กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 28-02-2020, 08:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,025 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓

ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกทั้งหมดของเราไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ ที่เรามีความถนัด มีความชำนาญมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๑ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๓ ก็ยังอยู่ในบรรยากาศของการใส่หน้ากากเข้าหากัน ดังที่ได้กล่าวมาเมื่อวานนี้ว่า ความกลัวตายของเราเป็นเหตุ เหตุที่เรากลัวตายก็เพราะอวิชชา คือความไม่รู้บดบังเอาไว้ ทำให้เรามองไม่เห็นว่า ธรรมดาของร่างกายนี้จะต้องตาย และสามารถตายลงไปได้ในทุกลมหายใจ เนื่องเพราะว่าหายใจเข้า ถ้าไม่หายใจออกก็ตายแล้ว หายใจออก ถ้าไม่หายใจเข้าก็ตายอีกเช่นกัน

คราวนี้ในเรื่องของไข้หวัดโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่หรือสายพันธุ์ ๒๐๑๙ นั้น พวกเราอย่าได้ตื่นตระหนกจนเกินไป เนื่องเพราะว่าอาการเจ็บไข้ได้ป่วยของเราทุกอย่าง เกิดจากเศษกรรมปาณาติบาต ถ้าเราไม่ได้สร้างกรรมส่วนนี้เอาไว้ ต่อให้ไปอยู่ในท่ามกลางวงของโรคระบาด เราก็จะไม่เป็นอะไร แต่คราวนี้เพื่อความไม่ประมาท เราก็ทำการป้องกัน อย่างเช่นว่าเว้นจากที่ชุมชนซึ่งมีคนหนาแน่น ออกนอกบ้านก็ให้ใส่หน้ากากป้องกันเชื้อโรค มีการล้างมือบ่อย ๆ เป็นต้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-02-2020 เมื่อ 19:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 28-02-2020, 08:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,025 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้สิ่งที่เราทำนี้ ก็ทำโดยตระหนักรู้ว่า สภาพร่างกายนี้แม้ไม่ใช่ของเรา แต่ถ้าหากว่าร่างกายรวนขึ้นมาด้วยโรคภัยไข้เจ็บ ตัวเราคือจิตที่อาศัยอยู่ก็ไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร เราจึงมีหน้าที่ที่ต้องดูแลรักษาร่างกายนี้ให้ดีที่สุด เพียงแต่มีสติรู้อยู่เสมอว่าร่างกายนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เป็นเพียงธาตุ ๔ คือดิน น้ำ ไฟ ลม ที่เรายืมโลกมาใช้ชั่วคราว เมื่อถึงเวลาก็เสื่อมสลาย ตาย พัง กลับคืนโลกไปตามเดิม

ความเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นสิ่งที่คู่กับกายสังขารนี้ ดังบาลีที่ว่า สังขารัง โรคนิทธัง สังขารนี้เป็นรังของโรค ปะภังคุณัง ต้องเน่าเปื่อยเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ในเมื่อเรารู้ว่าร่างกายนี้เป็นรังของโรค ถ้าดูแลไม่ดี บริหารจัดการไม่ดี โรคภัยไข้เจ็บถามหา ตัวเราที่ยังต้องอาศัยร่างกายนี้เพื่อสร้างบุญสร้างกุศล นำพาให้เราหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน ก็จะต้องยากลำบาก เพราะว่าสังขารที่เป็นโรคก็เหมือนกับรถที่เครื่องยนต์บกพร่อง ไม่สามารถจะใช้งานได้อย่างเต็มสภาพ ย่อมสร้างความอึดอัดคับข้องใจให้แก่บุคคลที่ต้องอาศัยสังขารนี้อยู่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-02-2020 เมื่อ 19:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 28-02-2020, 08:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,025 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น...หน้าที่ของเราก็คือตระหนักรู้ว่าโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ นั้น ย่อมจะมีมาสู่เราเป็นปกติ ต้องระมัดระวังป้องกัน บริหารร่างกาย ออกกำลังให้แข็งแรง จะได้มีภูมิต้านทานโรค ระมัดระวังป้องกันตนเองด้วยการกินยารักษาโรคบ้าง ใส่หน้ากากป้องกันเชื้อโรคบ้าง ล้างมือบ่อย ๆ เพื่อให้พ้นจากเชื้อโรคบ้าง

โดยที่มีสติรู้ตัวอยู่เสมอว่า ถึงเราจะดูแลดีอย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดร่างกายนี้ก็ต้องตาย ต้องพัง แม้ว่าจะไม่ตายด้วยไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ก็อาจมีอุบัติเหตุอันตรายหรือโรคภัยอื่น ๆ เกิดขึ้นกับเรา แล้วก้าวไปสู่ความตายอยู่ดี ขึ้นชื่อว่าการเกิดมามีร่างกายเป็นรังของโรคนี้เราไม่ต้องการอีก การเกิดมาในโลกที่เต็มไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บเช่นนี้เราไม่ต้องการอีก ที่เดียวที่เราปรารถนาคือพระนิพพาน

เมื่อคิดคำนึงถึงในส่วนของการจะหลุดพ้น ให้เกาะพระนิพพานไว้เป็นที่สุดเสมอ แล้วเราก็บริหารดูแลร่างกายนี้เพื่อเอาไว้ทำบุญ ไม่ว่าจะเป็นทาน เป็นศีล เป็นภาวนา อาศัยร่างกายที่หาความเที่ยงไม่ได้นี้ มีแต่ความทุกข์นี้ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรานี้ ในการสร้างบุญสร้างกุศล เพื่อนำพาเราหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน

ลำดับต่อไปขอให้ทุกท่านภาวนาพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม,ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันเสาร์ที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒

(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย คะน้า)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-02-2020 เมื่อ 19:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 25 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:31



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว