถวายพระ และวางปิ่นโตไว้หน้าพระสงฆ์แต่ละรูป เมื่อถึงเวลา จะกล่าวคำถวายพร้อมกัน แล้วก็จะมีคนเข้าไปประเคนปิ่นโตทั้งหมด เมื่อพระฉันอาหารเสร็จ ชาวบ้านก็จะเข้าไปหยิบปิ่นโตของตนเองกลับบ้าน โดยที่ไม่มีการรับประทานอาหารกันที่วัด อยากทราบว่า ในกรณีเช่นนี้ ญาติโยมที่นำปิ่นโตกลับบ้านโดยมีอาหารของตนติดมาด้วยนั้น จะติดหนี้สงฆ์หรือไม่ประการใดครับ ? เพราะทางวัดไม่มีการกล่าวคำอุปโลกน์
ตอบ : ตอบง่าย ๆ ว่า ถึงจะอยู่ถิ่นไหนก็ลงอเวจีที่เดียวกัน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2015 เมื่อ 13:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 226 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #13  
เก่า 02-11-2015, 12:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เนื่องจากมีความสงสัยใน “การเป็นเจ้าของที่แท้จริงของทรัพย์นั้น ๆ” ในบางกรณี ทรัพย์ชิ้นเดียวกัน มีผู้อ้างด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์ของตนเอง ว่าตนเป็นเจ้าของเหมือนกัน ซึ่งอาจจะด้วยเหตุผลที่ต่างกัน ทั้งด้านกฎหมาย หรือด้านเจตนาของเจ้าของคนเดิมที่มอบหมายทรัพย์นั้นให้มาด้วยปากเปล่า หรือแม้แต่การครอบครองปรปักษ์ หรือเป็นการซื้อของเก่าเปลี่ยนมือต่อ ๆ กันมา บางครั้งยังเคยได้ยินเรื่องของดวงวิญญาณเจ้าของเก่า ตามทวงคืนทรัพย์ ที่เจ้าของใหม่อาจได้มาโดยไม่รู้เรื่อง หรือวิญญาณที่สิงสถิตในสถานที่ที่นั้นมาเป็นสิบ ๆ ปี ไม่ยอมให้ผู้อาศัยใหม่มาอาศัยเพราะยังคิดว่าเป็นที่ของตนเอง ในกรณีดังกล่าวข้างต้นนี้ จะเป็นการหมิ่นเหม่ต่อการที่เราอาจจะไปสร้างเจ้ากรรมนายเวรที่เกี่ยวกับศีลข้อ ๒ โดยไม่ตั้งใจหรือเปล่าครับ ? และจะมีผลต่อยันต์เกราะเพชรที่ได้รับมาไหมครับ ?
ตอบ : ถามเสียยาวเลย คนหลงประเด็นไปแล้ว สิ่งที่ถามมาทั้งหมดสรุปลงตรงที่ว่า คุณตั้งใจไปเอาของเขาหรือเปล่า ? ถ้าตั้งใจไปเอาของเขาก็ผิดศีลเรียบร้อย ไม่ได้เกี่ยวว่าทรัพย์สินนั้นเป็นของใคร หรือได้มาโดยวิธีการไหน สำคัญตรงเจตนาคุณจะไปลักขโมยเขาหรือไม่ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2015 เมื่อ 13:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #14  
เก่า 02-11-2015, 12:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การเลือกที่จะไม่ใส่บาตรพระสงฆ์บางรูปที่ดูสภาพท่านไม่เรียบร้อย หรือรูปที่ชอบเดินวนไปวนมาหน้าร้านข้าวแกงเพื่อให้ได้รับบาตรหลาย ๆ รอบ หรือรูปที่มักจะให้พรผิด ๆ ถูก ๆ อยู่เสมอเป็นประจำโดยไม่มีการแก้ไข บางรูปที่ออกมาบิณฑบาตด้วยและท่านก็ซื้ออาหารบางอย่างกลับวัดด้วย หรือบางรูปที่ออกมาบิณฑบาตสาย ๆ หลังเก้าโมงเช้า การที่ผมไม่ใส่บาตรท่านเหล่านี้ จะถือเป็นการช่วยปกป้องพระพุทธศาสนาหรือไม่ครับ ? หรือว่าผมควรจะใส่บาตรท่านเหล่านี้โดยไม่ต้องสนใจสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นดีครับ เพื่อให้ได้บุญในการใส่บาตรสูงสุดครับ
ตอบ : ถ้ามีโอกาสให้ทำ การให้ทานต่อบุคคล ต่อให้ไม่มีศีลเลยก็มีอานิสงส์มากกว่าการให้ทานกับสัตว์เดรัจฉานเป็นร้อยเท่า ต้องเรียกว่าหาเรื่องตัดทางบุญตัวเอง แต่ถ้าไม่แน่ใจก็ตั้งใจถวายเป็นสังฆทานไป ท่านที่รับถ้าเอาไปกินไปใช้คนเดียวท่านก็เดือดร้อนเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2015 เมื่อ 13:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 221 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #15  
เก่า 02-11-2015, 12:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เรื่องการไปบน "พิงคเทพบุตร" ที่จังหวัดเชียงใหม่ ไม่ทราบว่าบนตรงกลางแจ้งในจังหวัดเชียงใหม่ที่ไหนก็ได้ หรือว่าต้องไปบนในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ครับ ?
ตอบ : ให้ไปบนที่ยอดดอยสุเทพ แล้วต้องเดินขึ้นไปด้วย...!

ถาม : แล้วของที่นำไปแก้บนควรจะเป็นอะไรบ้างครับ ถึงจะเหมาะสม ?
ตอบ : ทองคำแท่งสักกิโลกรัมหนึ่ง...!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2015 เมื่อ 13:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 224 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #16  
เก่า 02-11-2015, 12:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เมื่อคนเราตายไป ย่อมไม่สามารถนำเอาทรัพย์สมบัติติดตัวไปด้วยได้ แต่คนโบราณใช้วิธีฝังทรัพย์ไว้กับแผ่นดิน ด้วยหวังว่าเมื่อได้เกิดมาเป็นมนุษย์ในชาติต่อ ๆ ไป จะสามารถอธิษฐานขอเบิกใช้ทรัพย์ของตน ที่ฝากไว้กับแผ่นดินขึ้นมาใช้ได้ เป็นความจริงมากน้อยแค่ไหนครับ ?
ตอบ : เข้าใจผิดตั้งแต่แรกแล้ว เขาให้เอาเป็นอริยทรัพย์ติดตัวไป นั่นโง่ไปหน่อย แปรสภาพไม่เป็น

ฝังดินเอาไว้ โบราณเขาพูดเป็นปริศนาธรรมว่าให้สร้างบุญกุศลเก็บไว้ ถึงเวลาจะได้มีบุญกุศลเป็นเสบียงใช้ในชาติต่อ ๆ ไป ไม่ใช่ได้ยินว่าฝังดินไว้ก็ตั้งหน้าตั้งตาฝังเลย

ท่านบอกว่า ได้ทรัพย์มาแล้วให้แบ่งปันดังนี้ ส่วนที่หนึ่งใช้หนี้เก่า ส่วนที่สองเป็นเจ้าหนี้ใหม่ ส่วนที่สามฝังดินไว้ ส่วนที่สี่ทิ้งใส่เหว ใช้หนี้เก่าก็คือ พ่อแม่เคยเลี้ยงดูเรามาเหมือนกับเราเป็นหนี้ท่าน ถึงเวลาก็ให้เลี้ยงดูตอบแทนพ่อแม่ด้วย เป็นการใช้หนี้เก่า เป็นเจ้าหนี้ใหม่ก็คือเลี้ยงดูบุตรภรรยาของตนเอง ฝังดินไว้ก็คือสร้างบุญกุศลเพื่อที่จะได้เอาไว้ใช้ในชาติถัด ๆ ไป ทิ้งใส่เหวก็คือเอาไว้กินไว้ใช้ในชีวิตประจำวันซึ่งมีแต่จะหมดไปเท่านั้น สรุปว่าปริศนาของคนโบราณยังคงเป็นปริศนาต่อไป...!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2015 เมื่อ 13:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #17  
เก่า 02-11-2015, 12:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การแขวนวัตถุมงคลหลายชิ้น อานุภาพของวัตถุมงคลจะหักล้างกันเองไหมครับ ?
ตอบ : ต้องบอกว่าเอากิเลสตัวเองไปใช้กับพระ ถ้าภาษิตจีนบอกว่า เอาจิตใจคนต่ำช้าไปประเมินวิญญูชน การแขวนวัตถุมงคลที่เราเชื่อถือ ยกเว้นว่าเป็นสิ่งที่ทำมาจากวิชาการทางไสยศาสตร์ ถ้ามาปนกับพุทธศาสตร์ก็จะโดนอานุภาพลบล้างไป ถ้าเป็นวัตถุมงคลที่เป็นพุทธศาสตร์ด้วยกันก็ไม่ได้หักล้างกันหรอก กังวลไม่เข้าเรื่อง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2015 เมื่อ 13:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #18  
เก่า 02-11-2015, 13:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การนอนกอด การหอม การฟัดตุ๊กตาโดเรม่อน ตุ๊กตาหมี ผิดศีล ๘ หรือไม่ครับ ?
ตอบ : อาการหนักนะ...! เปลี่ยนเป็นตุ๊กตายางดีกว่า ตีความเอาตามแบบพระสงฆ์ก็แล้วกันว่า ถ้ามีจิตกำหนัดก็โดนอาบัติ ถ้าเรามีจิตกำหนัดก็ถือว่าศีลแปดด่างพร้อย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2015 เมื่อ 13:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #19  
เก่า 02-11-2015, 13:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : กระผมได้ความเบื่อจากการเห็นทุกข์ ยิ่งหนีก็ยิ่งทุกข์ หนีไม่ได้ จึงพิจารณาตามหลวงพ่อที่กล่าวไว้ ว่าทุกข์เกิดจากบุพกรรมที่ทำเอาไว้แต่อดีตมาส่งผล ใจจึงสงบลงได้บ้าง แต่อารมณ์เบื่อนอนนิ่งไม่ไปไหน เบื่อชั่วไม่อยากทำกลัวผลที่ตามมา เบื่อดีด้วยครับ จะทำสมาธิฝึกอะไรก็ประเดี๋ยวเบื่อ กระผมควรคิดและเริ่มปฏิบัติอย่างไรเพื่อก้าวข้ามให้ถึงมรรคถึงผลครับ ?
ตอบ : สงสัยเหมือนกันว่าหลวงพ่อจะสอนผิด..! ความทุกข์มีหลายประเภทด้วยกัน มีสภาวทุกข์ ทุกข์ที่เกิดมาพร้อมกับร่างกายนี้ อย่างไรก็ต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตาย มีนิพัทธทุกข์ ทุกข์เนืองนิตย์ที่เกิดขึ้น เช่น หนาว ร้อน หิวกระหาย สันตาปทุกข์ ความทุกข์ที่มาบีบคั้นให้เดือดเนื้อร้อนใจต่าง ๆ เป็นต้น

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ สาเหตุใหญ่ก็เพราะมีร่างกายนี้ ถ้าไม่มีร่างกายนี้ ความทุกข์ก็ไม่สามารถที่จะบีบคั้นได้ ส่วนขณะที่เรามีร่างกาย ทำไมความทุกข์จึงบีบคั้นได้ ? ก็เพราะเราไปยึดถือว่าร่างกายนี้เป็นเรา เป็นของเรา ในเมื่อเราไปยึดถือ ถึงเวลาเกิดความทุกข์ก็เลยไปยึดว่าทุกข์นี้เป็นของเรา ถ้าสามารถพิจารณาให้เห็นชัดว่าร่างกายนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเราได้ แล้วทุกข์จะเป็นของเราได้อย่างไร ? ไปค่อย ๆ เริ่มต้นทำใหม่ จำคำสอนครูบาอาจารย์มาผิดตั้งแต่แรกแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2015 เมื่อ 13:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #20  
เก่า 02-11-2015, 15:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เมื่อวานผมได้มีโอกาสรับยันต์เกราะเพชร แล้ววันนี้ผมได้หยิบช็อกโกแลตมากิน พอกัดไปคำแรกได้กลิ่นแปลก ๆ กลัวว่าจะเป็นช็อกโกแลตที่มีเหล้า ผมเลยรีบคายทิ้งแล้วบ้วนปาก (ผมยังไม่ได้เคี้ยวนะครับ) แบบนี้ยันต์จะสลายตัวไหมครับ ?
ตอบ : น่าเสียดาย..น่าจะแกล้งตีมึนแล้วกลืนไปเลย...! ถ้ารู้จักระมัดระวังอย่างนี้แปลว่ายังรักษาได้อยู่ ทุกคนควรจะเลียนแบบ ก็คือ มีสติ รู้แล้วก็รีบระวังป้องกันไว้ เราต้องรักษายันต์ ยันต์จึงจะรักษาเรา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2015 เมื่อ 16:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 223 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:14



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว