กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 04-11-2009, 12:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เนื้อคู่

(พระอาจารย์คุยกับพระ) ในธรรมชาติเขาจะคัดเลือกโดยอัตโนมัติว่า ถ้าสัตว์ตัวไหนอ่อนแอ ก็เอาตัวไม่รอด ตัวแข็งแรงเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์อยู่รอดได้ ผมไปนึกถึงเรื่องกิเลส ถ้าหากว่าใครมีกำลังใจเข้มแข็ง ก็พอที่จะสู้กับกิเลสได้ แต่ถ้ากำลังใจไม่เข้มแข็งพอก็แพ้กิเลส กลายเป็นลูกไก่ที่โดนงูกินบ้าง โดนหมากัดบ้าง

วันนี้ไปงานแต่ง ก็เลยนึกถึงเรื่องที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ ว่าคนเราที่จะแต่งงานกัน มีอยู่ด้วยกัน ๒ สาเหตุ สาเหตุแรกก็คือ เคยเป็นเนื้อคู่กันมาในชาติก่อน บาลีเขาบอกว่า ปุพฺเพว สนฺนิวาเสน (บุพเพสันนิวาส) สาเหตุที่สองก็คือ ปจุจปฺปนฺน หิเตน วา เกื้อกูลกันในปัจจุบันนี้จนเห็นใจกัน

เพราะฉะนั้นถ้าใครบอกว่าเราไม่มีเนื้อคู่นี่อย่าไปเชื่อ การที่ไม่มีเนื้อคู่แปลว่าของอดีตไม่ได้ตามมา เราก็หาเอาในปัจจุบันนี่แหละ แต่ว่าในเรื่องของเนื้อคู่ เนื่องจากว่าเราไม่ได้เกิดเพียงชาติเดียว กว่าจะเป็นคนได้เราเกิดมานับชาติไม่ถ้วนแล้ว เป็นหมู หมา กา ไก่ กันมาก็เยอะ เนื้อคู่ในแต่ละชาติก็จะมีอยู่ทุกชาติ

ใครก็ตามที่เกิดร่วมกับเรามากที่สุด คนนั้นก็จะมีอิทธิพลกับเรามากที่สุด ถ้าประเภทนี้ก็จะลักษณะเดียวกับภรรยาของพรานกุกกุฏมิตร พอเห็นหน้าเท่านั้นก็หนีตามไปเลย อันนี้บุพเพสันนิวาส...ห้ามไม่ได้ เพราะว่าเขาเห็นเข้าเขาจะรู้เลยว่านี่คู่ของเขา

คราวนี้ที่จะพูดก็คือว่า ในเมื่อเราไม่ได้เกิดชาติเดียว ถ้าใครจะทรงพรหมจรรย์บวชอยู่ต่อ...โปรดระมัดระวัง จะมีโผล่มาเป็นระยะ ๆ คนไหนเคยเกิดร่วมกับเรามากหน่อย เจอหน้าก็มืออ่อนตีนอ่อนเลย

ผมเจอมาแล้วครับ หน้าตาก็ธรรมดา แต่ทำไมมีแรงดึงดูดมากอย่างนั้นก็ไม่รู้ ? ผมเจอหน้าเขาทำอะไรไม่ถูกเลย ถึงเวลาทำวัตร ปากสวดมนต์แต่ตาแอบมองเขา เวลานั่งกรรมฐานเขาหลับตากัน ผมก็ลืมตาจ้องแต่ยายบ้านั่น

แต่คราวนี้ผมรู้ตัว ความรู้สึกบอกเลยว่า อย่าพูดกับเขาแม้แต่คำเดียว พูดเมื่อไรผมตายแน่ ผมก็เลยเลี่ยงไม่คุยด้วย แล้วเขาก็รู้ ไม่ว่าผมคุยกับใครอยู่ตรงไหน เขาต้องแถมาอยู่ใกล้ ๆ แล้วก็พยายามจะถามนั่นถามนี่ พอเขาเอ่ยปากถาม ผมก็หันหลังให้เดินหนีเลย ผมรู้ว่าถ้าพูดเมื่อไร ผมตายแน่ เพราะแนวป้องกันพังแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 19-09-2016 เมื่อ 18:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 04-11-2009, 12:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ช่วงนั้นทรมานมาก คือใจของผมยอมแพ้ตั้งแต่เริ่มแรกแล้ว แต่ที่ตื๊อสู้อยู่นี่เป็นความดื้อ ให้มันรู้ไปว่ากูจะสู้ไม่ได้..!

พวกที่มาตามวาระกรรม ถ้าเราตื๊อผ่านไปได้ พ้นวาระนั้นไปแล้ว ก็มักจะมาคิดว่า "ตอนนั้นกูบ้าไปได้อย่างไรวะ?" จะคิดอย่างนั้นจริง ๆ คือว่าพ้นวาระไปแล้ว เขาก็ไม่มีอิทธิพลกับเราแล้ว ก็มานั่งมอง "หน้าตาหรืออะไรก็ไม่ได้ถูกใจสักอย่าง ทำไมตอนนั้นมัวแต่มองเขาอยู่ได้คนเดียว"

คราวนี้ตรงจุดที่จะเตือนพวกคุณก็คือว่า พอพ้นคนนั้นไป คนใหม่ก็จะมาอีก เพราะเราไม่ได้เกิดชาติเดียว ยิ่งเกิดมากก็ยิ่งมีเยอะ คนไหนอยู่ร่วมกับเรามาก ก็มีอานุภาพมากหน่อย คนไหนอยู่ร่วมกับเราน้อย คนนั้นก็สร้างความสนใจให้กับเราน้อยหน่อย

หลวงปู่ฝั้น วัดป่าอุดมสมพร สมัยก่อนผมเป็นลูกศิษย์ท่าน ท่านบอกว่าท่านเดินธุดงค์ไป พอข้ามแม่น้ำ สองแม่ลูกเอาเรือมารับคนข้ามฟาก ท่านบอกว่า พอเห็นหน้าลูกสาวก็แวบเข้ามาในใจ พอขึ้นจากเรือได้แล้ว ท่านบอกว่าเหมือนคนเดินไม่มีสติเลย เห็นแต่อีหน้าใบโพธิ์ลอยอยู่ข้างหน้า

คราวนี้พอค่ำ ๆ ท่านก็ปักกลด ปรากฏว่ายายแม่ก็พาลูกสาวตามมา ตามมาถึงก็มากราบมาไหว้ เอาน้ำร้อน น้ำชามาถวาย แล้วก็บรรยายว่าตัวเองก็ตัวคนเดียว ผัวตายแล้ว มีนากี่ไร่ มีควายกี่ตัว มีลูกสาวแค่คนเดียว ถ้าพระคุณเจ้าไม่รังเกียจ สึกมาก็จะให้แต่งงานกัน แล้วก็ยกสมบัติให้ช่วยดูแลเพราะโยมก็แก่แล้ว

โห...คุณเอ๊ย ลูกสาวเขาก็สวยถูกใจ แถมสมบัติให้อีกบาน ทำอย่างไรละคราวนี้ ? หลวงปู่ฝั้นบอกว่า ตอนนั้นเกือบไม่ได้สติ เออ ๆ ให้พ้นหน้ากันไปก่อน เออ ๆ เดี๋ยวค่อยคุยกันนะโยม เดี๋ยวพรุ่งนี้จะให้คำตอบ อะไรทำนองนั้น

ปกติแล้วพระธุดงค์ ปักกลดแล้วเขาห้ามถอน รักษาสัจจะบารมี ตายเป็นตาย ไม่ได้อรุณไม่ถอนกลดเด็ดขาด พอเขากลับไป บอกว่าพรุ่งนี้จะมารอคำตอบ พอลับหลังเท่านั้น หลวงปู่ฝั้นถอนกลดหนีเลย ถ้าอยู่ตายแน่

ท่านบอกว่าเดินธุดงค์ข้ามไป ๔ จังหวัดเลย ถ้าตามมาจะยอมแต่งงานด้วย โอ้โห..แล้วสมัยนั้นป่าเสือ ป่าช้าง ทั้งนั้น ผู้หญิงที่ไหนจะเดินตามมา แต่ท่านบอกว่า ๒ ปีกว่า ๆ เห็นแต่หน้าเขาอยู่นั่น อานุภาพสุดยอดจริง ๆ พอพ้นวาระไปแล้วท่านบอกว่า จึงหมดความสนใจ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-06-2014 เมื่อ 09:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 04-11-2009, 13:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกรายหนึ่งก็ หลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม วัดป่าสาลวัน เรียกว่ามือหนึ่งของหลวงปู่มั่น หลวงปู่สิงห์ท่านบอกว่าท่านไปกิจนิมนต์ กำลังเดินขึ้นไปบนบ้าน สบตากับสาวที่อยู่บนบ้าน เชื่อไหม ? ขาอ่อนทรุดลงไปเลย โยมเขาคิดว่าท่านก้าวบันไดพลาด แต่ความจริงหลวงปู่บอกว่า อดีตสัญญาแวบเข้ามาในใจ มือตีนอ่อนไปหมด ทรุดกองอยู่ตรงนั้น จนโยมต้องมาประคอง พอหันไปดูผู้หญิงก็ล้มหงายตึงไปเหมือนกัน อันนี้แสดงว่าท่านคู่กันจริง ๆ แรงขนาดนั้นเลย

คราวนี้จะทำอย่างไร? แม่ผู้หญิงก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ จนต้องส่งคนมาทาบทาม มาสู่ขอ หลวงปู่ท่านก็เป็นนักกรรมฐานมือหนึ่ง ก็ลองสู้กันดูสักทีว่าจะไหวไหม ? เขายื่นข้อเสนอมาว่า ถ้าท่านจะสึกมาแต่งด้วยต้องการอะไรบ้าง จะยอมให้หมดทุกอย่างเลย หลวงปู่สิงห์ท่านบอกว่า

เอาบ้านหลังหนึ่ง ให้ลอยอยู่กลางอากาศ ห้ามแตะพื้น อย่างที่สอง เอายาวิเศษที่กินแล้วไม่แก่ ไม่ตาย เจออย่างแรกเข้าไปก็เดี้ยงแล้ว โยมก็อึก ๆ อัก ๆ "จะไปหาที่ไหนได้เล่าพระคุณท่าน..?"

"เออ ถ้าหาไม่ได้แสดงว่าโยมทำตามสัญญาไม่ได้ อาตมาไม่สึก..!"
นั่นต้องบอกว่าความฉลาดของหลวงปู่ เพราะบ้านที่ลอยอยู่ในอากาศก็มีแต่วิมาน ส่วนที่ไม่แก่ไม่ตายก็พระนิพพานที่เดียว จะไปหาที่อื่นไม่ได้ อันนั้นท่านชนะ ท่านผ่านมาได้

อีกรายหนึ่งก็หลวงปู่เทสก์ เทสรงฺสี สมัยก่อนผมคลุกคลีตีโมงกับลูกศิษย์สายหลวงปู่มั่นเยอะมาก ตอนผมเป็นเด็ก ๆ ผมวิ่งรับใช้ท่านอยู่ มีเรื่องมีราวอะไรบางทีท่านก็เล่าคุยกันเอง ผมก็เงี่ยหูใกล้ ๆ ได้ยินด้วย

หลวงปู่เทสก์ท่านบอกว่า โยมผู้หญิงคนนั้น ใส่บาตรท่านเป็นปี ๆ และก็ไม่ได้รู้สึกอะไรหรอก ปรากฏว่าวันนั้นเขามาส่งข่าวว่าป่วย ใส่บาตรไม่ไหว หลวงปู่เทสก์ก็คิดว่า "เออ..โยมเขาก็มีบุญคุณกับเรา ไปเยี่ยมเขาสักหน่อยดีกว่า"

ตอนหลังทำวัตรเย็นก็ชวนเด็กวัดไปเป็นเพื่อน ไปเยี่ยม ปรากฏว่าพระป่ากว่าจะทำวัตรเย็นเสร็จก็สองทุ่มแล้ว เด็กวัดก็ง่วง พอไปถึงเด็กก็หลับซะนี่ ผู้หญิงเห็นว่าไม่มีเด็กเป็นก้างขวางคอ เขาก็พูดเปิดเผยขึ้นมาเรื่อย ๆ หลวงปู่เทสก์ท่านบอกว่า มือตีนสั่น เหงี่อเริ่มหยด ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ใส่ใจ ดูไปดูมาทำไมสวยเหมือนกันวะ ?

เพราะฉะนั้น..ที่จะเตือนพวกคุณก็คือว่า เรื่องของผู้ชายเรา...ไม่มีอะไรที่มีอิทธิพลเท่ากับผู้หญิง และเรื่องของผู้หญิง...ไม่มีอะไรที่มีอิทธิพลเท่ากับผู้ชาย แต่ว่าอย่าให้อารมณ์ของเราชนะเหตุผลได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-06-2014 เมื่อ 10:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 04-11-2009, 13:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เราลองนึกดูว่า กว่าเราจะโตมาจนป่านนี้ กว่าจะแก่มาจนป่านนี้ พ่อแม่เลี้ยงเรามากี่ปี เรารักพ่อรักแม่เท่ากับไอ้บ้าหรืออีบ้าที่เพิ่งเจอกันหรือเปล่า ? คิดดูให้ดี ๆ ตีเสียว่ากว่าจะบวชได้ ๒๐ ปี พ่อแม่เลี้ยงเรามา เจอหน้าเขาแค่ไม่กี่ครั้งดันหน้ามืดตามัว หัวทิ่มหัวตำ แต่พ่อแม่เลี้ยงเรามาจนเหนื่อยยากแทบตาย เราดันรักไม่เท่าไร ตรงนี้ถูกหรือไม่ถูก ? เราต้องคิดให้เป็น

แต่ก็ว่าอย่างว่านั่นแหละ เรื่องของกามราคะเป็นสิ่งครองโลก สุนทรภู่ท่านบอกว่า อันตัณหาราคะนั้นสาหัส ถ้าใครตัดเสียได้ฉันให้ถอง อุตส่าห์เรียนวิชาหาเงินทอง ก็เพราะของสิ่งเดียวมันเกี่ยวกวน จริง ๆ สุนทรภู่ท้าผิดจังหวะ ถ้าลองมาท้าผมตอนนี้ รับรองโดนถองแน่ ๆ..!

ผมเองก็ตัดไม่ได้หรอก....แต่ว่าป่วยจนไม่มีแรงจะทำอะไรแล้ว เท่ากับตัดไปได้เอง เพราะฉะนั้น..เรื่องอย่างนี้ต้องระวังให้ดี ไม่ใช่อะไรหรอก เณรท่านบ่นร่ำ ๆ ว่าจะสึก เริ่มคึกมากขึ้น ผมก็เลยบอกว่าให้ทำกรรมฐานบ้าง ถ้าเอาแต่กินแล้วนอนเดี๋ยวก็คึกตายหรอก..!

พระพุทธเจ้าตรัสว่าบุคคลที่เกิดมาได้พบกัน ในอดีตไม่เคยมีความสัมพันธ์กันเลยไม่มี อย่างน้อย ๆ ต้องเป็นฐานะใดฐานะหนึ่ง เป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นลูก เป็นหลาน เป็นญาติพี่น้อง เป็นเจ้านาย เป็นลูกน้อง เป็นเพื่อนฝูง เป็นบริวาร จะต้องเป็นสักฐานะหนึ่ง

เรื่องของพระพุทธศาสนาเรานั้นไม่มีคำว่าบังเอิญ ทุกอย่างเป็นไปตามกรรมทั้งหมด กรรมดีกรรมชั่วที่เราสร้างมา ถึงเวลาก็จะส่งผลให้เป็น คำว่าบังเอิญไม่มี มีแต่เป็นไปตามวาระกรรมทั้งนั้น ดังนั้น..เราต้องระมัดระวังให้ดีว่า ถ้าหากไม่สร้างกำลังใจให้เข้มแข็งพอ ถ้าเรื่องพวกนี้มา..เราเสร็จแน่..!

จริง ๆ แล้วผมเองตอนเป็นฆราวาส ผู้หญิงล้อมรอบเยอะ แต่ไม่คิดจะไปรักไปใคร่ไยดีเขาหรอก เนื่องจากว่าตอนนั้นผมทำงานแล้ว แต่บรรดาสาว ๆ เขาเพิ่งเรียนจบ ยังไม่มีงานทำบ้าง เรียนยังไม่จบบ้าง เขาอยากไปวัด ในเมื่ออยากไปวัดผมก็มีหน้าที่ไปรับ ไปส่ง แล้วค่ากิน ค่าอยู่ ค่ารถเป็นของผม สตางค์เขาเก็บไว้ทำบุญอย่างเดียว

ผมไปรับไปส่งตรงเวลา จนกระทั่งพ่อแม่เขาไว้ใจ หลายต่อหลายบ้านเห็นผมเป็นลูกเป็นหลานไปด้วย ผมขอยืนยันว่า เอาแมวไปเฝ้าปลาย่าง แล้วมีกติกาว่าห้ามกินนั้น โคตรทรมานเลย..!

จริง ๆ ครับ เพราะเวลาพัก พ่อแม่เขาจัดให้ผมนอนห้องเดียวกัน ผมไม่ใช่ตอไม้นะ มีความรู้สึก แต่ทีนี้ผมดันรู้ตัวเองว่าจะต้องบวช ผมฝึกมโนมยิทธิตั้งแต่อายุยังไม่ครบยี่สิบ รู้เลยว่าอนาคตจะต้องบวช ผมเรียนอยู่ชั้นมัธยม ผมก็รู้เลยว่าผมต้องบวช

ทีนี้นิสัยตัวผมเองนะ ถ้ามีอะไรกับใครผมต้องรับผิดชอบชีวิตเขา ให้ทิ้งมาบวชคงทำไม่ได้ ก็เลยกลายเป็นเครื่องกั้นตัวเองไว้อย่างหนึ่งว่า อย่าไปยุ่งกับเขาเลย เดี๋ยวซวย..เดี๋ยวบวชไม่ได้ ก็เลยกลายเป็นว่าดีเหมือนกัน บางทีการที่เรารู้อะไรล่วงหน้า ก็ช่วยในการตัดสินใจของเราได้เยอะมากเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-06-2014 เมื่อ 10:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 04-11-2009, 15:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เพื่อนผมหลายคนเสียอนาคตไป ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจบวชอย่างมาก เพราะไปมีคู่เสียก่อน ยกตัวอย่างคนหนึ่ง ผมต้องชมจริง ๆ ว่าผู้หญิงเขาเก่ง ผู้ชายตั้งเป้าจะบวชไม่สึก ผู้หญิงเขาไม่ห้ามนะ แต่เขาอ้อน "พี่..ไหน ๆ พี่จะไปบวชแล้ว หนูอยู่คนเดียวก็เหงา มีลูกให้หนูสักคนเถอะ"

ไอ้ผู้ชายก็เสือกบ้าไปเชื่อ โง่ฉิบหา..เลย..! วันแรกที่โทรมา ดีใจใหญ่ว่าเมียท้องแล้ว จะได้บวชแล้ว ผมก็บอกว่า "มึงตายแน่เลยไอ้เกื้อ..ไปไม่รอดหรอก เมียมึงทิ้งได้ แต่ลูกมึงทิ้งไม่ได้เด็ดขาดเลย..!"

จริง ๆ ด้วย พอลูกคลอดออกมา ก็เสร็จมาจนทุกวันนี้ ผมบวชมายี่สิบกว่าพรรษา ยังไม่เห็นเขามาบวชอีกเลย เพราะฉะนั้น..อย่าทะลึ่งเชียวนะ ต้องบอกว่าผู้หญิงเขาฉลาดมาก เห็นน้ำเชี่ยวเขาไม่เอาเรือไปขวางหรอก เขาเกาะเรือลอยตามไปเลย

ตัวอย่างที่ผมยกมานี่ก็คือว่า เรื่องของผู้หญิง ถ้าเขาหมายมั่นปั้นมือว่าเราเป็นชายในฝันร้ายของเขาละก็ เขากล้าลงทุนทุกเรื่อง และลงทุนแบบไม่กลัวขาดทุนเลย

เพราะฉะนั้น..ต้องใจแข็ง ๆ หน่อย ถ้าหากว่าใจอ่อน แล้วอย่างอื่นแข็งแทนก็ตัวใครตัวมัน..! ไม่รู้จะช่วยอย่างไรจริง ๆ ถ้าหากเราตั้งอนาคตว่าเราจะมีครอบครัว..ก็มีไป ไม่มีปัญหา แต่ถ้าใครคิดว่าจะกลับมาบวชใหม่ เอาดีทางด้านนี้ อย่าไปแตะเลย แตะเมื่อไรไม่ได้กลับหรอก

สังเกตไหม ? บวชไปนาน ๆ แม่ชีบ้าง เด็กวัดบ้าง แรก ๆ เราเห็นก็ขี้มูก ขี้ตากรัง พอปีสองปี "ทำไมสวยขึ้น...สวยขึ้นหว่า ?" อย่างทหารเวลาฝึก เขาฝึกกันทีหนึ่งประมาณ ๑๐ อาทิตย์ ก็ประมาณสองเดือนครึ่ง เพื่อนบอกว่า "กูเห็นควายยังสวยเลย..!" เพราะสองเดือนครึ่งไม่ได้ไปไหนเลย ฝึกอย่างเดียว ขนาดเห็นควายยิ้มยังสวยเลย แล้วทำไมคนจะไม่สวยขึ้นเรื่อย ๆ ฉะนั้น..ต้องระวังให้ดี แรก ๆ ก็ไม่เท่าไร ดูไป ๆ ชักจะเข้าท่า ถ้าอย่างนั้นก็เตรียมตัวซวยได้เลย

ฉะนั้น..ต้องระมัดระวังให้ดีเรื่องเพศตรงข้าม พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า ไม่รู้ไม่เห็นได้เลยเป็นดี ถ้ารู้เห็นก็อย่าพูดด้วย ถ้าจำเป็นต้องพูดด้วย ให้พูดโดยธรรม พูดประเภทสอนให้เขาทำกรรมฐานอะไรก็ได้

เดี๋ยวเขารำคาญด่าเราสักที เขาก็ไปแล้ว "คนอะไรโง่ฉิบหา..เลย สอนให้ทำอะไรก็ไม่รู้ ไอ้ที่สนุกกว่านั้นไม่สอน.."

เรื่องนี้เรียกว่าเป็นจุดตายหนึ่งในสองอย่างของนักบวชเรา ท่านบอก สตรีกับสตางค์ ถ้าหากว่ารอดจากผู้หญิง ก็อาจจะตายเพราะสตางค์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-06-2014 เมื่อ 10:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 04-11-2009, 17:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีพระผู้ใหญ่อยู่รูปหนึ่งทางอีสาน อย่าให้ผมบอกชื่อเลย ท่านอาวุโสมาก ความรู้สูง ตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัด อย่างไรก็ต้องได้ขึ้นเป็นเจ้าคณะจังหวัดแน่ ปรากฏว่าพอสิ้นเจ้าคณะจังหวัดรูปเก่า เขาก็แต่งตั้งพระอีกวัดหนึ่งให้เป็นแทน ท่านก็โวยวาย เตรียมตัวที่จะประท้วงทิ้งบัตรสนเท่ห์

แต่ดวงท่านยังดี พอดีว่าเพื่อนที่รู้ใจกันไปเยี่ยม ท่านก็โวยเรื่องนี้ให้เพื่อนฟัง เพื่อนก็บอกว่านี่ "ถ้าหากว่าคุณไม่รู้ว่าทำไมตำแหน่งคุณไปหล่นอยู่ที่วัดนั้น ขอให้คุณรู้เอาไว้ด้วยว่า ที่คุณไม่ได้ เพราะคุณพลาดเรื่องหนี้" พอท่านได้ยินก็สะดุ้ง ท่านเอาเงินไปให้ชาวบ้านเขากู้ ปล่อยเงินกู้กินดอก

ผมเองก็โดนบ่อยนะ มีคนจะมากู้เงินผมตั้งแต่สมัยอยู่เกาะพระฤๅษี "อาจารย์กู้หมื่นหนึ่งสิ" "อาจารย์กู้สักสองหมื่นสิ" ผมไม่เคยขัดเลยครับ ใครจะกู้..ผมให้เลย "อาตมาคิดดอกร้อยละ ๑๒๐ หักดอกเดี๋ยวนี้เลย ต้องการเท่าไรบอกได้ มีให้ทั้งนั้น" ไม่เห็นมีใครเอาจริงสักราย..!

เพราะถ้าเขากู้ผมหมื่นหนึ่ง เขาต้องให้ดอกผมหมื่นสองเดี๋ยวนั้น แล้วยังเป็นหนี้ผมอีกหมื่นหนึ่ง ดูซิว่าจะเอาไหม ? เรื่องเงินนี่อันตราย โดยเฉพาะถ้าเป็นพระสังฆาธิการ อยู่ในสายการปกครอง เจ้านายเขาเล่นงานโดยตรงได้เลย หลุดจากตำแหน่งมานักต่อนักแล้ว รายนั้นโชคดีที่เขาเมตตา ไม่เอาออกจากตำแหน่ง ให้เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดนับว่ายังดี

เรื่องของพระเราต้องระวังให้ดี เพราะเรามีค่าแค่บาทเดียว (เอาของเขา) ถึงบาทเมื่อไรโดนอาบัติปาราชิก ขาดความเป็นพระทันที ต้องระมัดระวังให้จงหนัก ส่วนเรื่องของผู้หญิงนี่ก็หนึ่งในสี่ข้อของอาบัติปาราชิกเหมือนกัน เสพเมถุน มีเมียเมื่อไรก็เรียบร้อย

ฉะนั้น..นอกจากจะต้องระมัดระวังแล้วยังต้องสู้กันขนานหนักเลย เพราะว่าเป็น ๑ ใน ๔ กิเลสใหญ่ ก็คือ ราคะ โลภะ โทสะ โมหะ ราคะนี่เรื่องผู้หญิง โลภะก็เรื่องสตางค์ กิเลสใหญ่สองตัวรุมตี ต้องระมัดระวังเอาไว้ให้มาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-06-2014 เมื่อ 10:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 04-11-2009, 17:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แก่แล้วก็ไม่แน่ว่าจะรอดนะ ผมขอยืนยัน

ถาม : (เรื่องกามราคะ)
ตอบ : ไม่ต้องห่วง กิเลสเขาชำนาญ คุณภาวนามากี่วัน ถามหน่อย ส่วนเรื่องนั้นเขาชำนาญมาเป็นแสน ๆ ชาติ ชีวิตนี้ทั้งชีวิตเกิดมาแล้วภาวนาก็แค่ไม่กี่ปี ส่วนไอ้นั่นเขาทำมาเป็นแสนชาติ เขาชำนาญกว่าเยอะ ฉะนั้น..ภาวนาอยู่เราก็ฟุ้งไปได้

สมัยผมอยู่วัดท่าซุง หลวงน้ามีชัย ต้องขออภัยที่เอ่ยชื่อ เพราะสนิทกันมากจนล้อกันเล่นได้ หลวงน้าสึกไปตอนอายุ ๗๒ อายุ ๗๒ ครับ ผมขอยืนยัน แก่แล้วคนมักจะเห็นหล่อตอนนั้นเสียด้วย แปลกมาก....ตอนบวชแล้วดูดีไปหมด พอสึกไปแล้วก็หน้าตาธรรมดา บางรายก็อยากเอาชนะ

สมัยผมอยู่วัดท่าซุง ผมด่ากระจายเลย โยมบางคนเขามา ผมก็ถามตรง ๆ "ถามหน่อยเถอะ ไม่มีที่ไปแล้วหรือ ? ถึงต้องมาหาผัวในวัด..!" ยายนั่นก็ปากร้ายพอกัน เขาบอก "อ๋อ...ถ้าบวชหลายพรรษาหน่อยก็ไม่ต้องกลัวเอดส์..!"

เจริญ....แสดงว่าเขาใจถึงใช้ได้ ด่าตรง ๆ ก็ตอบมาตรง ๆ เหมือนกัน แล้วคุณคิดดูว่าผู้หญิงเขากล้าขนาดนั้น ถ้าขืนเราอ่อนหน่อยละก็....ตายเลย

สมัยก่อนผมด่าแหลกเลย ผมเพิ่งจะมาเลิกด่าก่อนออกจากวัดได้ไม่นาน เพราะว่ามีโยมผู้หญิงคนหนึ่ง เขาเอาของขวัญปีใหม่มาถวาย ผมก็ "ขอให้มีความสุขความเจริญนะ ทำอะไรก็ขอให้ประสบความสำเร็จสมหวังทุกอย่าง" เขาว่าอย่างไรรู้ไหม ?

"หลวงพี่พูดดี ๆ กับเขาก็เป็นด้วยนะ" ผมได้ยินผมสะดุ้งเลย นี่กูปากร้ายขนาดนั้นเลยหรือ ? สมัยก่อนผมไม่ให้ผู้หญิงเข้าใกล้เลย ด่าฉิบหายวายป่วงหมด ยายนั่นพูดทีผมได้คิด ผมก็เลยเลิกด่า บางอย่างเขาพูดก็สะดุดใจเราเหมือนกัน

ฉะนั้น..คุณต้องหาทางป้องกันระวังตัวเอง หลวงน้ามีชัย ก่อนท่านจะสึก เจอหน้ากันผมก็เข้าไปไหว้ ท่านว่า

"เออ..ท่านเล็กยังดีนะ เจอหน้าผมยังไหว้ คนอื่นพอรู้ว่าผมจะสึก ก็ไม่ไหว้ผมแล้ว"
"อ้าว...แล้วตอนนี้หลวงน้าเป็นพระอยู่หรือเปล่า ?"
"เป็น"
"หลวงน้าเป็นพระอยู่ ทำไมผมจะไหว้หลวงน้าไม่ได้ แต่ถามจริง ๆ เถอะหลวงน้า แก่จนป่านนี้แล้วจะไปทำอะไรเขา ยังไหวหรือ ?" ท่านก็เขิน
"ฮึ..ผมอยากเที่ยว"
"แหม..หลวงน้าก็ตะแบงข้างไปได้ เป็นพระเที่ยวง่ายกว่าตั้งเยอะ ไม่ต้องเสียสตางค์ด้วย"
"ก็ผมไม่นึกอยากจะอยู่นี่"


บอกตรง ๆ ก็หมดเรื่อง ยังมีการตะแบงข้างอีก เพราะฉะนั้น..เรื่องอย่างนี้อย่าคิดนะ ภาษิตจีนเขาบอกว่าตั้งแต่ ๘ ขวบยัน ๘๐ นี่ไว้ใจไม่ได้ เรื่องจริง....ดูอย่างล้อต๊อกมีลูกตอนอายุ ๗๙ ตอนแรกก็ด่าเมียหาว่ามีชู้ พอไปหาหมอ ให้หมอตรวจดีเอ็นเอดู อ้าว..ลูกตัวเองนี่หว่า นี่อายุตั้ง ๗๙ ยังมีน้ำยาอยู่นะ

เรื่องพวกนี้ไว้ใจไม่ได้ ประมาทเมื่อไรเราตายเมื่อนั้น ฉะนั้น..อย่าทิ้งการภาวนา ทิ้งเมื่อไรไปไม่รอดหรอก ถ้าต้องการความเจริญในพุทธศาสนา ขอยืนยันภาวนาเข้าไว้ จะมากจะน้อยก็ช่วยระงับกิเลสได้มาก


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์สอนพระหลังทำวัตร บนศาลาวัดท่าขนุน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 19-09-2016 เมื่อ 18:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ

Tags
คู่ครอง, เนื้อคู่, บุพเพ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:07



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว