กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #61  
เก่า 11-12-2017, 22:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เมื่อครั้งที่แล้วพระอาจารย์ได้แนะนำผม ในอิริยาบถนั่งสมาธิผมไม่มีความก้าวหน้าเท่าที่ควร แต่อิริยาบถเดินหรือทำงานตามปกติ สามารถทรงภาพพระได้ดีกว่า ที่ผมทรงภาพพระไป ไม่ได้รูปแบบที่ครูบาอาจารย์สอนไปใช่ไหมครับ ?
ตอบ : จะหกคะเมนตีลังกาอย่างไรก็ได้ ขอให้ทรงได้เท่านั้นพอ

ถาม : หลังจากที่เราสามารถอาราธนาภาพพระให้ปรากฏอยู่ตรงหน้าได้แล้ว จะต้องทำอย่างไรต่อไปครับ ?
ตอบ : รักษาภาพพระเอาไว้ เดี๋ยวภาพพระจะเปลี่ยนเป็นสว่างขึ้นไปเรื่อย ๆ

ถาม : จะต้องทรงให้จนถึงที่สุดให้ได้ใช่ไหมครับ ?
ตอบ : รักษาเอาไว้ อย่าให้กิเลสเข้าได้ก็พอ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-12-2017 เมื่อ 11:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #62  
เก่า 12-12-2017, 20:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าหนูจะสอบบัญชี แล้วบูชาท่านปู่นายบัญชี จะทำให้สอบบัญชีได้ง่ายขึ้นไหมคะ ?
ตอบ : คนละบัญชีกันโว้ย...! ของท่านนั่นบัญชีคนเป็นคนตาย เกี่ยวอะไรกับบัญชีทรัพย์สินเงินทอง ? จะลองดูก็ได้ เผื่อท่านเห็นว่าไม่เคยมีใครขอให้ช่วย แล้วเราขออยู่คนเดียว...อาจจะได้ก็ได้

คิดอะไรบ้า ๆ...! ดีเหมือนกัน จะสอบบัญชีดันไปบูชานายบัญชียมโลกก็เจริญเท่านั้น..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-12-2017 เมื่อ 20:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #63  
เก่า 12-12-2017, 20:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การระงับกามราคะและปฏิฆะ หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสอนให้พิจารณากายคตานุสติควบกับอสุภกรรมฐาน ต่อมาหลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่าให้ทำกสิณก่อน แล้วต้องทำให้ครบทั้ง ๑๐ กอง ปกติลูกจะทำอาโลกกสิณเพียงกองเดียว สำหรับจับภาพพระและขึ้นไปบนพระนิพพาน แต่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่าให้ทำทั้ง ๑๐ กอง ลูกก็เลยทำทั้ง ๑๐ กอง

เมื่อลูกทำครบ ๑๐ กองแล้ว เวลามองออกไปภายนอก เห็นต้นไม้เป็นแก้ว เห็นพื้นดินเป็นแก้ว เห็นรั้วสีขาวเป็นแก้ว ช่วงแรกที่เห็นเป็นแก้วนั้น กสิณแต่ละกองแยกกันอยู่ แต่ว่าอยู่ติดกัน ต่อมากสิณทั้ง ๑๐ กองรวมเป็นกองเดียวไม่แยกออกจากกัน แต่หากจะทำให้แยกก็สามารถทำได้ ลูกจึงขอกราบเรียนถามว่า สิ่งที่ลูกปฏิบัติผิดพลาดประการใดบ้าง ควรแก้ไขอย่างไร ?

ตอบ : ถ้าเป็นอย่างที่ว่ามาก็ถือว่าใช้ได้แล้ว ถ้าเราตั้งใจไว้แต่แรกว่าจะเอาในเรื่องของการตัดกามราคะกับปฏิฆะ ในส่วนของกสิณก็อย่าให้เคลื่อนคลายหายไปจากใจเรา ไม่ว่าจะเป็นภาพของกสิณกองเดียวหรือว่ารวมกันทั้ง ๑๐ กองก็ตาม อย่างน้อยต้องให้ทรงในใจทั้งหลับทั้งตื่นเสมอกัน ไม่อย่างนั้นแล้วก็จะกดกามราคะกับปฏิฆะไม่อยู่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-12-2017 เมื่อ 20:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #64  
เก่า 12-12-2017, 20:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เมื่อได้กำลังของกสิณทั้ง ๑๐ กองแล้ว ลูกได้ใช้กำลังนี้เป็นฐานของการพิจารณาเรื่องกามราคะและปฏิฆะ โดยใช้คำภาวนาควบคู่กับลมหายใจเข้าออกว่า "อสุภกสิณัง อสุภกสิณัง อสุภกสิณัง" และนึกถึงคำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุงเรื่องของอธิจิตสิกขาว่า การละเรื่องกามราคะกับปฏิฆะนั้น จิตต้องมีสมาธิที่เข้มแข็งมากจึงจะละได้

เหตุนี้กสิณ ๑๐ ที่หลวงพ่อวัดท่าซุงให้ลูกฝึก ก็เพื่อวัตถุประสงค์ให้เป็นกำลังของสมาธินั่นเอง การใคร่ครวญของลูกดังกล่าวนี้ผิดพลาดประการใดบ้าง ? ขอหลวงพ่อโปรดเมตตาสงเคราะห์ลูกด้วย

ตอบ : อยากให้ทำแบบหลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก ถ้าด้วยอำนาจกสิณ ๑๐ เราต้องการจะสร้างอะไรขึ้นมาก็แค่นึกเท่านั้น หลวงพ่อพริ้งท่านจึงสร้างซากอสุภะไว้ตรงหน้าเป็นตัว ๆ จับได้ต้องได้เลย สี กลิ่น รส มาครบ แล้วเราก็พิจารณาของเราไป เท่าที่ได้ยินมามีรายเดียว คือหลวงพ่อพริ้ง ที่ทำได้ในลักษณะอย่างนี้

แปลว่ากสิณ ๑๐ ของเราอย่าทำให้เสียของ เนื่องจากว่าในสมัยปัจจุบัน การจะพิจารณาอสุภกรรมฐานเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก เพราะว่าไม่ได้มีป่าช้าที่เขาเอาศพไปทิ้งเหมือนกับสมัยก่อน มีอย่างเดียวคือเราสร้างศพขึ้นมาด้วยอำนาจกสิณของเราเอง เสร็จแล้วเราก็พิจารณาของเราไป พอสภาพจิตเบื่อหน่ายคลายกำหนัด ตัวกามราคะจะหายไป ถ้าในส่วนของกามราคะหายไป ปฏิฆะที่เหลือก็พลอยหายไปด้วย เพราะกำลังเท่ากัน

ไป...ตั้งใจทำไว้ดีแล้ว แต่ว่าอย่าลืมพระนิพพาน หัวใจสุดท้ายของเราก่อนนอน ตั้งใจอยู่เสมอว่าเราจะไปพระนิพพาน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-12-2017 เมื่อ 20:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #65  
เก่า 12-12-2017, 20:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องเกี่ยวกับพวกนี้พวกเราคงไม่เคยได้ยินมาก่อน...ใช่ไหม ? หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก เป็นสุดยอดพระอาจารย์ ขนาดหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ยังขอไปศึกษาวิชาด้วย ลูกศิษย์หลวงพ่อพริ้งยังสงสัยว่าหลวงปู่ปานบอกว่าเป็นลูกศิษย์ท่าน ไม่เห็นมาฝึกวิชาด้วยเลย หลวงพ่อพริ้งท่านบอกว่า "หลวงพ่อปานไม่ได้เหมือนพวกแกนี่ หลวงพ่อปานมาฝึกกับข้าคืนเดียวเท่านั้น ก็ขนเอาความรู้ไปหมดแล้ว"

หลวงปู่ปานท่านเหมือนกับคนมีเงิน คราวนี้หลวงพ่อพริ้งท่านรู้จักวิธีใช้เงิน ก็แค่ไปถามว่าใช้อย่างไรแค่นั้นเอง เพราะฉะนั้น...ในเรื่องของการฝึกสมาธิหรือฝึกกสิณก็เหมือนกับเราหาเงินไว้ ถ้าเราหาเงินได้มากเราก็สามารถที่จะใช้งานได้มาก ถ้าเราหาเงินได้น้อย โอกาสที่เราจะซื้อข้าวซื้อของก็น้อยลง หลวงปู่ปานท่านฝึกมาเต็มที่แล้ว แค่ไปถามว่าจะใช้อย่างไรเท่านั้น

หลวงพ่อพริ้งท่านถึงได้บอกลูกศิษย์ว่า "หลวงพ่อปานท่านไม่ได้โง่เหมือนพวกแก ท่านมาฝึกกับข้าคืนเดียว" คืนเดียวกวาดไปเรียบเลย ก็ลักษณะแบบเดียวกับที่อาตมาไปวัดเขาอ้อ ทางด้านหลวงปู่กลั่นท่านอยากได้ เพราะว่าท่านหาพระที่จะไปเป็นเจ้าอาวาสแทนท่าน สายวัดเขาอ้อนี่เปิดกว้างมาก ใครจะฝึกวิชามาสายไหนก็ตาม ถ้ากำลังคุณถึง ไปเปิดตำราเขาฝึกได้เลย เขายินดีรับเป็นเจ้าอาวาสเลย...ว่าอย่างนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-12-2017 เมื่อ 20:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #66  
เก่า 12-12-2017, 21:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สนทนากับพระ "จริง ๆ แล้วพวกเครื่องรางของขลังผมไม่เก่ง คนที่เก่งจริง ๆ คือพระครูแสง แต่พระครูแสงเรียนแล้วลืม ส่วนผมเรียนแล้วจำ ท่านเป็นคนสอนผมเองตั้งแต่สมัยยังวัยรุ่น สอนว่ารุ่นนี้ต้องดูอย่างนั้น รุ่นนั้นมีตำหนิตรงนี้ ท่านได้ความรู้ใหม่มาจากรุ่นพี่รุ่นลุงเมื่อไรก็มาสอน แต่สอนไปแล้วตัวท่านลืมเอง

รุ่นผมสมัยเด็ก ๆ จะมีสภากาแฟ ถึงเวลาผู้ใหญ่เขาจะมากินกาแฟแล้วก็นั่งส่องพระกัน พี่ชายของผมก็เล่นของพวกนี้อยู่ แต่เน้นไปทางพระเครื่อง ท่านแสงแกสนใจก็ไปเกาะอยู่ข้างโต๊ะ ไปจดไปจำอะไรมาก็เอามาถ่ายทอดให้ผมต่อ ท้ายสุดท่านก็ลืม ส่วนคนฟังคนดูอย่างผมดันจำได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2017 เมื่อ 02:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #67  
เก่า 12-12-2017, 21:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โยมมารับแมลงภู่คำ "แมลงภู่ตัวนี้เขาบรรจุปรอทอยู่ข้างใน แล้วเป็นเรื่องแปลกมากที่ส่องหาที่บรรจุไม่เจอ โบราณเขาบอกว่าน่าจะใช้อำนาจจิตเรียกให้ไปอยู่ข้างในเอง อาตมาส่องกล้องอย่างไรก็ไม่เห็นร่องรอยว่าบรรจุเข้าไปทางด้านไหน

ระวังไว้หน่อยว่าอย่าให้อยู่ใกล้ที่ร้อนมาก เดี๋ยวจะรั่วเสียก่อน เห็นรุ่นหลัง ๆ ที่เขาทำ พวกปรอทที่บรรจุเบี้ยแก้มีรั่ว แสดงว่ารุ่นหลังนี่ฝีมือไม่ดี ไปลองเขย่าดู ข้างในเขาบรรจุปรอทไว้

แมลงภู่คำที่สุดยอดจริง ๆ เขาจะบรรจุปรอทกับบรรจุเข็มทอง ขึ้นอยู่กับเขาว่าจะบรรจุแบบไหน"

ถาม : มีแบบเป็นงาด้วยค่ะ ?
ตอบ :แบบเป็นงาสมัยก่อนเป็นของประจำองค์เจ้านาย หรือไม่ก็บรรดาพวกแม่ทัพนายกอง ชาวบ้านทั่ว ๆ ไปส่วนใหญ่ก็เป็นไม้ แต่ถ้าจะเอาจริง ๆ ต้องได้ตัวครูมา ตัวครูเท่าที่เจอมาใหญ่เกือบ ๆ ๓ นิ้วมือของเรา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2017 เมื่อ 02:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #68  
เก่า 12-12-2017, 21:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คนที่มีของพวกนี้มากที่สุดคืออาจารย์วิลักษณ์ ศรีป่าซาง ท่านเก็บของเก่า ไม่ได้เก็บของขลังนะ คราวนี้ท่านเก็บของเก่าแต่กลายเป็นของขลังเสียเยอะ ส่วนที่คนเห็นแล้วน้ำลายหกเลยก็คือ ผ้ายันต์ม้าเสพนาง ของครูบาวัง วัดบ้านเด่น อาจารย์วิลักษณ์ท่านมีตั้งหลายผืน ของคนอื่นเค้นให้ตายเจ้าของเขาก็ไม่ยอมปล่อย

เคยไปดูคลังของท่าน ท่านเปิดคลังให้ดู มีอย่างหนึ่ง ลักษณะเป็นสายคาดเอว ร้อยจากฟันม้า ถามว่าท่านอาจารย์ไปเอามาจากไหนเยอะแยะ เป็นสิบ ๆ สายเลย ? ท่านบอกว่าพวกชนกลุ่มน้อยทางด้านเชียงตุง ทางด้านไทยใหญ่ เขาทำขึ้นมาเป็นเครื่องรางป้องกันตัวหรือเครื่องประดับ ท่านก็ไปขอซื้อเขามา ไปค่อย ๆ ตื๊อเขามาทีละเส้น ๒ เส้น

ที่ทึ่งก็คือฟันของบรรพบุรุษ แต่ลูกหลานเอามาแกะเป็นพระพุทธรูปเล็ก ๆ อาจารย์วิลักษณ์มีอยู่ตั้งหลายองค์ ท่านช่างเสาะหาจริง ๆ แต่ถ้าจะไปเอาปลัดขิกของท่านอาจารย์วิลักษณ์ต้องเอารถกระบะไปขน แต่ละท่อนเสาดี ๆ นี่เอง สมัยก่อนเขาทำเอาไว้ป้องกันภูตผีปีศาจ หมู่บ้านหนึ่งก็มีแค่ตัวเดียว จึงต้องเป็นเสา อาจารย์วิลักษณ์ท่านเล่นกวาดมาเต็มบ้านเลย วางเรียงอย่างกับท่อนซุง แต่ละท่อนประเภทใหญ่เท่าบาตรยังมีเลย


ถาม : ใช้ไม้ต้นหรือคะ ?
ตอบ : ไม้ต้นมาทำเป็นปลัดขิก ก็น่าแปลกที่ผีกลัว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2017 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #69  
เก่า 12-12-2017, 21:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ที่เขาทำเสาเป็นปลัดขิก แล้วผีกลัว เพราะอะไรคะ ?
ตอบ : มี ๒ อย่างด้วยกัน อย่างแรกน่าจะเป็นกำลังสมาธิของคนทำ ส่วนอย่างที่สองนั้น อวัยวะเพศเป็นวัตถุสร้างโลก พูดง่าย ๆ ก็คือ มีพลังงานสามารถสร้างชีวิตได้ แล้วพลังงานขนาดนั้น ถ้าคนที่เข้าถึงเคล็ดลับจริง ๆ ถึงเวลาปลุกเสกแล้ว พลังที่แผ่มานี่มหาศาลเลย ผีไม่กล้าเข้าใกล้หรอก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2017 เมื่อ 02:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #70  
เก่า 12-12-2017, 21:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "กระทู้คนมีเงินฯ บางทีวันเดียวจองมาเป็น ๑๐ ราย ต้องมาไล่ดูว่าเวลาของใครจองก่อน อย่างเช่นว่าวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน จองไว้ ๒๐ กว่าราย ทั้งในกล่องข้อความแล้วก็ทั้งในกระทู้ ต้องมานั่งดูว่าเวลาของใครจองก่อน แล้วก็ไล่ไปตามลำดับ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะไม่ยุติธรรม

พวกที่บ้าขนาดจะเล่นแต่ ๙ เครื่องรางในตำนานนี่เคยรู้ราคาไหม ? อย่างตะกรุดหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ตะกรุดโสฬสดอกล่าสุดที่ผมเจอเป็นสองกษัตริย์ ก็คือเป็นทองแดงกับเงินม้วนร่วมกัน เจ้าของเขาเปิดมาที่ ๗๐๐,๐๐๐ บาท สั่งของในกระทู้นี่เคยคิดบ้างหรือเปล่าว่าราคาในท้องตลาดเท่าไร ?

ต้องทิดเฟิร์สของเรานี่ ผมลงพระพิฆเณศวร์วัดเขาอ้อ ๒๕,๐๐๐ บาท ทิดเฟิร์สบ่นว่าแพง ปรากฏว่าตัวเองไปเจอที่ถูกใจของเซียนทางปักษ์ใต้ เขาเปิดมา ๑ แสน ทิดเฟิร์สหงายท้องตึง คราวนี้เอ็งรู้หรือยังว่ากระทู้คนมีเงินฯ ของข้าก็ยังมีเงินไม่จริง..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2017 เมื่อ 02:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #71  
เก่า 12-12-2017, 22:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ประคำโทน ?
ตอบ : ใช้ต้นกล้วยที่ขึ้นอยู่บนต้นไทร มีนะครับ เป็นเคล็ดว่าอุดมสมบูรณ์ถึงขนาด ตำราของหลวงปู่อุตตะมะท่านสอนมา ต้นกล้วยที่ขึ้นอยู่บนต้นไทร เอามาหั่นตากแห้ง แล้วเอามาเผาให้ดี จากนั้นเอาขี้เถ้ามาปั้นเป็นลูกประคำ กว่าจะหั่นตากแห้ง กว่าจะมาเผาเป็นขี้เถ้า กว่าจะมาปั้นเป็นเม็ดประคำได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย

ถาม : ใช้กระดาษสาที่มาทำเป็นเม็ด ?
ตอบ : เขาเรียกประคำโทน ทำยาก...ต้องลงอักขระในกระดาษสา แล้วเหลาหวายเล็กเท่าเส้นผม ถักหุ้มเอาไว้ข้างใน ทำยาก..ท่านจึงให้แค่เม็ดเดียว ประคำโทนหลวงพ่ออุตตะมะของผม ติดอยู่ในประคำที่ท่านนกบูชาไป ท่านรู้หรือเปล่า ? ยังอยู่หรือสึกไปแล้วก็ไม่รู้ ? ท่านมาตื๊อเอาไปจนได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2017 เมื่อ 03:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #72  
เก่า 13-12-2017, 09:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พูดถึงโรคที่เป็น "อาตมาเป็นโรคโบร่ำโบราณ โรคที่ไม่ค่อยมีใครเขาเป็นกัน เขาเรียกว่าขยุ้มตีนหมา เป็นเริมประเภทหนึ่ง จะขึ้นเป็นกระจุก ๆ ตรงปลายประสาทร่างกายเรา ถ้าเป็นเส้นยาว ๆ เขาเรียกว่างูสวัด ถ้าเป็นผื่นเขาเรียกว่าไฟลามทุ่ง ถ้าเป็นแต้ม ๆ ทั้งตัวคืออีสุกอีใส เป็นเชื้อโรคประเภทเดียวกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2017 เมื่อ 16:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #73  
เก่า 13-12-2017, 09:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "รถที่ออกมาไม่ถึงปีเจิมหมาไป ๒ ตัวแล้ว ชนหมาน่าจะตายคาที่ แต่รถไม่มีอะไรเสียหาย บุบก็ไม่บุบ ดีเหมือนกัน

ล่าสุดหมา ๓ ตัววิ่งไล่กัน คนขับรถของเราก็หลบ อีกตัวหนึ่งก็เบรก ส่วนอีกตัวหนึ่งแทนที่จะเบรกดันพุ่งตัดหน้ารถเลย ผลก็คือรอด ๒ ตัว ตาย ๑ ตัว ตัวที่เบรกต้องบอกว่าฉลาดมาก พอเห็นรถมาก็เบรกตัวโก่งเลย ส่วนอีกตัวคงมั่นใจในความเร็วว่าแค่นี้พ้นแน่ ก็พุ่งตัดหน้าเลย

ตอนนั้นน้าป๊อกขับรถ อาตมานั่งไปกับแก เป็นรถหกล้อของหน่วยจัดการต้นน้ำที่เกาะพระฤๅษี หมาวิ่งข้ามถนนมา เลยอีกศอกเดียวจะพ้นถนนแล้ว ดันเลี้ยวกลับ เรื่องของสัตว์นี้เราต้องเข้าใจนะว่า เหตุที่เขาเลี้ยวกลับ เพราะถ้าไปข้างหน้าไม่รู้ว่ามีอันตรายหรือเปล่า ? แต่ทางที่ผ่านมานี้ปลอดภัยแน่ เขาก็จะกลับทางเดิม พอกลับทางเดิมน้าป๊อกแกก็หักซ้าย ไอ้นั่นไปครึ่งทางกลับใจเลี้ยวกลับมา น้าป๊อกก็ต้องหักขวา พอหักขวาไอ้นั่นเลี้ยวขวากลับมาที่เดิมอีกทีหนึ่ง คราวนี้คาที่เลย

น้าป๊อกก็พร่ำ “ผมบาปมากเลยอาจารย์ ชนหมาตาย” ก็ถึงที่ของเขา วิ่งหาที่ของตัวเองจนได้ มีที่ไหนจะพ้นถนนอยู่แล้วเลี้ยวกลับมา ๓ ที ลักษณะของวาระกรรมเราต้องยอม เพราะว่าเขาถึงที่ตายจริง ๆ น้าป๊อกขับรถทับหมาตายตัวเองเฉาไปเลย ทั้ง ๆ ที่รถไม่มีอะไรเสียหาย แต่คนใจคอไม่ดี"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2017 เมื่อ 16:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #74  
เก่า 13-12-2017, 09:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โยมถวายหนังสือ "ตะกรุดหลวงพ่อทบ วัดชนแดน" พระอาจารย์กล่าวว่า "ตะกรุดหลวงพ่อทบอย่างหนึ่งที่อาตมาอยากได้ เพราะว่ายังไม่เคยมี ก็คือตะกรุด ๑๖ ชั้น ดอกหนาปึ้กเลย ส่วนใหญ่ตะกรุดเป็นทองแดงหรือทองเหลือง ท่านจารทีละแผ่นๆ แล้วม้วนต่อกัน พูดง่าย ๆ ว่าถ้าแรงไม่ดีนี่อาจจะพกตะกรุดไม่ไหว"

ถาม : หนังสือนี้มาจากที่พวกเซียนพระทำขึ้นแล้วมาถวายให้วัดออกทำบุญค่ะ ?
ตอบ : ตอนนี้ส่วนใหญ่แล้วทำเพื่อความน่าเชื่อถือ เอาไปไว้ที่วัดส่วนหนึ่งในลักษณะว่าวัดรับรองแล้ว ตัวเองก็ถ่ายรูปไปยืนยันว่าไปถวายเจ้าอาวาสนะ สมัยนี้เขาหากินกันสารพัดแบบนี้

ถาม : ตะกรุด ๑๖ ชั้น นี้วิชาสายไหนคะ ?
ตอบ : น่าจะเหมือนกับของหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก หรือหลวงปู่ภู วัดดอนรัก ท่านทำตะกรุด ๑๖ ดอก มีทั้งแคล้วคลาด คงกระพัน เดินทางปลอดภัย ป้องกันไสยศาสตร์ อะไรของท่านไปเรื่อยจนครบ ๑๖ อย่าง แต่คราวนี้ของหลวงพ่อจงท่านแยกดอก หลวงปู่ภูก็แยกดอก แต่ของหลวงพ่อทบท่านเล่นพันรวมกันไปเลย ดอกใหญ่อย่างกับถ่านไฟฉาย

ท่านคงเบื่อพวกลูกศิษย์ที่ต้องการอย่างโน้น ต้องการอย่างนี้ ก็เลยทำไป ๑๖ ดอกให้ครบทุกอย่าง ไม่ต้องเสียเวลามาขอ จะเอาเมตตาตาค้าขายก็เอาอันนี้ มหานิยมเข้าหาเพศตรงข้ามก็เอาดอกนี้ เอามหาปราบดอกนี้ มหาอุดก็ดอกนี้ มหาลาภก็ดอกนี้ ไปเลือกใช้คาถาให้ตรงก็แล้วกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-12-2017 เมื่อ 02:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #75  
เก่า 13-12-2017, 18:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "โยมที่ถามปัญหาเมื่อเช้านี้เป็นเศรษฐีที่ใช้เงินไม่เป็น เขาบอกว่าเขาฝึกกสิณ ๑๐ จนครบแล้ว จะทำอย่างไรต่อไป ? มีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า ? หลวงพ่อวัดท่าซุงสั่งให้ฝึกเพื่อที่จะใช้ในการละโทสะและปฏิฆะ ตลอดจนกระทั่งกามราคะ แต่ใช้ไม่เป็น

อาตมาก็เลยไปนึกถึงสมัยหลวงปู่ปานท่านไปหาหลวงปู่พริ้งที่วัดบางปะกอก ลูกศิษย์บอกว่า หลวงปู่ปานบอกกับใคร ๆ ว่าหลวงปู่พริ้งเป็นอาจารย์ แต่ไม่เห็นท่านมาฝึกวิชาอะไรกับหลวงปู่พริ้งเลย หลวงปู่พริ้งท่านบอกว่า "เขาไม่เหมือนพวกแกนี่ เขามาแค่คืนเดียว" แค่มาเรียนรู้วิธีใช้เงิน

พอเห็นโยมเมื่อเช้าแล้วก็ชื่นใจอยู่อย่างว่า คนที่ฝึกปฏิบัติธรรมแบบเอาจริงเอาจังยังมีอยู่ แต่ขณะเดียวกันส่วนหนึ่งที่น่ากลัวคือ โยมทรงฌานอยู่ตลอดเวลา การทรงฌานใช้งานอยู่ตลอดเวลา จะเกิดผลอยู่ ๒ อย่าง อย่างแรกก็คือ สภาพจิตปราศจาก รัก โลภ โกรธ หลง บางคนจะเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองเป็นพระอรหันต์ไปแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2017 เมื่อ 19:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #76  
เก่า 13-12-2017, 18:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"อาตมาเคยมีลูกศิษย์อยู่คนหนึ่งเป็นผู้หญิง ไปอยู่ที่เกาะพระฤๅษีเกือบปี ฝึกทรงฌานในลักษณะอย่างนี้ พอฝึกไปเสร็จแล้วเขาก็หลุดปากออกมาว่า “หลวงพ่อ...คนเป็นพระอรหันต์ไม่เห็นจะต้องตายอย่างที่หลวงปู่ฤๅษีบอกเลย” เขามั่นใจว่าเขาเป็นแน่นอน กิเลสไม่เกิดเป็นปีเลย ท้ายสุดด้วยความมั่นใจของเขาก็ขอลาไป ตอนนี้ไปเลี้ยงลูกเป็นโขยง ทั้ง ๆ ที่คิดว่าตัวเองบรรลุแล้ว..!

ประการที่ ๒ ก็คือ ถ้าเผลอสติหลุดจากฌานเมื่อไร คราวนี้ปางตายเลย กิเลสจะมาฟ้าถล่มดินทลาย เหมือนอย่างกับเขาจ้องตลอดเวลาว่าเรามีจุดอ่อนตรงไหน แล้วจะโจมตีตรงนั้น อาตมาเองเคยเกือบตายมาหลายรอบแล้ว ไปกราบเรียนถามหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านบอกว่า "ข้าก็เคยเป็น ข้าทรงสมาบัติ ๘ คล่องตัวชนิดเข้าเมื่อไรก็ได้ตามที่ต้องการ ข้าก็คิดว่าแน่ มีอยู่วันหนึ่งหลุดออกมาเหลือแค่อุปจารสมาธิตอนไหนก็ไม่รู้ ?"

ท่านบอกว่าเกือบตาย รักโลภ โกรธ หลง กระหน่ำมาทุกทิศทุกทาง ท่านบอกว่า "แกลองคิดดูว่า บ้านมีเสา ๘ ต้น อยู่ ๆ เสาก็พังไป ๗ ต้นครึ่ง เหลืออยู่แค่ครึ่งต้น แล้วจะค้ำบ้านอยู่ไหม ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2017 เมื่อ 19:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #77  
เก่า 13-12-2017, 18:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เพราะฉะนั้น...อาตมาก็ยังเป็นห่วงโยมเขาอยู่ ลักษณะของผู้ทรงฌาน คนรอบข้างไม่เข้าใจอาจจะเป็นโทษกับเขาได้ด้วย เพราะว่าจะไปพูดจาล่วงเกินอะไรเขาได้ เพื่อนฝูงเคยชวนกินเหล้าเมายาอยู่เป็นปกติก็ไม่ไปกับเขา

ถ้ายิ่งมีครอบครัวยิ่งลำบาก สมมติว่ามีภรรยา ภรรยามีความต้องการทางเพศตามปกติ แต่สามีตายด้านชั่วคราวไปทีหนึ่งหลาย ๆ เดือน เดี๋ยวก็ได้บ้านแตกสาแหรกขาด

เรื่องของทางโลกกับทางธรรมจริง ๆ แล้ว เราต้องพยายามระมัดระวังไม่ให้โลกช้ำธรรมเสีย ยกเว้นบุคคลประเภทหนึ่ง คือมาสายพุทธภูมิแต่เดิม ท่านทั้งหลายเหล่านี้กำลังใจเกินคน ส่วนที่ท่านคิดว่าพอดี มักจะเกินกว่าที่ชาวบ้านเขารับได้ จึงมักจะกลายเป็นโลกช้ำไป"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2017 เมื่อ 20:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #78  
เก่า 13-12-2017, 18:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ใครถอดเทปช่วงเมื่อเช้าลองฟังเสียงเขาดู ลักษณะของบุคคลทรงฌานจะเป็นอย่างนั้น มีอารมณ์เดียวตลอด ไม่รับอะไรเลย ถามปัญหาแค่ ๒ ข้อ

ไปนึกถึงตัวอาตมาเองอยู่กับหลวงพ่อวัดท่าซุงมาทั้งหมด ๑๘ ปี เคยถามแค่ ๔ ครั้ง เพราะว่าในเรื่องของการปฏิบัติ ถ้าเราทำจริง ๆ จะได้คำตอบเอง ไม่ต้องเสียเวลาไปถามครูบาอาจารย์ เพียงแต่ว่าที่ไปถามเพราะว่าเป็นช่วงของการเปลี่ยนอารมณ์ การก้าวข้ามอะไรสักอย่าง ทำให้เกิดความไม่มั่นใจว่าไปถูกทางหรือเปล่า ? ก็ต้องไปกราบเรียนถามหลวงพ่อเพื่อขอความมั่นใจ

เมื่อเช้านี้เขาก็ถามแค่ ๒ ข้อ คือสงสัยว่าที่ตัวเองทำมาผิดพลาดหรือถูกต้อง และจะไปต่ออย่างไร"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2017 เมื่อ 20:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #79  
เก่า 13-12-2017, 18:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ลักษณะอย่างนั้นถึงเวลาจำเป็นแล้ว หลวงปู่ หลวงพ่อ ครูบาอาจารย์ หรือพระท่านจะใช้งาน ไม่อย่างนั้นแล้วท่านไม่สั่งให้ฝึกขนาดนั้นหรอก แบบเดียวกับที่สั่งเน้นพวกอาตมาให้ฝึกอภิญญาโดยเฉพาะ ท่านบอกว่ากาลต่อไปข้างหน้า บุคคลที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ จะจ้วงจาบพระพุทธศาสนามาก ถึงขนาดกล่าวหาว่าอภิญญาสมาบัติเป็นของหลอกลวงกัน เพื่อยกย่องศาสดาของตน

ท่านบอกว่า ถึงวาระนั้นแล้วพวกแกจะต้องไปแสดงให้เขาดูว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้มีจริง
ก็กราบเรียนถามหลวงพ่อท่านว่า "ก็พระท่านห้าม พระพุทธเจ้าท่านห้ามไม่ให้ภิกษุสามเณรแสดงฤทธิ์แสดงอภิญญา แล้วพวกผมจะแสดงได้หรือ ?" หลวงพ่อท่านบอกว่า "ถึงเวลาแล้วพระท่านจะสั่งเอง"

ก็ได้แต่หวังว่าท่านจะไม่สั่ง เพราะว่ายังทำอะไรไม่ค่อยเป็น ถึงเวลาสั่งแล้วเดี๋ยวไปเหมือนกับโยมเมื่อเช้า มีสตางค์เต็มกระเป๋าแต่ใช้ไม่เป็น แล้วที่ตลกมากก็คือ หลังจากที่มีโยมถามปัญหาขั้นประถมของเขา เลยไปเจอระดับปริญญาเข้าให้ โยมเขาบอกว่าขออนุญาตถามปัญหาระดับประถม ก็เลยบอกว่า “เออ...ถึงระดับประถมแล้วหรือ ? ที่เจอมาอนุบาลล้วน ๆ” เพิ่งจะพูดจบไม่นานเจอระดับปริญญาเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2017 เมื่อ 20:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #80  
เก่า 13-12-2017, 18:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เรื่องของการปฏิบัติธรรม ถ้าไม่ได้ "อยากทำ" ไปไม่รอดหรอก ต้องอยากทำ อยากดี อยากเก่งด้วยตัวเอง ถามว่าแล้วถ้าอยากแล้วจะทำอย่างไร ? เพราะว่าความอยากไม่ใช่สิ่งที่ดีไม่ใช่หรือ ? ก็บอกว่าใช่ แต่ถึงเวลาเราก็ลืมความอยากนั้น แล้วก็ทำ ถ้าไม่อยากเราก็ไม่ทำ ต้องอยากก่อน หลังจากนั้นละความอยากได้ แล้วจึงจะประสบความสำเร็จ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2017 เมื่อ 20:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:58



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว