กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #41  
เก่า 06-02-2019, 21:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,039 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "สมัยอาตมายังทำงานอยู่ ช่วงตรุษจีนกับสงกรานต์ กรุงเทพฯ เกือบจะเป็นเมืองร้าง ขึ้นรถแท็กซี่เขาบ่นเลย “พี่...ทำไมถึงน่ากลัวอย่างนี้” ถามว่า "น่ากลัวตรงไหน ?" เขาบอก "วังเวงมากเลย"

สมัยนั้นตรุษจีนเขานิยมหยุดกัน ๖ วัน ก็คือหยุดตั้งแต่ชิวอิดจนถึงชิวลัก หลัง ๆ ความบีบคั้นทางเศรษฐกิจมีมากขึ้น การหยุดก็น้อยลง พอสองค่ำก็คือชิวยี่เปิดงานกันแล้ว พอมาระยะหลัง ๆ ก็ไม่หยุดด้วย ก็คือสมัยก่อนเจ้านายหรือเถ้าแก่ส่วนใหญ่เชื้อสายจีน การหยุดก็จะหยุดช่วงตรุษจีนเป็นหลัก มีการแจกโบนัสที่เรียกกันว่า "แต๊ะเอีย"

พอมาระยะหลัง ๆ เจ้าของกิจการมีมาก คนไทยมีมากขึ้น ไม่ได้ใส่ใจเรื่องแบบธรรมเนียมอย่างจีน เถ้าแก่รุ่นเก่า ๆ ก็ล้มหายตายจากไป ช่วงหลัง ๆ ไม่กี่ปีมานี้ความสำคัญของตรุษจีนก็หายไป รู้อยู่อย่างเดียวว่าพอถึงตรุษจีนก็จะมีซองแดงแจกกัน แต่ว่าเป็นการแจกตามธรรมเนียมเท่านั้น ไม่ใช่โบนัสเป็นชิ้นเป็นอันเหมือนกับสมัยก่อน

บางกงสีก็คือบริษัทใหญ่หน่อยก็แจกทองคำเลย สมัยนี้ก็ให้กันเพราะเป็นธรรมเนียม และไม่ได้หยุดมากมายเหมือนสมัยก่อน ตรุษจีนก็แทบจะไม่มีคนรู้สึกถึงความต่าง นอกจากว่าพอวันจ่าย - วันไหว้ก็รู้ว่าแถวเยาวราช จักรวรรดิ อย่าได้เข้าไปเพราะว่ารถติดมาก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-02-2019 เมื่อ 02:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #42  
เก่า 06-02-2019, 21:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,039 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"สมัยนี้ก็เหลือความสำคัญอยู่ที่สงกรานต์ พอรัฐบาลประกาศให้สงกรานต์หยุดได้ ๓ วันติดกัน ถ้ามีคาบเกี่ยวเสาร์-อาทิตย์ด้วยก็ได้เกิน ๓ วัน ส่วนใหญ่แล้วตอนนี้บรรดาผู้ใช้แรงงานก็มักจะเป็นชาวอีสาน ซึ่งจะพากันกลับบ้านตอนช่วงสงกรานต์ จึงทำให้รถติดหนักตอนสงกรานต์

ส่วนประเพณีจีนที่ยังทำให้รถมีปัญหาก็คือเช็งเม้ง เพราะส่วนใหญ่บรรดาฮวงซุ้ยต่าง ๆ ที่เหมาะจะทำหลุมฝังศพบรรพบุรุษ มักจะอยู่แถวสระบุรี แถวชลบุรี สระบุรีนี่จะได้ภูเขา ชลบุรีนี่จะได้ทะเล แนวเขาทุกแนวเขาถือว่าเป็นมังกร ถ้าหากว่ามังกรลงทะเลได้ก็แปลว่าเจริญรุ่งเรืองสุด ๆ ก็เลยทำให้ถึงเวลาลูกหลานจีนไปไหว้ฮวงซุ้ย ซึ่งจริง ๆ ก็คือหลุมศพ

ฮวงซุ้ยหรือเฟิงสุ่ยของจีนจริง ๆ เป็นศาสตร์ในการดูภูมิประเทศว่า ที่ไหนดี ที่ไหนไม่ดี ซึ่งเรื่องอย่างนี้จะว่าไปแล้วก็มีในทุกชาติทุกภาษา เพียงแต่ว่าถือกันมากบ้างน้อยบ้าง ในเมื่อแห่กันไปพร้อม ๆ กัน ส่วนใหญ่ก็ลูกหลานเชื้อสายจีน แม้จะมีความเป็นไทยมากแล้ว ไล่ขึ้นไปก็ยังมีอากงอาม่ากันอยู่ดี ปีหนึ่งก็ถือว่าไปรวมญาติกันทีหนึ่ง ก็ไปไหว้สุสาน ทำให้รถราติดกันแหลกลาญ ไม่ว่าจะสายตะวันออกหรือว่าสายตะวันออกเฉียงเหนือ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-02-2019 เมื่อ 02:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #43  
เก่า 06-02-2019, 21:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,039 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"บ้านเราเมืองเราคนต่างชาติต่างภาษาเข้ามาอาศัย ก็ได้รับความสุขความสบาย ทำมาหากินสะดวก เพราะว่าเจ้าของแผ่นดินไม่ได้รังเกียจ แต่มาระยะหลังนี้ที่มีปัญหาก็คือบรรดาอิสลามิกชน หรือที่เรียกกันง่าย ๆ ว่ามุสลิม ซึ่งบรรดามุสลิมทั้งหลายไปอยู่ที่ไหนก็ตาม จะทำตัวแปลกแยกจากสังคมนั้น ไม่มีวันที่จะยอมเข้ากับเจ้าของพื้นที่เลย

ปัจจุบันนี้รัฐบาลของเราก็พยายามจะใช้ข้อมูลด้านพหุวัฒนธรรม เอามาเพื่อที่จะให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขเหมือนสมัยก่อน แต่ว่าเป็นไปไม่ได้แล้ว เพราะว่าส่วนใหญ่ก็ได้ไปรับการปลุกระดมแล้วก็ฝังหัวด้วยความเชื่อว่า แผ่นดินทุกตารางนิ้วในโลกนี้ พระอัลเลาะห์สร้างมาสำหรับมุสลิมเท่านั้น คนอื่นมาแย่งชิงทรัพยากรต่าง ๆ ที่พระเจ้าสร้างให้คนมุสลิม

เมื่อได้รับการปลูกฝังความเชื่อที่ผิด ๆ ถึงแม้ว่าเราจะเห็นเขาเป็นคนไทยด้วยกัน แต่เขาเองไม่เคยเห็นว่าตัวเองเป็นคนไทย โดยเฉพาะบรรดา ๓ จังหวัด ๕ จังหวัดปักษ์ใต้ ได้รับการปลูกฝังแบบฝังหัวไว้เลยว่า ‘เราเป็นมาลายู คนอื่นเป็นซีแย’ ซีแยก็คือสยาม

ในเมื่อเป็นลักษณะอย่างนี้ ก็ไม่มีวันที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสงบได้ โดยเฉพาะปัจจุบันมุสลิมทำตัวแปลกแยกจากสังคมเด่นชัด การแต่งตัวก็ต้องเป็นแบบของเขา ไม่ว่าสากลจะนิยมอย่างไรก็บังคับว่ามุสลิมต้องแต่งตัวแบบนี้ ขนาดปิดหน้าปิดตาจนไม่เห็นอะไรเลย ก็ยังอุตส่าห์ไปทำบัตรประจำตัว อุตส่าห์ไปทำหนังสือเดินทาง ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าใต้ผ้าคลุมนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร

อาหารการกินก็ต้องฮาลาลเท่านั้น สมัยก่อนคนไทยขายอาหารให้มุสลิมได้ มุสลิมขายอาหารให้คนไทยได้ ปัจจุบันนี้มีแต่มุสลิมขายให้คนไทย คนไทยขายให้มุสลิมไม่ได้แล้ว แม้กระทั่งกล้วยทอดข้างถนนยังจะเอาฮาลาล มึงบ้าหรือเปล่า ?"

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-02-2019 เมื่อ 02:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #44  
เก่า 06-02-2019, 21:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,039 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"การเรียนหนังสือเขาก็ไม่ยอมเรียนหนังสือไทย ต้องเข้าปอเนาะ ต้องเข้าตาดีกา เรียนแต่หนังสือของเขา ก็แปลว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เราพยายามจะทำให้กลมกลืนกันในลักษณะของพหุวัฒนธรรม มุสลิมปฏิเสธเอง แต่พอถึงเวลามีปัญหาก็จะอ้างว่าต้องอยู่ร่วมกันแบบพหุวัฒนธรรม

ดังนั้น...ในส่วนนี้เราจะเห็นได้ชัดเจนว่า มุสลิมทั้งหมดไม่เคยคิดที่จะทำอะไรให้กลมกลืนกับเราเลย เพราะว่าได้รับการปลูกฝังจนมีอคติต่อชนชาติอื่นทั้งหมด ตัวเองไม่ว่าจะไปอยู่อาศัยที่ไหนก็ตาม ก็พยายามที่จะขยายฐานอำนาจของตน โดยที่ไม่ได้ใส่ใจว่าจะกระทบกระทั่งกับเจ้าของพื้นที่เท่าไร

อาตมาฟันธงได้เลยว่า
ถ้ายังมีมุสลิมอยู่ ปัญหาที่ปักษ์ใต้ของเราจะไม่มีวันสงบอย่างเด็ดขาด เพราะว่าบุคคลที่ไม่ยอมสงบจริง ๆ ก็คือฝ่ายมุสลิมไม่ใช่คนไทย สรุปว่าทุกวันนี้คนไทยของเราไม่ว่าจะเป็นพระ หรือเป็นฆราวาส เป็นข้าราชการ เป็นฝ่ายโดนกระทำมาตลอด แต่พอทำทีไรมุสลิมก็จะอ้าปากโวยวายขึ้นมาเมื่อนั้น ว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เกิดจากการรังเกียจกันทางชาติพันธุ์ ซึ่งตนเองเป็นฝ่ายทำเองแท้ ๆ แต่ไปโยนความผิดให้กับเจ้าของประเทศ..!

ก็ขอให้ทุกคนพิจารณาดูว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ที่เกิดขึ้น เราต้องการความรัก ความสามัคคี การอยู่ร่วมกันอย่างสงบ แต่ว่ามุสลิมทั้งหลายเคยต้องการความสงบ ต้องการความรักความสามัคคีกับคนไทยบ้างหรือเปล่า ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-02-2019 เมื่อ 02:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #45  
เก่า 06-02-2019, 21:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,039 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ปัจจุบันนี้มีกระแสต่อต้านมุสลิมทั้งทางยุโรปและเอเชียบางส่วน ถ้าหากว่ามุสลิมยังทำตัวในลักษณะอย่างนี้ต่อไป นอกจากไม่มีแผ่นดินจะอยู่แล้ว อาจจะถึงขนาดมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กันก็ได้

ตัวอย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือมุสลิมโรฮิงญาในพม่า ทำตัวแปลกแยก ไม่ยอมเข้ากับเจ้าของพื้นที่ พอถึงเวลาขัดใจขึ้นมาก็ประท้วง ทำร้ายอีกฝ่ายหนึ่ง พอโดนตอบโต้เขาก็โวยวายออกไปสู่โลกภายนอกว่า ตัวเองได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม บรรดาองค์กรมุสลิมต่าง ๆ ทั่วโลกก็ช่วยกันตีข่าว ทำให้พม่ากลายเป็นผู้ร้ายทั้ง ๆ ที่เป็นเจ้าของบ้าน แต่ว่ามีโจรเข้ามาทำตัวแปลกแยก เจ้าของบ้านขับไล่โจร กลับโวยวายว่าทำไมไม่ยอมให้เขาอยู่บ้านด้วย ?

ก็ต้องบอกว่าปัจจุบันนี้พม่ากลายเป็นประเทศที่น่าสงสาร ก็คืออยู่ในลักษณะม้าอารีที่รู้ตัวแล้วว่าโดนมุสลิมรุกราน จึงพยายามต่อต้าน แต่ว่ามุสลิมทั้งโลกประสานเสียงกันเป็นเสียงเดียว กดดันองค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ และประเทศที่มีอำนาจให้ช่วยกันคว่ำบาตรพม่า ซึ่งเรื่องทั้งหลายเหล่านี้จะมาถึงเมืองไทยในไม่ช้า ถ้ารัฐบาลของเรายังคงโดนมุสลิมจูงจมูกอยู่ลักษณะอย่างนี้ คาดว่าอีกไม่นานบ้านเราจะมีศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำชาติ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-02-2019 เมื่อ 02:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #46  
เก่า 06-02-2019, 21:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,039 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ใครมีผลกระทบจากฝุ่นบ่ายสองครึ่งบ้าง ? เขาบอกว่า PM ๒.๕ อาตมาก็เลยเรียกบ่ายสองครึ่ง เพราะว่าถ้าเช้าก็ต้อง AM"

ถาม : ฝุ่นนี้เกิดจากอะไรคะ ?
ตอบ : ก็สารพัดอย่างที่ทำให้เกิดฝุ่น ทำไมต่างประเทศโดยเฉพาะทางยุโรปอากาศเขาดี ? เพราะว่าเขาล้างกระทั่งพื้นถนนทุกเช้า ตี ๔ อาตมาไปเดินดูขณะที่คนอื่นนอนอยู่ เห็นเขาล้างพื้นถนนกันแล้ว มีทั้งฉีดน้ำ มีทั้งใช้รถขัด พูดง่าย ๆ ก็คือไม่เหลือฝุ่นเอาไว้ให้ปลิว แล้วรถขนข้าวของทุกอย่างจะต้องหุ้มผ้าใบมิดชิด ถ้าเข้าเขตเมืองก็ต้องล้างล้อก่อน

เรื่องของการปล่อยควันไอเสียต่าง ๆ ของเขาเองก็ไปถึงมาตรฐานยูโร ๕ ยูโร ๗ ส่วนของเราเองยังยูโร ๒ อยู่เลย พูดง่าย ๆ ว่าเครื่องยนต์บ้านเขาแทบจะไม่ปล่อยควันพิษออกมา ขณะนี้เขาก็พยายามปรับเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้า คือเขามีจิตสำนึกเพื่อบ้านเกิดตัวเอง ฝรั่งตัวใหญ่กว่าเราเป็นเท่า แต่ยอมอัดเข้าไปอยู่ในรถไฟฟ้าคันเล็ก ๆ เพื่อให้อากาศสะอาด ลูกหลานจะได้อยู่กันอย่างสบาย อย่างมีความสุข แต่บ้านเราไม่ใช่...บ้านเรานี่ทำทุกอย่างเพื่อความสุขเฉพาะหน้าของตัวเอง จอดรถยังไม่ดับเครื่องเลย บอกว่าเดี๋ยวรถร้อน ติดเครื่องปล่อยไอเสียไปเรื่อย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-02-2019 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #47  
เก่า 06-02-2019, 21:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,039 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ของเราต้องบังคับโดยเฉพาะพวกงานก่อสร้างต่าง ๆ ทำอย่างไรที่จะให้เขาลดฝุ่นละอองลง รถต่าง ๆ ต้องมีการจำกัด บอกแล้วว่าบ้านเราแก้ไขปัญหาจราจรไม่ได้ เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วบริษัทรถยนต์มักจะเป็นผู้อุปถัมภ์หรือสนับสนุนพรรคการเมือง ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็ต้องทำให้เขาขายรถให้ได้มากที่สุด ไม่มีการจำกัดจำนวนรถยนต์

ปัญหาหนักที่สุดก็คือรถยนต์ โรงงานก่อสร้าง การเผาป่าเผานาแบบไม่บันยะบันยัง การเผานาเป็นความมักง่าย สมัยก่อนเขาใช้วิธีไถ ไถดะ ไถแปร แล้วก็ตีเลนให้เป็นตมจะได้หว่านข้าว พวกตอซังข้าวต่าง ๆ ก็กลายเป็นปุ๋ยไป สมัยนี้ใช้เผาทิ้ง บางทีเผากันแต่ละทีควันขึ้นมาท่วมถนนจนมองทางไม่เห็น ทำให้รถชนกันอีก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-02-2019 เมื่อ 02:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #48  
เก่า 06-02-2019, 21:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,039 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนอีกพวกหนึ่งที่อุบาทว์ที่สุด ก็คือเผานาเพื่อที่จะกินปลาไหล..! พอถึงเวลาหน้าแล้งก็เผานา พอฝนมาก็พาน้ำขี้เถ้าลงไปในรู ปลาไหลก็ต้องเผ่นขึ้นมาอยู่ข้างบน เพราะว่าปลาไหลโดนน้ำขี้เถ้าไม่ได้ เมือกจะเสียหายหมด ถ้าเป็นคนก็เหมือนกับโดนลวกด้วยน้ำร้อน ขึ้นมาก็ไม่รอด เขาเก็บกันทีเป็นหาบ ๆ อาตมาเห็นมากับตายังสลดใจ กินล้างกินผลาญกันขนาดนี้ ตัวเล็กตัวน้อยขึ้นมาหมด บางทีก็เลือกเอาแต่ตัวใหญ่ ตัวเล็กก็ปล่อยให้ตายอยู่ในนาอย่างนั้น

หน้าแล้งบรรดาปลา กบ หอย จะคุดอยู่ในโพรง รักษาชีวิตให้รอดไปจนถึงฤดูฝนใหม่ กำลังคุดอยู่ในโพรงดี ๆ น้ำมา ต้องเรียกว่าน้ำกรด เพราะว่าน้ำขี้เถ้าโดนนี่ก็เหมือนกับเราโดนลวกด้วยน้ำร้อน ดิ้นรนตะเกียกตะกายขึ้นมาเขาก็เก็บใส่หาบไป กลายเป็นผัดกระเพราบ้าง เป็นต้มเปรตบ้าง

บ้านเราใช้ทรัพยากรกันอย่างไม่ระมัดระวัง การเผาป่าเผานาบ่อย ๆ ดินจะแข็งลักษณะกลายเป็นอิฐ ซับน้ำไม่ได้ พอถึงเวลาน้ำมา ก็กลายเป็นว่าดินไม่สามารถจะดึงดูดน้ำเอาไว้ จึงเกิดน้ำท่วม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-02-2019 เมื่อ 02:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #49  
เก่า 06-02-2019, 21:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,039 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

บรรดาฝุ่นละอองต่าง ๆ ในชั้นบรรยากาศส่วนมากเกิดจากการกระทำของพวกเราทั้งนั้น ถ้ามีสำนึกไม่ไปสร้างหรือกระทำให้เกิดผลในลักษณะอย่างนั้น หรือพยายามลดลงก็จะทำให้ฝุ่นน้อยลงได้

แต่ไม่ใช่ไปฉีดน้ำ ฉีดน้ำนั่นเป็นวิธีแก้ปัญหาแบบเด็กปัญญาอ่อน..! ฝุ่นอยู่ในชั้นบรรยากาศแล้วก็ลอยสูง พอกลางคืนอากาศเย็นถึงจะกดต่ำลงมา แต่ก็ไม่ต่ำพอที่คุณจะฉีดน้ำถึง

อาตมาก็สงสัยเหมือนกันว่าบรรดาเจ้าใหญ่นายโตบ้านเรา โดยเฉพาะเหล่ารัฐมนตรีมีปัญญาความคิดแค่นั้นหรืออย่างไร ? แล้วการที่จะไปจำกัดคน อย่างเช่นแท็กซี่นั่งคนเดียวไม่ได้ แล้วโชเฟอร์จะขับไปหาเงินอย่างไร ? ใช้หัวแม่เท้าข้างไหนตรองดูก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้...!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-02-2019 เมื่อ 02:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #50  
เก่า 06-02-2019, 21:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,039 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ก็แปลว่าเราต้องทำขนส่งสาธารณะให้พอเพียง ให้ถึงจุดหมายปลายทางตามเวลา และราคาอยู่ในระดับที่ชาวบ้านรับได้ ถ้าอย่างนั้นคุณจะจำกัดจำนวนรถชนิดไม่ให้เพิ่มเลยก็ไม่มีปัญหา

ต่างประเทศบางประเทศ เช่น ออสเตรเลีย ถึงเวลาถ้าคุณจะซื้อรถใหม่ต้องเอาคันเก่าไปให้เขายุบเป็นเศษเหล็กก่อน แล้วเอาทะเบียนเก่าไปทำประวัติใหม่ หรือไม่ก็บางประเทศอย่างญี่ปุ่น ถ้าจะซื้อรถต้องมีที่จอด ถ้าไปจอดเกะกะแถวข้างทางเดี๋ยวบริษัทขายรถจะซวย เขาไม่เล่นงานคนซื้อนะ เขาเล่นคนขาย

ที่จอดรถที่ญี่ปุ่นนี่แพงหูดับ อาตมาไปดูมา ชั่วโมงแรก ๘๐๐ เยน จอดตลอดคืนชั่วโมงละ ๒๐๐ เยน ๒๐๐ เยนปาเข้าไป ๗๐ บาทไทย ชั่วโมงละ ๗๐ บาท คืนหนึ่งจอดกี่ชั่วโมง ? ตีเสียว่า ๘ ชั่วโมง คืนหนึ่งค่าจอดรถปาไป ๕๐๐ กว่าบาท มีปัญญาก็ซื้อรถไปสิ อาตมาจ้างรถไป พลขับเขาก็บอกว่า "รถยนต์ที่เห็นวิ่ง ๆ อยู่ ส่วนใหญ่เป็นของหน่วยราชการหรือบริษัทครับ น้อยคนที่จะใช้รถส่วนตัว เพราะว่ารถส่วนตัวไปช้า แต่ถ้าหากว่าไปรถไฟฟ้านี่ถึงตรงเวลาและเร็วมาก "

เขามีวลีเด็ดของเขาว่า ถ้าอยากเร็วให้ไปรถไฟฟ้า
ถ้าอยากช้าให้ไปรถส่วนตัว เนื่องจากว่าประเทศญี่ปุ่นจำกัดความเร็วไม่เกิน ๘๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง แล้วต้องเว้นห่างจากคันหน้า ๒๕ เมตร ก็ต้องคลานตามกันไป ประเทศฮ่องกงไม่ห้าม อยากมีรถมีไป แต่เก็บค่าจอดรถโหดร้ายกว่าญี่ปุ่นอีก แน่จริงก็ซื้อรถมาเลย...!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 07-02-2019 เมื่อ 07:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #51  
เก่า 06-02-2019, 21:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,039 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การแก้ไขมลพิษทางอากาศต้องเป็นวาระแห่งชาติ ทุกหน่วยงานต้องร่วมมือกัน ยุโรปเขาแก้ไขทั้งปัญหาเรื่องมลพิษในอากาศ เรื่องของอาหาร เรื่องของน้ำ เรื่องของป่า เขาแก้ไขพร้อมกันหมดทุกหน่วยงาน เขาก็เลยทำได้ แต่ก็อย่างว่าแหละ...อยู่บ้านเขาก็ราคาแพง

โดยเฉพาะหลายประเทศเก็บภาษีระดับ ๖๐-๗๐% แปลว่าทำงานได้เงิน ๑๐๐ บาท ต้องจ่ายค่าภาษี ๖๐-๗๐ บาท แต่เขาก็คืนให้คุ้ม เพราะว่าไม่ว่าจะเรื่องการศึกษา เรื่องการรักษาพยาบาล เรื่องการช่วยเหลือเมื่อยามชรา เขามีให้เต็มที่ แต่ละปีมีตั๋วเครื่องบินให้ไปเที่ยวต่างประเทศด้วย แต่นั่นหมายความว่าต้องจ่ายภาษีอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลา ๑๐ ปี ๒๐ ปี แล้วแต่กติกาที่เขากำหนด

ส่วนบ้านเราก็ยังเกรงใจอยู่ จ่ายภาษีร้อยละ ๗ ร้อยละ ๙ ปกติแล้วยิ่งคนรวยหาเงินได้มาก อัตราการจ่ายภาษีก็ต้องยิ่งทบทวีไป แต่บ้านเราไม่มี บ้านเราเกรงใจคนรวย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-02-2019 เมื่อ 02:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #52  
เก่า 07-02-2019, 07:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,039 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "พูดเรื่องของบ้านของเมืองแล้วก็ลำบาก ต้องบอกว่าคนของเราไม่ใช่ไม่มีวิสัยทัศน์ มี...แต่ไม่มีโอกาสทำงาน ส่วนคนที่มีโอกาสทำงานก็ทำเพื่อพวกพ้องและตัวกู ไม่ได้ทำเพื่อประเทศชาติ ก็เลยทำให้บ้านเราพิกลพิการอย่างที่เห็น

แต่ละหน่วยงานเวลาทำงานไม่มีการมาประชุมปรึกษากันว่าใครมีโครงการจะทำอะไร ถึงเวลาไฟฟ้าขุดฝังท่อเสร็จสรรพเรียบร้อย ประปามาขุดใหม่ ประปากลบเสร็จโทรศัพท์มาขุดต่อ...เจริญ..! ทำไมไม่ตั้งโต๊ะคุยกันว่าคุณมีโครงการที่จะทำอะไรตรงนี้ ถึงเวลาก็ทำพร้อม ๆ กัน ก็เพราะว่าถ้าทำพร้อมกันแล้วใช้งบประมาณน้อย เงินทอนก็น้อย ในเมื่อเงินทอนน้อยไม่พอกิน ก็เลยต้องต่างคนต่างทำ บ้านเราสามารถคอรัปชั่นได้ทุกหัวระแหง เป็นอะไรที่น่าเกลียดน่าชังมาก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-02-2019 เมื่อ 12:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #53  
เก่า 07-02-2019, 07:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,039 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"แม้กระทั่งรัฐบาล คสช.ที่เข้ามา บอกว่าจะแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่น จะสร้างจิตสำนึกให้เด็กโตไปไม่โกง ก็โกงกันตั้งแต่ต้นยันปลาย ในเมื่อตัวเองเป็นพ่อปูแม่ปูแล้วจะไปเดินตรงทางให้ลูกปูตามได้อย่างไร ? โดยเฉพาะจริยธรรมหรือสามัญสำนึกเพื่อส่วนรวมไม่มี เป็นรัฐมนตรีโดนด่าทั่วบ้านทั่วเมืองว่าไปสังกัดพรรค ถึงเวลาอาจจะใช้อำนาจหน้าที่อำนวยประโยชน์ให้พรรคใดพรรคหนึ่ง ก็ไม่สนใจ อ้างว่าต้องทำงาน พอโดนเขาด่าไปทั่วโลกค่อยลาออก บอกว่าสร้างบรรทัดฐานให้กับคนอื่นเขา บรรทัดฐานบิด ๆ เบี้ยว ๆ แบบนี้จะไปอวดชาวบ้านเขาได้ที่ไหน ?

ต่างประเทศอย่างเกาหลี ญี่ปุ่น เป็นเอเชียด้วยกัน ถึงเวลามีอะไรผิดพลาด รัฐมนตรีลาออก นายกรัฐมนตรีลาออก ผู้นำหน่วยงานลาออก ผู้จัดการบริษัทลาออก เพื่อรับผิดชอบ บ้านเราเคยเห็นใครลาออกบ้างไหม ? จนกระทั่งโดนด่าทั่วบ้านทั่วเมืองแล้วค่อยขยับลาออก

เรื่องของคุณธรรมจริยธรรมต้องบ่มเพาะตั้งแต่เด็ก ซึ่งก็ต้องเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ แต่ปัจจุบันพ่อแม่ไม่สามารถที่จะดูแลลูกได้ อยู่ในลักษณะสถาบันครอบครัวล่มสลาย เพราะว่าพ่อก็ไปทำงาน แม่ก็ไปทำงาน ต้องเลี้ยงลูกด้วยโทรศัพท์กับเงิน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-02-2019 เมื่อ 12:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #54  
เก่า 07-02-2019, 07:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,039 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"อย่าฝากความหวังให้พระอบรมลูก เพราะว่าจากพ่อแม่ ๓ ขวบครึ่งก็เริ่มเข้าชั้นอนุบาล ก็เป็นหน้าที่ของครู กว่าจะพ้นเกณฑ์การเรียนตามที่รัฐบาลกำหนดก็คือ ๑๒ ปี ก็ต้องจบ ม. ๖ อายุเท่าไร ? เต็มที่ก็ไม่เกิน ๑๘ ปี ก็ยังไม่ถึงมือพระ เพราะว่ากว่าจะบวชได้ต้องอายุ ๒๐ ปี แล้วบวชได้เฉพาะผู้ชายอีก ถ้าคิดว่าเป็นหน้าที่พระนี่โปรดทราบว่าคิดผิด เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ก่อน ถัดไปก็คือครูบาอาจารย์ กว่าจะมาถึงมืออาตมานี่แก่เกินแกงแล้ว เป็นไม้แก่ดัดไม่ไหว

บางคนมาถึงก็ “หลวงพ่อเจ้าขา ลูกอิฉันเกเหลือเกิน บวชแล้วช่วยดัดสันดานมันให้เป็นคนดีกับเขาบ้างเถอะ” “แล้วโยมให้ลูกบวชนานเท่าไร ?” “เจ็ดวันเจ้าค่ะ” แม่งเหอะ...! เลี้ยงมา ๒๐ กว่าปีดัดสันดานไม่ได้ ให้พระแค่ ๗ วันต้องดัดสันดานได้ อาตมาไม่ใช่ผู้วิเศษนี่หว่า..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-02-2019 เมื่อ 12:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #55  
เก่า 07-02-2019, 08:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,039 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"แต่ครูบาอาจารย์บ้านเราก็ต้องบอกว่าเป็นอะไรที่น่าสงสารมาก ทุกวันนี้จะโดนงานเอกสารท่วมตาย จะเอาเวลาที่ไหนไปสอนเด็ก เดี๋ยว มคอ.๒ เดี๋ยว มคอ.๓ เดี๋ยว มคอ.๕ เดี๋ยว มคอ.๗ เดี๋ยวต้องทำ SAR ต้องทำผลงานทางวิชาการ ไม่ทำก็ไม่ได้...เพราะว่าระเบียบบังคับ ต้องมีงานวิจัยอย่างน้อยปีละ ๑ เรื่อง แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปดูแลเด็ก ? แค่งานเอกสารอย่างเดียวก็กินเวลาไปหมดแล้ว

ถึงเวลาเด็กปิดเทอมครูได้ปิดไหม ? จะไปปิดอะไร ถึงเวลาก็ต้องมาตัดเกรด ต้องมากรอกคะแนน ต้องให้เด็กเข้าไปประเมินได้ภายในหนึ่งอาทิตย์ แล้วสมัยนี้ถ้าเด็กเข้าไปดูเกรดไม่ได้ก็เริ่มฟ้องแล้ว กลายเป็นความซวยของครูบาอาจารย์อีก ไม่ผ่านเกณฑ์ประเมิน โดยเฉพาะเงินเดือนไม่พอใช้ เราก็เลยเห็นครูหลายท่านต้องขายประกัน ต้องขายสินค้าขายตรง

ถ้าเอาในอาเซียนของเราด้วยกัน อย่างสิงคโปร์ประสบความสำเร็จในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์มาก เงินเดือนครูสิงคโปร์อย่างต่ำ ๆ ๑๒๐,๐๐๐ บาท บ้านเราทำได้อย่างนั้นไหม ? ถ้าเอาในเอเชียด้วยกันก็เกาหลี เงินเดือน ๒๕๐,๐๐๐ บาท ถ้าบ้านเราเงินเดือนครูได้ขนาดนั้น เราจะได้คนเก่งไว้สอนคนรุ่นใหม่เยอะมาก แต่ว่าบ้านเราเงินเดือนครูน่าสงสารมาก

ส่วนที่น่าสงสารสุดคือครูพระ ครูพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนเงินเดือน ๒,๕๐๐ บาท ต้องทำรายงานส่งต้นสังกัดทุกเดือนว่าสอนที่ไหน สอนอะไร สอนไปกี่ชั่วโมง มีเนื้อหาอะไรบ้าง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-02-2019 เมื่อ 12:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #56  
เก่า 07-02-2019, 08:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,039 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เราลองคิดดูว่าเงินเดือนยังไม่พอค่ารถไปโรงเรียนเลย อาตมาเองทุกวันนี้ถ้าอย่างของ มจร.วัดใต้ ไปบรรยายเช้าบ่ายได้เดือนละ ๔,๐๐๐ บาท อาตมาไปเดือนหนึ่งอย่างน้อยก็ ๔ ครั้ง ครั้งหนึ่งไปกลับเฉพาะแค่ค่าแก๊สอย่างเดียวก็ตก ๑,๐๐๐ กว่าบาท แปลว่าเขาให้อาทิตย์ละประมาณ ๑,๐๐๐ บาท เราจ่ายไปอาทิตย์ละ ๑,๐๐๐ กว่าบาท ยังไม่ต้องนับถึงเอกสารอะไรต่าง ๆ ที่จะต้องให้กับเด็กหรือส่งตามลำดับ ซึ่งค่าใช้จ่ายจะเยอะมาก ถ้าหากว่ามาถึงวัดไร่ขิง ค่าใช้จ่ายก็หนักกว่านั้นอีก

ฉะนั้น...ในเมื่อครูบาอาจารย์ของเรางานหนัก เงินเดือนก็ไม่จูงใจ หนี้สินก็มาก กู้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูบ้าง กู้นอกระบบบ้าง หนี้ท่วมหัวแล้วจะเอากำลังใจที่ไหนมาสอนเด็ก ? แล้วทำไมถึงสงสัยว่าเงินเดือนครูน้อย อาตมาก็สงสัยเหมือนกัน เพราะว่ากระทรวงศึกษาธิการได้รับการจัดสรรงบประมาณมากที่สุดในจำนวนกระทรวงทั้งหมด มากกว่ากระทรวงกลาโหมอีก แล้วหายไปไหนหมด ?

ลองฝากให้บรรดาผู้มีอำนาจในบ้านในเมืองขบคิดดูบ้างว่า ทำไมเงินเดือนครูของบ้านเราถึงได้น้อยนิดจนน่าเวทนา ขณะเดียวกันก็งานท่วมหัว แล้วทำไมประเทศอื่นเขาสามารถจัดสรรงบประมาณจ่ายเงินเดือนครูเป็นแสน ๆ ได้ ถ้าจะหาว่างบประมาณรั่วไหลไปทางไหน อาตมาอยากจะเชื่อว่ากระทรวงศึกษาคงต้องหาข้าราชการใหม่ทั้งหมด แตะไปตรงไหนก็ใช่ตรงนั้นแหละ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-02-2019 เมื่อ 12:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #57  
เก่า 07-02-2019, 08:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,039 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"สมัยอาตมาเด็ก ๆ ครูถามอยากจะเป็นอะไร ? อยากจะเป็นหมอ อยากจะเป็นทหาร อยากจะเป็นตำรวจ สมัยนี้ลองไปถามเด็กดูสิอยากเป็นอะไร ? อยากเป็นดารา อยากเป็นนักร้อง ตูจะบ้า...! อนาคตไกลมาก ดาราบ้านเรามีอนาคตสักกี่ปี ? ถึง ๕ ปีไหม ? พอรุ่นน้องมาคุณก็แก่ ต่อให้อายุเพิ่ง ๒๐ ปีก็แก่ พอเริ่มแก่ก็ตกงาน มีเวลาในการที่จะทำเงินสั้นมาก

นักร้องก็เหมือนกัน พอถึงเวลาไม่มีอัลบั้มออกมา ไม่มีท่าเต้นที่ยั่วยวนกวนราคะก็ไม่ดัง ทำอย่างไรที่จะนุ่งน้อยห่มน้อยเพื่อเป็นข่าวให้มากที่สุด บ้านเราเขาต้องการแค่เป็นข่าวไม่ว่าจะด้านดีหรือด้านร้าย เพื่อที่จะได้ไม่สูญหาย ยังเป็นที่สนใจของผู้คนอยู่เพื่อที่จะได้มีงาน แล้วลองคิดดูว่าทำไมเด็กของเราถึงคิดแต่ในเรื่องฉาบฉวยแบบนี้ ?

อยากเป็นดารา อยากเป็นนักร้อง ก็เพราะว่าอยากดังอยากเด่น แล้วทำไมไม่คิดจะดังจะเด่นในทางที่ถาวร ในทางที่ดี ที่ยอมรับของสังคมทั่วไปบ้าง ? ก็เกิดจากสังคมพิกลพิการของเรานี่แหละที่ทำให้เป็นอย่างนั้น สมัยนี้เขามีเน็ตไอดอล ภาษาจีนว่า "โอเซี่ยง" ภาษาอะไรก็ตามไปถึงประเทศจีน มีภาษาจีนหมด อาตมาเองก็งงมาตั้งแต่เด็ก รองเท้ายี่ห้อนันยางคืออะไร ? ความจริงคือหนานหยาง ทะเลจีนใต้ คนไทยอ่านตามภาษาอังกฤษว่า “นันยาง”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-02-2019 เมื่อ 12:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #58  
เก่า 07-02-2019, 08:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,039 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำไมประเทศจึงมีคอร์รัปชันทุกหัวระแหง ?
ตอบ : ถ้าหัวไม่ส่ายหางก็ไม่กระดิก ก็ต้องให้หัวเลิกส่ายหางจะได้ไม่กระดิก แล้วเป็นไปได้ไหมเล่า ? ขนาดหน่วยงานที่มีหน้าที่ปราบปรามคอร์รัปชันยังหูหนวกตาบอด อยู่ ๆ มีนาฬิกาเรือนละล้าน ๒๒ เรือนบอกว่ายืมเพื่อนมายังเห็นเป็นเรื่องปกติ ยืมเพื่อนคนไหนเพื่อนคนนั้นตายหมดแล้วก็บอกปกติ แล้วก็ไม่คิดจะคืนลูกคืนหลานของเพื่อนเลยก็ยังบอกว่าปกติ

ถาม : ที่บิดเบี้ยวทุกวันนี้ก็คือตำรวจ ?
ตอบ : ทั้งหมดนั่นแหละ ไม่ใช่เฉพาะตำรวจ อาตมาเจอตำรวจดี ๆ เยอะแยะ วงการไหนก็เหมือนกัน เพียงแต่ว่าตอนนี้ไม่ใช่ปลาตายตัวเดียวแล้วเน่าทั้งข้อง ปัจจุบันนี้ปลาตายเกือบทั้งข้อง ปลาดี ๆ ก็เลยพลอยเหม็นไปด้วย

อาตมาเองได้รับคำเตือนด้วยความหวังดีจากตำรวจจราจร เพราะว่ารถไปติดแถวยาวเหยียดที่เขาตรวจ เขาบอก “อาจารย์ครับ เดือนธันวาคมไม่จำเป็นอย่าไปไหนนะครับ พวกผมต้องหาเงินส่งนาย ต่อให้ไม่ผิดผมก็ต้องเอาจนผิด” นี่คือคำเตือนจากตำรวจที่มีให้กับพระนะ ปีใหม่ต้องหาเงินส่งนาย เขาบอกเอง

ในเมื่อเป็นลักษณะอย่างนั้นก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร เพราะว่าบ้านเรากินกันตั้งแต่หัวยันท้าย ต้องบอกว่าตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ อาตมาเองที่ออกมาบวชนี่เพราะไม่ยอมกินกับเขา ไปขวางทางก็เลยโดนเขาแซะออกมา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-02-2019 เมื่อ 12:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #59  
เก่า 07-02-2019, 08:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,039 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เริ่มจากตัวเรา ถ้าตัวเราไม่ทำก็จบ คนอื่นไม่ต้องไปหวัง อาตมาลาออก ปรากฏว่าคุณหมอนพพรไม่ออก คุณหมอนพพรฉลาด มีปัญญา ไม่เอาแต่อารมณ์อย่างอาตมา คุณหมอแก้ไขปัญหาแค่ในอำนาจตัวเอง สูงขึ้นไปไม่แตะ ตอนที่หมอนพพรเป็นผู้บังคับกองพันเสนารักษ์ กองพลทหารราบที่ ๙ กองพันเสนารักษ์มีรถประจำตัวนายทหาร ๒๒ คัน ก็คือจัดหาให้ตามงบประมาณ ก็ในเมื่อเจ้านายไม่กินก็ถึงลูกน้อง กองพันอื่นอย่างเก่งก็มี ๒-๓ คัน ที่เหลือหายไปไหนก็ไม่รู้ ?

ในเมื่อมีอำนาจแค่ไหนแก้ไขปัญหาภายใต้ขอบเขตอำนาจตัวเอง ก็ไม่ไปแตะเจ้าใหญ่นายโตข้างบน ส่วนอาตมานี่เพื่อนด่าตลอด “มึงนะเก่งจริง กูไม่เถียงหรอก แต่มึงรู้อะไรทำไมต้องพูดด้วย” พูดแล้วเจ้านายก็เดือดร้อน แต่บังเอิญว่าอาตมาเลือดร้อนมาแต่เกิด เรื่องจะไปทำไม่รู้ไม่ชี้ให้เขาโกงให้เขากินก็ทำไม่ได้ ท้ายที่สุดขนาดผู้บังคับกองพันที่ไม่โกงไม่กินก็อยู่ได้แค่ ๒ เดือนกว่าเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-02-2019 เมื่อ 12:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #60  
เก่า 07-02-2019, 08:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,039 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตอนนั้น.......ขึ้นมาเป็นผู้บังคับกองพัน อาตมาเองก็แปลกใจ ทำไมวันนี้อาหารโรงเลี้ยงดีแท้วะ ? น้ำพริกปลาทู มีปลาทู ๒ ตัวใหญ่ ๆ เลย ต้มจืดวุ้นเส้น เต้าหู้อ่อนหมูสับ ผัดผักรวมมิตรใส่เนื้อหมูมาเพียบเลย ความจริงก็คือพอผู้พันเขาขึ้นเป็นผู้บังคับกองพัน เขาก็ตรวจสอบรายการที่สูทกรรมส่งมา “มึงเขียนรายการมาอย่างไร มึงทำอย่างนั้นนะ บ่าย ๒ โมงต้องมีกาแฟให้ทหารด้วย”

ปรากฏว่าบรรดานายสิบนายร้อยต่าง ๆ วิ่งไปขอร้องผู้พัน “อย่าถึงขนาดมีกาแฟบ่ายสองเลยครับ ถ้ามีนี่ทหารไม่เป็นอันทำอะไรกันหรอก ถ้าผู้พันต้องการอาหารตามนี้ก็ว่าตามนี้ แต่กาแฟขอเถอะครับ...อย่าให้มีเลย” ก็ตอนเช้ารายการเขาลงมา มีกาแฟไข่ลวก มีข้าวต้มกุ้ง มีข้าวต้มหมูสับ “มึงทำมา...ก็ในเมื่อมึงเขียนเบิกงบอย่างนี้ก็ต้องทำตามนี้”

อยู่ได้ ๒ เดือนก็โดนย้าย เพราะว่าจากที่ปกติเขากินอาหารที่มีแต่วิญญาณหมู วิญญาณไก่ แต่ละงวดก็มีข้าวแกงทั้งกาก ผักบุ้งทั้งราก ฯลฯ อยู่ ๆ กลายเป็นอาหารขึ้นเหลา ส่วนที่จะพึงถึงคนอื่นก็ไม่เหลือ ในเมื่อไม่เหลือก็อยู่ไม่ได้ อยู่ได้ ๒ เดือนกว่าโดนย้าย ๒๔ ชั่วโมง เก็บข้าวของยังไม่ทันเลย นั่นอนาถกว่าอาตมาเยอะ ท่านเป็นระดับผู้บังคับกองพันแล้วนะ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-02-2019 เมื่อ 12:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:32



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว