กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #101  
เก่า 16-02-2019, 07:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,144 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สอบบาลีปีนี้ หลวงพ่อช่วยสงเคราะห์ได้ไหมครับว่าจะออกเรื่องไหนครับ ?
ตอบ : จะมักง่ายไปไหม ? แบบนี้เรียกว่าไร้ฝีมือ...ต้องทำเอง

ตั้งแต่ปีที่มหาเอสอบ ต้องบอกว่าเรื่องบางอย่างนี่ฝืนไม่ได้จริง ๆ โทรไปเท่าไรก็ไม่ติด มาติดตอนสอบเสร็จแล้ว ท่านว่า “พระอาจารย์มาบอกทำไมตอนนี้” “ก็ผมโทรไปตั้งแต่ก่อนคุณสอบแล้ว คุณไม่รับสายนี่หว่า..!” “อ๋อ...เข้าห้องแล้วเขาให้ปิดโทรศัพท์ครับ” ..(หัวเราะ)..


ถาม : แบบนี้ต้องไลน์มาเลยครับ ?
ตอบ : หลักฐานคาจอ จะพาซวยทีหลังนะสิ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 10:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #102  
เก่า 16-02-2019, 08:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,144 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ปีที่มหาเอสอบประโยค ๗ หลวงพ่อสมเด็จฯ วัดปากน้ำ ท่านก็นั่งเป็นประธานอยู่ตรงหน้าพอดี โยชนาเขาอนุญาตให้เปิดหนังสือดูได้ทุกคน คราวนี้ตัวเองนั่งอยู่ตรงหน้าหลวงพ่อสมเด็จฯ แล้วก็เป็นพระวัดปากน้ำด้วย ก็เลยไม่กล้าเปิด คนอื่นเขาสอบได้กันหมด ท่านตกอยู่คนเดียว..!

อย่างสมัยผมสอบปริญญาตรี ท่านอาจารย์ ดร.ชิต คุมห้องสอบ ท่านค่อนข้างจะเข้มงวด ผมนั่งอยู่ท้ายห้อง ท่านก็มานั่งคุยอยู่ข้างหู ท่านรู้ว่าถึงชวนคุยผมก็ทำข้อสอบได้ คราวนี้พระอื่นก็ตายหมด อยู่ท้ายห้อง มองไปข้างหน้าห้องก็เห็นหมด จะขยับอะไรก็ไม่ได้เลย ก็ได้แต่ภาวนาให้ท่านอาจารย์เมื่อยสักที จะได้ไป
นั่งที่โต๊ะหน้าห้อง..(หัวเราะ).. ส่วนผมทำเสร็จก็ไปแล้ว ท่านอาจารย์ ดร.ชิต เป็นประโยค ๙ รุ่นแรก ๆ เลยที่จบด็อกเตอร์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 10:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #103  
เก่า 16-02-2019, 08:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,144 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ไปนึกถึงพระรุ่นเก่า ๆ ที่ท่านเรียนบาลี เพียรพยายามกันขนาดต้องนอนหนุนมะพร้าวอย่างนี้ ถึงเวลาพลิกทีหนึ่ง หัวหล่นก็ตื่น..ท่องบาลีต่อ ไม่มีไฟก็เอาธูปมา ๒ ดอก ๓ ดอกจุดเอา ถึงเวลาเป่าทีหนึ่งมองตัวหนังสือได้ตัวสองตัวก็ท่องไป พอท่องได้แล้วก็เป่าธูปใหม่ดูคำต่อไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 10:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #104  
เก่า 16-02-2019, 08:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,144 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เวลาไปงานอบรมผมก็ชอบเดินไปดูตามห้องว่าเขาทำอะไร ผมว่าที่อบรมนี่ได้ผลไม่ถึง ๓๐ เปอร์เซ็นต์ บางคนยังไม่มีพื้นฐานเลยแล้วไปอบรม อย่าลืมว่าอบรมบาลีเป็นการติว แค่ทบทวนเนื้อหาสำคัญเท่านั้น ไม่ใช่ไปเริ่มต้น สิ โย อํ โย เสียเมื่อไร เพราะฉะนั้น..พอพื้นฐานตัวเองไม่แน่น ก็นั่งสัปหงกไปเถอะ เพราะว่าฟังไม่รู้เรื่อง

บางทีอาจารย์พูด ผมเองผมก็สงสัยทำไมเป็นอย่างนี้วะ ? "อันว่าสามเณรชั่วเรวัตตะนั้น..อันว่าสามเณรชั่วเรวัตตะนั้น" มาจากไหนวะ ? ท้ายสุดต้องไปเปิดดู อันว่าสามเณร “ชื่อว่า” เรวัตตะ เขาพูดกล้ำเร็วมากเลย ผมก็ว่าคำนี้มาจากไหน..สามเณรชั่ว กูไม่เคยได้ยิน..! ไปเจออาจารย์แบบนี้ถ้าลูกศิษย์ไม่ขวนขวายก็คลั่งเลย ไม่เข้าใจว่ามาได้อย่างไร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 10:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #105  
เก่า 16-02-2019, 08:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,144 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องบาลีก็อย่างที่ว่านั่นแหละ บางคนก็ดวงเฮงอ่านถูกที่พอดี ต้องเชื่อสัญชาตญาณตัวเอง ถ้าบอกว่าตรงนี้ใช่ก็เน้น ๆ หน่อย แต่ถ้าจะเอาอย่างท่านอาจารย์มหาสันติก็คงไม่ได้หรอก รายนั้นไปท่องบาลีอยู่หลังพระประธาน เทวดาเดินออกมาบอกเลย “เอาสองหน้านี้” ท่านก็เชื่อนะ สอบประโยค ๗ ด้วย..! ท่องอยู่แค่สองหน้าแล้วสอบได้เลย

พอประโยค ๘ รีบไปใหม่ ไม่ให้เว้ย ..(หัวเราะ).. ประโยค ๘ คุณไปเหนื่อยเอาเองเถอะ..! ท่านก็สงเคราะห์ตามวาระ พอพ้นวาระไปแล้วก็ไม่ได้อีก โบสถ์วัดสร้อยทอง ท่านเหนื่อย ๆ ก็นอนภาวนาแล้วก็หลับไปเลย เห็นเทวดาเดินออกมาบอกเลย

ส่วนมหาปรีชาสอบปีแรกก็ตก ถามว่าทำไม ? อ่านไปถึงตรงนั้นพอดี แต่อ่านได้แค่ครึ่งเดียว น่าเจ็บใจกว่าอ่านไม่ถึงตั้งเยอะ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 10:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #106  
เก่า 16-02-2019, 08:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,144 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

บางทีเจออาจารย์หักหลัง ออกปณามคาถา ..(หัวเราะ).. เคยไปเปิดดูข้อสอบเก่าไหม ? ออกอะไรไม่ออก ออกปณามคาถา ถ้าเป็นของไทยก็คำนำ แทนที่จะออกเนื้อหาดันไปออกคำนำ..!

อย่างผมสอบพระอุปัชฌาย์ก็เหมือนกัน เขาถามว่า เมื่อวันปฐมนิเทศ ประธานให้โอวาทว่าอย่างไร ? ผมตอบได้อยู่คนเดียวจริง ๆ คนอื่นลืมหมด ๗ วันมาแล้ว ..(หัวเราะ).. เป็นเราก็คงไม่นึกหรอกว่าเขาจะออกอย่างนั้น เขาต้องออกเนื้อหาในกฎมหาเถรสมาคม นี่เล่นออกโอวาทของประธาน ท่านคงอยากจะรู้ว่ามีใครสนใจสิ่งที่ประธานพูดและจดจำได้บ้าง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 10:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 153 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #107  
เก่า 16-02-2019, 08:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,144 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คำภาวนาโสตัตตะภิญญาใช้ฝึกมโนมยิทธิได้ไหมครับ ?
ตอบ : มโนมยิทธิเขาให้ใช้ นะมะพะธะ โดยตรง เหตุที่ต้องใช้โดยตรงเพราะว่าเหมือนกับเป็นสัญญาณบอกฝ่าย ก็คือถ้าหากว่าใครใช้คำภาวนานี้แล้วท่านจะสงเคราะห์ ถ้าเราไปใช้ผิดท่านไม่ช่วย ก็ต้องใช้กำลังตัวเอง เหนื่อยตายเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 10:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #108  
เก่า 16-02-2019, 08:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,144 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่เป็นคนมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงกับมานะ ต่างกันอย่างไร ?
ตอบ : คล้าย ๆ กัน คนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ถ้าหากว่าขาดปัญญาหรือไม่รู้กาลเทศะในการปฏิบัติตน วางตน จะกลายเป็นมานะไป

เคยได้ยินคำว่า “ขัตติยมานะ” ไหม ? นั่นแหละ..เต็ม ๆ เลย พระมหาอุปราชาไม่คิดจะรบกับพระนเรศวร แต่ขัตติยมานะทำให้ต้องรบ เพราะว่าโดนท้าทายต่อหน้าสมัครพรรคพวกตั้ง ๑๒ คน ซึ่งบรรดาลูกเจ้าเมืองต่าง ๆ ก็เป็นลูกไล่ของท่านมาทั้งนั้น ถ้าหากว่าตัวเองไม่ยอมรับ ถ้าเกิดรอดไปได้นี่ก็ไม่รู้ว่าจะมองหน้าใครได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 10:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #109  
เก่า 16-02-2019, 08:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,144 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีนักการเมืองคนหนึ่งเคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เขาบอกว่าไม่ต้องเรียนประวัติศาสตร์ เมื่อไม่ต้องเรียนประวัติศาสตร์แล้วให้แต่งตำราออกมาว่าฝันไป ในเมื่อฝันไป ประวัติศาสตร์ไทยจึงรางเลือนไป โทษเด็กนักเรียนไม่ได้ ในระยะเวลาเดียวกันก็ออกมาด้วยว่า ห้ามเขียนว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไทย ?
ตอบ : อาตมาถึงบอกว่าไม่ได้โทษเด็ก แต่โทษระบบการศึกษาของเรา แล้วระบบการศึกษามาจากไหน ? ก็มาจากบรรดาท่านทั้งหลายที่มีอำนาจนั่นแหละ โดยเฉพาะเห็นเด็กเป็นหนูทดลองยา พอตัวเองมาก็เปลี่ยนหลักสูตรใหม่ เปลี่ยนวิธีการใหม่ ยุ่งไปหมด แล้วดูระบบ “ควายเซ็นเตอร์” จนป่านนี้สำเร็จไหมเล่า ? ๒๐ กว่าปีแล้ว

ถาม : ระบบเอาเด็กเป็นศูนย์กลาง มาจากที่ภรรยาของผู้มีอำนาจบริหารตอนนั้นเรียนปริญญาโท เขาอยากทดลองเอามาสอนเด็กพิเศษ แต่สามีดันอยากมีผลงาน เลยเอามาใช้ทั้งประเทศไปเลย ก็เลยมาจนถึงบัดนี้ ?
ตอบ : ในส่วนของเอาเด็กเป็นศูนย์กลางจริง ๆ ถูก แต่ไม่ถูกตรงที่เขาไม่ได้ดูบริบทของสังคมบ้านเรา ไปเลียนแบบต่างประเทศมาโดยไม่ลืมหูลืมตา ต่างประเทศเขาให้เด็กทำอะไรด้วยตนเอง คิดด้วยตนเองมาตั้งแต่ยังไม่ทันจะเดินได้ เคยเห็นฝรั่งกี่คนอุ้มลูกบ้าง ? ถึงเวลาเตาะแตะ ๆ ได้ก็จูงเดินแล้ว จะเดินหรือไม่เดิน ? ถ้าแหกปากร้องก็ทิ้งไว้ตรงนั้นเลย เด็กก็ต้องตามมาเอง ก็ต้องพยายามตะเกียกตะกายเอง ก็ทำให้เขารู้จักคิด รู้จักเอาตัวรอด ในเมื่อใช้ระบบให้เด็กเป็นศูนย์กลางเขาก็สามารถที่จะรองรับได้

ส่วนบ้านเรานี่ไม่มีหรอก ตัวเล็กกว่าควายนิดเดียวยังโอ๋อยู่ตลอด..! ก็เลยทำให้เด็กของเราคิดไม่เป็น ทำไม่เป็น ในเมื่อคิดไม่เป็น ทำไม่เป็น ไปเอาระบบที่ให้เด็กเป็นศูนย์กลางก็ไปไม่รอด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 10:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #110  
เก่า 16-02-2019, 08:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,144 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ระบบนั้นดี แต่ไม่เหมาะสมกับสังคมของเรา ของเก่าเราให้ท่องจำ เขาก็บอกว่าไม่เหมาะ ไม่ควร ไม่ดี เพราะว่าได้แต่จำอย่างเดียว ถึงเวลาก็มาทดสอบวิธีใหม่ คือให้คิด คราวนี้เด็กของเราไม่รับอนุญาตให้คิด เข้าใจไหม ? ขนาดถามว่า “ลูกโตขึ้นอยากเป็นอะไร ?” “อยากเป็นนักร้อง” “ทำไมไม่เป็นหมอ ?” เอ้า..ตกลงจะให้ลูกคิดเองไหม ? ก็คือโดนตีกรอบทางความคิดมาตั้งแต่เด็ก จะคิดเองเมื่อไร ผู้ใหญ่ก็บังคับให้คิดเรื่องอื่นเมื่อนั้น ก็เลยทำให้เด็กเราคิดไม่เป็น ระบบก็เลยพิกลพิการ ครึ่ง ๆ กลาง ๆ อย่างที่เห็นนี่แหละ ลงทุนเกี่ยวกับการศึกษามากที่สุด แต่ผลที่ได้รับน้อยที่สุดจนน่าเวทนา

ดังนั้น..อาตมาถึงเห็นว่า ถ้าหากว่าพ่อแม่มีศักยภาพเพียงพอ ส่งลูกไปเรียนต่างประเทศเถอะ ประเทศไหนก็ได้ ในอาเซียนของเราส่งไปสิงคโปร์ก็ได้ ถ้าหากว่าต่างประเทศสามารถไปอังกฤษหรืออเมริกาได้ก็ดี ถ้าไม่ได้เอาแค่จีน ญี่ปุ่นก็พอ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 10:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 151 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #111  
เก่า 16-02-2019, 08:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,144 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : แล้วระบบการใช้เหตุใช้ผล ให้เด็กเป็นศูนย์กลางนี่ มีผลตรงที่ว่าเด็กไม่ใส่ใจใคร เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง อยากได้อะไรก็ทำเลย ไม่คิดถึงคนรอบข้าง ?
ตอบ : เมื่อวานนี้ที่มีโจรจี้ร้านสะดวกซื้อที่โคราช แล้วพนักงานอยู่กันสองคน คนหนึ่งล็อกเพื่อนหันเข้าหาโจร เพราะว่าเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง โจรก็แทงเพื่อนฟุบไปเลย คือเพื่อนกำลังจะกระโดดข้ามเคาน์เตอร์หนีแล้ว ด้วยความที่ตัวเองกลัวโจร เอาตัวเองรอดดีกว่า ก็เลยกระชากเพื่อนมาบังหน้าตัวเองไว้

ลักษณะอย่างนี้ถ้าว่าไปแล้วก็คือเป็นธาตุแท้ของเขา เป็นธาตุแท้ลักษณะที่เห็นแก่ตัว แต่ก็เป็นการเอาตัวรอดอย่างหนึ่ง เราจะเห็นว่า บุคคลที่รู้จักเอาตัวรอด ก็สามารถอยู่รอดในสังคมได้ ถ้าไม่รู้จักเอาตัวรอด ก็โดนสังคมกลืนกินไป เพียงแต่ว่าสิ่งที่เขาทำนี้ ไม่มีใครเห็นด้วยสักคน ก็โดนด่าจมดินไป คาดว่าอีกไม่กี่วันน้องเขาคงลดความอ้วนได้ เพราะว่าเครียดจนกินไม่ลง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 10:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 147 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #112  
เก่า 16-02-2019, 09:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,144 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เรื่องฮิตเลอร์ ที่จริงหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านบอกว่าฮิตเลอร์ไม่ได้สั่งฆ่าคนขนาดนั้น แต่สามทหารเสือเป็นคนสั่ง ?
ตอบ : ใครจะทำก็แล้วแต่ ผู้นำต้องรับผิดชอบ

พลโทไดทริช ฟอน วอลทริซ คุมทหารเยอรมันบุกฝรั่งเศส คำสั่งก็คือ “เผาให้ราบ” โดยเฉพาะถล่มพระราชวังแวร์ซายและโบสถ์นอเตรอะดามให้ดังไปถึงเบอร์ลิน ท่านนายพลไดทริชบอกไม่ทำ สั่งทหารทุกคนเลย ยึดพื้นที่อย่างเดียว ถ้าเขาไม่ต่อต้านอย่าไปทำ ฝรั่งเศสจึงรอดมาได้ ไม่อย่างนั้นจะมีสภาพไม่ต่างจากวอร์ซอ ทหารอยู่แนวหน้าพิจารณาตามสถานการณ์ ไม่จำเป็นต้องฟังคำสั่งแนวหลัง แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วก็คือไม่กล้าคัดค้าน


ถาม : ทำแบบนั้นจะโดนโทษทางปฏิบัติ ?
ตอบ : ก็คงคล้าย ๆ กับอาตมานั่นแหละ ถ้าเจ้านายกลัวก็ไม่มีปัญหา ถ้าเจ้านายไม่กลัวก็โดน..!

ถาม : แสดงว่านายพลคนนี้ต้องเสียสละมาก ถึงไม่ยอมทำตามคำสั่ง ?
ตอบ : ก็พลโท คนอื่นเขาพลเอกกันหมด ..(หัวเราะ).. คุณก็เลยได้แค่พลโท เพราะคุณไม่ยอมเผาปารีส..! ลองไปเสิร์ชคำว่า “วอร์ซอ โปแลนด์ World War II” ดูสิ จะเห็นอะไรที่ราบ..น่าสยองมาก

ถาม : หรือว่าเห็นคนตายมาก เลยไม่กล้าทำ ?
ตอบ : อยู่ที่สามัญสำนึก บางคนก็กระหายเลือด แบบที่ญี่ปุ่นยึดนานกิง มีนายทหารญี่ปุ่นอยู่สองคน แข่งกันกับเพื่อน ว่าใครจะใช้ซามูไรฆ่าคนจีนได้มากกว่ากัน แล้วก็ตัดหัวไปคนละสองร้อยกว่า อันนั้นเป็นสันดานส่วนตัว ประเภทว่าโหดเหี้ยมอำมหิตจนเห็นชีวิตเพื่อนมนุษย์เป็นผักเป็นปลา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 10:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #113  
เก่า 16-02-2019, 09:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,144 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เครื่องหมายสวัสดิกะเขาว่าคล้ายกับเครื่องหมายของมนุษย์ต่างดาว ?
ตอบ : ดาวไหน ? สวัสดิกะก่อนหน้านี้คือธรรมจักร อย่าลืมว่าคำว่า “สวัสดิกะ” เป็นภาษาสันสกฤต แล้วเอาไปใช้กันทั่วโลก คือเครื่องหมายธรรมจักรในพระพุทธศาสนา แสดงการหมุนวนที่ไม่มีที่สิ้นสุดของหลักธรรมของพระพุทธเจ้า

ถาม : นอกจากญี่ปุ่นที่ว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวแล้วมีชาติไหนอีกบ้างไหมคะ ?
ตอบ : ไปเอาที่ไหนมาว่าญี่ปุ่นเป็นมนุษย์ต่างดาว ?

ถาม : ตอนนั้นที่หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านเล่าว่าพระเจ้าจักรพรรดิไปเอามนุษย์ต่างดาวมา แล้วมีหนึ่งชาติคือญี่ปุ่นที่เอามาหนึ่งพันคน ?
ตอบ : บังเอิญว่าอาตมาไม่เคยได้ยิน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 10:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #114  
เก่า 16-02-2019, 09:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,144 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ญี่ปุ่นไปจากเมืองจีนสมัยรัฐฉินรุ่งเรือง จิ๋นซีฮ่องเต้รวมประเทศจีนเป็นหนึ่ง แล้วจัดให้วัยรุ่นชายหญิง ๕๐๐ คน ออกไปเดินทางเพื่อหายาอายุวัฒนะ คราวนี้พวกนี้ไปติดอยู่ที่ ๓ เกาะบูรพา แล้วก็เลยกลายเป็นต้นตระกูลของญี่ปุ่นสืบมา

ถามว่าทำไมต้องส่งวัยรุ่นไป ? เพราะว่าไปแต่ละทีเป็นสิบ ๆ ปี ส่งคนแก่ไปอาจจะตายเสียก่อน เพราะฉะนั้น..จะเห็นว่าอักษรคันจิของญี่ปุ่น จริง ๆ แล้วก็คือตัวหนังสือจีนครึ่งซีก ก็คือเด็กจะไปจำอะไรได้มากมาย ในเมื่อจำได้แค่นั้น ถึงเวลาก็กลายเป็นภาษาญี่ปุ่นขึ้นมาแค่นั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 10:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 147 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #115  
เก่า 16-02-2019, 10:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,144 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เรื่องท่านจี้กงนี่ท่านเป็นพระหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : จี้กงเทียบกับบ้านเราก็ประเภทหลวงพ่อขี้วัว สนุกสนานเฮฮาไปเรื่อย ปกปิดจริยาตัวเอง กลัวคนเขาจะไปรบกวนมาก ทำตัวเหมือนคนบ้า คนก็ไม่ไปกวนมาก แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ คนมีความสามารถ จะแกล้งบ้าขนาดไหนก็ตาม เผลอ ๆ ก็หลุดออกมา

ถาม : ท่านเอากายเนื้อไปเที่ยวนรกเลยหรือคะ ?
ตอบ : ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับระดับนั้น ที่หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านสอนมโนมยิทธิ เพราะว่าท่านเอากายเนื้อไปจนเหนื่อยเต็มทีแล้ว เอาตัวจริงไปก็เหนื่อยเท่าตัวจริงนะสิ แต่ถ้าเอาใจไปก็ไม่เหนื่อยเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 10:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #116  
เก่า 17-02-2019, 08:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,144 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เคยบวชแล้วโยมที่บ้านถวายของ พอสึกแล้วเราเอาของกลับบ้านมาด้วย ต้องถวายคืนวัดที่สึกมาหรือต้องทำอย่างไรครับ ?
ตอบ : ก็ถือว่าติดหนี้สงฆ์ ชำระหนี้สงฆ์เท่าราคาปัจจุบันก็หมดเรื่อง

ส่วนใหญ่แล้วถ้าวัดที่ครูบาอาจารย์ท่านไม่ได้เข้มงวดจริงจัง ท่านที่ไม่รู้ก็มักจะทำแบบนั้นกัน หลายรายถึงเวลา
ได้ถ้วยโถโอชามมาก็ส่งกลับบ้านหมด เขาถวายมาเพราะว่าเราเป็นพระ เราเป็นสงฆ์ ถ้าเป็นฆราวาสปกติก็คงไม่มีใครเขาให้แบบนี้

ดังนั้น..เขาถึงได้เรียกว่า “ของสงฆ์” ถวายมาต้องคิดว่าเป็นของส่วนรวม ไม่ใช่ของส่วนตัว ถ้าของยังอยู่ในสภาพดีก็เอาไปคืนวัด ถ้าไม่ได้อยู่ในสภาพดีก็คิดราคาปัจจุบัน ถวายเป็นเงินชำระหนี้สงฆ์ไป

ถาม : ชำระหนี้สงฆ์ที่ไหนครับ ?
ตอบ : ชำระหนี้สงฆ์ที่ไหนก็ได้ แต่ถ้าหากว่า
จะคืนของนั้น ต้องคืนที่วัดเดิม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-02-2019 เมื่อ 11:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 146 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #117  
เก่า 17-02-2019, 08:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,144 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าหมาแมวที่วัดวิ่งชนข้าวของพังจะติดหนี้สงฆ์ไหมครับ ?
ตอบ : มีโทษเหมือนกัน แต่โทษน้อยกว่าคน เพราะว่าเขาไม่รู้ ความมืดบอดในภพภูมิที่ต่ำกว่าก็เลยทำให้โทษของเขาน้อยกว่า

ถาม : อย่างอีกาในธรรมบทที่บินมาเอากับข้าวที่เขาจะถวายสงฆ์ จะติดหนี้เยอะกว่า ?
ตอบ : ก็ไม่น่าจะเท่าคน คนทำทั้ง ๆ ที่รู้นี่สาหัสกว่าเยอะ สมมติว่าเราลงอเวจี ๑ กัป อีกานั้นอาจจะลงแค่ ๕,๐๐๐ ปี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-02-2019 เมื่อ 11:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 143 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #118  
เก่า 17-02-2019, 08:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,144 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หนูดูรายการสัตว์โลก อย่างสัตว์เขาไม่ได้จะปองร้ายกัน แต่เป็นการเอาชีวิต ล่ากันไปล่ากันมา จะมีเวรมีกรรมต่อกันไหมคะ ?
ตอบ : มี...แต่ก็บอกแล้วว่าโทษน้อยกว่า เราจะเห็นว่าสัตว์เขาล่าแค่อิ่ม แต่กักตุนไม่เป็น พอถึงเวลากินอิ่มแล้ว สิงโตก็นอนมองพวกม้าลาย เก้ง กวาง เดินไปเดินมา ไม่มีใครสนใจ แต่ถ้าหิวเมื่อไรก็ล่าใหม่

ถาม : พอฆ่าเขา อย่างนี้ก็มีกรรมก็ต้องฆ่ากลับกันไปมาสิคะ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่ก็ประมาณ ๕๐๐ ชาติ อย่างนางยักษิณีกับนางกุลธิดา อโหสิกรรมต่อกันก็จบ นางกุลธิดาเอานางยักษิณีไปอยู่ด้วย สร้างกระต๊อบให้อยู่กลางนา ถึงเวลาก็หาอาหารไปให้ นางยักษ์ก็ไม่ต้องไปล่าหากินเอง พอถึงเวลาหน้านี้น้ำจะแล้ง ก็บอกว่าให้ปลูกข้าวในที่ลุ่ม หน้านี้น้ำจะมากก็ให้ปลูกข้าวในที่ดอน นางกุลธิดาก็ได้รับความสะดวก หากินสบาย จึงกลายเป็นธรรมเนียมเซ่นนาตาแฮกของทางอีสานเรา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-02-2019 เมื่อ 11:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 137 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #119  
เก่า 17-02-2019, 08:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,144 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทางอีสาน พระบวชใหม่เขาเรียกว่าครูบา ?
ตอบ : บวชใหม่ก็คือพระ

ถาม : เพื่อนไปบวชแล้วเขาเรียกครูบา ?
ตอบ : ถ้าหากว่าได้รับการสรงน้ำจากโยม ๓ ครั้งขึ้นไป เขาเรียกว่า “จารย์” ถ้าหากว่าเป็นที่เคารพนับถือของคนทั้งบ้านทั้งเมืองเขาเรียก “ญาคู” ถ้าสึกออกมาก็เป็น “เซียง” ถ้าไม่เรียกญาคูก็เรียก “ญาท่าน” คำนี้มาจาก “อาชญา” หรือ “อาญา” ก็คือมีอำนาจในการที่จะลงโทษคนอื่น ถ้าสั่งสอนแล้วไม่ฟังก็ “ผัวะ” ได้เลย..!

ถาม : เวลาเขาบอกว่า มีพระเถรานุเถระจากอีสาน ก็จะมีครูบานั้นครูบานี้ ?
ตอบ : อาจจะเป็นธรรมเนียมเฉพาะที่ อย่างบางที่อาตมาไป เขาเรียกพระทุกรูปว่า “ครูบา” คำนี้เป็นธรรมเนียมภาคเหนือไม่ใช่ธรรมเนียมอีสาน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-02-2019 เมื่อ 11:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 139 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #120  
เก่า 17-02-2019, 08:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,144 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ครูบาภาคเหนือแบ่งเป็นสองส่วนด้วยกัน ส่วนหนึ่งก็คือได้รับการอภิเษก คำว่าอภิเษกนี้แบ่งเป็นสองอย่างด้วยกัน อย่างแรกคือ ทางคณะสงฆ์เห็นสมควรก็สวดยกขึ้นเป็นครูบา อีกส่วนหนึ่งก็คือ ทางบ้านเมืองเห็นสมควร เป็นครูบาอาจารย์ที่บรรดาเจ้าใหญ่นายโตเขาเคารพนับถือ ก็ขอร้องพระให้ช่วยสวดยกขึ้นเป็นครูบา แต่ว่าทั้งสองอย่างเหมือนกันก็คือ ต้องมีอายุสมควร มีพรรษาสมควร มีความดีเป็นที่เคารพนับถือเลื่อมใสของผู้คนจริง ๆ

ส่วนอีกประเภทหนึ่งท่านเรียกว่า “ครูบาเจ้า” ครูบาเจ้าก็คือต้องสืบเชื้อสายมาจากเจ้าเจ็ดตนสมัยก่อน ที่ครองเชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน น่าน แพร่ ฯลฯ คราวนี้ในส่วนของครูบาเจ้า เราเรียกส่งเดชไม่ได้ อย่างครูบาเจ้าเกษม เขมโก เรียกได้เพราะว่าท่านเองมีเชื้อสายเจ้าอยู่ แต่ถ้าคนทั่วไปเป็นได้แค่ครูบาเฉย ๆ แล้วก็ไม่ใช่เรียกกันส่งเดช แต่ต้องได้รับการสวดยกขึ้นให้เป็น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-02-2019 เมื่อ 11:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 140 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 12:01



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว