กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 06-08-2014, 14:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อย่างวัตถุมงคลที่พระท่านพุทธาภิเษก มีทางที่จะเสื่อมอานุภาพไหมครับ ?
ตอบ : ไม่มี...ยกเว้นว่าเราเสื่อมศรัทธาเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2014 เมื่อ 15:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 225 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 06-08-2014, 14:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การเป็นพระอนาคามีควรเน้นการปฏิบัติตรงไหนคะ ?
ตอบ : ตั้งใจละสังโยชน์ ๕ ให้ได้ก่อน ไปเปิดตำราดูเลยว่ามีอะไรบ้าง แล้วหลังจากนั้นค่อยมาตัดสังโยชน์ข้อสุดท้าย

ถาม : เปิดอ่านและฟังอยู่ ?
ตอบ : ทำก็คือทำ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรคอยดูกันต่อไประยะยาว ๆ จำไว้ว่าถ้าก้าวถึงความเป็นพระอนาคามี ส่วนใหญ่จะอยู่บ้านไม่ได้ บ้านไม่ใช่สถานที่สำหรับเราแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2014 เมื่อ 15:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 226 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 06-08-2014, 14:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีเด็กที่โรงเรียนทำข้อสอบ ให้นั่งสอบกับพื้น เขาก็นั่งสมาธิสวดมนต์ เพื่อน ๆ เขาก็ว่า เด็กเขาก็ทำอย่างนี้ทุกครั้ง คนเดินไปเดินมาเขาก็ดู เขาจะนั่งสมาธิ สวดอิติปิ โสฯ แผ่เมตตา ก่อนทำข้อสอบ ?
ตอบ : คนที่ทำอย่างนั้นได้กำลังใจต้องดีมาก ไม่หวั่นไหวกับคำพูดของคนอื่น บุคคลที่มีสิทธิ์จะบรรลุธรรมต้องเป็นอย่างนั้น เขาทำถูกแล้ว ถ้าเราห้ามจะกลายเป็นโทษของเรา

ถาม : ปล่อยเขาไปเลย ?
ตอบ : ปล่อยเขาเลยจ้ะ

ถาม : ว่าจะแนะนำคาถาท่านปู่พระอินทร์ให้เขาค่ะ
ตอบ : ถ้าได้ไปนี่จะกลายเป็นเสือติดปีกเลย เพราะว่าศรัทธาเขามีมากอยู่แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2014 เมื่อ 15:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 06-08-2014, 14:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

นักปฏิบัติจริง ๆ ต้องไม่แคร์สื่อ ถ้ามัวแต่ฟังคำชาวบ้านก็ไม่ต้องทำมาหากินอะไร ใครจะว่าบ้า เราก็บ้าไปกับเขา นี่ยังดี สมัยหลวงพ่อฤๅษีฯ มีคุณยายท่านหนึ่ง มาจากทางชายแดนตาพระยา ไม่แน่ใจว่าทั้งหมู่บ้านหรือทั้งตำบลมีท่านปฏิบัติธรรมอยู่คนเดียว แล้วคนทั้งหมดเขาว่าคุณยายท่านบ้า คุณยายคนนี้ก็มาถามหลวงพ่อฤๅษีฯ ที่บ้านสายลม มาถึงแต่เช้ามืดเลย นั่งรถมา ๒ วัน สมัยนั้นเดินทางจากตาพระยามากรุงเทพฯ ไม่ใช่เรื่องง่ายนะจ๊ะ เพราะว่าถนนสายใหม่ที่ออกทางจันทบุรี - สระแก้วยังไม่มี ต้องวิ่งไปนครนายกเข้าปราจีนบุรี กว่าจะถึงตาพระยาต้องหยุดกินข้าวกลางวันกลางทาง

อาตมาเองสมัยนั้นประจำการอยู่ที่นั่น ก็ต้องไปแวะกินข้าวที่ปราจีนบุรีก่อน แล้วค่อยเดินทางต่อ นั่งรถมาเป็นวัน แล้วก็ไม่รู้คุณยายออกจากหมู่บ้านมาอย่างไร บอกว่ากว่าจะมาถึงนี่ ๒ วัน มาเพื่อจะถามปัญหากับหลวงพ่อฤๅษีฯ ว่าสิ่งที่คุณยายทำนั้นบ้าหรือเปล่า ? หลวงพ่อฤๅษีฯ ก็บอกว่า "ยายปกติดี แต่พวกนั้นทั้งหมู่บ้านน่ะบ้า" คุณยายนุ่งขาวห่มขาว ถือศีลเข้าวัดสวดมนต์ ทุกคนก็หาว่าคุณยายบ้า

แต่ว่าคุณยายใช้ภาษาส่วยปนเขมรปนไทย ฟังยากอย่าบอกใครเลย พอดีว่าอาตมาเคยไปอยู่ชายแดนเขมรมาปีกว่า จึงพอฟังรู้เรื่อง พอคุณยายพูดมาทั้งบ้านสายลมมึนหมด หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านบอกว่า “เฮ้ย...ใครฟังออก ช่วยเป็นล่ามให้หน่อย” อาตมาก็บอกว่า "ผมพอได้ครับ" แล้วก็แปลให้ท่านฟัง ปรากฏว่าเพิ่งจะรู้ว่าจริง ๆ หลวงพ่อท่านฟังออก แล้วท่านเข้าใจด้วย เพียงแต่ว่า ท่านก็เกรงว่าถ้าไปรู้ทุกเรื่อง เดี๋ยวจะลำบากกันทีหลัง ท่านก็เลยหาคนแปล ที่รู้ว่าท่านฟังออกเพราะว่าพอแปล ๆ ไปแล้วอาตมาเหนื่อยก็หยุด คุณยายก็ถามต่อ แล้วหลวงพ่อตอบตรงคำถามเป๊ะ ถ้าคนฟังไม่รู้เรื่องจะตอบได้อย่างไร

สรุปว่าคนที่จะเอาจริงเอาจังในการปฏิบัติต้องไม่แคร์สื่อ ว่าอย่างนั้นเถอะ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2014 เมื่อ 15:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 236 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 06-08-2014, 14:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนลูกศิษย์ของคุณอารีรัตน์เมื่อครู่นี้ นั่นเขาไม่แคร์สื่อหนักว่านี้อีก เรียนอยู่ชั้น ม. ๕ พอถึงเวลาครูออกข้อสอบอัตนัย ต้องเขียนอธิบายกันยาว เพื่อน ๆ ก็ตั้งหน้าตั้งตาทำ ส่วนเขาก็นั่งกราบพระกับพื้น สวดมนต์เสียนานเลยแล้วค่อยทำ ไม่แคร์สื่อจริง ๆ

เราลองไปนึกถึงเด็ก ๆ อยู่ชั้น ม. ๕ พอถึงเวลาคนอื่นทำข้อสอบ ก็นั่งกราบพระสวดมนต์ไปเรื่อย ไม่สนใจว่าเพื่อนจะมองอย่างไร สวดมนต์เสร็จค่อยทำข้อสอบ อย่างนั้นจริง ๆ แสดงว่าเขาตั้งใจทำสมาธิก่อน ต้องเป็นคนที่เห็นประโยชน์จริง ๆ ว่าสมาธิช่วยได้ เขาถึงได้ทำ

บุคคลที่เห็นประโยชน์ในการปฏิบัติธรรม รู้ว่าสิ่งนี้ดีเขาก็ทำ จะไม่อายใคร แต่พอไปอีกระยะหนึ่งก็จะอยู่ในลักษณะที่ว่าปัญญาเริ่มมาก ก็รู้ว่าถ้าทำอย่างนี้บางคนจะมีโทษ เพราะตามที่เขาโดนมาก็คือ เพื่อนทั้งห้องทั้งโรงเรียนว่าเขาบ้า ฉะนั้น..คนที่ไปว่าผู้ปฏิบัติธรรมบ้า ชาติต่อไปก็มีหวังได้บ้า ๆ บอ ๆ กันบ้าง ถ้ารู้โทษแล้วเดี๋ยวต่อไปก็จะพยายามปิดบังตัวเอง จะเนียนขึ้น ตอนนี้ยังไม่แคร์สื่อ ใส่เต็มที่ไปก่อน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2014 เมื่อ 15:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 227 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 08-08-2014, 09:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "สมัยอาตมายังวัยรุ่น คนโน้นก็หัดกินเหล้า คนนี้ก็หัดสูบบุหรี่ บางคนก้าวหน้าหน่อยก็สูบเฮโรอีนไปเลย สมัยก่อนเขาไม่เรียกเฮโรอีนนะ เขาเรียกว่า "ไอระเหย" ถึงเวลาเผาแล้วก็สูดควันเข้าไป สมัยนี้เรียกง่าย ๆ ว่า "ผงขาว" เพื่อนบางคนก็มาชวน แต่อาตมาไม่ได้ไปกับเขา เพื่อนก็ด่าเอา อาตมานึกขำ “ข้ารู้ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี ไม่ต้องเสียเวลาไปทดลองหรอก ถ้าผู้ใหญ่เขาห้ามแปลว่าไม่ดีแน่ ๆ”

ส่วนใหญ่เด็กสมัยนี้เขาชอบลอง ขาดศรัทธาคือความเชื่อในตัวของพ่อแม่หรือครูบาอาจารย์ ในเมื่อขาดตรงจุดนั้น พ่อแม่ครูบาอาจารย์บอกอะไรก็เลยไม่ฟัง ในเมื่อไม่ฟัง บอกว่าสิ่งไหนไม่ดีเขาก็จะทำ ในเมื่อทำแล้วเกิดโทษมากกว่าประโยชน์ ก็ไม่รู้จะไปโทษใครได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2014 เมื่อ 09:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 08-08-2014, 09:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้การก่อสร้างศาลา ๑๐๐ ปีหลวงปู่สาย ตัวเลขหลุดไป ๒๙ ล้านกว่าบาทแล้ว วันก่อนช่างเขามาขอเบิกค่าแรงในการทำโครงสร้างชั้นที่ ๑ กับชั้นที่ ๒ ไป ๕,๗๖๐,๐๐๐ บาท ค่าแรงทำโครงสร้างอย่างเดียว ไม่ต้องแปลกใจ ตัวเลขยังไหลไปอีกเยอะ เมื่อตอนที่ออกแบบใหม่ ๆ ประมาณปี ๒๕๕๔ ช่างเขาประเมินราคาไว้ที่ ๔๐ ล้านบาท แล้วมาทำปี ๒๕๕๖ ตอนนี้ปี ๒๕๕๗ แล้ว เพราะฉะนั้น..ยังไปอีกเยอะ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ตัวเล็ก : 08-08-2014 เมื่อ 10:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #28  
เก่า 08-08-2014, 09:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "คนจีนเขาเชื่อว่าพระสังกัจจายน์เป็นพระมหาลาภ ส่วนคนไทยถือพระสีวลีตามพระไตรปิฎก แต่ว่าพระมหากัจจายนะท่านก็เข้านิโรธสมาบัติเป็นปกติ ใครมีโอกาสทำบุญกับท่านก็รวยอยู่แล้ว พระสีวลีเป็นเจ้าชาย เป็นลูกของนางสุปปวาสาของโกลิยวงศ์

โกลิยะวงศ์ก็คือตระกูลทางฝั่งแม่ของพระพุทธเจ้า ก็ต้องนับว่าเป็นญาติ ๆ กัน ส่วนพระมหากัจจายนะเป็นมหาอำมาตย์ของพระเจ้าจัณฑปัชโชติ กรุงอุชเชนี แคว้นอวันตี สมัยนั้นแคว้นอวันตีก็ถือเป็นประเทศชายขอบ ถ้านับอย่างของเราก็คงประมาณบุรีรัมย์หรือสุรินทร์ไปโน่น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2014 เมื่อ 09:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #29  
เก่า 08-08-2014, 09:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "วัตถุมงคลบางอย่างอาตมาทำจำนวนน้อย อย่างรูปหล่อหลวงปู่สายขนาด ๙ นิ้ว ทำแค่ ๓๐๐ องค์ เดี๋ยวคอยดู..พวกท่าขนุนจะบ่นอีก ตัดสินใจก็ช้า ทำอะไรก็ช้า ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นลูกศิษย์หลวงปู่สายมาได้อย่างไร กว่าจะขยับตัวคนอื่นกวาดไปหมดแล้ว แล้วก็มาบ่นว่าอยู่ที่นี่แท้ ๆ แต่ไม่ได้อะไรเลย ทุกครั้งจะเป็นอย่างนั้น

หลวงปู่สายท่านเป็นพระที่เด็ดขาด ทำอะไรค่อนข้างตรงไปตรงมาและรวดเร็ว แต่ว่าลูกศิษย์ของท่านแต่ละคนยืดยาดอืดอาด เพราะฉะนั้น..มีอยู่ช่วงหนึ่งที่หลวงปู่ท่านคงรำคาญ ท่านหนีออกธุดงค์ไปเกือบ ๗ ปี ทั้ง ๆ ที่เป็นเจ้าคณะอำเภอแล้วนะ หนีไปเกือบ ๗ ปีกว่าเขาจะไปตามกลับมาได้ อ้อนวอนกันแล้วอ้อนวอนกันอีก ไม่รู้ว่ารับปากกันอีท่าไหนท่านถึงยอมกลับมา แล้วทุกอย่างก็เหมือนเดิม อาตมาก็ขี้เกียจไปฟื้นฝอยหาตะเข็บ เดี๋ยวคนอื่นเขาจะอับอายขายหน้ากัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 08-08-2014 เมื่อ 12:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #30  
เก่า 08-08-2014, 12:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตะกรุดกระดูกห่านเป็นตำราหลวงพ่อหรุ่น วัดอัมพวัน ต้นตำรับยันต์ ๙ ยอด ในเมื่อเหนียวนักเขาก็เล่นด้วยยาพิษ หลวงพ่อหรุ่นมีตำราแก้ยาพิษ โดยใช้กระดูกห่านขาวมาลงอักขระ นะโมพุทธายะ ๕ ตัวแก้พิษได้

ช่วงที่อาตมาอยู่วัดท่าซุงแล้วทำตะกรุดกระดูกห่านขาว บอกโยมที่เขาอยู่ใกล้ ๆ ร้านขายห่านพะโล้ ให้สั่งเจ้าของร้านเขาไว้ว่า ถ้ามีห่านขาวเข้ามาให้เก็บไว้ให้ด้วย เพราะว่าร้านเขาวัน ๆ หนึ่งเข้ามาเกือบร้อยตัวเห็นจะได้กระมัง ?

พอทำตะกรุดกระดูกห่านไปได้ระยะหนึ่ง พกติดตัวไว้ ออกธุดงค์สบายใจเฉิบ ไม่ต้องกลัวเลย ปรากฏว่าหลวงน้ามีชัยบอกว่า “ท่านเล็ก ผมว่าท่านจะต้องตายเพราะยาพิษแน่เลย” ถามว่าทำไม ? “ก็พระทั้งวัดไม่เห็นหลวงพ่อฤๅษีฯ ถ่ายทอดวิชานี้ให้ใคร มีแต่ให้ท่านคนเดียว” “นี่หลวงน้าแช่งผมนี่หว่า.!”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2014 เมื่อ 13:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 221 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #31  
เก่า 08-08-2014, 13:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อ ๑๐ ปีก่อนเห็นจะได้กระมัง ? ที่นิคมสหกรณ์ทองผาภูมิ มีผีที่เขาเรียกว่า "ผีโพลง" ไปกินกบ ชาวบ้านเขาเลี้ยงกบเป็นบ่อ ไอ้เจ้านี่มาถึงลงไปกินกบเขาแล้วก็กลับ ไม่รู้ลงไปได้อย่างไร เพราะว่าเขาเอาสแลนขึงปากบ่อไว้ ถึงเวลาผีลอยมาเป็นดวงไฟ ลงไปในบ่อ เขาส่องไฟดู ก็เห็นเป็นตัวนั่งยอง ๆ กินกบอยู่ พอกินอิ่มแล้วก็กลายเป็นดวงไฟลอยกลับไป

คราวนี้พอไปบอกตำรวจ ตำรวจเขาก็หาว่าอุปาทาน ไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านก็บอกว่ากูไม่มีเวลาไปเฝ้าหรอก ท้ายสุดไม่รู้เจ้าของเขาทำอย่างไร ไปตามหัวหน้าคนงานที่หน่วยจัดการต้นน้ำ อาตมาก็ช่วยเขา ให้วัตถุมงคลไปเท่าไร แกพกไปหมด ปรากฏว่าไปเฝ้าเท่าไรผีก็ไม่มา ท้ายสุดเจ้าของบ่อก็เลยยืมเอาไปใช้ ตั้งแต่นั้นมาผีก็ไม่มากินกบ ไม่อย่างนั้นโดนกินจนหมดบ่อ ขาดทุนตายชัก

เพราะฉะนั้น..ถ้าเป็นเรื่องผีสาง ไสยศาสตร์ วัตถุมงคลของอาตมากันได้แน่นอน ไปนึกขำว่าผีลงไปได้อย่างไร คือผีโพลงนี่ลักษณะมาเป็นดวงไฟ แต่พอจะกินอะไร ก็กลับเป็นตัว ๆ เหมือนกับเรานี่แหละ น่าจะเป็นพวกอสุรกาย แต่คราวนี้เจ้าของบ่อจะยิงด้วยปืนก็กลัวกบตาย กลัวบ่อพัง ถึงเวลารอให้ผีกลับขึ้นมาก็เอาดาบไปไล่ฟัน อย่างนั้นเมื่อไรจะได้กิน เพราะผีไปเร็วกว่า ท้ายสุดไม่รู้จะแก้อย่างไร

ยังขำนายช่วย เจ้าของบ่อกบถามนายช่วยว่า “มึงไปได้ของขลังมาจากไหน ?” “อาจารย์ที่ต้นน้ำให้กูมา” “แล้วกูไปขอบ้างจะได้ไหม ?” “อาจารย์เขาย้ายวัดไปแล้ว” เขาไม่บอกว่าย้ายไปแค่วัดท่าขนุน พอดีช่วงนั้นอาตมาไปช่วยท่านอาจารย์สมพงษ์บูรณะวัดท่าขนุน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2014 เมื่อ 13:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #32  
เก่า 08-08-2014, 14:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ระยะนี้ฝนทองผาภูมิรังแกพระเป็นพิเศษ จะตกเฉพาะตอนบิณฑบาตทุกวัน จะมากจะน้อยก็ต้องเปียก เมื่อวันพุธเห็นว่าฟ้าก็โล่ง ๆ ดี ก็คิดว่าวันนี้โชคดีไม่เปียก ปรากฏว่าเดินไปถึงหน้าโรงเรียนทองผาภูมิวิทยาฝนก็ตก จนกระทั่งไปถึงหน้ากองร้อย ตชด. เปียกทั่วถึงดีแล้วก็หยุด เจตนาทดสอบกำลังใจ แสดงว่าพระใหม่รุ่นนี้ต้องมีพวกบารมีสูงเข้ามาบวช อยากรู้ว่าจะอึดสักแค่ไหน เพราะฉะนั้น..ใครที่ว่าบวชแล้วสบาย ไปบวชที่วัดท่าขนุนนะ อย่างน้อยได้อาบน้ำทุกเช้า เทวดาช่วยอาบให้ด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2014 เมื่อ 19:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #33  
เก่า 08-08-2014, 14:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เดือนสิงหาคมทางวัดมี ๒ งาน มีงานทำบุญวันแม่ ถ้ารวมปฏิบัติธรรมด้วยก็เริ่มตั้งแต่วันที่ ๙ ถ้าใครเวลาไม่พอก็ไปเฉพาะวันที่ ๑๒ ส่วนวันที่ ๓๐ สิงหาคม เป็นวันพุทธาภิเษกรูปหล่อหลวงปู่สายรุ่น ๑๐๐ ปี ไม่มีความจำเป็นไม่ต้องไปก็ได้ สงสัยเหมือนกันว่าจะห้ามอยู่ไหม บอกว่าไม่ต้องไปทีไร เห็นตะกายกันไปเยอะแยะทุกที"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2014 เมื่อ 19:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #34  
เก่า 08-08-2014, 15:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"หลวงปู่ครูบาบุญยังท่านโทรศัพท์มาจากวัดห้วยน้ำอุ่น บอกว่างานวันแม่ไปไม่ได้ เพราะว่าคนจะเอาผ้าป่ามาถวายวันแม่ แหม..วันอื่นตั้งเยอะตั้งแยะ จำเพาะต้องมาแย่งกับอาตมา ก็เป็นอันว่าหลวงปู่ไปไม่ได้ ๑ รูป

ครูบาอริยชาติท่านเป็นคนบอกให้นิมนต์เองแท้ ๆ ก็บอกไปไม่ได้ "ปีหน้าไม่ต้องหวังเลยนะ ผมจะไม่นิมนต์แล้ว" ว่าอย่างนั้น คือเป็นคนบอกกับท่านเอง ว่าวัดท่านมีงานทุกปี โดยเฉพาะเรื่องของงานวันแม่ เพราะฉะนั้น..จะไม่นิมนต์แล้วนะ ถ้ามีโอกาสจะนิมนต์งานอื่น ปรากฏปีนี้ครูบาอริยชาติให้เลขานุการโทรศัพท์มาบอกให้นิมนต์หน่อย อยากจะหนีงานซ้ำ ๆ ซาก ๆ ทางด้านโน้น ปรากฏว่าส่งฎีกาไปแล้ว ท่านก็โดนล็อกคอ มาไม่ได้อยู่ดี แจ้งมาแล้วว่ามาไม่ได้ ก็เลยบอกท่านไปว่าปีหน้าไม่นิมนต์แล้วนะ หาทางมาเองแล้วกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-10-2014 เมื่อ 06:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #35  
เก่า 08-08-2014, 15:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ความจริงอย่างหลวงพ่อชลอ หลวงตาวัชรชัย หลวงพ่อวิรัช หรือว่าพระครูองอาจของเรา อยากจะนิมนต์ท่าน แต่ว่าทุกคนมีงานหมด โดยเฉพาะแต่ละวัดเป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด ซึ่งเขาบังคับว่า วันเฉลิมพระชนมพรรษาของทั้ง ๒ พระองค์ ต้องจัดงานถวาย ดังนั้นท่านก็มาไม่ได้ อาตมาก็ขี้เกียจเสียเงินอีก ๓๒ บาทลงทะเบียนฎีกานิมนต์ ก็เลยไม่ต้องหรอก

โดยเฉพาะปีนี้ของกาญจนบุรี ทางสำนักพุทธฯ ขอมาจัดงานปฏิบัติธรรมร่วมกับทางวัดท่าขนุน แต่การขอมาจัดงานปฏิบัติธรรมร่วมกับทางวัด ก็คือวัดจงจัดเสียดี ๆ เขาจะมาแขวนป้ายเท่านั้นแหละ พูดง่าย ๆ ว่าเป็นงานของเขา โดยที่เขาไม่ต้องเสียงบประมาณแม้แต่บาทเดียว ได้ยินว่าจะเอาผู้ว่าฯ มาเปิดด้วย ถ้าผู้ว่าฯ มาเปิดก็โน่นเลย สาย ๆ ค่อยมาเปิด เพราะว่าวันเริ่มงานของเราเป็นวันพระ มีทำบุญมีเทศน์"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2014 เมื่อ 19:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #36  
เก่า 09-08-2014, 14:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สร้างเทวดาจะมีกำลัง ?
ตอบ : นั่นเป็นความเชื่อถือของพราหมณ์เขา อย่างเขาเชื่อว่าพระอาทิตย์สร้างขึ้นมาจากราชสีห์ ๖ ตัว ก็มีกำลังเท่ากับ ๖ เพราะฉะนั้น..เทวดาประจำวันแต่ละองค์จึงมีกำลังไม่เท่ากัน ความเชื่อของเขาไม่ใช่เรื่องปกติ เทวดาไม่ต้องไปเสียเวลาสร้างหรอก ถ้าทำความดีพอ ก็เกิดเป็นเทวดาเอง สร้างเทวดาได้จะสร้างคนทำไม ? ก็สร้างแต่เทวดาจะได้ไม่ยุ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2014 เมื่อ 16:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #37  
เก่า 10-08-2014, 14:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ท่านอาจารย์ รศ.ดร. สมพร แสงชัย ตั้งข้อสังเกตว่า "มวยจามดั้งเดิมเก่าแก่กว่ามวยไชยา"
ตอบ : ถ้าเราดูตามประวัติตั้งแต่ยุคพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ กองทัพจามต้องบอกว่าเกรียงไกรมากเลย ถ้าครั้งนั้นทางด้านพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ แพ้นี่ รับประกันได้ว่าอาณาจักรขอมไม่เหลือแน่ เดี๋ยวอย่างไรลูกศิษย์ที่เขาสนใจมีหลายคน จะให้เขาศึกษาต่อหรืออาจจะไปครอบครูกับท่านอาจารย์เลยนะ เพราะว่าตอนนี้เขากำลังเรียนมวยไชยาอยู่ แต่กลายเป็นว่าเรื่องการที่จะฝึกปรือเพื่อจะให้เก่งจริง ๆ นั้นไม่มี กลายเป็นต้องไปโชว์อยู่ตลอด ก็ยังบอกกับเขาอยู่ว่า ถ้ามัวไปโชว์อยู่อย่างนั้นก็ไม่ค่อยจะได้อะไร

ถาม : มวยไชยาก็มีตั้งสามสี่สาย
ตอบ : ก็เพราะอย่างนั้นแหละ จึงเหมือนกับแย่งกันหากินแล้ว

ถาม : ถ้าถามผม ผมว่าของครูแปลงใกล้เคียงกว่า
ตอบ : พอหลุดจากรุ่นของท่านอาจารย์กิมเส็งกับครูเขตร์มา คนอื่นก็เบาลงไปเรื่อย ๆ เหมือนกับเข้าไม่ถึงจริง ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-08-2014 เมื่อ 17:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #38  
เก่า 10-08-2014, 15:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "มีใครไปไหว้พระพุทธเจ้าที่เขมรหรือยัง ? โดยเฉพาะไอ้คุณเต้ย ผมว่าหน้าตาเหมือนคุณว่ะ..! พอดูแล้วรู้สึกสลดใจ สลดใจตรงที่ว่า ชาวบ้านเขาเชื่อง่ายยังไม่ว่า พระเองดันไปกราบไปไหว้ฆราวาสด้วย เพราะเชื่อว่าเขาเป็นพระพุทธเจ้ามาเกิด อาตมาก็สงสัยว่าบรรดาพระภิกษุสามเณรของทางด้านกัมพูชา เขาศึกษาพระไตรปิฎกกันอย่างไร พระพุทธเจ้าถึงเกิดใหม่ได้

ต้องบอกว่าบรรดากบฏ หรือผีบุญของเราสมัยก่อนยังเก่งกว่าเยอะ เพราะว่าท่านทั้งหลายเหล่านั้นมีความสามารถจริง ส่วนใหญ่อยู่ยงคงกระพัน ยิงไม่ออก ฟันไม่เข้า ก็กลายเป็นผู้นำคนขึ้นมาได้ อย่างนี้เขาแค่ประกาศตัวว่าเป็นพระพุทธเจ้ามาเกิด คนก็ดันเชื่อ คาดว่าอีกไม่นานบ้านเราก็คงจะมี

ในบ้านเราตอนนี้เอาแค่ในเว็บพลังจิต อาตมาเจอพระศรีอริยเมตไตรย ๓ คนแล้ว ตกลงคนไหนพระศรีใหญ่ พระศรีกลาง พระศรีเล็กก็ไม่รู้..! ต่างคนต่างบอกตัวเองเป็นพระศรีอริยเมตไตรย ตัวจริงนั่งหัวเราะอยู่ข้างบน ท่านคงอยากดูเหมือนกันว่าใครจะสวมบทบาทได้เหมือนกว่า

ที่กล่าวถึงตรงนี้อยากจะบอกกับทุกท่านว่า การปฏิบัติธรรมพอไปถึงระยะหนึ่งจะมีการทดสอบ คราวนี้การทดสอบเขาไม่บอกว่ามาแบบไหน บางท่านอยู่ ๆ มีความสามารถพิเศษ มีฤทธิ์ มีอภิญญา เกิดหูทิพย์ตาทิพย์ รู้โน่นรู้นี่ให้ยุ่งไปหมด แล้วเรื่องที่รู้ก็จริงบ้างไม่จริงบ้าง ก็ทำให้หลงผิด ออกนอกลู่นอกทางไปได้ง่าย

อาตมาเองก็ไม่อยากจะยุ่งหรอก แต่คราวนี้ไปมีส่วนอยู่ในเว็บพลังจิต ดังนั้น..อะไรที่นอกทุ่งนอกท่ามากก็ต้องไปลบทิ้ง ลบทิ้งก็โดนด่า ด่าเสร็จดันแช่งซ้ำ แช่งเสร็จตัวเองตาย..! โทษใครไม่ได้อีก ไม่กี่วันนี้ก็เพิ่งตายไปอีกคนหนึ่ง รู้จักไหม ? ใบไม้นอกกำมือ เขาไม่รู้ว่าคนลบคืออาตมา ก็แช่งเลย ขนาดมีคนเขาโพสต์เตือนแล้วนะว่าอย่าไปแช่ง เดี๋ยวจะเป็นเหมือนอาจารย์กุ๊กไก่ แต่ปรากฏว่าเขาฟังไม่ทัน ไม่เข้าใจ อาตมาก็ยังกลัวใจตัวเองเหมือนกันแหละ ว่าอะไรจะสะท้อนไปทุกเรื่องก็ไม่รู้

ไม่ได้ประสงค์ร้ายต่อผู้อื่นมานานแสนนานแล้วนะ นานจนชักลืมไปแล้วว่าความโกรธเป็นอย่างไร แต่ก็เล่นเอาคนประสงค์ร้ายเดือดร้อนไปตาม ๆ กัน จะว่าเขาทำตัวเองก็ยังรู้สึกสลดใจอยู่ ว่าตัวเราเองเป็นทุกข์เป็นโทษให้คนอื่นเขาเดือดร้อนได้เหมือนกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-08-2014 เมื่อ 17:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #39  
เก่า 10-08-2014, 15:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "ตอนช่วงนี้กำลังทำหนังสือประวัติวัดท่าขนุนอยู่ ใช้เวลารวบรวมข้อมูลตั้งแต่ปี ๒๕๕๑ - ๒๕๕๗ ไม่นานนะ คราวนี้มีหลักฐานอ้างอิงชัดเจนหมด สัมภาษณ์คนมาเป็นร้อยแล้ว รับรองว่าไม่มีประวัติวัดฉบับไหนชัดเจนไปกว่านี้อีกแล้ว แต่ขอโทษ..ถ้าอ่านแล้วสนุกจะคิดเนื้อหามีนิดเดียว หนังสือหนาเป็น ๑๐๐ หน้า อ่านพักเดียวจบนี่คนอ่านหงุดหงิดหรือเปล่าไม่รู้ ? แต่คนทำเหนื่อยแทบตาย

บรรดาประวัติเจ้าอาวาสก็มีของหลวงปู่สายมากที่สุด เพราะว่าเป็น ๑๐๐ ปีของท่าน ส่วนของท่านอื่นอยากจะให้มากเหมือนกันแต่ค้นไม่เจอ ในเมื่อค้นไม่เจอก็เลยไม่สามารถที่จะหามาลงให้มากกว่านั้นได้ เพราะถ้าขืนลงมากก็ต้องโม้เอง ก็แปลว่าผิดแน่ ๆ "
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-08-2014 เมื่อ 17:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 198 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #40  
เก่า 10-08-2014, 15:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : วิธีการทำงานไปพร้อมกับสมาธิ ?
ตอบ : ต้องดูว่าเราสามารถจดจ่อกับงานได้ต่อเนื่องยาวนานขึ้นไหม ถ้าจดจ่อต่อเนื่องอยู่กับงานได้ยาวนานขึ้น สมาธิก็พัฒนาขึ้น แต่ว่าจริง ๆ แล้วการที่ทำอย่างนั้นเป็นเรื่องยากนะ ถ้าเป็นไปได้คือ เราควรที่จะหาเวลาแต่ละช่วงของวัน มานั่งสมาธิจริง ๆ จัง ๆ เอาสัก ๑๕-๒๐ นาทีก็ยังดี เพราะว่าจะทำให้กำลังใจทรงตัวได้ง่ายกว่าที่เราไปตั้งหน้าตั้งตารบอยู่กับงาน การที่เราตั้งหน้าตั้งตารบอยู่กับงานแรงกระทบจะมีมาก ในเมื่อแรงกระทบมีมาก สมาธิดี ๆ ยังพังเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-08-2014 เมื่อ 17:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:58



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว