กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์

Notices

เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ เก็บข้อธรรมจากบ้านอนุสาวรีย์มาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #41  
เก่า 13-09-2009, 09:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : กรรมที่ทำให้คนมีลักษณะวิตกจริต
ตอบ : อ๋อ ไม่มีอะไรจ้ะ ขาดการภาวนา ถ้าหากการภาวนามีสติมั่นคง มันจะไม่เป็นวิตกจริต แสดงว่าบำเพ็ญบารมีในด้านของการภาวนาน้อยไป

ถาม : แล้วถ้าอยากรู้ว่าในอดีตเคยทำกรรมอะไรมา ใช้มโนฯ ขึ้นไปถามท่านโดยตรง กลัวว่าคนที่เราถามจะไม่ใช่พระพุทธเจ้า
ตอบ : ถ้าหากว่ากลัวก็ไม่ต้องทำอะไร ทำให้มันได้ก่อน ไปให้ได้ก่อน แล้วค่อยไปแยกแยะว่าใช่หรือไม่ใช่ ถ้าไปลังเลตั้งแต่ก่อนทำนี่ไปไหนไม่รอดหรอก เขาเรียกว่าตีตนไปก่อนไข้ เคยได้ยินไหม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 130 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #42  
เก่า 13-09-2009, 09:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในขณะที่พี่ซันและพี่ตู่กำลังคุยเรื่องการรวบรวมวัตถุมงคล เพื่อนำไปเปิดให้คนในเว็บบูชา ช่วยงานกฐินตุ๊ป้อ
หลวงพ่อเล็กก็กล่าวว่า "คราวนี้เราจะได้เห็นว่าความสามัคคีสำคัญมาก พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า สุขา สงฺฆสฺส สามคฺคี ความสามัคคีในหมู่คณะย่อมก่อให้เกิดความสุข คนเดียวมันไม่ไหวหรอก ให้มันแน่ขนาดไหนก็แบกไม่ไหวหรอก ต่อให้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิเถอะ ถ้าไม่มีสัตตรัตนะก็ไปไม่รอดเหมือนกัน เพราะฉะนั้นทำคนเดียวไม่ได้เด็ดขาด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-09-2009 เมื่อ 11:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 129 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #43  
เก่า 13-09-2009, 09:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีท่านหนึ่งที่ตาบอด ได้มาทำสังฆทานที่บ้านอนุสาวรีย์เป็นประจำ ต้นเดือนที่ผ่านมาในขณะที่เขากำลังหยิบสิ่งของ หลวงพ่อได้กล่าวว่า

"สังเกตไหมว่าเวลาที่เขาจะทำอะไร เขาต้องตั้งสมาธิก่อน การตั้งสมาธิอย่างนี้มันเป็นทิพจักขุญาณอย่างหนึ่ง เพราะมันจะเพ่งความรู้สึกลงไปในสิ่งที่ตัวเองกระทำ จริง ๆ ถ้าหากเปลี่ยนวิธีฝึกนิดเดียวได้มโนมยิทธิเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-09-2009 เมื่อ 12:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 131 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #44  
เก่า 13-09-2009, 10:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลังจากที่พี่สาวท่านหนึ่งถวายสังฆทานเสร็จ ก็ได้กล่าวกับหลวงพ่อว่า "ขอบคุณมากนะคะหลวงพี่ ตอนนี้เป็นอภิชาตเมียแล้วค่ะ"

หลวงพ่อท่านก็หัวเราะ พร้อมกับพูดว่า "สุดยอดต้องทำให้ได้อย่างนี้"

แล้วหลวงพ่อก็เล่าให้ฟังว่า "เขาโมโหแฟน โดนยื่นคำขาด ถามเราว่าจะทำอย่างไร ก็บอกว่าทำไม่รู้ไม่ชี้ ปล่อยเวลาเลยไปอาทิตย์หนึ่งแล้วค่อยมาเจรจากัน เพราะว่าตอนนั้นมันเป็นการใช้อารมณ์ พอผ่านไปแล้วมันจะรู้ตัว มันเริ่มจะตรองแล้วว่าฝ่ายนั้นขาดเราจะเป็นอย่างไร ฝ่ายนี้ก็เออไม่มีเขาเราจะเป็นอย่างไร บางทีพระก็ไม่ได้แนะนำอะไรมากหรอก แต่มันได้ผล เหมือนนักมวยกับเทรนเนอร์ นักมวยอยู่บนเวทีไม่เห็นช่องทางอะไรเลย เทรนเนอร์อยู่ข้างล่างก็บอกให้ต่อยซ้าย เตะขวา"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 130 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #45  
เก่า 13-09-2009, 10:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพ่อเคยเทศน์มหาชาติหรือเปล่าคะ
ตอบ : จำเขามา มันเหนื่อย เทศน์มหาชาติตั้งนะโม ๓ นาที นะกว่าจะลงโมได้ เอื้อนจนลิ้นห้อย

ถาม : เดี๋ยวนี้แถวบ้านหนูเขาอ่านเฉย ๆ ไม่ได้เป็นเทศน์ทำนอง
ตอบ : จริง ๆ ต้องเป็นทำนองแหล่ คนที่เก่ง ๆ เขาใช้ปากทำเสียงกลอง ฆ้อง ปี่ได้ทุกอย่าง ต้องมีใจรัก แต่ที่หลวงพ่อไม่เอาเพราะว่าพระพุทธเจ้าท่านห้ามขับลำด้วยเสียงอันยาว บุคคลผู้ขับลำด้วยเสียงอันยาวเกิดโทษหลายประการ ประการที่หนึ่ง ผู้อื่นย่อมหลงในเสียงนั้น ประการที่สอง แม้แต่ตัวเองนานไปก็หลงในเสียงของตน


ถาม : แสดงว่าหลวงพ่อฟังบ่อย
ตอบ : จำได้ ยังสงสัยอยู่ว่าหัวตัวเองเป็นอะไร ฟังเขาแล้วมันขโมยได้เลย ตอนแรกฟังหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า ตอนนั้นท่านเล่นดนตรีปี่พาทย์ วงดนตรีไทย ทีนี้มีอยู่เพลงหนึ่งที่อาจารย์ไม่ต่อให้ เพราะเขาถือว่าคนละสาย คนละทางกัน แล้วเขาก็หวงมากด้วย ปรากฏว่าวันนั้นไม่รู้เกิดอะไรขึ้น ท่านบอกว่าเขาไปเล่นในงานศพ ตอนพระฉันเช้าเขาตีรอบหนึ่ง พอพระฉันเพลเขาตีอีกรอบหนึ่ง ตอนเย็นประโคมศพตีอีกรอบหนึ่ง หลวงพ่อก็บอกว่าเสร็จท่าน ครั้งแรกจับจังหวะ ครั้งที่สองทวน ครั้งที่สามมั่นใจ ได้ขนาดนั้นเลย

"สมาธิมันทรงตัว มันจะจำแม่น ต้องบอกว่าของเก่า ของเก่าเคยทำไว้ มาชาติใหม่กินทุนเดิม สมาธิเดิมมันดี ความจำก็เลยดีด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 25-08-2014 เมื่อ 14:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 128 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #46  
เก่า 13-09-2009, 11:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในขณะที่หลวงพ่อกำลังสนทนากับหลวงพี่เอในเรื่องความจำ ท่านบอกว่า "แถวบ้านผมนิยมสวดเจ็ดตำนาน บทแรกเขาจะขึ้นโยจักขุมา โยจักขุมาเป็นบทแรกที่ผมจำได้ บทต่อไปคือ อเสวนา กว่าจะบวชนี่จำได้เยอะแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 124 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #47  
เก่า 13-09-2009, 11:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อเล็กกล่าวว่า "สุขภาพมันแย่ ต้องรีบสมมติสถานการณ์ไว้ด้วย ถ้าไม่มีหลวงพ่อแล้วจะอยู่อย่างไร"

ถาม : ตอนสมัยหลวงพ่อ หลวงพ่อก็คิดว่า เออ หลวงพ่อฤๅษีจะไปทุกวัน
ตอบ : คนอื่นประมาท ส่วนใหญ่คิดว่าท่านจะอยู่ถึง ๑๒๐

ถาม : ขนาดตัวหนูเองยังคิดเลยว่าจะไปทุกวัน
ตอบ : แต่ละวันกอบโกยความดีใส่ตัวให้มากที่สุด ช่วงนี้มันจะบู๊หน่อยช่างหัวมัน วันที่นั่งทำงานแล้วความดันขึ้นจนแทบจะระเบิด มันปวดหัวจนนอนไม่ได้ ในสมองมันรู้สึกเลยว่ามีก้อนอะไรมาเบียดประสาทจนหัวหมุน มันจะอาเจียน แสดงว่าเส้นเลือดมันโป่ง พักไม่พอ ไม่มีเวลาเหมือนชาวบ้านเขา เราก็คิดว่าในเมื่ออะไรก็ช่วยไม่ได้ ทำงานให้มันตายคางานไปเลย กะว่าก่อนตายจะเกลางานให้ดีที่สุด อย่างน้อยคนมาเห็นเข้า มันส่งงานแทนเราได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 25-08-2014 เมื่อ 14:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 125 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #48  
เก่า 13-09-2009, 14:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เป็นไปได้ไหมคะ ที่คนโมทนาบุญจะได้อานิสงส์ก่อน
ตอบ : เป็นไปไม่ได้ โมทนาได้เท่าเขายังไม่ได้เลย เพราะว่าไม่ได้ลงทุนด้วยกายวาจาใจของตัวเอง ใช้แต่ใจอย่างเดียว แต่ว่าในส่วนที่จะพึงได้นั้น ถามว่าได้เหมือนเจ้าของไหม....เหมือน แต่ว่าได้ทีหลัง ผลต้องเกิดจากเจ้าของบุญก่อน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 125 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #49  
เก่า 13-09-2009, 14:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนที่ไม่ได้มโนฯ หรือจับภาพพระได้ไม่ชัดเจน จะสามารถทำให้จิตจับพระนิพพานได้หรือไม่คะ
ตอบ : ได้ ขอให้เรามั่นใจว่านั่นคือพระนิพพาน

ถาม : แล้วอารมณ์จะเป็นอย่างไรหรือคะ
ตอบ : เป็นอย่างไร พยายามพิจารณาว่าการไม่มีสิ่งร้อยรัดใด ๆ เลย มีความสุขเบาสบาย จิตใจที่ปราศจากการรัก โลภ โกรธ หลง มีความเบาสบายอย่างไร เสร็จแล้วก็รักษาอารมณ์นั้นไว้

ถาม : เคยตั้งอารมณ์อาราธนาพระพุทธเจ้ามาเพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติและก็กำหนดว่าพระพุทธเจ้าอยู่เบื้องหน้า ปรากฏว่าเกิดความรู้สึกว่าพระพุทธเจ้าอยู่เบื้องหน้าจริง ๆ แล้วดีใจจนน้ำตาไหล อันนี้เป็นจิตจับพระนิพพานหรือจิตปรุงแต่งขึ้นมา
ตอบ : จัดเป็นพุทธานุสติ เป็นทิพจักขุญาณด้วย เพียงแต่ว่าถ้าไม่มั่นใจก็จะไม่รู้ว่านั่นคือทิพจักขุญาณจริง ๆ
นั่นแหละคือลักษณะการเห็นพระ เขาเห็นแบบนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-09-2009 เมื่อ 15:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 127 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #50  
เก่า 13-09-2009, 18:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำอย่างไรจึงจะขายของดี
ตอบ : ท่องคาถาเงินล้าน แล้วขายของถูก ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 121 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #51  
เก่า 13-09-2009, 18:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าใครเคยเห็นสมุดเล็คเชอร์ของหลวงพ่อ จะคิดว่าท่านคัดลายมือ เพราะลายมือท่านเรียบร้อยเป็นระเบียบ
หลวงพ่อบอกว่า "ที่เล็คเชอร์มันออกมาดี ก็เพราะเราจำแม่น พอเราจำแม่นก็ไม่ต้องรีบ เวลาเขียนก็เขียนไปเรื่อย ๆ คนเห็นเขาก็บอกว่าเราคัดลายมือ"

มีคุณป้าท่านหนึ่งสังเกตเห็นลายมือของหลวงพ่อ จึงบอกว่า "สระโอของท่านนี่ไม่มีใครเหมือน"

หลวงพ่อก็บอกว่า "หมอดูบอกว่า ลายมือลักษณะนี้มีแต่ขึ้น ไม่มีลง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-09-2009 เมื่อ 18:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 125 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #52  
เก่า 13-09-2009, 18:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : แล้วเวลาที่เขาเจิม (เจิมหน้าผากบ่าวสาว) เขาเจิมอะไร หลวงพี่พอจะรู้ไหมครับ
ตอบ : ในการเจิม โบราณเขาจะยึดเอาพระรัตนตรัยเป็นใหญ่ ก็คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บางคนถ้าถือธรรมเป็นใหญ่ ก็อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

อย่าไปบอกเจ้าสาวหรือเจ้าบ่าวล่ะ เดี๋ยวมันช็อกตาย
ถ้าคิดว่าดีเราก็เจิม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-09-2009 เมื่อ 19:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 123 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #53  
เก่า 13-09-2009, 20:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อบอกว่า "พระครูไพโรจน์ภัทรคุณ (วัดสระพัง) ท่านยังจะไปเกิดอีกเยอะ ท่านสร้างบารมี หล่อพระประธานทุกปี ช่วงปลายสิงหาคม คือวันเกิดท่าน ท่านก็หล่อพระประธานแล้วก็เลี้ยงพระ ๑,๐๐๐ รูป ทำอย่างนี้มาหลายต่อหลายปี เฉพาะที่นิมนต์มานั้นแค่ปัจจัยก็มหาศาลแล้ว

ใครต้องการพระประธาน โดยเฉพาะพระประธานโลหะหล่อ ให้ไปลงชื่อจองได้ ท่านจะหล่อไล่ให้เรื่อย ๆ จนกว่าจะครบ "
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 130 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #54  
เก่า 14-09-2009, 06:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อบอกว่า "พระสมเด็จศรีอินทราทิตย์ อย่าคิดว่ามีเยอะ เพราะว่าสร้างมาหนึ่งแสนองค์ บรรจุกรุไปเก้าหมื่นกว่าองค์ ที่เอามาแจกก็ดี เอามาจำหน่ายก็ดี เท่ากับว่าเหลืออยู่หน่อยเดียว เป็นของที่ตั้งใจทำเพื่อกันภัยพิบัติโดยตรงด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 129 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #55  
เก่า 14-09-2009, 07:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถามเรื่องจิตค่ะ คือ วันก่อนตอนนั่งสมาธิ เห็นจิตตัวเอง พอได้ยินเสียงดังขึ้นมา ก็เห็นขึ้นว่ามันเกิดเสียง แล้วมันก็ดับไปแล้ว หลังจากนั้นก็เห็นตัวเองอยู่ในบ้านแคบ เหมือนไปมอง แล้วก็...
ตอบ : จริง ๆ คือมันเป็นสภาพปกติของมัน มันคอยจะรับรู้ทุกอย่างที่เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นทางตา หู จมูก ลิ้น กาย หรือใจ

ถาม : ก็เห็นว่ามันไปรับรู้ตัวอายตนะทั้ง ๕ ก็เห็นว่ามันบังคับไม่ได้ เพราะมันยิ่งไปฟัง
ตอบ : มันบังคับได้ แต่ว่าสติ สมาธิ ปัญญาจะต้องเข้มแข็ง แหลมคม และรวดเร็วพอที่จะทันมัน ถ้ายังไม่พอเมื่อไหร่บังคับมันไม่ได้ ก็แปลว่าเราต้องเพิ่มการปฏิบัติสมาธิอะไรให้มากขึ้น

ถาม : ตอนนี้ยังน้อยไป
ตอบ : มันไม่พอที่จะใช้งาน ถ้าพอที่จะใช้งาน มันจะต้องป้องกันตัวเองได้จากรัก โลภ โกรธ หลงที่เกิดขึ้นทางอายตนะทั้งหมด แต่ทีนี้มันยังไม่เพียงพอ กว่าจะรู้มันพาเราไปไกลแล้ว ต้องเพิ่มขึ้นอีดนิด ให้เวลาปฏิบัติกับมันมากหน่อย คำว่ามากหน่อยในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าให้เรานั่งกรรมฐานให้มากขึ้น แต่ว่าเรานั่งปฏิบัติแล้ว พอเลิกจากการปฏิบัติตรงนั้นให้เรารักษาอารมณ์ให้อยู่กับเราให้นานขึ้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 121 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #56  
เก่า 14-09-2009, 11:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : กิเลสที่ตัวละเอียดขึ้นไปละอย่างไรคะ
ตอบ : มันไม่ได้ละอย่างไรหรอก มันก็พิจารณาให้เห็นถึงความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ ไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของเรา เพียงแต่ว่านานไป ๆ มันก็จะค่อย ๆ คลายออกได้ ซ้ำอยู่อย่างนั้น

ถาม : ตอนแรกก็กะฟันแค่สังโยชน์ ๕ ไป ๆ มา ๆ ตัวอื่นโผล่มาอีกอย่างแรง แค่นี้จึงไม่พอ
ตอบ : อย่าคิดว่ามันหมด มันมีเยอะกว่าที่คิด เคยบอกว่ามันเหมือนกับเราโค่นต้นไม้ มันล้มลง ฟ้าสะท้านดินสะเทือน เราทำอะไรได้เยอะเหลือเกิน ที่ไหนได้พ่อคุณ ตอกับรากเยอะกว่ากิ่งข้างบนอีก

ถาม : ตอนแรกก็นึกว่าจะสบาย
ตอบ : อาตมาเป็นมาหลายยกแล้วไอ้จะสบายนี่ แรก ๆ พอผ่านไปจุดหนึ่ง โอ๊ย สบายแล้วเรา ที่ไหนได้ เดี๋ยวมีที่แย่กว่านั้นอีก ไปค่อย ๆ ทำ

ถาม : แล้วแบบเวลาที่ไล่กรรมฐาน ๔๐ ตอนแรกที่หนูไล่ขึ้น ๆ ลง ๆ ไปทีละกอง ๆ ตอนหลังเลยมารู้ว่ามันสามารถทำในระดับเดียวได้
ตอบ : มันทรงอารมณ์เต็มที่แล้วเราค่อยเปลี่ยนอารมณ์นิดเดียว ไม่ต้องไปขึ้น ๆ ลง ๆ

ถาม : หนูขอถามความแน่ใจหน่อยค่ะว่า อารมณ์ที่เป็นสีลานุสติมันคล้ายกับพรหมวิหารใช่หรือเปล่าคะ
ตอบ : คล้ายกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 14-09-2009 เมื่อ 11:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 106 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #57  
เก่า 14-09-2009, 11:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพ่อคะ หลวงพ่อฝึกกสิณกองแรกนานไหมคะ
ตอบ : อันแรกนาน แต่ว่าอันอื่นง่ายแล้ว ก็บอกแล้วว่ามันไม่มีเวลาไปคิดอย่างอื่นเลย มันต้องคอยประคองตลอด ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวหาย

ถาม : เวลาจับภาพ เมื่อภาพกสิณเปลี่ยนเป็นนิมิตสีขาวแล้ว แต่ทีนี้มันหายไป แต่เราก็จำภาพที่เป็นสีขาวได้ ทีนี้เราต้องกลับไปย้อนใหม่ไหมคะ
ตอบ : แค่นึกใหม่ ไม่ต้องเริ่ม

ถาม : แล้วสังโยชน์ ๑๐ อย่างคนที่ต้องละตัวอรูปราคะ พวกสายอื่นที่เขาไม่ได้ฝึกอรูปฌานอย่างนี้แล้วเขาจะละอย่างไรคะ
ตอบ : ละในส่วนที่ไม่ใช่รูป อย่างเช่นพวกกลิ่น เสียง รส

ถาม : บางครั้งหนูมาไล่ดูว่า เป็นไปได้ไหมว่าฟุ้งซ่านแล้วไม่เป็นไปในทางกิเลส สรุปว่ามันเป็นไปไม่ได้ค่ะหลวงพ่อ
ตอบ : มันก็คิดอยากเป็นนั่น อยากเป็นนี่ อยากดีอย่างนั้น อยากดีอย่างนี้

ถาม : ถึงแม้มันจะเป็นไปในด้านกุศล
ตอบ : กุศลมันก็ฟุ้ง เพราะใจมันไม่รวม เมื่อใจมันไม่รวม พอกำลังมันหมด ทีนี้กิเลสมันตีตายเลย

ถาม : แต่ว่าห้ามไม่ให้ฟุ้งซ่านนี่มันยากนะคะหลวงพ่อ หนูเคยลองนั่งรถเมล์มาถึงอนุสาวรีย์ อยากจะดูว่ามันจะคุมได้นานสักเท่าไหร่ ปรากฏว่าได้ไม่นานค่ะหลวงพ่อ
ตอบ : แค่ ๒ นาทีก็ถือว่าเก่ง อะไรที่แว่บเข้ามาทางตาก็มองส่องไป (หัวเราะ ) ไม่ยาก ขอยืนยัน

ถาม : อย่างบางครั้งเราพิจารณาในร่างกาย แค่เราพิจารณานิดเดียว มันก็ได้กรรมฐานหลายกองไปในเวลาเดียวกัน อย่างเช่นตัวอสุภะ มันได้ทั้งธาตุ ๔ และตัวกายคตา
ตอบ : มันทำได้ ของมันเนื่องกันอยู่แล้ว ถ้าเคยคลำ ๆ มาบ้าง ถึงเวลามันก็ไปลงที่เดียวกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 14-09-2009 เมื่อ 11:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 104 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #58  
เก่า 14-09-2009, 11:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ปฏิฆะกับโทสะต่างกันอย่างไรคะ
ตอบ : ปฏิฆะมันเป็นตัวกระทบ โทสะนั่นอารมณ์มันเกิดแล้ว ปฏิฆะพอกระทบแล้วความรู้สึกมันเกิด แต่ว่ามันเกิดในลักษณะเหมือนกับว่าสะเก็ดไฟมันกระทบเชื้อ แต่โทสะนี่มันไหม้เป็นเปลวแล้ว

ถาม : แล้วอย่างเวลาอารมณ์ที่มันกระทบ มันยังไม่ได้ไปลงที่ตัวโทสะ
ตอบ : มันจะดีหรือไม่ดีมันเป็นปฏิฆะแล้ว ถ้าปรุงเมื่อไหร่ไปทันที เพราะฉะนั้นอย่าเป็นแม่ครัว

ถาม : อย่างสังเกตถ้าเป็นอารมณ์กระทบที่ไปในทางไม่พอใจ มันก็ไปลงที่ถือตัวถือตนอยู่ดี
ตอบ : มันบวกกัน มันจะต้องมีมานะ เมื่อมีมานะมันก็ก่อให้เกิดโทสะ

ถาม : แล้วอย่างเวลาที่เราเกิดอารมณ์ปั่นป่วน เรารู้ คือ เราเห็นพายุ เรากำลังมองดูพายุที่อยู่ข้างใน ตรงอารมณ์ที่มันเกิดปั่นป่วนตรงนั้น มันเป็นในลักษณะที่ว่าเราปรุงไปแล้วหรือเปล่า หรือว่ามันเกิดขึ้นตามสภาวะปกติธรรมชาติของมัน
ตอบ : มันปรุงไปแล้ว ถ้าไม่ปรุงมันไม่เกิด เพียงแต่ว่ามันปรุงยังไม่พอ รสยังไม่ได้ที่ ถ้ารสได้ที่เมื่อไหร่จะมันส์กว่านี้เยอะ

จึงได้บอกว่าการปฏิบัติของเราคือการฝึกสติ เมื่อสติมันทรงตัว มันรู้เท่าทัน เห็นต้นเหตุของมัน มันก็จะไม่ปรุงอีก เรียกง่าย ๆ ว่ามันรู้จักเข็ด ถ้าไม่รู้จักเข็ดก็ยังปรุงไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็อร่อยไปเรื่อย ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 14-09-2009 เมื่อ 11:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 98 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #59  
เก่า 14-09-2009, 12:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีคนนำพระธาตุมาให้หลวงพ่อท่านดู ท่านบอกว่า "บอกแล้วเรื่องพระธาตุไม่ต้องดูว่าจริงหรือปลอม ดูว่าใจยึดหรือเปล่า"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 101 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #60  
เก่า 14-09-2009, 12:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หนูพยายามจับภาพพระแล้วก็ภาวนาไปด้วยระหว่างวัน เสร็จแล้วมันก็มีอารมณ์แนบแน่น สบายดี แต่มันยังแน่น หนัก ๆ หน่อย อย่างนี้ถือว่าเป็นอารมณ์พระนิพพานหรือเปล่าคะ
ตอบ : จะว่าเป็นก็ได้ แต่มันเป็นจากการที่เราใช้สมาธิมาก พอใช้สมาธิมากมันกดกิเลสได้เหมือนกัน เขาเรียกว่าเป็น วิขัมภนวิมุตติ ข่มกิเลสเอาไว้ ถ้าข่มนานก็หลุดได้เหมือนกัน

ถาม : แล้วมีความรู้สึกว่าพระอยู่ตรงหน้าจริง ๆ พอพระอยู่ตรงหน้าจริง ๆ เกิดขึ้นเยอะ ๆ นี่ เหมือนตัวเองจะหลุดไปในอีกมิติหนึ่ง มันจะโล่ง ๆ เบา ๆ อันนี้ดีใช่ไหมคะ
ตอบ : ดีจ้ะ

ถาม : หนูจะภาวนาตอนนอนด้วย แล้วตัวมันหลุดออกไปค่ะ แต่ก่อนระหว่างจะหลุดรู้ตัวดีว่าตอนนี้มันนิ่งแล้วนะ มันวืดไปแล้ว แล้วมันก็หลุดออกมาแบบนี้แหละค่ะ การที่เรารู้สึกตัวตลอดเวลาแบบนี้แสดงว่าเราหลุดไปจริง ๆ ไม่ได้ฝันไปใช่ไหมคะ
ตอบ : แล้วมันฝันไหมล่ะ ถ้ามันรู้ทุกขั้นตอน ควบคุมได้ทุกขั้นตอน มันผ่านหมดได้ มันก็ไปจริง ๆ

ถาม : แต่ทีนี้ตอนแรกที่หนูออกไป มืดตื๋อ มองไม่เห็นอะไรเลย
ตอบ : มันขาดการพิจารณา

ถาม : เกี่ยวไหมว่าตอนนั้นยังไม่สว่าง
ตอบ : ไม่เกี่ยว ถ้าพิจารณาตัดร่างกาย มันก็จะสว่าง

ถาม : พอออกไปมันก็เหาะไปเที่ยวไปเล่น แล้วรู้สึกว่าตัวเองฝ่าลมฝ่าแดด เหมือนตัวไปจริง ๆ แสดงว่าไปแบบเต็มกำลังใช่ไหมคะ
ตอบ : ไปแบบเต็มกำลัง

ถาม : เต็มกำลังแสดงว่าหนูคงจะเคยถึงฌาน ๔ บ้างใช่ไหมคะ
ตอบ : น่าจะได้นิด ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 102 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:48



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว