กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ในวาระสำคัญต่าง ๆ

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 26-01-2020, 07:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่ได้แนะนำแก่พวกเราในวันนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการนำใช้ในการประพฤติปฏิบัติของพวกเราต่อไป โดยเฉพาะในส่วนของกลุ่มสมาธิจุฬาฯ ของเรา ตั้งมาจนถึง ๑๐ ปีแล้ว ถ้าหากว่าตั้งใจปฏิบัติจริง ๆ ระยะเวลาแค่ปีสองปี อาตมามั่นใจว่าเห็นหน้าเห็นหลังแล้ว

พระพุทธเจ้ากล่าวเอาไว้ชัดเจนแล้วว่า ถ้าทำดีทำถูก
ก็บรรลุได้ในวันหนึ่ง สองวัน สามวัน ห้าวัน เจ็ดวัน หนึ่งเดือน สองเดือน สามเดือน ครึ่งปี หนึ่งปี สองปี สามปี แย่ที่สุดเจ็ดปี ของพวกเราน่าจะเกินมากแล้วนะ...ไม่เป็นไร เราเป็นที่สุดของที่สุด ถือว่าเป็นความภูมิใจอย่างหนึ่ง ฉะนั้น...ถ้าทำดีทำถูก รักษาอารมณ์ตัวเองเป็น ป่านนี้เห็นหน้าเห็นหลังกันไปนานแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-01-2020 เมื่อ 08:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 49 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 26-01-2020, 08:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อาตมาเองกล่าวมา แนะนำแนวทางที่เคยประพฤติปฏิบัติมา ในฐานะผู้ที่ผ่านทางมาก่อน ก็บอกเล่าพวกเราแต่เพียงเท่านี้ ถ้าจะเอามากกว่านี้ จะกลายเป็นว่ากินอาหารมาก แล้วอืด ย่อยไม่หมด เอาเป็นว่า ใครเคยปฏิบัติอะไรมา มีข้อข้องขัดตรงไหน ให้สอบถาม ให้ระยะเวลาประมาณ ๒๐ นาที ใครมีข้อข้องใจอะไร สอบถามได้ จะได้ช่วยแก้ไขให้ตรงนี้ แต่ว่าอย่านอกลู่นอกทางมาก ถ้าหากว่านอกลู่นอกทางมาก บางทีอาตมาไม่ค่อยอยากจะไปด้วย

อาตมาชอบบรรยายให้คนไทยฟัง เข้าใจก็เงียบ ไม่เข้าใจก็เงียบ น่ารักมาก ไปอธิบายให้ฝรั่งฟัง แค่ทุกข์คำเดียวนี่เล่นเอาปางตายเลย เขาถามอยู่ครึ่งวัน

เรื่องของการปฏิบัติธรรม เหมือนกับกินอาหาร ฟังธรรมไปมาก ๆ ก็เหมือนอย่างกับกินอาหารไปมาก ถ้าย่อยไม่ออกนี่ท้องอืดไปนาน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-01-2020 เมื่อ 08:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 49 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 26-01-2020, 08:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สอบถามการภาวนาพระคาถาเงินล้าน ควรจะวางจิตกับคำสวดและลมหายใจอย่างไรคะ ?
ตอบ : เรื่องของคาถา ก็คือคำภาวนาอย่างหนึ่ง ถ้าเป็นพระคาถาเงินล้านก็เป็นคำภาวนาที่ยาวหน่อย อย่าไปล็อกตายตัวว่าเราต้องภาวนาตรงนี้หายใจเข้า เราต้องภาวนาตรงนี้หายใจออก ให้คาถาทั้งหมด ไหลตามลมหายใจเข้าไป ไหลตามลมหายใจออกมา ถ้าหากว่าไปล็อกว่าคำนี้จะหายใจเข้า คำนี้จะหายใจออก เราจะเหนื่อยมาก ให้ปล่อยยาวตลอดไปเลย เข้าจนสุด ออกจนสุด จะจบลงตรงไหนไม่ต้องไปสนใจ ตามดูตามรู้ลมหายใจพร้อมกับคำภาวนาก็พอ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-01-2020 เมื่อ 08:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 48 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 26-01-2020, 08:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ขอความเมตตาหลวงพ่อชี้แนะแนวทางการปฏิบัติธรรมของเพศที่ ๓ ครับ
ตอบ: เหมือนกันทุกอย่าง เพศที่ ๓ ในโลกนี้ไม่มีหรอก มีแค่ ๒ เพศเท่านั้น เพียงแต่ว่าในเรื่องของการสร้างบารมี ต่ำสุดคือสัตว์นรก สูงขึ้นมาเป็นเปรต สูงขึ้นมาเป็นอสุรกาย สูงขึ้นมาเป็นสัตว์เดรัจฉาน ถัดจากนั้นถึงเป็นคน แล้วถัดจากนั้นขึ้นไปก็เป็นเทวดานางฟ้า เป็นพรหม ตลอดจนกระทั่งถึงพระนิพพาน นับรวมแล้ว ๓๑ ภพภูมิ บวกกับพระนิพพานอีกหนึ่ง

สิ่งที่อาตมาพูดจะเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ต้องมาเรียกร้องสิทธิสตรี คือ ผู้หญิงส่วนใหญ่แล้วสร้างบารมีมาน้อยกว่าผู้ชาย ยกเว้นประเภทที่เป็นพระโพธิสัตว์หรือว่าเนื้อคู่ของพระโพธิสัตว์ ต่อให้สร้างบารมีมามากกว่าผู้ชาย ก็ยังเกิดเป็นผู้หญิงอยู่ดี

ฉะนั้น การสร้างบารมีเมื่อเข้มข้นขึ้นไปเรื่อย ๆ ใกล้ความเป็นผู้ชายไปเรื่อย อาการของผู้ชายแสดงออก เราก็ไปเรียกเขาว่าทอม คราวนี้พอเปลี่ยนจากหญิงมาเป็นชายมาใหม่ ๆ ยังติดอาการของผู้หญิงอยู่ เราก็ไปตีหน้าตราหน้าเขาว่าเป็นตุ๊ด เป็นแต๋วอะไรให้ยุ่งไปหมด แต่ความจริงแล้วหลักการสร้างบารมีนั้นก็เป็นไปตามนี้ ก็คือจากผู้หญิงมาเป็นผู้ชายใหม่ ๆ ก็ยังมีจริตนิสัยของผู้หญิงอยู่

เรื่องของการปฏิบัติธรรมเขาไม่นับผู้หญิงผู้ชาย ไม่นับเพศ ใครก็สามารถทำได้ ในเรื่องของ ทาน ศีล ภาวนา เหมือนกันทั้งหมด ถ้าเรามีความเข้าใจในยถากัมมุตาญาณ ก็คือความเป็นไปของกรรม เราจะไม่ตำหนิใคร โดยเฉพาะอาตมาเอง ชอบใจบุคคลประเภทนี้มาก เพราะว่าเขามีความละเอียดของผู้หญิง และมีความแข็งแรงของร่างกายเหมือนผู้ชาย ทำงานเก่งมาก ฉะนั้น...ไม่ต้องเสียเวลาในการหาหลักธรรมในการปฏิบัติ ศีล สมาธิ ปัญญา ก็เหมือนกันนั่นแหละ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นายกระรอก : 28-01-2020 เมื่อ 11:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 50 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 26-01-2020, 08:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ระหว่างนั่งสมาธิหลังจากจิตสงบแล้ว ต้องพิจารณาอะไรต่อหรือไม่คะ ?
ตอบ : อะไรก็ได้ที่ทำให้เรารู้เห็นความเป็นจริงว่า ร่างกายนี้ก็ดี โลกนี้ก็ดี มีความไม่เที่ยง คือเปลี่ยนแปลงแปรปรวนอยู่เสมอ ประกอบไปด้วยความทุกข์ คือต้องทนอยู่ และท้ายที่สุด ไม่มีอะไรยึดถือมั่นหมายเป็นตัวตนได้ ที่เรียกว่าอนัตตา เพราะว่า เสื่อม สลาย พัง คืนโลกไปตามเดิม

มองให้เห็นจริง ๆ มองไปข้างหน้า เห็นเด็กเล็ก เห็นคนโต เห็นคนวัยกลางคน เห็นคนแก่ ให้มีความรู้สึกอยู่เสมอว่าธรรมดาของโลกเป็นเช่นนี้ ให้ใจเรายอมรับจริง ๆ ว่าเป็นอย่างนี้ ไม่ใช่ยอมรับเพราะรู้ว่าถ้าคำตอบนี้แล้วจะถูก ก็คือใจเราต้องยอมรับโดยไม่คัดค้าน ใหม่ ๆ มักจะคัดค้านเสมอ เพราะว่ากิเลสมีอำนาจแรงกว่า เพราะฉะนั้น..ให้พิจารณาในเรื่องของ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ให้เห็นว่าร่างกายนี้ โลกนี้ตกอยู่ภายใต้สามัญลักษณะทั้ง ๓ ประการนี้ ถ้าใจยอมรับก็เพียงพอแล้ว

แต่ถ้าต้องการมากกว่านั้น พิจารณาตามในวิปัสสนาญาณ ๙ อย่างก็ได้ อย่างเช่นว่าเห็นการเกิดการดับเป็นปกติ จนท้ายสุดก็เบื่อหน่าย เพราะเกิด ๆ ตาย ๆ มานับชาติไม่ถ้วน เห็นเฉพาะการดับ ก็คือตายหมด พังหมด ไม่มีอะไรเหลือ เห็นว่าเป็นทุกข์เป็นภัย เบียดเบียนเราอยู่ตลอดเวลา เดี๋๋ยวเจ็บเดี๋ยวป่วย เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว เดี๋ยวหิวเดี๋ยวกระหาย จนกระทั่งท้ายสุด มองเห็นความเป็นจริงทุกอย่างแล้วยอมรับว่า ธรรมดาเป็นอย่างนี้ จิตใจก็จะปล่อยวาง สักแต่ว่ารู้เห็น สักแต่ว่าเป็นไป กระทำในสิ่งที่ดี เพราะคนสรรเสริญว่าดี ละเว้นในสิ่งที่ชั่ว เพราะคนเห็นว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านั้นไม่ดี ไม่เกาะแล้วทั้งดีทั้งชั่ว ท้ายสุดก็จะหลุดพ้นได้เอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-01-2020 เมื่อ 08:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 45 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 26-01-2020, 08:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หากต้องการให้บิดามารดาที่ป่วยหนักหาย หรือบรรเทาอาการ เราควรจะปฏิบัติอย่างไร ต้องทำบุญหรือบวช ยกบุญให้อย่างไรดีครับ ?
ตอบ : ไปหาหมอสิครับ..! ถ้าอย่างอื่นนอกเหตุเหนือผล เราไปทำประกอบทีหลัง การเจ็บไข้ได้ป่วย ส่วนใหญ่เกิดจากกรรมปาณาติบาต คือฆ่าคนฆ่าสัตว์มาก่อน ถ้ายิ่งฆ่าสัตว์ใหญ่นี่ต้องใช้กำลังใจมาก หรือฆ่าคนกรรมก็จะยิ่งหนัก ฉะนั้น...ถ้าไปหาหมอแล้วอาการทุเลาขึ้น ก็พาท่านไปปล่อยชีวิตสัตว์บ้าง แต่ต้องเป็นสัตว์ที่เขาขายเพื่อให้เป็นอาหาร เขาต้องฆ่าแน่นอน จะปล่อยปลา ปล่อยไก่ หรือว่าท้ายที่สุดถ้าหากว่ามีเงินมาก จะปล่อยสัตว์สี่เท้าอย่างพวก แพะ แกะ วัว ควาย อะไรก็ได้ แล้วอุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวร

ในเมื่อเราเอาชีวิตเขามาในอดีต ปัจจุบันนี้ต้องรับกรรมนั้น เราก็ชดเชยคืนไปด้วยชีวิต แต่ว่าต้องทำบ่อย ๆ เพราะว่าเรื่องของเจ้ากรรมนายเวร เขาไม่ค่อยยอมอภัยเราง่าย ๆ ถ้าทำบ่อย ๆ ถึงเวลาเขาใจอ่อนให้อภัย การเจ็บไข้ได้ป่วยก็จะบรรเทา อาการป่วยห่างออกไป แต่ที่แน่ ๆ รีบไปหาหมอก่อน อย่าเพิ่งไปหาหมอผี ถ้าขืนไปหาหมอผีก่อน เดี๋ยวจะเป็นผีเร็วขึ้น..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-01-2020 เมื่อ 08:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 48 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 26-01-2020, 08:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เมื่อปฏิบัติไปแล้ว พบครูบาอาจารย์มาแนะนำในนิมิต จะมีเกณฑ์พิจารณาอย่างไรว่าเป็นจริง ไม่ใช่อุปาทานคิดไปเองคะ ?
ตอบ: ต้องศึกษาพระไตรปิฎกควบคู่ไปด้วย ถ้ารู้สึกว่าพระไตรปิฏกมีมากเกิน ก็เอาวิสุทธิมรรค ถ้ารู้สึกว่าวิสุทธิมรรคยังมากเกินไป อาตมาแนะนำหนังสือคู่มือปฏิบัติกรรมฐานของหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านสรุปวิสุทธิมรรค ๓ เล่มใหญ่ ๆ ลงมาเหลือเป็นตำราบาง ๆ เล่มเดียว ดูตามนั้น ถ้าสิ่งที่บอกมา ไม่นอกเหนือจากนั้นก็ถือว่าเป็นของจริง ถ้าหลุดไปจากนั้นเมื่อไร ก็แปลว่าของปลอม

แต่มีปัญหาเหมือนกัน เพราะว่าบางทีในส่วนของกิเลสมารเขาฉลาดมาก อาตมามีรุ่นน้อง ปฏิบัติธรรมด้วยการเดินจงกรมภาวนา ไม่กินไม่นอนตลอด ๒ เดือน ไม่รู้อยู่ได้อย่างไร ? แสดงว่ากำลังสมาธิสูงมาก ไม่อย่างนั้นคงตายไปแล้ว กระทั่งท้ายสุดร่างกายทนไม่ไหวก็เพี้ยน ต้องเอาเข้าโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา

อาตมาไปค้นห้องดู เห็นมีบันทึกการปฏิบัติเป็นระยะ ๆ มา ปรากฎว่าหน้าสุดท้ายเขียนว่า "วันนี้มีพระมาบอกว่า มรรคผลมาถึงแล้ว ให้เร่งการปฏิบัติให้มากไว้ นักปฏิบัติที่ดีต้องกินน้อย นอนน้อย พูดน้อย ภาวนาให้มาก ยิ่งเร่งรัดมากเท่าไร ยิ่งได้ผลมากเท่านั้น" ใช่ไหมที่ว่ามา ? ถ้าปัญญาไม่พอนี่ใช่ทั้งหมดเลย ไปเพี้ยนเอาประโยคสุดท้าย "ยิ่งเร่งรัดมากเท่าไร ยิ่งได้ผลมากเท่านั้น" เขาบอกความจริงเราเกิน ๘๐ เปอร์เซนต์ ซ่อนเอาไว้นิดเดียว ถ้าปัญญาไม่พอก็โดนเหมือนกัน เพราะฉะนั้น...ต่อให้เรามั่นใจในตำรา มั่นใจว่าสิ่งที่รู้มาว่าไม่ผิดเพี้ยนไปจากพระไตรปิฎก ก็ยังต้องระวังจุดนี้ไว้ด้วย

อาตมาเองเคยสอบถามพี่ ๆ น้อง ๆ ที่ปฏิบัติธรรมอยู่ด้วยกัน ท้ายสุดของการปฏิบัติธรรม ทุกคนเหลือคำเดียวว่า "กูไม่เชื่อ" ถ้าการปฏิบัติของเรามุ่งหวังมรรคผล เขาจะพยายามหลอกให้เราหลงทางเสมอ ฉะนั้น...ทุกคนสามารถใช้คาถานี้ประจำใจไว้ได้ กูไม่เชื่อ I don't believe you.
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-01-2020 เมื่อ 08:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #28  
เก่า 26-01-2020, 08:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ในฐานะนักศึกษาที่มีหน้าที่หลักในการอ่านหนังสือศึกษาตำราอย่างหนัก ในช่วงเวลากลางวันตั้งแต่เช้าถึงหัวค่ำ จะต้องทำอย่างไรที่จะทำให้มีสติรู้ตัวอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้การปฏิบัติก้าวหน้า มีอารมณ์ทรงตัวดี มีสติรู้พร้อมตลอดเวลาที่จำเป็นต้องทำหน้าที่ทางโลกคะ ?
ตอบ : ใช้ตำราเป็นคำภาวนา อ่านตำรานั่นแหละ แต่อ่านควบกับลมหายใจเข้าออกไปด้วย พอถึงเวลาท่องตำราไป ก็นึกถึงลมหายใจเข้าออกไปด้วย "ทรัพยากรในโลกนี้มีจำกัด แต่ความต้องการของมนุษย์ไม่มีที่สิ้นสุด เราจึงต้องมาศึกษาวิชาเศรษฐศาสตร์ เพื่อแบ่งปันทรัพยากรที่มีน้อยนิดนี้ ให้เพียงพอต่อมนุษย์ทุกรูปทุกนาม ฯลฯ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-01-2020 เมื่อ 08:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 47 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #29  
เก่า 26-01-2020, 08:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ขอกราบเรียนถามวิธีการปฏิบัติสู่การเป็นพระโสดาบันครับ
ตอบ : การปฏิบัติธรรมเพื่อความเป็นพระโสดาบัน มีหลักใหญ่ ๆ อยู่ ๕ ข้อ
ข้อที่ ๑ เคารพพระพุทธเจ้าจริง ๆ
ข้อที่ ๒ เคารพพระธรรมจริง ๆ
ข้อที่ ๓ เคารพพระสงฆ์จริง ๆ คำว่า เคารพจริง ๆ ก็คือไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจาด้วยใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง
ข้อที่ ๔ รักษาศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ตามฐานะของตน
ฆราวาสศีล ๕ อุบาสกอุบาสิกา ศีล ๘ สามเณร ศีล ๑๐ พระภิกษุสงฆ์ ศีล ๒๒๗ ภิกษุณีสงฆ์ ศีล ๓๑๑
ข้อสุดท้าย มีความรู้สึกตัวอยู่เสมอว่าเราจะต้องตาย ถ้าตายเราขอไปพระนิพพานแห่งเดียว

คราวนี้ถ้ารู้สึกว่า ๕ ข้อมากไป อาตมาลดราคาให้ ต่อรองกันได้ รวบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นหนึ่งเดียว ก็คือเคารพคุณพระรัตนตรัยจริง ๆ ตั้งใจรักษาศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ท้ายสุดมีความรู้ตัวอยู่เสมอว่าเราจะต้องตาย ตายแล้วขอไปพระนิพพาน ถ้าสามข้อยังมาก ลดเหลือข้อเดียวก็ได้ คือเรารักษาศีล เพราะเราเคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เรารักษาศีล เพราะเราจะไปพระนิพพาน

คราวนี้การที่เรารักษาศีล รู้ได้อย่างไรว่าบริสุทธิ์บริบูรณ์ ? ก็คือเราไม่ละเมิดศีลด้วยตัวเอง ไม่ยุยงส่งเสริมผู้อื่นให้ละเมิดศีล ไม่ยินดีเมื่อผู้อื่นละเมิดศีล อย่างเช่นว่าเราไม่ฆ่าสัตว์ด้วยตัวเอง เห็นมดมา กัดฟันไว้ ไม่ทำอันตราย แต่บางท่านก็เรียกลูกเรียกหลานเรียกคนใช้ เอายามาฉีดหน่อย อันนี้ถือว่ายุยงส่งเสริมผู้อื่นละเมิดศีล อุตส่าห์ห้ามปากห้ามคำห้ามใจตัวเอง ไม่เรียกคนอื่นเขามาทำ

คนใช้มองเห็นมดเดินเป็นทาง คว้ายามาฉีด เออ...มันน่าทำนานแล้ว อันนี้ยินดีในขณะที่ผู้อื่นละเมิดศีล ถ้าสามารถทำได้จนไม่ละเมิดด้วยตนเอง ไม่ยุคนอื่นทำ ไม่ยินดีเมื่อคนอื่นทำ ก็มั่นใจได้ว่าความเป็นพระโสดาบันอยู่ใกล้แค่นิดเดียว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-01-2020 เมื่อ 09:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #30  
เก่า 26-01-2020, 08:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าอยากประสบความสำเร็จต้องทำอย่างไรคะ ?
ตอบ : การจะประสบความสำเร็จ ใช้หลักธรรมของพระพุทธเจ้า ไม่ว่าจะทางโลกหรือทางธรรมก็ตาม เรียกว่าอิทธิบาท ๔ รู้จักทุกคน แต่บางทีก็ไขว่คว้าเลยหัวไป

จะประสบความสำเร็จในเรื่องไหน เราต้องยินดีพอใจที่จะกระทำเรื่องนั้นจริง ๆ เขาเรียกว่า ฉันทะ แล้วก็วิริยะ ทุ่มเทพากเพียรทำสิ่งทั้งหลายเหล่านั้นไป จิตตะ กำลังใจจดจ่อมุ่งมั่นอยู่ต่อเป้าหมาย ไม่เปลี่ยนแปลงจนกว่าจะสำเร็จ วิมังสา ไตร่ตรองทบทวนอยู่เสมอ ว่าสิ่งที่เราทำตรงต่อเป้าหมายหรือไม่ ห่างไกลต่อความสำเร็จเท่าไร ต้องใช้ความพยายามและทรัพยากรอีกเท่าไร

อย่างที่บางท่านแต่งเอาไว้ ฟังง่าย ๆ ท่านว่า
พอใจ......พอใจ......ใฝ่ความรู้
เพียรอยู่...เพียรอยู่....ไม่ท้อถอย
จดจ่อ......จดจ่อ......เฝ้ารอคอย
ทวนบ่อย...ทวนบ่อย....กันหลงลืม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-01-2020 เมื่อ 09:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 44 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #31  
เก่า 26-01-2020, 08:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีญาติเป็นออทิสติก เขาชอบฆ่าสัตว์ เราบอกเขาว่าอย่าทำ แต่ด้วยโรคของเขา เขาอาจไม่เข้าใจ ต้องทำอย่างไรครับ ?
ตอบ : พยายามอย่าเปิดโอกาสให้เขา ถ้าเป็นไปได้ก็เชิญสัตว์บริเวณนั้นออกไปให้หมด ในเมื่อเขาชอบทำอย่างนั้น เราก็อย่าเปิดโอกาสให้เขาก็จบแล้ว


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
บรรยายธรรมที่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วันพุธที่ ๒๒ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๓

(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-01-2020 เมื่อ 09:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 48 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:02



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว