กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 03-06-2018, 19:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนมิถุนายน ๒๕๖๑

พระอาจารย์กล่าวว่า "ขออาศัยโอกาสนี้แจ้งให้ญาติโยมทราบ มีบางท่านอยากได้บุญจนกระทั่งสร้างความลำบากให้กับทางวัด อย่างเช่นว่าล่าสุดส่งผางประทีปไปให้ ๑ ลังใหญ่ โดยให้ไปเก็บเงินกับทางวัด เป็นการกระทำที่เลวร้ายมาก ส่งผางประทีปไปให้ทางวัดเพื่อร่วมบุญ แต่ให้เก็บเงินกับทางวัด แล้วส่งไปทำซากอะไรครับ...! อาตมาเลยให้ส่งคืนไป

ปรากฏว่ายังมีการส่งกลับมาอีก แต่คราวนี้ไม่ต้องจ่ายเงินแล้ว เพราะเห็นว่าทางวัดไม่จ่ายแน่ แต่ขอบอกให้ว่า ผางประทีปที่ส่งไปก็ใช้การไม่ได้ เป็นประเภทที่อาตมาเองเลิกใช้ไปตั้งแต่ครั้งแรก ๆ แล้ว เนื่องจากว่าจุดไปแล้วประมาณ ๕ นาที ๑๐ นาที ไส้ก็จะล้ม เมื่อไส้ล้มก็ดับ ในขณะที่ผางประทีปของทางวัดจุดได้ ๔-๕ ชั่วโมง

ฉะนั้น...ของที่โยมส่งไปขอบอกว่าไม่ได้ใช้งาน และอาตมาก็ไม่กลัวว่าเป็นการย้ายเจดีย์ด้วย เพราะไม่ได้บอกบุญเรี่ยไรจากโยม โยมทะลึ่งส่งไปเอง...!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-06-2018 เมื่อ 20:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 243 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 03-06-2018, 19:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์บอกว่า "เขาบอกว่าอยากมีชีวิตง่ายดายให้ถวายกล้วยกับพระ ถ้าเป็นไปได้ ก็คงง่ายกันไปหมดทั้งประเทศแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-06-2018 เมื่อ 20:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 243 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 03-06-2018, 19:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เห็นทัชชี่ใส่กางเกงขาสั้นมา นึกออกว่าอาตมาเพิ่งด่ากระจายไปเมื่อก่อนบวชพระช่วงวิสาขบูชา เพราะว่านาค ๖ ท่านใส่กางเกงขาสั้นเดินตามพระบิณฑบาตเสีย ๕ รู้อยู่ว่าไปวัด อยู่วัด แล้วแถมยังเป็นนาคฝึกหัดอยู่กับวัด แต่แทนที่จะทำตัวให้เหมาะสมกับกาลเทศะ กลับทำตัวตามสบาย นุ่งกางเกงขาสั้นเหมือนกับอยู่บ้าน อย่าอ้างว่าต้องไปที่อื่นต่อ เพราะว่าคุณต้องเข้าวัดก่อน

เรื่องนี้อาตมาโดนด่าตั้งแต่สมัยไปอยู่ช่วยงานที่บ้านสายลมใหม่ ๆ เนื่องเพราะว่าถึงเวลาถ้ามีคนถ่ายรูปก็จะเห็น เราอาจจะไม่รู้สึกอะไร แต่คนก็จะตำหนิว่าครูบาอาจารย์ไม่อบรมเลยหรืออย่างไร ? ถึงได้ทำตัวตามสบายด้วยการใส่ขาสั้นไปวัด ใส่ขาสั้นไปทำบุญ ฉะนั้น เรื่องบางเรื่องเราเองรู้สึกว่าสบาย ทำตัวเหมือนอยู่กับบ้าน แต่ไม่รู้หรอกว่าในสายตาผู้อื่นนั้นเขาตำหนิเราได้

อาตมาเองช่วงที่ฝึกปฏิบัติธรรม ก็จะมีสมุดบันทึกของตัวเองอยู่ เมื่อมีอารมณ์ปฏิบัติธรรมอะไรเกิดขึ้นก็จดบันทึกเอาไว้ ที่หน้าปกสมุดบันทึกอาตมาเขียนคาดตัวใหญ่ ๆ เอาไว้ว่า จงอย่าให้ กาย วาจา ใจ ของเรา เป็นทุกข์เป็นโทษกับคนอื่นเขาเลย พูดง่าย ๆ ก็คือ ถึงใจของคนอื่นจะชั่วขนาดไหน ก็อย่าให้ความชั่วนั้นมีสาเหตุมาจากเรา

โดยเฉพาะบรรดาสาว ๆ ทั้งหลาย ถ้าจะไปที่อื่นก็ไปเสียก่อน แล้วจะมาทำบุญก็ใส่เสื้อผ้ามาให้รัดกุมหน่อย ไม่ใช่โน่นก็จะอยากจะโชว์ นี่ก็อยากจะโชว์ วัดก็อยากจะไป วัตถุประสงค์คนละเรื่องกัน ไปกันไม่ได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-06-2018 เมื่อ 20:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 246 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 03-06-2018, 19:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"อาตมาก็เลยคาดโทษพระพี่เลี้ยงไว้ ว่าถ้านาคชุดต่อไปมีนุ่งกางเกงขาสั้นในวัดอีก พี่เลี้ยงโดน...! เพราะเป็นหน้าที่ตัวเองที่ต้องบอก ไม่ใช่รอจนกระทั่งครูบาอาจารย์เห็นว่าไม่เหมาะไม่สมแล้วค่อยบอก เพราะอะไรก็ตามที่เราทำด้วยความมักง่าย แสดงออกซึ่งความหยาบของจิตเราที่มีอยู่มาก แปลง่าย ๆ ว่าขาดความเคารพในพระรัตนตรัยจริง ๆ โอกาสที่เข้าถึงธรรมก็ยากไปด้วย พูดง่าย ๆ ว่าการกระทำบ่งบอกถึงสภาพจิตใจ สภาพจิตใจบ่งบอกถึงผลการปฏิบัติ ต้องบอกว่าเสียหายร้ายแรงมาก จากเรื่องที่เราไม่คิดว่าจะเสียหาย

การเป็นครูบาอาจารย์นั้น วิธีการสอนของพระมีหลายอย่าง มีอนุสาสนีกถา ที่ฟังแล้วเหนื่อย อนุสาสนีกถาคือจ้ำจี้จ้ำไชปากเปียกปากแฉะ ซึ่งอาตมาเองก็ไม่มีความสุขที่จะต้องมาด่า แต่บางทีพูดดี ๆ ก็ฟังไม่รู้เรื่อง ไม่ต้องไปบอกว่าให้นัย ลักษณะให้นัยนั้นต้องคนฉลาดมาก ๆ มีไหวพริบมาก ๆ ไม่ได้ฉลาดอย่างเดียว ต้องเฉลียวด้วย สะกิดนิดเดียวก็รู้ตัวรีบแก้ไข คนประเภทนี้โอกาสได้ดีมีสูง ปัจจุบันนี้เท่าที่เจอคือด่าไปจำแค่ไม่กี่วันก็ลืม แล้วทำตัวตามสบายกันต่อ

ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายก็ตาม การที่เราแต่งตัวอวดร่างกาย เป็นโทษทั้งกับตนเองและคนอื่น เพราะว่าเพศตรงข้ามก็ชอบมอง ไม่ใช่ว่าเราผู้ชายใส่กางเกงขาสั้นเดินตามสบาย หารู้ไม่ว่าสาวเขาเหล่ตามอยู่ตลอด แล้วก็คงมีนินทาในใจว่าขาอย่างกับโต๊ะบิลเลียดยังอุตส่าห์ใส่ขาสั้นอีก

รู้แล้วแก้ไขยังถือว่าพออภัย รู้แล้วแก้ไขไม่ได้ต้องบอกว่าหนาเกินไป สมัยก่อนเขาว่าคนกะโหลกหนามักจะปัญญาทึบ เพราะว่ากะโหลกหนา เนื้อสมองก็เลยเหลือน้อย คนโบราณเขาด่าเจ็บ

เรื่องของการปฏิบัติธรรม ยิ่งทำต้องยิ่งละเอียด ในเมื่อต้องยิ่งละเอียด สิ่งที่เราทำอยู่ย่อมบ่งบอกถึงภูมิจิตภูมิธรรมของเราเอง บ่งบอกถึงครูบาอาจารย์ที่อบรมสั่งสอนเรามา แล้วก็ยาวไปถึงต้นสายเลย คือจากหลวงพ่อเป็นหลวงปู่ จากหลวงปู่เป็นหลวงปู่ทวด ไล่ไปถึงพระพุทธเจ้าโน่น สรุปว่าเสียหายกันหมด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-06-2018 เมื่อ 20:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 235 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 03-06-2018, 20:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default


มีโยมมาถวายสังฆทาน หลวงพ่อบอกว่า "อย่าไปยืดผมนะ นี่เป็นเรื่องของคนมีบุญ ถ้าไปยืดผมนี่เสียของเลย โบราณเรียกว่าเกล้านางนี บางคนเรียกว่าเมาลีโพธิสัตว์ เป็นของขลังติดตัวเองมาแต่เกิด

ถ้าถามว่าคนที่มีเมาลีโพธิสัตว์แบบนี้ดีตรงไหน ? ดีตรงที่เสี่ยงได้ทุกรูปแบบ วิ่งให้ ๑๘ ล้อชน รถก็พัง ถ้าอยากมีผมตรงเหมือนคนอื่น ไปยืดผมนี่เสียของเลย"


หมายเหตุ : ขอเจ้าตัวถ่ายภาพผมลงเว็บ
รูป
ชนิดของไฟล์: jpg 34160857_1645477988822222_5012703094765518848_n.jpg (83.5 KB, 1714 views)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-07-2018 เมื่อ 12:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 240 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 04-06-2018, 19:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : กรรมที่เราทำกับพ่อแม่ โดยเฉพาะกายกรรม วจีกรรมที่ไม่ดี จะเป็นบาปมากกว่าการทำกรรมต่าง ๆ เหล่านั้นกับคนอื่นที่ไม่ใช่บุพการีหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ถ้าคนอื่นเป็นพระอริยเจ้ากรรมก็หนักกว่า แต่ถ้าไม่ใช่พระอริยเจ้า กรรมที่ทำกับพ่อแม่ก็หนักกว่าที่ทำกับคนอื่น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2018 เมื่อ 08:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 04-06-2018, 19:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เนื่องในวันทำบุญบ้านเติมบุญเมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ที่ผ่านมา ผมอาราธนาพระ อธิษฐานให้องค์พระใหญ่คลุมบ้าน และโยงสายสิญจน์จากบ้านเติมบุญไปที่บ้านผม เพื่อเป็นการทำบุญบ้านผมด้วย การทำแบบนี้สมควรหรือไม่ ?
ตอบ : ถ้าคิดว่าทำแล้วสบายใจก็เชิญตามสบายเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2018 เมื่อ 08:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #8  
เก่า 04-06-2018, 19:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ไปถอนต้นโพธิ์ตามซอกหินปูนในวัด ถอนขาดแล้วทิ้งก็มี เรานำมาปลูกใหม่รอเวลาโต แล้วเอาไปแบ่งเพื่อนบ้านบ้าง ปลูกวัดอื่นบ้าง จะติดหนี้สงฆ์ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าเอากลับบ้านก็ติดหนี้สงฆ์

ถาม : ถ้าติดหนี้สงฆ์เราควรชำระหนี้สงฆ์ด้วยอะไร ?
ตอบ : ในท้องตลาดเขาขายต้นละเท่าไร ก็ชำระหนี้สงฆ์ไปประมาณนั้นแหละ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2018 เมื่อ 08:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #9  
เก่า 04-06-2018, 19:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เราไปขโมยเงินวัดมา ๑๐๐ บาท วันต่อมามีคนสร้างพระพุทธรูปชำระหนี้สงฆ์ เราร่วมบุญด้วย ๒๐ บาท จะหายกันไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าเขาสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ไม่ได้ปิดทอง เราก็ได้แค่อานิสงส์สร้างพระ ไม่ได้อานิสงส์ในการชำระหนี้สงฆ์ แต่ถ้าเราสร้างพระชำระหนี้สงฆ์กับเขา เป็นพระที่ปิดทอง ด้วยเงินของเราเอง สามารถชำระหนี้สงฆ์ได้ แต่ไม่ใช่เอาเงินที่เราขโมยมาชำระหนี้ ถ้าอย่างนั้นจะไม่มีผล
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2018 เมื่อ 08:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 227 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #10  
เก่า 04-06-2018, 20:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมฝันว่าได้นั่ง แล้วเอาหัวหนุนพระอาจารย์ ?
ตอบ : มิน่าล่ะ...ถึงได้รู้สึกเมื่อย...!

ถาม : ทีนี้ในฝันพระอาจารย์ก็เมตตาผม ผมมีความสุขมากเลย อันนี้ฝันดีหรือปรามาสครับ ?
ตอบ : ฝันแล้วเป็นกำลังใจก็เก็บเอาไว้ อย่าคิดมาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2018 เมื่อ 08:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 225 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #11  
เก่า 04-06-2018, 20:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่ผมฝันเห็นน้ำ ใสแจ๋ว ชอบใจในคลื่นน้ำ ไม่มีเงาตัวเองเลย ผมรู้สึกมีความสุขทั้งที่มีแต่น้ำ ถ้าความฝันบ่งบอกอนาคต ต้องปฏิบัติในเรื่องใดจึงจะสำเร็จครับ ?
ตอบ : ปฏิบัติในอาโปกสิณ ลักษณะนั้นในอดีตคงเคยทำกสิณน้ำมาจนถึงปฏิภาคนิมิตแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2018 เมื่อ 08:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #12  
เก่า 04-06-2018, 20:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “ถ้าจะว่าไปแล้ว เรื่องของการจับพระผู้ใหญ่กรณีเงินทอน เขารู้ว่าคดีไม่มีน้ำหนัก ก็เลยต้องเอาเรื่องอื่นมาตีด้วย อย่างเช่นว่าอยู่ ๆ มีหมอนวดอายุ ๕๐ กว่า ออกมาบรรยายขยายความว่าพระผู้ใหญ่เคยขอนอนด้วย จ่ายเงินให้ครั้งละสองหมื่นสามหมื่น อาตมาฟังแล้วก็ขำ เงินสองสามหมื่นไปหาสาวเอ๊าะ ๆ ที่ไหนก็ได้ จะไปหายายแก่อายุ ๕๐ กว่าไปทำไม ? แล้วเขาพูดแบบตีกินมากเลย คือไม่บอกว่าเป็นท่านใด ทำให้คนเข้าใจผิดว่าพระผู้ใหญ่ทั้งหมดนั่นแหละทำอย่างนี้ นี่คือลักษณะของการที่ออกข่าวให้เราเข้าใจไขว้เขวไป พยายามที่จะหาเรื่องหาราวจัดการพระให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

ของพวกนี้เราฟังข่าวแล้วต้องรู้จักตรองด้วย สิ่งที่เขาออกข่าวคือสิ่งเขาอยากให้เรารู้ แต่ไม่ใช่สิ่งที่เราควรจะรู้ เรื่องพวกนี้พอถึงเวลา ตำรวจ ทหาร สื่อมวลชน ก็จะมีเส้นที่เขาขีดให้เดินว่าต้องไปทางนี้ เราจะเห็นว่าตั้งแต่จับพระผู้ใหญ่สึกส่งเข้าคุกไป จะไม่มีรูปพระผู้ใหญ่ท่านใดที่เข้าคุกในลักษณะชุดนักโทษ ยกเว้นพุทธอิสระ เพราะว่าเขาต้องการจะแสดงว่า ตัวเองไม่ได้อยู่ในลักษณะสองมาตรฐาน คือพุทธอิสระที่ถือว่าเป็นพวกเดียวก็โดนด้วย ตั้งใจแสดงให้ดู

ความจริงพุทธอิสระเป็นคนที่น่าสงสารมาก เพราะถ้าวิเคราะห์ดูแล้วมี ๒ สถานการณ์ด้วยกัน สถานการณ์แรกคือต้องสละตัวเองในลักษณะเอาเบี้ยไปแลกขุน อีกสถานการณ์หนึ่งถ้าหากว่าใช่ ก็คือลักษณะว่าดวงแตกแล้ว คือภาษิตจีนที่ว่า “เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล” เรื่องตั้งนานเนกาเล ควรจะจัดการไม่จัดการ แต่มาจัดการเอาอีตอนนี้ เพราะว่าคดีความชัดเจนตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ว่าการที่ตัวเองไปปิดสถานที่ราชการ ไปตั้งกรวยขวางใครข้ามไม่ได้ ใครโดนไม่ได้ หรือที่ไปกรรโชกทรัพย์โรงแรมเขา เป็นต้น


เรื่องพวกนี้ทำไมเพิ่งจะมาจับ ? ก็เพราะต้องการที่จะกลบข่าวส่วนอื่น เรื่องพวกนี้ทางทหารเป็นวิชาการอย่างหนึ่งเรียกว่า ข่าวกรองและการต่อต้านข่าวกรอง เขาจะให้เรารู้ในสิ่งที่อยากให้รู้ แต่ไม่ใช่สิ่งที่เราสมควรที่จะรู้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2018 เมื่อ 08:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #13  
เก่า 04-06-2018, 20:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เรื่องพวกนี้พอออกไป ถ้าญาติโยมรู้สึกหวั่นไหวแล้วก็มีความคิดว่า "ทำไมพระสงฆ์ในพุทธศาสนาถึงเลวอย่างนี้ ?" ถือว่าเขาประสบความสำเร็จ เราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมั่นคง เชื่อมั่น เพราะว่าพระผู้ใหญ่แต่ละรูป กว่าจะขึ้นไปถึงระดับนั้นได้ท่านทำความดีเอาไว้มาก แต่ว่าเป็นการทำลายล้างทางการเมือง ทางศาสนา และระหว่างนิกายด้วยกัน

เรื่องเหล่านี้สิ่งที่เสียหายมากที่สุดคือพระพุทธศาสนา เวลาวาระสำคัญเขาจะพยายามทำเรื่องเหล่านี้ให้ดังขึ้นมา เพื่อให้เราหมดศรัทธาในพุทธศาสนา ไม่เข้าวัด ไม่ทำบุญ ให้โยมสังเกตว่าอีกไม่กี่วันจะเป็นวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา ก่อนนั้นสักสิบวันครึ่งเดือน ก็จะมีเรื่องตูมขึ้นมาอีก นี่คือสูตรตายตัวเลยที่เขาจะทำ"


ถาม : แล้วพวกเราพอจะทำอะไรได้บ้างในตอนนี้คะ ?
ตอบ : เกินกำลังที่จะแก้ไข มีอย่างเดียวก็คือสร้างความดีให้มากไว้ ทำความดีอะไรก็ได้แล้วก็ช่วยกันแพร่กระจายออกไป เพราะว่าเดี๋ยวนี้การที่เราจะลงข่าวทางสื่อโซเชียลถือว่าเป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าจะเป็นยูทูบ เป็นเฟซบุ๊ก เป็นไลน์ก็ตาม ช่วยกันแชร์ในสิ่งที่ดี ๆ อย่างเช่นว่าวัดนี้ให้ทุนการศึกษา วัดนี้จัดปฏิบัติธรรม วัดนั้นหล่อพระ เป็นต้น

ในเมื่อเราทำอย่างนี้เขาก็จะได้เห็นงาน เพราะว่าโดยปกติแล้ว พระเราสร้างอะไรที่เป็นความดีมากมายมหาศาลแค่ไหนก็ไม่มีการโฆษณา ใครจะไปรู้ว่าเมื่อวิสาขบูชาที่ผ่านอาตมาให้ทุนการศึกษาไปสองสามร้อยทุน หมดไปเกือบล้านบาท ฉะนั้น...ถึงเวลาแล้วพวกเราช่วยกระจายข่าวที่ดี ๆ ออกไป อะไรที่เป็นข่าวไม่ดีไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องที่เขากุขึ้นมา เราก็อย่าไปยุ่ง

อาตมาเองยังให้นโยบายกับทางเว็บพลังจิต ซึ่งเป็นเว็บไซต์พระพุทธศาสนาที่ใหญ่ที่สุดของไทยว่า ข่าวอะไรที่เสียหายต่อพุทธศาสนาเราลงแต่เนื้อหา แต่ไม่เอาคำวิพากษ์วิจารณ์ หรือถ้าเป็นไปได้ก็ไม่ลง ลงแต่ข่าวในเชิงสร้างสรรค์ก็พอ ของพวกนี้ต้องใช้ความดีสู้ พระท่านว่า “อสาธุง สาธุนา ชิเน พึงชนะความไม่ดีด้วยความดี” นี่เป็นพุทธพจน์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลย ตั้งหน้าตั้งตาทำกันไป ต่อให้เป็นมด รุมกันกัดเดี๋ยวช้างก็ถอยไปเอง สำคัญว่ามดเราต้องสามัคคีเหนียวแน่นกันเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2018 เมื่อ 09:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 224 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #14  
เก่า 04-06-2018, 21:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวเตือนโยม "สำหรับคุณวรวรรณามี ๒ เรื่อง เรื่องแรกเลยก็คือ กลางคืนอย่าไปกางเต็นท์นอนที่รอยพุทธบาทอีก ที่นั่นอยู่นอกเขตวัด เป็นเรื่องที่อันตรายมาก กลางค่ำกลางคืนทางวัดไม่สามารถที่จะดูแลได้ เกิดเหตุอะไรขึ้นมาจะพาซวยกันทั้งหมด เราอาจจะมั่นใจในความปลอดภัยของเราเอง แต่เรารู้ไหมว่าวาระกรรมจะมาถึงเมื่อไร ? แล้วเรื่องของอาชญากรรมทุกชนิด ถ้าเราไม่เปิดโอกาสให้เขาก็ทำอะไรไม่ได้ หลายครั้งที่เรื่องไม่ดีเกิดขึ้นเพราะว่าโอกาสเปิดให้ ทั้งที่เขาไม่ได้คิดที่จะทำมาก่อน

ประการที่สอง คือ เรื่องของลูกสาว ต่อไปอย่าให้วิ่งไล่ตามหลวงพ่อแบบนั้นอีก น่าเกลียดมาก ลูกก็เป็นผู้หญิง ถ่ายรูปออกมาเกาะพระอยู่ติด ๆ แล้วคนอื่นเขาจะคิดอย่างไร ? มีอะไรไม่ดีไม่ถูกก็บอกให้ลูกรู้เรื่องบ้าง ไม่ใช่ให้ลูกเขามีประสบการณ์ด้วยตัวเอง คนอื่นเขามัวแต่เกรงใจเขาก็ไม่กล้าพูด ทำแบบนั้นจะก่อความเสียหายให้เมื่อไรก็ไม่รู้ ? อย่ารักลูกจนเกินไป มีอะไรก็กระทบ กระแทก กระทืบ เสียบ้างเขาจะได้รู้ตัว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2018 เมื่อ 09:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 221 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #15  
เก่า 04-06-2018, 22:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : วัตถุมงคลของหลวงพ่อกวยลอดราวตากผ้าได้หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : วัตถุมงคลของหลวงพ่อกวยมาด้านไสยศาสตร์ ปกติแล้วห้ามลอดที่ต่ำ แต่ของหลวงพ่อกวยท่านห้ามด่าแม่อย่างเดียว เพราะท่านรู้ว่าลูกศิษย์ของท่านไม่ค่อยจะฟังใครหรอก ด่าไปหมด เพราะฉะนั้น...โกรธคนอื่นเท่าไรก็ห้ามด่าแม่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2018 เมื่อ 11:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 216 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #16  
เก่า 04-06-2018, 23:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนโบราณถือเรื่องปลูกบ้านสองชั้นแล้ว ถ้าทุบแล้วปลูกบ้านใหม่เหลือชั้นเดียว จะทำให้ทำกินไม่เจริญเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ถ้าสองชั้นแล้วเหลือหนึ่งชั้น ก็ไม่เจริญตั้งแต่ทำแล้ว ไม่ใช่ทำมาหากินไม่เจริญ แม้กระทั่งในวัด ถ้าทุบลงทำใหม่ต้องให้ดีกว่าเดิม ไม่อย่างนั้นจะติดหนี้สงฆ์ แต่ถ้ารู้สึกว่าตอนนี้เราอายุ ๘๐ ปีแล้ว ขึ้นชั้นบนไม่ไหว ให้เขาทุบเหลือชั้นเดียวก็สะดวกกับเราอยู่ แต่จะลงทุนมากไปหรือเปล่า ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2018 เมื่อ 09:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #17  
เก่า 05-06-2018, 09:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เรื่องที่ ๑ คนผู้หนึ่งมีพระพุทธรูปองค์หนึ่ง เขารักและหวงแหนพระพุทธรูปองค์นี้มาก เมื่อเขาตาย ได้กลายเป็นงูเฝ้าพระพุทธรูป ใครเข้าไปใกล้องค์พระ งูตัวนี้จะชูหัวขึ้นเตรียมฉกทันทีเพราะความหวงแหน ต้องพูดบอกงูว่า "เพียงแค่มาดูองค์พระเฉย ๆ ไม่ได้มานำองค์พระไปไหน" งูตัวนั้นจึงจะสงบเลื้อยออกไป

เรื่องที่ ๒ หญิงชราญาติผู้ใหญ่ของหลวงปู่รูปหนึ่ง ได้รักเลี้ยงดูหลวงปู่รูปนี้มาด้วยความรักผูกพันมาก ตอนมีชีวิตใส่บาตรพระหลานชายเสมอ แต่พอเสียชีวิตกลับได้ไปเกิดเป็นสุนัข คอยวิ่งเข้าไปอาศัยในวัดที่หลวงปู่จำวัดอยู่ เพราะด้วยรักผูกพัน จะไล่ตีหรือเจ้าของนำกลับไปเลี้ยงที่บ้านดีอย่างไรก็ไม่ยอม จะวิ่งกลับมาอยู่วัดตลอด อทิสมานกายเป็นหญิงชรา กายซูบผอม เฝ้ากราบขออย่าได้ไล่ตนไปใหน ขอให้ตนได้อาศัยอยู่วัดนี้ ได้ใกล้หลานชาย

๒ เรื่องนี้ จิตทั้ง ๒ คนพลาดลงอบายภูมิเป็นเดรัจฉานได้อย่างไร ? ขอพระอาจารย์โปรดวินิจฉัยเป็นความรู้และการป้องกัน มีข้อควรระวังกับการสังเกตสภาพจิตลักษณะนี้อย่างไร เพื่อไม่ให้เป็นเช่นนี้

ตอบ : เรื่องของโยมที่รักพระพุทธรูปมาก แต่ตายแล้วกลายเป็นงูเฝ้าพระพุทธรูป กำลังใจเป็นไปในลักษณะของมัจฉริยะ คือ ความตระหนี่ถี่เหนียว หวงแหนในสิ่งของนั้น ๆ ไม่ใช่กำลังใจที่เกาะพระในลักษณะพุทธานุสติ แค่เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานอย่างงูถือว่าดีมากแล้ว

ส่วนเรื่องของคุณยายที่รักหลานและดูแลหลานที่เป็นพระ แต่ไปเกิดเป็นหมา ลักษณะก็ใกล้เคียงกัน คือ การรักและหวงหลานของตัวเอง โดยที่ไม่ได้ยึดเป็นสังฆานุสติ ไม่ได้เห็นว่าท่านเป็นพระสงฆ์ แต่ว่าเห็นเป็นแค่หลานชายสุดที่รัก ทั้งสองส่วนเป็นการตั้งกำลังใจในทางที่ผิด ขยับมุมนิดเดียวจะไปดีมากเลย แต่ไม่ต้องกังวล เพราะว่าอย่างน้อย ๆ การที่เขาเกาะความดีอยู่ ชาติต่อไปหลังจากพ้นกรรมตรงนั้นแล้ว ก็ได้ไปเสวยผลบุญในส่วนที่ตนเองนึกถึงพระ ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปหรือว่าพระสงฆ์ก็ตาม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2018 เมื่อ 11:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #18  
เก่า 05-06-2018, 20:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พูดถึงผ้ายันต์กับเหรียญท้าวเวสสุวรรณ "ไม่ต้องไปหาอะไรแล้ว ที่น่าสงสารที่สุดก็คือพวกขับรถมาจากที่ไกล ๆ ไปจะเอาผ้ายันต์กับเหรียญท้าวเวสสุวรรณที่วัด รายสุดท้ายมาจากพัทยา ท้ายสุดน้องเล็กก็เลยต้องตัดของตัวเองให้เขาไป ที่จองไว้ในเว็บ ๕ ชุดก็ต้องแบ่งให้เขาไป เพราะว่าเขามากันไกล เขาอยากได้มาก

เรื่องผ้ายันต์และเหรียญท้าวเวสสุวรรณต้องบอกว่าเป็นเรื่องอัศจรรย์ เพราะว่าวัดท่าขนุนสร้างพระเครื่องปกติก็มากเกินชาวบ้านเขาอยู่แล้ว ครูบาอาจารย์มีชื่อระดับรู้จักกันทั้งประเทศ เขาสร้างเหรียญทีหนึ่งก็ ๑,๕๐๐ เหรียญบ้าง ๑,๙๙๙ เหรียญบ้าง วัดท่าขนุนสร้าง ๓,๐๐๐ เหรียญเป็นประจำ นี่ก็เกินชาวบ้านเขาอยู่แล้ว งวดนี้ท่านบอกให้ทำ ๑๐,๐๐๐ เหรียญ อาตมาก็อึ้งไปพักใหญ่ ตั้ง ๑๐,๐๐๐ เหรียญ กูจะขายกี่ปีหมดวะนี่ ? ปรากฏว่ายกเดียวจอด...!

คราวนี้เรามาพิจารณาอยู่ ๒ จุดด้วยกัน จุดแรกก็คือพรที่ท่านให้ว่า ป้องกันพวกไสยเวทย์อาคม วัตถุอาถรรพ์ คุณผี คุณคนทุกประเภท ถ้าใครตั้งใจปฏิบัติเพื่อความเป็นพระโสดาบัน ท่านจะให้บริวารตามคุ้มครองตลอดชีวิต นี่คือจุดหนึ่ง

อีกจุดหนึ่งก็คือราคาถูก ซึ่งปกติแล้วเหรียญลักษณะนี้ท้องตลาดเขาจำหน่าย ๕๐๐ บาทขึ้นไปทั้งนั้น บางทีก็ไปเจอ ๙๙๙ บาท เจอ ๑,๐๐๐ กว่าบาท แต่ท่านให้จำหน่าย ๒๐๐ บาทเกือบจะไม่ได้ทุนคืน

เราดูลักษณะนี้หมายความว่า ท่านคงตั้งใจจะให้กระจายออกไปให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเฉพาะตอนเปิดจอง ขนาดบอกแล้วบอกอีกบอกว่าหมดแล้ว ไม่มีใครฟังเสียงหรอก จองกันตะบันราดเลย จองจนเกินกว่าที่มีเป็นเท่าตัว ในเมื่อเรานึกถึงพรที่ท่านให้ นึกถึงราคาที่ท่านกำหนด แล้วก็จำนวนคนที่จอง เหมือนอย่างกับท่านตั้งใจจะกระจายให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ก็เลยสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในบ้านในเมืองของเรา ?"

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2018 เมื่อ 20:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #19  
เก่า 05-06-2018, 20:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"รุ่งขึ้นมีโยมโทรมาบอกว่า เขาจำหน่ายกันในเว็บราคาหลายร้อย เป็นพันก็มี ใช่ของทางวัดหรือเปล่า ? ก็บอกว่าอาตมาไม่เคยห้าม ใครบูชาไปจะเอาไปให้บูชาต่อ ก็แล้วแต่เขาตกลงกันเอง ถ้าหากว่าราคาสูงหน่อยแต่เราสู้ไหว เราอยากได้ ก็บูชาไป

ท้ายสุดเขาบอกว่ามีที่ถูกกว่านั้นไหม ? ในเมื่อเขาต้องการถูกกว่านั้นก็เลยให้โยมโอ๋เอาไปหลายชุด ในราคาวัดนี่แหละ คุณยอมเหนื่อยก็บวกไปสัก ๑๐๐ บาท ให้เป็นค่าส่งอีเอ็มเอสอะไรให้เขาไป โยมโอ๋ก็เลยมารับไป จำไม่ได้ว่า ๒๐๐ ชุด หรือ ๓๐๐ ชุดก็ไม่รู้ ? เสร็จแล้วพออีก ๒ วัน ตรวจสอบเงินกับยอดวัตถุมงคลเพื่อกระทบยอดว่าตรงกันหรือเปล่า ? เสร็จสรรพเรียบร้อยก็เหลืออยู่ประมาณ ๑,๐๐๐ ชุด จึงรีบให้เขาเอาลงเว็บ เพื่อให้โยมที่อยากได้จะได้ในราคาของวัด จะได้ไม่ต้องไปเจอของแพง

เรื่องวัตถุมงคลของทางวัดเราไม่เคยห้ามที่เขาเอาไปปล่อยต่อ เพราะว่าเขาบูชาไปเป็นของเขาแล้ว ใครเอาไปทำก็ไม่ต้องตำหนิกัน ถ้าคิดว่าสู้ไหวก็บูชาไปเถอะ ถ้าสู้ไม่ไหวก็ขอแอบบ่นหน่อยแล้วกันว่า “บวกอะไรนักหนาวะ ?”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2018 เมื่อ 20:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #20  
เก่า 05-06-2018, 21:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "จำไว้ว่าถ้าไม่กินของเย็นจะผอม ส่วนใหญ่พวกเราไปกินของเย็น พอกินของเย็นเข้าไปไม่ว่าจะเป็นอาหารที่เป็นธาตุเย็น หรือว่าน้ำเย็นก็ตาม ร่างกายพอเย็นก็จะเข้าสู่ภาวะจำศีล ก่อนจำศีลก็จะตุนอาหาร ก็เลยทำให้พวกเราอ้วนเพราะว่าไปกินของเย็น พอกินของเย็นเข้าไปก็สะลืมสะลือเอาแต่จะหลับ กินแล้วนอน ๆ ก็เลยอ้วนขึ้นไปเรื่อย

ดังนั้น...พวกอาหารธาตุเย็น อะไรเย็น ๆ อย่าไปกิน ถ้าอดใจได้ก็ผอมหน่อย วันก่อนคุณหมอพิพิธพร หลิวจันทร์พัฒนา เอาทองคำไปถวายที่วัด ๑๐ บาท ท่านมีงานวิจัยว่าถ้าดื่มน้ำร้อนแล้วจะผอมลง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-06-2018 เมื่อ 18:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:17



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว