กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > เรื่องธรรมะ และการปฏิบัติ > ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ

Notices

ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ คุณสามารถตั้งคำถาม และทีมงานจะรวบรวม และคัดกรองเพื่อนำไปถามหลวงพ่อในตอนเย็นวันอาทิตย์ที่หลวงพ่อมารับสังฆทาน

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 10-01-2019, 17:09
นักเดินทางสังสารวัฏ นักเดินทางสังสารวัฏ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2016
ข้อความ: 77
ได้ให้อนุโมทนา: 139
ได้รับอนุโมทนา 2,965 ครั้ง ใน 205 โพสต์
นักเดินทางสังสารวัฏ is on a distinguished road
Default เกี่ยวกับภาษาบาลี

๑. อัตตาหิ อัตตโน นาโถ แปลว่า ตนเป็นที่เพิ่งแห่งตน และ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แปลว่า ทุกอย่างไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และไม่ใช่ตัวตน ผมอยากทราบว่า ทำไมประโยคแรกมีอัตตาที่แปลว่าตัวตน แต่ประโยคที่สองบอกว่าทุกอย่างเป็นอนัตตา ซึ่งมีความย้อนแย้งกันและทำให้ผมสับสน หลวงพ่อช่วยอธิบายทีครับ

๒. ผมสงสัยว่านักปฎิบัติเจริญวิปัสสนาจำเป็นต้องพิจารณาปฏิจจสมุปบาทไหมครับ เพื่อจะได้รู้เหตุรู้ผล เพื่อที่จะได้ตัดเหตุของความทุกข์ได้ พอตัดเหตุของความทุกข์ได้ ความทุกข์ก็ไม่เกิด
๒.๑ การที่หลวงพ่อวัดท่าซุงสอนให้เห็นทุกข์ของการเกิดเป็นมนุษย์ และทุกข์ของการเกิดเป็นพรหม เทวดา เพราะยังไม่เที่ยง หมดบุญเมื่อไร ก็อาจจะตกนรกก็ได้ ถ้าไม่มีความดีรองรับไว้ และให้ตั้งใจว่าชาตินี้เราจะไปแดนพระนิพพานอย่างเดียว เป็นการพิจารณาปฏิจจสมุปบาทหรือเปล่าครับ เพราะเราตัดตัณหาในการเกิด พอตัณหาไม่มีการเกิดก็ไม่มี เพราะเราตัดเหตุของการเกิดคือตัณหาไปแล้ว ที่ ๆ เราจะไปก็คือแดนพระนิพพานที่เดียว
๓. อยากทราบว่าเวลาเรารู้ตัวว่ากำลังคิดชั่ว และหยุดความคิดได้ด้วยมรณานุสติ จัดว่าเป็นสังขารุเปกขาญาณหรือเปล่าครับ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นักเดินทางสังสารวัฏ : 11-01-2019 เมื่อ 22:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 25 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นักเดินทางสังสารวัฏ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 01-03-2019, 19:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,190 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อัตตาหิ อัตตโน นาโถ แปลว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน และ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แปลว่า ทุกอย่างไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และไม่ใช่ตัวตน ผมอยากทราบว่า ทำไมประโยคแรกมีอัตตาที่แปลว่าตัวตน แต่ประโยคที่สองบอกว่าทุกอย่างเป็นอนัตตา ซึ่งมีความย้อนแย้งกันและทำให้ผมสับสน ขอหลวงพ่อเมตตาอธิบายทีครับ ?
ตอบ : ก็เพราะว่ามึงโง่..! อัตตาหิ อัตตโน นาโถ ท่านให้พึ่งตนเองก็พึ่งแค่ชาตินี้ พอหมดจากชาตินี้แล้วเหลืออะไรให้พึ่งเล่า ? และสำคัญที่สุดก็คือ ถ้าไม่พึ่งตัวเองตะเกียกตะกายให้เต็มที่ แล้วจะหลุดพ้นไปได้อย่างไร ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 14 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 01-03-2019, 19:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,190 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมสงสัยว่านักปฏิบัติเจริญวิปัสสนา จำเป็นต้องพิจารณาปฏิจจสมุปบาทไหมครับ ? เพื่อจะได้รู้เหตุรู้ผล และตัดเหตุของความทุกข์ได้ครับ ?
ตอบ : ก็รู้อยู่ว่าร่างกายนี้เป็นสาเหตุ ตัดร่างกายก็จบแล้ว จะไปพิจารณาอะไรให้มากมาย ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 15 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 01-03-2019, 19:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,190 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่หลวงพ่อวัดท่าซุงสอนให้เห็นทุกข์ของการเกิดเป็นมนุษย์ และทุกข์ของการเกิดเป็นพรหม เทวดา เพราะยังไม่เที่ยง หมดบุญเมื่อไรก็อาจจะตกนรกก็ได้ ถ้าไม่มีความดีรองรับไว้ และให้ตั้งใจว่าชาตินี้เราจะไปแดนพระนิพพานอย่างเดียว เป็นการพิจารณาปฏิจจสมุปบาทหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ก็ให้ดูว่ามีเหตุมีผลเนื่องกันไหม ? ในเมื่อรู้ว่าเหตุคือความทุกข์ เราพยายามจะหนีทุกข์ ก็ต้องใช่อยู่แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 13 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 01-03-2019, 19:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,190 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อยากทราบว่าเวลาเรารู้ตัวว่ากำลังคิดชั่ว และหยุดความคิดได้ด้วยมรณานุสติ จัดว่าเป็นสังขารุเปกขาญาณหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : จัดเป็นมรณานุสติ สังขารุเปกขาญาณนั้นปล่อยวางการปรุงแต่ง คือความนึกคิดต่าง ๆ ของใจ ไม่ใช่หยุดความคิด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 16 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:50



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว