กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #101  
เก่า 16-02-2019, 07:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,021 ครั้ง ใน 33,959 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สอบบาลีปีนี้ หลวงพ่อช่วยสงเคราะห์ได้ไหมครับว่าจะออกเรื่องไหนครับ ?
ตอบ : จะมักง่ายไปไหม ? แบบนี้เรียกว่าไร้ฝีมือ...ต้องทำเอง

ตั้งแต่ปีที่มหาเอสอบ ต้องบอกว่าเรื่องบางอย่างนี่ฝืนไม่ได้จริง ๆ โทรไปเท่าไรก็ไม่ติด มาติดตอนสอบเสร็จแล้ว ท่านว่า “พระอาจารย์มาบอกทำไมตอนนี้” “ก็ผมโทรไปตั้งแต่ก่อนคุณสอบแล้ว คุณไม่รับสายนี่หว่า..!” “อ๋อ...เข้าห้องแล้วเขาให้ปิดโทรศัพท์ครับ” ..(หัวเราะ)..


ถาม : แบบนี้ต้องไลน์มาเลยครับ ?
ตอบ : หลักฐานคาจอ จะพาซวยทีหลังนะสิ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 10:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #102  
เก่า 16-02-2019, 08:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,021 ครั้ง ใน 33,959 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ปีที่มหาเอสอบประโยค ๗ หลวงพ่อสมเด็จฯ วัดปากน้ำ ท่านก็นั่งเป็นประธานอยู่ตรงหน้าพอดี โยชนาเขาอนุญาตให้เปิดหนังสือดูได้ทุกคน คราวนี้ตัวเองนั่งอยู่ตรงหน้าหลวงพ่อสมเด็จฯ แล้วก็เป็นพระวัดปากน้ำด้วย ก็เลยไม่กล้าเปิด คนอื่นเขาสอบได้กันหมด ท่านตกอยู่คนเดียว..!

อย่างสมัยผมสอบปริญญาตรี ท่านอาจารย์ ดร.ชิต คุมห้องสอบ ท่านค่อนข้างจะเข้มงวด ผมนั่งอยู่ท้ายห้อง ท่านก็มานั่งคุยอยู่ข้างหู ท่านรู้ว่าถึงชวนคุยผมก็ทำข้อสอบได้ คราวนี้พระอื่นก็ตายหมด อยู่ท้ายห้อง มองไปข้างหน้าห้องก็เห็นหมด จะขยับอะไรก็ไม่ได้เลย ก็ได้แต่ภาวนาให้ท่านอาจารย์เมื่อยสักที จะได้ไป
นั่งที่โต๊ะหน้าห้อง..(หัวเราะ).. ส่วนผมทำเสร็จก็ไปแล้ว ท่านอาจารย์ ดร.ชิต เป็นประโยค ๙ รุ่นแรก ๆ เลยที่จบด็อกเตอร์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 10:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #103  
เก่า 16-02-2019, 08:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,021 ครั้ง ใน 33,959 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ไปนึกถึงพระรุ่นเก่า ๆ ที่ท่านเรียนบาลี เพียรพยายามกันขนาดต้องนอนหนุนมะพร้าวอย่างนี้ ถึงเวลาพลิกทีหนึ่ง หัวหล่นก็ตื่น..ท่องบาลีต่อ ไม่มีไฟก็เอาธูปมา ๒ ดอก ๓ ดอกจุดเอา ถึงเวลาเป่าทีหนึ่งมองตัวหนังสือได้ตัวสองตัวก็ท่องไป พอท่องได้แล้วก็เป่าธูปใหม่ดูคำต่อไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 10:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #104  
เก่า 16-02-2019, 08:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,021 ครั้ง ใน 33,959 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เวลาไปงานอบรมผมก็ชอบเดินไปดูตามห้องว่าเขาทำอะไร ผมว่าที่อบรมนี่ได้ผลไม่ถึง ๓๐ เปอร์เซ็นต์ บางคนยังไม่มีพื้นฐานเลยแล้วไปอบรม อย่าลืมว่าอบรมบาลีเป็นการติว แค่ทบทวนเนื้อหาสำคัญเท่านั้น ไม่ใช่ไปเริ่มต้น สิ โย อํ โย เสียเมื่อไร เพราะฉะนั้น..พอพื้นฐานตัวเองไม่แน่น ก็นั่งสัปหงกไปเถอะ เพราะว่าฟังไม่รู้เรื่อง

บางทีอาจารย์พูด ผมเองผมก็สงสัยทำไมเป็นอย่างนี้วะ ? "อันว่าสามเณรชั่วเรวัตตะนั้น..อันว่าสามเณรชั่วเรวัตตะนั้น" มาจากไหนวะ ? ท้ายสุดต้องไปเปิดดู อันว่าสามเณร “ชื่อว่า” เรวัตตะ เขาพูดกล้ำเร็วมากเลย ผมก็ว่าคำนี้มาจากไหน..สามเณรชั่ว กูไม่เคยได้ยิน..! ไปเจออาจารย์แบบนี้ถ้าลูกศิษย์ไม่ขวนขวายก็คลั่งเลย ไม่เข้าใจว่ามาได้อย่างไร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 10:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #105  
เก่า 16-02-2019, 08:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,021 ครั้ง ใน 33,959 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องบาลีก็อย่างที่ว่านั่นแหละ บางคนก็ดวงเฮงอ่านถูกที่พอดี ต้องเชื่อสัญชาตญาณตัวเอง ถ้าบอกว่าตรงนี้ใช่ก็เน้น ๆ หน่อย แต่ถ้าจะเอาอย่างท่านอาจารย์มหาสันติก็คงไม่ได้หรอก รายนั้นไปท่องบาลีอยู่หลังพระประธาน เทวดาเดินออกมาบอกเลย “เอาสองหน้านี้” ท่านก็เชื่อนะ สอบประโยค ๗ ด้วย..! ท่องอยู่แค่สองหน้าแล้วสอบได้เลย

พอประโยค ๘ รีบไปใหม่ ไม่ให้เว้ย ..(หัวเราะ).. ประโยค ๘ คุณไปเหนื่อยเอาเองเถอะ..! ท่านก็สงเคราะห์ตามวาระ พอพ้นวาระไปแล้วก็ไม่ได้อีก โบสถ์วัดสร้อยทอง ท่านเหนื่อย ๆ ก็นอนภาวนาแล้วก็หลับไปเลย เห็นเทวดาเดินออกมาบอกเลย

ส่วนมหาปรีชาสอบปีแรกก็ตก ถามว่าทำไม ? อ่านไปถึงตรงนั้นพอดี แต่อ่านได้แค่ครึ่งเดียว น่าเจ็บใจกว่าอ่านไม่ถึงตั้งเยอะ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 10:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #106  
เก่า 16-02-2019, 08:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,021 ครั้ง ใน 33,959 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

บางทีเจออาจารย์หักหลัง ออกปณามคาถา ..(หัวเราะ).. เคยไปเปิดดูข้อสอบเก่าไหม ? ออกอะไรไม่ออก ออกปณามคาถา ถ้าเป็นของไทยก็คำนำ แทนที่จะออกเนื้อหาดันไปออกคำนำ..!

อย่างผมสอบพระอุปัชฌาย์ก็เหมือนกัน เขาถามว่า เมื่อวันปฐมนิเทศ ประธานให้โอวาทว่าอย่างไร ? ผมตอบได้อยู่คนเดียวจริง ๆ คนอื่นลืมหมด ๗ วันมาแล้ว ..(หัวเราะ).. เป็นเราก็คงไม่นึกหรอกว่าเขาจะออกอย่างนั้น เขาต้องออกเนื้อหาในกฎมหาเถรสมาคม นี่เล่นออกโอวาทของประธาน ท่านคงอยากจะรู้ว่ามีใครสนใจสิ่งที่ประธานพูดและจดจำได้บ้าง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 10:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 153 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #107  
เก่า 16-02-2019, 08:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,021 ครั้ง ใน 33,959 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คำภาวนาโสตัตตะภิญญาใช้ฝึกมโนมยิทธิได้ไหมครับ ?
ตอบ : มโนมยิทธิเขาให้ใช้ นะมะพะธะ โดยตรง เหตุที่ต้องใช้โดยตรงเพราะว่าเหมือนกับเป็นสัญญาณบอกฝ่าย ก็คือถ้าหากว่าใครใช้คำภาวนานี้แล้วท่านจะสงเคราะห์ ถ้าเราไปใช้ผิดท่านไม่ช่วย ก็ต้องใช้กำลังตัวเอง เหนื่อยตายเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 10:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #108  
เก่า 16-02-2019, 08:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,021 ครั้ง ใน 33,959 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่เป็นคนมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงกับมานะ ต่างกันอย่างไร ?
ตอบ : คล้าย ๆ กัน คนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ถ้าหากว่าขาดปัญญาหรือไม่รู้กาลเทศะในการปฏิบัติตน วางตน จะกลายเป็นมานะไป

เคยได้ยินคำว่า “ขัตติยมานะ” ไหม ? นั่นแหละ..เต็ม ๆ เลย พระมหาอุปราชาไม่คิดจะรบกับพระนเรศวร แต่ขัตติยมานะทำให้ต้องรบ เพราะว่าโดนท้าทายต่อหน้าสมัครพรรคพวกตั้ง ๑๒ คน ซึ่งบรรดาลูกเจ้าเมืองต่าง ๆ ก็เป็นลูกไล่ของท่านมาทั้งนั้น ถ้าหากว่าตัวเองไม่ยอมรับ ถ้าเกิดรอดไปได้นี่ก็ไม่รู้ว่าจะมองหน้าใครได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 10:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #109  
เก่า 16-02-2019, 08:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,021 ครั้ง ใน 33,959 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีนักการเมืองคนหนึ่งเคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เขาบอกว่าไม่ต้องเรียนประวัติศาสตร์ เมื่อไม่ต้องเรียนประวัติศาสตร์แล้วให้แต่งตำราออกมาว่าฝันไป ในเมื่อฝันไป ประวัติศาสตร์ไทยจึงรางเลือนไป โทษเด็กนักเรียนไม่ได้ ในระยะเวลาเดียวกันก็ออกมาด้วยว่า ห้ามเขียนว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไทย ?
ตอบ : อาตมาถึงบอกว่าไม่ได้โทษเด็ก แต่โทษระบบการศึกษาของเรา แล้วระบบการศึกษามาจากไหน ? ก็มาจากบรรดาท่านทั้งหลายที่มีอำนาจนั่นแหละ โดยเฉพาะเห็นเด็กเป็นหนูทดลองยา พอตัวเองมาก็เปลี่ยนหลักสูตรใหม่ เปลี่ยนวิธีการใหม่ ยุ่งไปหมด แล้วดูระบบ “ควายเซ็นเตอร์” จนป่านนี้สำเร็จไหมเล่า ? ๒๐ กว่าปีแล้ว

ถาม : ระบบเอาเด็กเป็นศูนย์กลาง มาจากที่ภรรยาของผู้มีอำนาจบริหารตอนนั้นเรียนปริญญาโท เขาอยากทดลองเอามาสอนเด็กพิเศษ แต่สามีดันอยากมีผลงาน เลยเอามาใช้ทั้งประเทศไปเลย ก็เลยมาจนถึงบัดนี้ ?
ตอบ : ในส่วนของเอาเด็กเป็นศูนย์กลางจริง ๆ ถูก แต่ไม่ถูกตรงที่เขาไม่ได้ดูบริบทของสังคมบ้านเรา ไปเลียนแบบต่างประเทศมาโดยไม่ลืมหูลืมตา ต่างประเทศเขาให้เด็กทำอะไรด้วยตนเอง คิดด้วยตนเองมาตั้งแต่ยังไม่ทันจะเดินได้ เคยเห็นฝรั่งกี่คนอุ้มลูกบ้าง ? ถึงเวลาเตาะแตะ ๆ ได้ก็จูงเดินแล้ว จะเดินหรือไม่เดิน ? ถ้าแหกปากร้องก็ทิ้งไว้ตรงนั้นเลย เด็กก็ต้องตามมาเอง ก็ต้องพยายามตะเกียกตะกายเอง ก็ทำให้เขารู้จักคิด รู้จักเอาตัวรอด ในเมื่อใช้ระบบให้เด็กเป็นศูนย์กลางเขาก็สามารถที่จะรองรับได้

ส่วนบ้านเรานี่ไม่มีหรอก ตัวเล็กกว่าควายนิดเดียวยังโอ๋อยู่ตลอด..! ก็เลยทำให้เด็กของเราคิดไม่เป็น ทำไม่เป็น ในเมื่อคิดไม่เป็น ทำไม่เป็น ไปเอาระบบที่ให้เด็กเป็นศูนย์กลางก็ไปไม่รอด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 10:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #110  
เก่า 16-02-2019, 08:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,021 ครั้ง ใน 33,959 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ระบบนั้นดี แต่ไม่เหมาะสมกับสังคมของเรา ของเก่าเราให้ท่องจำ เขาก็บอกว่าไม่เหมาะ ไม่ควร ไม่ดี เพราะว่าได้แต่จำอย่างเดียว ถึงเวลาก็มาทดสอบวิธีใหม่ คือให้คิด คราวนี้เด็กของเราไม่รับอนุญาตให้คิด เข้าใจไหม ? ขนาดถามว่า “ลูกโตขึ้นอยากเป็นอะไร ?” “อยากเป็นนักร้อง” “ทำไมไม่เป็นหมอ ?” เอ้า..ตกลงจะให้ลูกคิดเองไหม ? ก็คือโดนตีกรอบทางความคิดมาตั้งแต่เด็ก จะคิดเองเมื่อไร ผู้ใหญ่ก็บังคับให้คิดเรื่องอื่นเมื่อนั้น ก็เลยทำให้เด็กเราคิดไม่เป็น ระบบก็เลยพิกลพิการ ครึ่ง ๆ กลาง ๆ อย่างที่เห็นนี่แหละ ลงทุนเกี่ยวกับการศึกษามากที่สุด แต่ผลที่ได้รับน้อยที่สุดจนน่าเวทนา

ดังนั้น..อาตมาถึงเห็นว่า ถ้าหากว่าพ่อแม่มีศักยภาพเพียงพอ ส่งลูกไปเรียนต่างประเทศเถอะ ประเทศไหนก็ได้ ในอาเซียนของเราส่งไปสิงคโปร์ก็ได้ ถ้าหากว่าต่างประเทศสามารถไปอังกฤษหรืออเมริกาได้ก็ดี ถ้าไม่ได้เอาแค่จีน ญี่ปุ่นก็พอ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 10:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 151 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #111  
เก่า 16-02-2019, 08:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,021 ครั้ง ใน 33,959 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : แล้วระบบการใช้เหตุใช้ผล ให้เด็กเป็นศูนย์กลางนี่ มีผลตรงที่ว่าเด็กไม่ใส่ใจใคร เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง อยากได้อะไรก็ทำเลย ไม่คิดถึงคนรอบข้าง ?
ตอบ : เมื่อวานนี้ที่มีโจรจี้ร้านสะดวกซื้อที่โคราช แล้วพนักงานอยู่กันสองคน คนหนึ่งล็อกเพื่อนหันเข้าหาโจร เพราะว่าเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง โจรก็แทงเพื่อนฟุบไปเลย คือเพื่อนกำลังจะกระโดดข้ามเคาน์เตอร์หนีแล้ว ด้วยความที่ตัวเองกลัวโจร เอาตัวเองรอดดีกว่า ก็เลยกระชากเพื่อนมาบังหน้าตัวเองไว้

ลักษณะอย่างนี้ถ้าว่าไปแล้วก็คือเป็นธาตุแท้ของเขา เป็นธาตุแท้ลักษณะที่เห็นแก่ตัว แต่ก็เป็นการเอาตัวรอดอย่างหนึ่ง เราจะเห็นว่า บุคคลที่รู้จักเอาตัวรอด ก็สามารถอยู่รอดในสังคมได้ ถ้าไม่รู้จักเอาตัวรอด ก็โดนสังคมกลืนกินไป เพียงแต่ว่าสิ่งที่เขาทำนี้ ไม่มีใครเห็นด้วยสักคน ก็โดนด่าจมดินไป คาดว่าอีกไม่กี่วันน้องเขาคงลดความอ้วนได้ เพราะว่าเครียดจนกินไม่ลง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 10:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 147 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #112  
เก่า 16-02-2019, 09:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,021 ครั้ง ใน 33,959 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เรื่องฮิตเลอร์ ที่จริงหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านบอกว่าฮิตเลอร์ไม่ได้สั่งฆ่าคนขนาดนั้น แต่สามทหารเสือเป็นคนสั่ง ?
ตอบ : ใครจะทำก็แล้วแต่ ผู้นำต้องรับผิดชอบ

พลโทไดทริช ฟอน วอลทริซ คุมทหารเยอรมันบุกฝรั่งเศส คำสั่งก็คือ “เผาให้ราบ” โดยเฉพาะถล่มพระราชวังแวร์ซายและโบสถ์นอเตรอะดามให้ดังไปถึงเบอร์ลิน ท่านนายพลไดทริชบอกไม่ทำ สั่งทหารทุกคนเลย ยึดพื้นที่อย่างเดียว ถ้าเขาไม่ต่อต้านอย่าไปทำ ฝรั่งเศสจึงรอดมาได้ ไม่อย่างนั้นจะมีสภาพไม่ต่างจากวอร์ซอ ทหารอยู่แนวหน้าพิจารณาตามสถานการณ์ ไม่จำเป็นต้องฟังคำสั่งแนวหลัง แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วก็คือไม่กล้าคัดค้าน


ถาม : ทำแบบนั้นจะโดนโทษทางปฏิบัติ ?
ตอบ : ก็คงคล้าย ๆ กับอาตมานั่นแหละ ถ้าเจ้านายกลัวก็ไม่มีปัญหา ถ้าเจ้านายไม่กลัวก็โดน..!

ถาม : แสดงว่านายพลคนนี้ต้องเสียสละมาก ถึงไม่ยอมทำตามคำสั่ง ?
ตอบ : ก็พลโท คนอื่นเขาพลเอกกันหมด ..(หัวเราะ).. คุณก็เลยได้แค่พลโท เพราะคุณไม่ยอมเผาปารีส..! ลองไปเสิร์ชคำว่า “วอร์ซอ โปแลนด์ World War II” ดูสิ จะเห็นอะไรที่ราบ..น่าสยองมาก

ถาม : หรือว่าเห็นคนตายมาก เลยไม่กล้าทำ ?
ตอบ : อยู่ที่สามัญสำนึก บางคนก็กระหายเลือด แบบที่ญี่ปุ่นยึดนานกิง มีนายทหารญี่ปุ่นอยู่สองคน แข่งกันกับเพื่อน ว่าใครจะใช้ซามูไรฆ่าคนจีนได้มากกว่ากัน แล้วก็ตัดหัวไปคนละสองร้อยกว่า อันนั้นเป็นสันดานส่วนตัว ประเภทว่าโหดเหี้ยมอำมหิตจนเห็นชีวิตเพื่อนมนุษย์เป็นผักเป็นปลา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 10:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #113  
เก่า 16-02-2019, 09:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,021 ครั้ง ใน 33,959 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เครื่องหมายสวัสดิกะเขาว่าคล้ายกับเครื่องหมายของมนุษย์ต่างดาว ?
ตอบ : ดาวไหน ? สวัสดิกะก่อนหน้านี้คือธรรมจักร อย่าลืมว่าคำว่า “สวัสดิกะ” เป็นภาษาสันสกฤต แล้วเอาไปใช้กันทั่วโลก คือเครื่องหมายธรรมจักรในพระพุทธศาสนา แสดงการหมุนวนที่ไม่มีที่สิ้นสุดของหลักธรรมของพระพุทธเจ้า

ถาม : นอกจากญี่ปุ่นที่ว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวแล้วมีชาติไหนอีกบ้างไหมคะ ?
ตอบ : ไปเอาที่ไหนมาว่าญี่ปุ่นเป็นมนุษย์ต่างดาว ?

ถาม : ตอนนั้นที่หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านเล่าว่าพระเจ้าจักรพรรดิไปเอามนุษย์ต่างดาวมา แล้วมีหนึ่งชาติคือญี่ปุ่นที่เอามาหนึ่งพันคน ?
ตอบ : บังเอิญว่าอาตมาไม่เคยได้ยิน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 10:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #114  
เก่า 16-02-2019, 09:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,021 ครั้ง ใน 33,959 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ญี่ปุ่นไปจากเมืองจีนสมัยรัฐฉินรุ่งเรือง จิ๋นซีฮ่องเต้รวมประเทศจีนเป็นหนึ่ง แล้วจัดให้วัยรุ่นชายหญิง ๕๐๐ คน ออกไปเดินทางเพื่อหายาอายุวัฒนะ คราวนี้พวกนี้ไปติดอยู่ที่ ๓ เกาะบูรพา แล้วก็เลยกลายเป็นต้นตระกูลของญี่ปุ่นสืบมา

ถามว่าทำไมต้องส่งวัยรุ่นไป ? เพราะว่าไปแต่ละทีเป็นสิบ ๆ ปี ส่งคนแก่ไปอาจจะตายเสียก่อน เพราะฉะนั้น..จะเห็นว่าอักษรคันจิของญี่ปุ่น จริง ๆ แล้วก็คือตัวหนังสือจีนครึ่งซีก ก็คือเด็กจะไปจำอะไรได้มากมาย ในเมื่อจำได้แค่นั้น ถึงเวลาก็กลายเป็นภาษาญี่ปุ่นขึ้นมาแค่นั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 10:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 147 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #115  
เก่า 16-02-2019, 10:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,021 ครั้ง ใน 33,959 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เรื่องท่านจี้กงนี่ท่านเป็นพระหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : จี้กงเทียบกับบ้านเราก็ประเภทหลวงพ่อขี้วัว สนุกสนานเฮฮาไปเรื่อย ปกปิดจริยาตัวเอง กลัวคนเขาจะไปรบกวนมาก ทำตัวเหมือนคนบ้า คนก็ไม่ไปกวนมาก แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ คนมีความสามารถ จะแกล้งบ้าขนาดไหนก็ตาม เผลอ ๆ ก็หลุดออกมา

ถาม : ท่านเอากายเนื้อไปเที่ยวนรกเลยหรือคะ ?
ตอบ : ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับระดับนั้น ที่หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านสอนมโนมยิทธิ เพราะว่าท่านเอากายเนื้อไปจนเหนื่อยเต็มทีแล้ว เอาตัวจริงไปก็เหนื่อยเท่าตัวจริงนะสิ แต่ถ้าเอาใจไปก็ไม่เหนื่อยเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 10:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #116  
เก่า 17-02-2019, 08:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,021 ครั้ง ใน 33,959 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เคยบวชแล้วโยมที่บ้านถวายของ พอสึกแล้วเราเอาของกลับบ้านมาด้วย ต้องถวายคืนวัดที่สึกมาหรือต้องทำอย่างไรครับ ?
ตอบ : ก็ถือว่าติดหนี้สงฆ์ ชำระหนี้สงฆ์เท่าราคาปัจจุบันก็หมดเรื่อง

ส่วนใหญ่แล้วถ้าวัดที่ครูบาอาจารย์ท่านไม่ได้เข้มงวดจริงจัง ท่านที่ไม่รู้ก็มักจะทำแบบนั้นกัน หลายรายถึงเวลา
ได้ถ้วยโถโอชามมาก็ส่งกลับบ้านหมด เขาถวายมาเพราะว่าเราเป็นพระ เราเป็นสงฆ์ ถ้าเป็นฆราวาสปกติก็คงไม่มีใครเขาให้แบบนี้

ดังนั้น..เขาถึงได้เรียกว่า “ของสงฆ์” ถวายมาต้องคิดว่าเป็นของส่วนรวม ไม่ใช่ของส่วนตัว ถ้าของยังอยู่ในสภาพดีก็เอาไปคืนวัด ถ้าไม่ได้อยู่ในสภาพดีก็คิดราคาปัจจุบัน ถวายเป็นเงินชำระหนี้สงฆ์ไป

ถาม : ชำระหนี้สงฆ์ที่ไหนครับ ?
ตอบ : ชำระหนี้สงฆ์ที่ไหนก็ได้ แต่ถ้าหากว่า
จะคืนของนั้น ต้องคืนที่วัดเดิม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-02-2019 เมื่อ 11:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 146 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #117  
เก่า 17-02-2019, 08:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,021 ครั้ง ใน 33,959 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าหมาแมวที่วัดวิ่งชนข้าวของพังจะติดหนี้สงฆ์ไหมครับ ?
ตอบ : มีโทษเหมือนกัน แต่โทษน้อยกว่าคน เพราะว่าเขาไม่รู้ ความมืดบอดในภพภูมิที่ต่ำกว่าก็เลยทำให้โทษของเขาน้อยกว่า

ถาม : อย่างอีกาในธรรมบทที่บินมาเอากับข้าวที่เขาจะถวายสงฆ์ จะติดหนี้เยอะกว่า ?
ตอบ : ก็ไม่น่าจะเท่าคน คนทำทั้ง ๆ ที่รู้นี่สาหัสกว่าเยอะ สมมติว่าเราลงอเวจี ๑ กัป อีกานั้นอาจจะลงแค่ ๕,๐๐๐ ปี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-02-2019 เมื่อ 11:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 143 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #118  
เก่า 17-02-2019, 08:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,021 ครั้ง ใน 33,959 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หนูดูรายการสัตว์โลก อย่างสัตว์เขาไม่ได้จะปองร้ายกัน แต่เป็นการเอาชีวิต ล่ากันไปล่ากันมา จะมีเวรมีกรรมต่อกันไหมคะ ?
ตอบ : มี...แต่ก็บอกแล้วว่าโทษน้อยกว่า เราจะเห็นว่าสัตว์เขาล่าแค่อิ่ม แต่กักตุนไม่เป็น พอถึงเวลากินอิ่มแล้ว สิงโตก็นอนมองพวกม้าลาย เก้ง กวาง เดินไปเดินมา ไม่มีใครสนใจ แต่ถ้าหิวเมื่อไรก็ล่าใหม่

ถาม : พอฆ่าเขา อย่างนี้ก็มีกรรมก็ต้องฆ่ากลับกันไปมาสิคะ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่ก็ประมาณ ๕๐๐ ชาติ อย่างนางยักษิณีกับนางกุลธิดา อโหสิกรรมต่อกันก็จบ นางกุลธิดาเอานางยักษิณีไปอยู่ด้วย สร้างกระต๊อบให้อยู่กลางนา ถึงเวลาก็หาอาหารไปให้ นางยักษ์ก็ไม่ต้องไปล่าหากินเอง พอถึงเวลาหน้านี้น้ำจะแล้ง ก็บอกว่าให้ปลูกข้าวในที่ลุ่ม หน้านี้น้ำจะมากก็ให้ปลูกข้าวในที่ดอน นางกุลธิดาก็ได้รับความสะดวก หากินสบาย จึงกลายเป็นธรรมเนียมเซ่นนาตาแฮกของทางอีสานเรา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-02-2019 เมื่อ 11:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 137 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #119  
เก่า 17-02-2019, 08:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,021 ครั้ง ใน 33,959 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทางอีสาน พระบวชใหม่เขาเรียกว่าครูบา ?
ตอบ : บวชใหม่ก็คือพระ

ถาม : เพื่อนไปบวชแล้วเขาเรียกครูบา ?
ตอบ : ถ้าหากว่าได้รับการสรงน้ำจากโยม ๓ ครั้งขึ้นไป เขาเรียกว่า “จารย์” ถ้าหากว่าเป็นที่เคารพนับถือของคนทั้งบ้านทั้งเมืองเขาเรียก “ญาคู” ถ้าสึกออกมาก็เป็น “เซียง” ถ้าไม่เรียกญาคูก็เรียก “ญาท่าน” คำนี้มาจาก “อาชญา” หรือ “อาญา” ก็คือมีอำนาจในการที่จะลงโทษคนอื่น ถ้าสั่งสอนแล้วไม่ฟังก็ “ผัวะ” ได้เลย..!

ถาม : เวลาเขาบอกว่า มีพระเถรานุเถระจากอีสาน ก็จะมีครูบานั้นครูบานี้ ?
ตอบ : อาจจะเป็นธรรมเนียมเฉพาะที่ อย่างบางที่อาตมาไป เขาเรียกพระทุกรูปว่า “ครูบา” คำนี้เป็นธรรมเนียมภาคเหนือไม่ใช่ธรรมเนียมอีสาน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-02-2019 เมื่อ 11:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 139 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #120  
เก่า 17-02-2019, 08:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,021 ครั้ง ใน 33,959 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ครูบาภาคเหนือแบ่งเป็นสองส่วนด้วยกัน ส่วนหนึ่งก็คือได้รับการอภิเษก คำว่าอภิเษกนี้แบ่งเป็นสองอย่างด้วยกัน อย่างแรกคือ ทางคณะสงฆ์เห็นสมควรก็สวดยกขึ้นเป็นครูบา อีกส่วนหนึ่งก็คือ ทางบ้านเมืองเห็นสมควร เป็นครูบาอาจารย์ที่บรรดาเจ้าใหญ่นายโตเขาเคารพนับถือ ก็ขอร้องพระให้ช่วยสวดยกขึ้นเป็นครูบา แต่ว่าทั้งสองอย่างเหมือนกันก็คือ ต้องมีอายุสมควร มีพรรษาสมควร มีความดีเป็นที่เคารพนับถือเลื่อมใสของผู้คนจริง ๆ

ส่วนอีกประเภทหนึ่งท่านเรียกว่า “ครูบาเจ้า” ครูบาเจ้าก็คือต้องสืบเชื้อสายมาจากเจ้าเจ็ดตนสมัยก่อน ที่ครองเชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน น่าน แพร่ ฯลฯ คราวนี้ในส่วนของครูบาเจ้า เราเรียกส่งเดชไม่ได้ อย่างครูบาเจ้าเกษม เขมโก เรียกได้เพราะว่าท่านเองมีเชื้อสายเจ้าอยู่ แต่ถ้าคนทั่วไปเป็นได้แค่ครูบาเฉย ๆ แล้วก็ไม่ใช่เรียกกันส่งเดช แต่ต้องได้รับการสวดยกขึ้นให้เป็น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-02-2019 เมื่อ 11:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 140 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:22



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว