กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 26-04-2010, 09:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,448
ได้รับอนุโมทนา 4,406,280 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default อยากจะไปจากวัด

ตอนนั้นทางวัดยังไม่มีมณฑปหลวงปู่ขนมจีน ยังไม่มีมณฑปพระสีวลี วันนั้นอาตมาเองเพิ่งจะบวชได้ไม่กี่วัน หลวงพ่อท่านก็บอกว่า "เฮ้ย..เอ็งไปช่วยวัชรชัยเตรียมกระถางธูปเชิงเทียนไว้ตรงทางด้านมุมหลังขวาโบสถ์สักชุดหนึ่ง ตรงนั้นเป็นที่อยู่ของหลวงปู่ขนมจีนท่าน ถ้าหากใครไปไหว้ไปบนท่านจะได้มีที่"

เราก็ไปค้นกระถางธูปเชิงเทียนมา ปรากฏว่าเก่ามาก เขียวปี๋เลย ก็มานั่งขัดกับหลวงตา ขัดไปขัดมา รู้สึกปากคัน "นี่ถ้าขึ้น ๗ ตัว จะซื้อจริง ๆ นะนี่" (ตอนนั้นหวยมี ๗ ตัว) หลวงตาท่านก็ดุว่า "ไอ้นี่ทะลึ่ง ไม่รู้เวล่ำเวลา"

ทันทีที่ตัวเองพูดอย่างนั้นจบ ก็มีความรู้สึกอย่างหนึ่งว่า เราทำอะไรที่ไม่สมควร เป็นพระไม่น่าจะขาดสติขนาดนั้น เราไม่สมควรที่จะอยู่ในผ้าเหลือง ควรจะไปซะ พูดง่าย ๆ ว่าความรู้สึกบอกว่าอยากจะสึก แต่คราวนี้เหมือนไม่ใช่ความคิดของเรา เป็นความคิดของใครที่แทรกเข้ามาให้เรา ก็เลยคิดว่าช่างมัน

พอขัดกระถางธูปเสร็จ ตั้งโต๊ะหมู่ ตั้งกระถางธูปเชิงเทียนเรียบร้อย ก็ไปสรงน้ำ เตรียมทำวัตรเย็น ความรู้สึกอยากจะไปให้พ้นจากวัด อยู่วัดไม่ได้ ก็แรงขึ้น ๆ แรงจนเรารู้สึกว่า ถ้าเราเป็นเขื่อน ก็รับน้ำเต็มที่แล้ว เกินกว่านั้นอีกหน่อยเขื่อนแตกแน่นอน

ตอนทำวัตรเย็นและตอนทำกรรมฐานอยู่ ก็ร้อนรุ่มไปหมด ปกติเลิกจากทำวัตรก็จะไปฉันน้ำที่ใต้หอระฆังกับพี่ ๆ น้อง ๆ แต่วันนั้นหงุดหงิดจนทำอะไรไม่ได้ ก็เลยเข้ากุฏิ อารมณ์ก็ไม่หาย รู้สึกร้อนไปหมด อยากจะไปให้พ้นอย่างเดียว คราวนี้เรารู้ว่าความรู้สึกนี้ไม่ใช่เรา เราก็สู้ นิสัยตัวเองไม่ค่อยถอยให้ใครหรอก

ตอนแรกก็เดินภาวนา เดินไปเท่าไรความรู้สึกก็ไม่ลดลงสักที ก็เลยเปลี่ยนเป็นวิ่ง วิ่งไปก็พยายามจับอารมณ์ภาวนาไป หมดแรงหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ ตื่นขึ้นมาอารมณ์อยากจะไปก็มาอีกแล้ว เดินบิณฑบาตก็มีความรู้สึกอยู่ตลอดว่า เราทำในสิ่งที่ไม่สมควร เราไม่ควรจะอยู่ที่นี่ ควรจะไปจากที่นี่หรือไม่ก็สึกหาลาเพศไปเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 26-04-2010 เมื่อ 15:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 101 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 26-04-2010, 09:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,448
ได้รับอนุโมทนา 4,406,280 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

จนกระทั่งฉันเช้าเสร็จ ปกติจะต้องขึ้นไปช่วยงานที่ศาลานวราช ซึ่งหลวงตาวัชรชัยท่านเป็นเจ้าหน้าที่ทะเบียน รับคนเข้าพักและจำหน่ายวัตถุมงคลด้วย พอเราขึ้นไป ท่านเห็นหน้าเหี่ยว ก็ถามว่า "เป็นยังไงวะ ?" ก็เล่าให้ท่านฟัง ว่าความรู้สึกของผมเป็นอย่างนี้ ๆ ท่านบอกว่า "มึงโดนหลวงปู่เล่นแล้ว" หลวงตาบอกให้ไปขอพานดอกไม้ธูปเทียนที่โยมศุภาพร ไปกราบขอขมาหลวงปู่ เราเองก็เลยไปหาโยมศุภาพร ให้ช่วยทำพานดอกไม้ธูปเทียนให้ พอได้มาก็ไปกราบขอขมา

เชื่อไหมพอกราบขอขมาเสร็จ ความรู้สึกนั้นหายไปเฉย ๆ เหมือนกับโยนอะไรทิ้งไปเลย ก็เลยรู้ว่า ที่แท้เราโดนหลวงปู่ท่านไล่ เพราะไปพูดจาอะไรไม่สมควร แต่คราวนี้ด้วยความที่เป็นคนหน้าด้าน เลยกราบท่าน บอกว่า "หลวงปู่ครับ หลวงปู่เล่นผมก่อนใครเพื่อน ผมก็ถือว่าผมเป็นลูกคนโต ผมตั้งใจปฏิบัติเพื่อความเป็นพระอรหันต์ อารมณ์พระอรหันต์จริง ๆ เป็นอย่างไร หลวงปู่สามารถบอกผมได้ไหมครับ ?"

ความรู้สึกเห็นว่าท่านนั่งอยู่ เหมือนนั่งอยู่บนเก้าอี้ แต่ท่านสูงกว่าเราที่ยืนอยู่อีก แสดงว่าท่านใหญ่มาก ท่านถามว่า "เอ็งจะเอานานเท่าไร ?"
บอกว่า "ถ้าหลวงปู่สงเคราะห์ได้ ผมขอสามเดือนครับ พรรษาหนึ่ง ผมจะได้บวชพรรษาหนึ่งไปเลย"
หลวงปู่บอกว่า "ถ้าเอาอย่างนั้นก็ให้"

พอหลวงปู่พูดจบนึกว่าตัวเองเป็นพระอรหันต์ อยู่ ๆ สติปัญญาสมบูรณ์พร้อมไปหมด รู้รอบไปหมด ไม่ว่าจะได้เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ได้รส ได้สัมผัสอะไรก็ตาม จะรู้เลยว่าถ้าเราคิดปรุงแต่งจะเป็นโทษอย่างไร แล้วถ้าเราพิจารณาเป็นวิปัสสนาจะเป็นประโยชน์อย่างไร รู้เท่าทันหมด จะหลับ จะตื่น จะยืน จะนั่ง รู้เท่าทันอารมณ์ทุกอย่างที่มากระทบกระทั่งหมด สามารถตัดส่วนที่ไม่ดี รับแต่ส่วนที่ดีตลอด คิดว่าตัวเองเป็นพระอรหันต์ได้เลย ปรากฏว่าพ้นจาก ๙๐ วัน วันที่ ๙๑ อารมณ์ก็ร่วงตกลงมา กลายเป็นหมาเหมือนเดิม..! ก็เลยได้บันทึกเรื่องนี้ไว้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 26-04-2010 เมื่อ 19:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 102 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 26-04-2010, 09:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,448
ได้รับอนุโมทนา 4,406,280 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเกิดตอนนั้นขอตลอดชีวิตก็สบายสิ
ตอบ : ส้นตีนแน่ะ..! ขออะไรที่เกินขนาดนั้นท่านคงจะให้หรอก ตีนท่านใหญ่เสียด้วย..!

ถาม : แล้วหลวงพ่อท่านทราบไหมคะ ?
ตอบ : อะไรที่ลอดหูลอดตาท่านไปได้ คงไม่มีหรอก ถ้าท่านไม่รู้ก็มีผู้ไปรายงาน คือ จะมีอินทกะที่คุมวัดอยู่ รับผิดชอบโดยตรงแทนท้าวมหาราชทั้งสี่ท่าน

ทิศเหนือท่าน ชื่อ ปิยะยาวี ทิศใต้ท่าน ชื่อ มหานาคา
ทิศตะวันออก ชื่อ สิริโภคา ทิศตะวันตก ชื่อ มหาลาโภ


ท่านบอกว่าเหนือกับใต้ช่วยในด้านอำนาจ ด้านการปกครอง ตะวันออกกับตะวันตกช่วยในด้านลาภผลที่จะเกิดขึ้น ฉะนั้น..ถ้าหากทำความรู้จักกับท่านไว้ ถึงเวลาไปกราบไหว้บูชา นึกถึงท่านบ้าง ทำอะไรอุทิศให้ท่านบ้าง

ท่านทั้งหลายเหล่านี้คุมบริวารไม่มากหรอก รวมแล้วสี่ทิศ เป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราชอย่างเดียว ๒,๐๐๐ องค์ เป็นกองทัพเลย..!

ของพวกนี้ทำให้เราเห็นคุณประโยชน์ว่า การที่เราบันทึกอะไรบางอย่างไว้ จะช่วยจำได้เยอะ แม้ตัวเองจะเป็นคนจำแม่น แต่ถ้าไม่บันทึกเอาไว้ ถ้าคนไม่มาสะกิด บางทีก็นึกไม่ถึง ในเมื่อนึกไม่ถึง อาจจะสูญไปเฉย ๆ


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงบ่าย ณ บ้านอนุสาวรีย์์
วันเสาร์ที่ ๓ เมษายน ๒๕๕๓
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 26-04-2010 เมื่อ 09:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 106 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:26



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว