กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 10-03-2017, 19:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุกร์ที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๐

ให้ทุกคนนั่งในท่าที่สบายของตนเอง ตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกเอาไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลเข้าไปกับลมหายใจ หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลออกมากับลมหายใจ จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ที่เรามีความถนัดมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๓ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ จะขอกล่าวถึงเรื่องการปฏิบัติธรรมของพวกเรา ส่วนใหญ่แล้วพวกเรามักจะใจร้อน หวังผลในลักษณะของการเร่งรัด ซึ่งเป็นไปไม่ได้

การปฏิบัติธรรมเหมือนกับการเดินทางไกล หรือการวิ่งระยะไกล พวกเราเป็นนักกีฬาที่ลงแข่งขันวิ่งระยะไกล อย่างเช่นว่าวิ่ง ๑๐,๐๐๐ เมตร หรือวิ่งมาราธอน เราต้องรู้ว่าเราจะใจร้อนไม่ได้ ถ้าอยากชนะในการแข่งขันต้องใจเย็น ๆ ค่อย ๆ ถนอมแรง เหมือนกับการปฏิบัติธรรรม ที่ต้องค่อย ๆ ตามดูตามรู้ลมหายใจของเราไป

หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกแนบชิดติดกับลมหายใจเข้าไปจนสุด หายใจออก...ให้ความรู้สึกแนบติดกับลมหายใจออกมาจนสุด พร้อม ๆ กับคำภาวนาที่เราถนัด ให้ทำใจว่าเรามีหน้าที่ภาวนา ส่วนผลจะเกิดหรือไม่เกิดก็ช่าง เพราะถ้าเราทำด้วยความอยาก ตัวอยากนั่นแหละคือความฟุ้งซ่าน ทำให้ใจของเราไม่รวมตัว ภาวนาเมื่อไรก็อยากได้โน่น อยากได้นี่ อยากเป็นอย่างนั้น อยากเป็นอย่างนี้ ถ้าสภาพจิตฟุ้งซ่านแล้วจะเอาความรวมตัวมาจากไหน ? เมื่อสภาพจิตไม่รวมตั้งมั่น แล้วจะเอากำลังที่ไหนไปสู้กิเลส
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-03-2017 เมื่อ 19:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 10-03-2017, 19:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โดยเฉพาะนักปฏิบัติรุ่นใหม่ ๆ มักจะขาดความอดทน การปฏิบัติเหมือนกับการวิ่งระยะไกล หรือว่าการเดินทางไกล ต้องอดทน พากเพียร บากบั่นไปทีละก้าว ๆ โดยสม่ำเสมอไม่ท้อถอย ถ้าใจร้อนใจเร็ว โอกาสที่ปฏิบัติแล้วจะได้ผลย่อมเป็นไปไม่ได้

เราต้องทำตัวเหมือนกับคนทิเบต ที่นับลูกประคำเม็ดหนึ่งก็เท่ากับเดินใกล้พระนิพพานไปก้าวหนึ่ง หมุนกงล้อมนต์รอบหนึ่งก็ใกล้พระนิพพานไปก้าวหนึ่ง ภาวนาจบหนึ่งก็ใกล้พระนิพพานไปก้าวหนึ่ง ต้องมีความพากเพียร อดทน พยายาม กระทำอย่างสม่ำเสมอถึงจะเกิดผล ความใจร้อนใจเร็วช่วยอะไรไม่ได้ นอกจากทำให้เราท้อถอยหมดกำลังใจ

การปฏิบัติธรรมแล้วอยากได้ดี อยากมีความสามารถพิเศษ อยากเห็นโน่น อยากเห็นนี่ เป็นเรื่องปกติ เราสามารถอยากได้ เพราะว่าถ้าไม่อยากเราก็ไม่คิดที่จะทำ แต่เวลาที่เราตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติธรรม ขอให้ลืมความอยากเหล่านั้นเสีย วางกำลังใจสบาย ๆ ว่าเรามีหน้าที่ภาวนา ส่วนผลที่ต้องการจะเกิดหรือไม่เกิด ก็แล้วแต่ว่าสิ่งที่เราบำเพ็ญมาจะเพียงพอหรือไม่ โดยใช้คำว่า "ช่างมัน" "ช่างเถอะ" จะเกิดผลหรือไม่ก็ช่างมัน จะเกิดผลหรือไม่ก็ช่างเถอะ

ถ้าสามารถวางกำลังใจอย่างนี้ได้ การปฏิบัติของเราจึงจะมีความก้าวหน้า เพราะว่าจิตใจไม่ฟุ้งซ่านส่งส่ายไปถึงผลของการปฏิบัติ และสิ่งที่เราจะลืมไม่ได้เลยก็คือ ลมหายใจเข้าออกของเราควบกับคำภาวนา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-03-2017 เมื่อ 19:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 15-03-2017, 08:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อกำลังใจทรงตัวตั้งมั่นแล้ว ก็มาทบทวนศีลของเราทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ กำหนดใจแผ่เมตตาไปสู่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ทุกภพทุกภูมิ ทุกหมู่ทุกเหล่า หลังจากที่ภาวนาจนอารมณ์ใจทรงตัว ทบทวนศีลทุกสิกขาบทจนบริสุทธิ์บริบูรณ์แล้ว ก็ส่งกำลังใจไปเกาะพระบนพระนิพพาน

ถ้าไม่สามารถทำได้ก็ให้นึกถึงพระพุทธรูปองค์หนึ่งที่เรารักเราชอบมากที่สุด ว่านั่นเป็นภาพพระพุทธนิมิตขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพาน เราเห็นพระองค์ท่านคือเราอยู่กับพระองค์ท่าน เราอยู่กับพระองค์ท่านคือเราอยู่บนพระนิพพาน แล้วตั้งกำลังใจจดจ่อปักมั่นอยู่กับภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเช่นนั้น

ถ้ายังมีลมหายใจอยู่ก็กำหนดดูกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก ถ้ามีคำภาวนาอยู่ก็กำหนดคำภาวนาไปด้วย ถ้าลมหายใจเบาลงกำหนดรู้ว่าลมหายใจเบาลง ถ้าคำภาวนาหายไป ลมหายใจหายไป ให้กำหนดรู้ว่าคำภาวนาหายไป ลมหายใจหายไป อย่าดิ้นรนกลับมาหายใจใหม่ ให้ทำกำลังใจรับรู้เหตุการณ์นั้นไว้เฉย ๆ แล้วสภาพจิตจะดิ่งลึกลงไปเป็นสมาธิเข้าไปจนถึงระดับที่ต้องการ

ลำดับต่อไปให้ทุกท่านภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันศุกร์ที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๐

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยทาริกา)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-03-2017 เมื่อ 11:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:34



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว