กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 18-09-2010, 10:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,733 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default ทำตนให้เป็นภาระน้อยที่สุด

ญาติโยมรุ่นเก่า ๆ พวกเรามักจะไม่ค่อยรู้จัก สมัยที่อาตมาออกจากวัดไปใหม่ ๆ เขาก็ตามไปช่วยสงเคราะห์ โดยเฉพาะในส่วนของคณะบายศรี จริง ๆ แล้วก็คือกลุ่มบายศรีของวัดท่าซุง เพียงแต่ว่าพอคนรู้มากขึ้น ตัวเองก็เหนื่อยน้อยลง ท้ายสุดก็เกษียณ ไปนั่งดูงานเฉย ๆ

สมัยแรก ๆ ทำบายศรีต้องใช้เวลาสองวัน พอคนรู้วิธีทำมากขึ้น เพราะใครไปเราก็ไม่เคยหวงวิชา จับขึ้นครูทำหมดทุกคน ก็กลายเป็นว่าแทนที่จะทำสองวันเสร็จ ก็เหลือวันหนึ่ง..เหลือทำเช้าเสร็จสี่ทุ่ม..ทำเช้าเสร็จสองทุ่ม..ทำเช้าเสร็จหกโมงเย็น จนกระทั่งท้ายสุด ทำเช้าบ่ายสามก็เสร็จแล้ว คนทำเป็นมีเยอะขึ้น ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ก็เสร็จเร็วขึ้นเรื่อย ๆ

วิชาการต่าง ๆ หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านจึงไม่ปิดบังใคร แม้กระทั่งหลักการปฏิบัติท่านก็บอกหมดทุกอย่าง เพราะคนทำได้มากเท่าไร นอกจากจะเป็นเครื่องยืนยันว่า ธรรมะของพระพุทธเจ้าปฏิบัติแล้วมีผลจริงแล้ว เมื่อคนเขาทำได้ก็ไม่ต้องเสียเวลาไปดูแลสงเคราะห์เขาอีก เราก็เหนื่อยน้อยลงไปด้วย

สมัยก่อนตอนเข้าวัดใหม่ ๆ ยังไม่เข้าใจวิธีการสอนของหลวงพ่อท่าน ว่าคนแต่ละจริตนิสัย ท่านจะมีวิธีการสอนไม่เหมือนกัน คนหยาบอย่างอาตมา จำเป็นต้องโดนโขก โดนสับ โดนด่า ไม่อย่างนั้นมักจะไม่ค่อยรู้เรื่องกับใคร

พอโดนโขกโดนสับเยอะ ๆ ก็ไม่เข้าใจ เห็นหลวงพ่อเรียกคนนั้นก็ลูก คนนี้ก็หลาน ท่านพูดดีกับเขาทั้งนั้น แต่ทำไมทีอาตมามีแต่ด่าอย่างเดียว พอมาตอนหลังจึงเข้าใจว่า จริง ๆ แล้วพวกที่ท่านยังใช้วาจาดี ๆ ด้วย ส่วนใหญ่ยังเอาตัวไม่รอด ก็คือ ยังต้องคอยประคองอยู่ แต่ถ้าคนไหนที่ท่านสับแรง ๆ แปลว่าเดินเองได้แน่ ถึงเวลาถ้าเดินช้าท่านก็ถีบส่งเลย..!

ในเรื่องของครูบาอาจารย์ที่เรายึดท่านเป็นที่พึ่ง ถ้ายึดมากเกินไป นอกจากตัวเองจะไปไม่รอดแล้ว ยังทำให้ท่านมีภาระมาก ก็มีอยู่อย่างเดียว ก็คือ ต้องตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติให้ได้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ คือ ทำตนให้เป็นภาระสำหรับท่านให้น้อยที่สุด นอกจากตัวเราจะก้าวหน้าในการปฏิบัติ เพราะว่าขวนขวายทำอย่างจริงจังแล้ว ครูบาอาจารย์ก็ยังไม่ต้องรับเราเป็นภาระ ขณะเดียวกันในเมื่อเราไม่เป็นภาระ ท่านเองก็สามารถสงเคราะห์คนอื่นได้มากขึ้น เป็นความดีหลายส่วนด้วยกัน



พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงสาย ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันเสาร์ที่ ๔ กันยายน ๒๕๕๓
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-03-2015 เมื่อ 17:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 136 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:01



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว