กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > กระทู้ธรรม > ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 07-09-2011, 07:34
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,554 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default ปัจจัย ๔ ระหว่างพระกับฆราวาสต่างกันอย่างไร

ปัจจัย ๔ ระหว่างพระกับฆราวาสต่างกันอย่างไร

หลวงปู่ไวย ฯ ท่านเมตตาสอนเรื่องนี้ไว้ ดังนี้

๑. “ปัจจัย ๔ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่มีขันธ์ ๕ หรือร่างกายทุกคน แต่พระกับฆราวาสนั้นแตกต่างกันมาก ท่านผู้เป็นพระแล้ว หมายถึงพระอริยเจ้าตั้งแต่พระโสดาบันถึงพระอรหันต์ ท่านตัดกังวลได้ในเรื่องนี้(เน้นพระอริยเจ้าเป็นหลักสำคัญ)

๒. “เรื่องอาหาร พระได้จากการบิณฑบาต ซึ่งทำให้เลือกอาหารไม่ได้ มีผลทำให้ไม่ติดในสี-ในกลิ่นและรสของอาหาร ได้มากได้น้อยก็พอใจแค่นั้น อันจัดเป็นอารมณ์สันโดษและเป็นผู้เลี้ยงง่าย

๓. “เรื่องเครื่องนุ่งห่ม พระไม่มีแฟชั่น มีแบบเดียว มีชุดจำกัด ไม่ต้องเลือกมากอันเป็นเหตุทำให้เกิดอารมณ์ ๒ (พอใจกับไม่พอใจ) แบบฆราวาส หลวงปู่ไวยก็ดี หลวงพ่อฤๅษีก็ดี ท่านให้พระในวัดห่มจีวรสีเหลืองทองสีเดียว ก็จะทำให้ไม่ติดในผ้าสีกรักหรือสีอื่น ๆ ทุกข์ก็น้อยลงในจุดนี้”

๔. เรื่องที่อยู่อาศัย พระมีอยู่แล้วที่วัดจัดให้อยู่ จึงไม่มีกังวลเรื่องหาบ้านอยู่-บ้านเช่า-บ้านผ่อนส่ง ไม่ต้องหาเครื่องประดับบ้าน เครื่องบำรุงบำเรอร่างกายในขณะอยู่ในบ้านแบบฆราวาส ซึ่งเรื่องนี้ทุกข์มาก-กังวลมาก จึงมีกิเลสมากในเรื่องนี้

๕. เรื่องยารักษาโรค ฆราวาสมักเอายามาถวายพระ ป่วยก็ไปโรงพยาบาล ได้สิทธิพิเศษ บางจุดก็ไม่คิดเงินท่าน พระดีท่านป่วยครั้งใด ท่านก็ยิ่งไม่มีความประมาทในความตาย เห็นทุกข์-เห็นโทษ-เห็นภัยจากการเกิดมามีร่างกาย จึงพยายามเร่งรัดตัดสักกายทิฐิให้มากขึ้น เห็นกายเป็นทุกข์-สกปรก-ไม่เที่ยง-ประกอบด้วยธาตุ ๔ มีอาการ ๓๒ มันหาใช่เรา เห็นทุกข์จากภาระหน้าที่ที่จะต้องมีกับขันธ์ ๕ มันหนักยิ่ง ตั้งแต่วันเกิดจนกระทั่งวันตาย ท่านพิจารณาเป็นได้ทั้งสมถะและวิปัสสนาภาวนา เป็นการซ้อมตายและพร้อมที่จะตายอยู่เสมอ หากตายท่านก็ตายเป็นครั้งสุดท้าย ไม่ขอเกิดอีก เป้าหมายของท่านมีจุดคือ พระนิพพาน มีมรณานุสติและอุปสมานุสติเป็นอารมณ์

๖. “การที่พระตัดกังวลเรื่องปัจจัย ๔ ได้มาก ก็เท่ากับตัดสักกายทิฐิได้มากไปในตัว การปฏิบัติเพื่อนำไปสู่พระนิพพาน คือ ศีล-สมาธิ-ปัญญาก็เจริญได้มากขึ้น ศีลพระเป็นศีลปาติโมกข์ต้องครบ ๒๒๗ ข้อ พร้อมอภิสมาจารอีกต่างหาก ศีลพระจึงละเอียดกว่าฆราวาสมากมายนักในข้อนี้”

๗. “ศีลละเอียดดีแค่ไหน บริสุทธิ์แค่ไหน มีผลทำให้จิตบริสุทธิ์แค่นั้น หรือมีสมาธิจิตตั้งมั่นแค่นั้น การกำหนดรู้อารมณ์ของจิตก็ทำได้ดีขึ้นตามลำดับ จิตในจิตจึงเจริญมหาสติปัฏฐาน ๔ ได้ก้าวหน้าเร็วกว่าฆราวาสมาก เพราะพิจารณากาย-เวทนา-จิต-ธรรมอยู่เกือบตลอดเวลา จุดนี้พระก็เหนือกว่าฆราวาสมาก”

๘. “ปัญญาอันเกิดจากสมาธิที่ตั้งมั่นอยู่บนศีลอันบริสุทธิ์นั้น คุมมโนกรรมหรือปาจิตตีย์อยู่เสมอ จนจิตเป็นอัตโนมัติ เพราะมีเทวธรรมหรือหิริ-โอตตัปปะคุมจิตอยู่ พรหมวิหาร ๔ ของพระจึงแน่นและทรงตัวได้ดีกว่าฆราวาสมาก

๙. “เมื่อหิริ-โอตตัปปะดี พรหมวิหาร ๔ ดี ก็มีผลมาคุมศีล-สมาธิ-ปัญญา ให้ทรงตัวและต่อเนื่อง บารมี ๑๐ ก็เข็มแข็ง จรณะ ๑๕ ก็ทรงตัว การเจริญก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมก็เร็วกว่าฆราวาสมาก" (ท่านเน้นเฉพาะพระที่ดีเท่านั้น)

๑๐. “อีกจุดหนึ่งคือปัญหาครอบครัว เรื่องลูก-เมีย เรื่องการทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวเป็นมหาทุกข์ของฆราวาส แต่ส่วนใหญ่ไม่เห็น บางรายที่เห็นทุกข์ ทำให้พ้นทุกข์ไปไม่ได้และบางรายหาที่พึ่งไม่ถูก ไปยึดกีฬา-พาชี-นารีและน้ำเมาแทน เลยยิ่งจมอยู่กับทุกข์มากขึ้นตามลำดับ ขอสรุปว่า ทุกข์นั้นมีอยู่ แต่คนที่เห็นทุกข์ได้ตามความเป็นจริงนั้นมีน้อยเต็มที เมื่อไม่เห็นทุกข์ก็ไม่เห็นธรรม (อริยสัจ) จึงหาทางพ้นทุกข์ไม่ได้

หมายเหตุ ให้อ่านเรื่อง โลกนี้ทั้งโลก เป็นเรื่องของคนมีความทุกข์ หรือคนไม่มีทุกข์ไม่มีในโลกประกอบด้วยจะทำให้เกิดปัญญาดีขึ้น

ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่มที่ ๘
รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-09-2011 เมื่อ 09:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 52 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 09:56



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว