กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 20-01-2016, 19:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,069
ได้รับอนุโมทนา 4,399,753 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุกร์ที่ ๘ มกราคม ๒๕๕๙

ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราอยู่ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ที่เรามีความถนัดมาแต่เดิม

วันนี้เป็นการปฏิบัติธรรมวันแรกของปีใหม่ แต่ว่าล่วงเลยมาจนถึงวันศุกร์ที่ ๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ เนื่องเพราะว่าอาทิตย์แรกติดงานสวดมนต์ข้ามปีและบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมที่วัดท่าขนุน

ปีใหม่พวกเรามักจะถือว่าเป็นวาระพิเศษ ในที่นี้ก็อยากจะให้ทุกท่านใช้วาระพิเศษในการทบทวนดูว่า ตลอดระยะเวลา ๑ ปีที่ผ่านมา การปฏิบัติใน ศีล สมาธิ ปัญญา ของเรานั้น มีความก้าวหน้าหรือไม่ ? อย่างไร ? การทบทวนนั้นจัดอยู่ในวิมังสาของอิทธิบาทธรรม คือการไตร่ตรองทบทวนอยู่เสมอว่า เราทำอะไร ? เพื่ออะไร ? ปัจจุบันนี้เรายืนอยู่ในจุดไหน ? ยังตรงต่อเป้าหมายอยู่หรือไม่ ? เหลือระยะทางห่างไกลจากเป้าหมายสักเท่าใด ? จำต้องเร่งรัดเร่งรุดไปให้ถึงเป้าหมายในระยะเวลาที่จำกัดสักเท่าไร ? เป็นต้น

ซึ่งในปัจจุบันนี้ทฤษฎีของฝรั่งต่าง ๆ ก็ได้นำเข้าไปใช้ในระบบของการบริหารองค์กร บริหารบุคคล โดยใช้ว่าการสรุปและประเมินผล ซึ่งก็คือหลักวิมังสา ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ตรัสให้พุทธบริษัททั้งหลาย สรุปและประเมินผลตนเองมาตั้ง ๒,๕๐๐ กว่าปีแล้ว และในส่วนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ก็ไม่ใช่ว่าปีหนึ่งมาประเมินครั้งหนึ่ง หรือครึ่งปีประเมินครั้งหนึ่ง ๓ เดือนประเมินครั้งหนึ่งเหมือนบริษัทห้างร้านในปัจจุบัน แต่ของพระองค์ท่านอย่างน้อย ๆ ต้องประเมินด้วยการทบทวนตนเองอยู่เสมอ ๆ ภายในรอบ ๑ วันกับ ๑ คืน อย่างน้อยก็ต้องประเมินตนเอง ๒ ครั้ง ก็คือก่อนนอนกับตื่น

ก่อนนอน คือ ทบทวนว่าวันนี้เรามีศีลสิกขาบทไหนขาดตกบกพร่อง หรือบริสุทธิ์บริบูรณ์อย่างไรบ้าง ? เราได้ละเมิดศีลด้วยตนเองหรือไม่ ? เรายุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีลหรือไม่ ? เรายินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิดศีลหรือไม่ ? ถ้าข้อไหนขาดตกบกพร่อง ให้ตั้งใจว่าตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป เราจะรักษาประคับประคองรักษาศีลของเราให้บริสุทธิ์บริบูรณ์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-01-2016 เมื่อ 03:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 59 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 22-01-2016, 12:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,069
ได้รับอนุโมทนา 4,399,753 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ลำดับต่อไป คือ ความเคารพในพระรัตนตรัยของเราเต็มเปี่ยมอยู่หรือไม่ ? เราได้ล่วงเกินพระรัตนตรัยด้วยกาย ด้วยวาจา หรือด้วยใจบ้างหรือไม่ ? ถ้าหากว่าสติของเราหยาบ บางทีก็ไม่รู้ตัวว่าสิ่งที่กระทำลงไปนั้น เป็นการปรามาสพระรัตนตรัย ซึ่งเป็นโทษใหญ่ถึงขนาดปิดมรรคผลเลยทีเดียว

เนื่องเพราะกติกาของการเป็นพระอริยเจ้าข้อแรกเลยก็คือ ต้องเคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์จากใจจริง ไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ถ้าหากว่าเรามีข้อผิดพลาด หรือถึงไม่มีแต่คาดว่าจะมี ก็ให้รีบกราบขอขมาพระรัตนตรัยเสีย อย่าปล่อยให้ข้ามคืนข้ามวัน เพราะถ้าเรามีอันเป็นไป กรรมตรงนี้จะมาตัดรอน ทำให้เราเข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้าไม่ได้

ข้อต่อไป ก็คือ มาทบทวนว่าเราได้ระลึกถึงความตายเป็นปกติหรือไม่ ? ความตายมีกับมนุษย์และสัตว์ทุกรูปทุกนาม เกิดมาเท่าไรก็ตายหมดเท่านั้น แต่การที่เราเห็นคนและสัตว์เกิดมากกว่าตาย เพราะไม่ว่าจะคนก็ดี สัตว์ก็ดี เมื่อเกิดมาแล้วยังต้องดำรงชีวิตอยู่หลายปี

การเกิดของคนและสัตว์ใช้ระยะเวลาไม่นาน อย่างเก่งก็ ๙ เดือน ๑๐ เดือน หรือสัตว์ใหญ่ ๆ อย่างช้างก็ปีครึ่ง ๒ ปี เป็นต้น แต่ว่าเกิดมาก็เปลี่ยนแปลงแปรปรวนไปในท่ามกลาง และสลายไปในที่สุด ก็คือเข้าถึงความตายทั้งหมด แม้ว่าจะเกิดเร็วตายช้า จนดูเหมือนกับว่าเกิดมากกว่าตาย แต่ความจริงแล้ว ทุกชีวิตก้าวไปสู่ความตายเป็นปกติ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า สัตว์โลกทั้งหลาย เกิดมาเท่าไร ตายหมดเท่านั้น ดังนั้น...เราจึงไม่ควรที่จะประมาท ให้เร่งรัดการปฏิบัติธรรมของเราให้มากเข้าไว้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-01-2016 เมื่อ 17:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 51 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 22-01-2016, 12:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,069
ได้รับอนุโมทนา 4,399,753 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การทบทวนทั้ง ๓ หัวข้อที่ว่ามานี้ จำเป็นต้องมีอยู่อย่างน้อยวันละ ๒ รอบ ก็คือก่อนนอน ถ้าหากว่ามีข้อไหนบกพร่อง ให้ตั้งใจไว้ใหม่ว่า เราจะกระทำให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ และตื่นนอน ต้องประคับประคองรักษาอารมณ์นี้เอาไว้ให้ดีให้ได้ ตั้งใจว่าถ้าวันนี้เราหมดอายุขัยตายลงไปก็ดี หรือเกิดอุบัติเหตุอันตรายใด ๆ ถึงแก่ชีวิตก็ตาม เราขอไปอยู่กับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพานแห่งเดียวเท่านั้น

เมื่อตั้งอารมณ์นี้ได้แล้ว ก็ให้ภาวนาต่อไปจนกระทั่งอารมณ์ใจทรงตัวตั้งมั่นตามที่เราต้องการ ถ้าหากท่านทั้งหลายทำอย่างนี้ ทั้งก่อนนอนและตื่นนอนได้ทุกวัน อาตมาขอยืนยันว่าชีวิตนี้ ถ้าท่านตายลง สามารถไปพระนิพพานได้แน่นอน

ลำดับต่อไปให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันศุกร์ที่ ๘ มกราคม ๒๕๕๙

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยทาริกา)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-01-2016 เมื่อ 17:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 54 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:33



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว