กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 27-02-2019, 08:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,231 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันอาทิตย์ที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒

ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราเอาไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกของเราไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ ที่เรามีความถนัด มีความชำนาญมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๓ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๒ ในเรื่องของการปฏิบัติธรรมนั้น จะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องยาก เป็นเรื่องของบุคคลที่ต้องมีบารมีเข้มแข็ง ถึงระดับที่เรียกว่าปรมัตถบารมี คือสูงสุด เพราะว่าการปฏิบัติธรรมนั้น โบราณาจารย์ท่านเปรียบเอาไว้ว่า เหมือนกับการแลกด้วยชีวิต คือแม้จะต้องตายลงไป เพื่อให้เข้าถึงธรรมในส่วนที่ตนเองต้องการก็ยินดี

ดังนั้น...การที่ญาติโยมทั้งหลายพอประสบอุปสรรคนิดหน่อย เราก็รู้สึกท้อถอย หมดกำลังใจ ขอให้ดูด้วยว่า ตัวเราทั้งหลายนั้น ได้ปฏิบัติตามคำในขณะสมาทานกรรมฐานหรือไม่ ที่ว่าเราขอมอบกายถวายชีวิตต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าหากว่าบุคคลที่ตั้งใจมอบกายถวายชีวิตจริง ๆ ก็จะทุ่มเทให้กับการปฏิบัติชนิดหัวไม่วางหางไม่เว้น ไม่ได้ห่วงสิ่งต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นกับตนเอง ไม่ว่าจะยากลำบากแค่ไหน ก็ยอมทุ่มเทเพื่อความสำเร็จที่รออยู่ข้างหน้า

ถ้าหากว่าไม่รู้จะดูตัวอย่างใครก็ดูตัวอย่างสด ๆ ร้อน ๆ ก็คือท่านพระครูประโชติรัตนานุรักษ์ อดีตเจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดี อดีตเจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพ ทั้ง ๆ ที่ท่านรู้ว่าอยู่ตรงนั้นเสี่ยงต่อการเสียชีวิตมาก แต่ท่านก็ไม่ถอย ท่านรู้ตัวถึงขนาดระบุไว้ชัดว่า ตราบใดที่ยังไม่ตายก็จะไม่เลิกทำความดี นี่คือกำลังใจของบุคคลที่มอบกายถวายชีวิตต่อพระพุทธเจ้าจริง ๆ ภาษาบาลีกล่าวว่า “พุทธสาสเน อุรัง ทัตวา” ถวายอกไว้ในพระพุทธศาสนา คำว่าอกในที่นี้ก็คือชีวิตนั่นเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-02-2019 เมื่อ 11:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 27-02-2019, 08:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,231 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ก็แปลว่าปัญหาเพียงเล็กน้อยที่ท่านทั้งหลายได้เจอ ถ้าหากว่าเพิ่มความเพียร เพิ่มความอดทนเข้าไป เราก็สามารถฝ่าฟันผ่านพ้นไปได้ ดังที่ได้กล่าวอยู่เสมอว่า เรื่องของการปฏิบัตินั้น คำตอบอยู่ที่การกระทำของเรา ไม่จำเป็นต้องไปถามใครก็ได้ ถ้าตั้งใจทำจริง ๆ เดี๋ยวก็จะได้คำตอบเอง เป็นต้น

ดังนั้น...ในส่วนนี้ที่ท่านทั้งหลายทำ จึงเหมือนกับคนหยิบโหย่ง จับจด ไม่จริงจัง แต่หวังประโยชน์สูง ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะว่าสิ่งของที่มีคุณค่าสูง เราก็ต้องทุ่มเทให้สมกับคุณค่าทั้งหลายเหล่านั้น

ดังนั้น...ในเรื่องที่ท่านทั้งหลายพบเจอ ถือว่าเป็นเรื่องเพียงเล็กน้อย ถ้าหากว่าจะท้อถอยก็ต้องดูองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา พระองค์ท่านทรมานพระวรกายอยู่ ๖ ปีเต็ม ๆ ถึงขนาดลุกขึ้นก็เซล้ม สภาพร่างกายเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก มองไปส่วนไหนก็มีเส้นเอ็นสะพรั่งไปหมด

พระองค์ท่านตรัสว่า เอามือลูบนาภีคือท้อง ก็สัมผัสสันหลังได้ ก็แปลว่าแทบจะไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย เอามือลูบตัว เส้นขนก็หลุดร่วง เพราะว่าไม่มีอาหารหล่อเลี้ยง พระองค์ท่านทำถึงขนาดนั้นเพื่อให้ได้เข้าถึงธรรมในส่วนที่ต้องการ เมื่อรู้ว่าผิดทางถึงได้เปลี่ยนแปลง ลักษณะอย่างนั้นคือการปฏิบัติที่แลกด้วยชีวิตจริง ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-02-2019 เมื่อ 11:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 28-02-2019, 19:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,231 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังที่พระองค์ท่านได้อธิษฐานไว้ในวันตรัสรู้ว่า เมื่อเรานั่งบัลลังก์นี้แล้ว ถ้าเลือดเนื้อร่างกายนี้จะเหือดแห้งไป ชีวิตินทรีย์นี้จะสลายลงไปก็ตาม ถ้าไม่เข้าถึงธรรมส่วนที่จะพึงได้ พระองค์ท่านก็จะไม่ทำลายซึ่งบัลลังก์นี้ ก็คือจะไม่ลุกขึ้นนั่นเอง

เมื่อตั้งใจแลกกันด้วยชีวิต พระองค์ท่านถึงได้บรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ในวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ส่วนเราทั้งหลายทำจริงจังเท่าไร ? มีใครนั่งกรรมฐานต่อเนื่องสักครึ่งชั่วโมงหรือหนึ่งชั่วโมงได้บ้าง ? มีใครสามารถปฏิบัติต่อเนื่องสักครึ่งวันได้บ้าง ? มีใครปฏิบัติต่อเนื่องได้สักวันหนึ่งบ้าง ? ต่อให้เราทำได้ ก็ยังไม่ได้ส่วนเสี้ยวที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือว่าครูบาอาจารย์ท่านปฏิบัติมา

เพราะฉะนั้น...ความยากลำบากของเราแล้ว แทบจะไม่ได้หนึ่งในล้านที่พระองค์ท่านพบมา แล้วเราก็จะมาว่ายาก ลำบาก หมดกำลังใจ ถ้าอย่างนั้นท่านทั้งหลายก็ต้องมองดูว่า นรกยังรอเราอยู่ข้างหน้า ถ้าไม่สามารถเข้าถึงธรรมในส่วนที่ปรารถนาได้ กรรมเก่าที่เราสร้างไว้จำนวนมากมายมหาศาล ย่อมดึงเราลงสู่ทุคติ ซึ่งทุคติในที่นี้ก็คงไม่แคล้วอเวจีมหานรก กว่าจะผ่านพ้นขึ้นมาได้ บางทีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ไปแล้วหลายพระองค์

ในเมื่อนรกรออยู่ข้างหน้า เราเองจะก้าวเข้าไปหา หรือจะเร่งหนีเสียให้พ้น ก็อยู่ที่เราจะคิดพิจารณากันเอง แต่ขอให้รู้ว่าสิ่งที่เราท่านทั้งหลายทำในทุกวันนี้ ที่ไม่ประสบความสำเร็จนั้น คือเราทำขาด ทำไม่พอ เป็นบุคคลที่ท้อถอยง่าย หมดกำลังใจง่าย เราต้องทุ่มเทชนิดที่แลกกันด้วยชีวิต ถ้าไม่ได้ตามวัตถุประสงค์ของเรา ต่อให้ตายลงไปเราก็ต้องทำ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-03-2019 เมื่อ 03:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 20 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 28-02-2019, 19:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,231 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าสามารถตัดสินใจเช่นนี้ได้ ก็ไม่มีอะไรยากลำบากสำหรับเรา สิ่งใดที่มากีดขวาง ย่อมโดนทำลายไปด้วยกำลังใจที่เข้มแข็งมั่นคง ความสำเร็จย่อมรอเราอยู่ข้างหน้า ลองนึกถึงภาพเบื้องหน้าของเราไกลโพ้นว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ดี หลวงปู่หลวงพ่อของเราก็ดี พ่อแม่ครูบาอาจารย์ของเราก็ดี ท่านรออยู่ แม้ว่าหลักชัยนั้นจะไกล แต่ถ้าเราพากเพียรไม่ท้อถอย เราก็จะใกล้เป้าหมายเข้าไปทุกขณะ ถ้าสามารถก้าวถึงในชาตินี้ได้ ก็ถือว่าไม่เสียชาติที่เกิดมา ถ้าไม่สามารถที่จะก้าวถึงในชาตินี้ ก็ขอตัดชาติภพของเราให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะพึงทำได้

ดังนั้น...เป้าหมายที่อยู่เบื้องหน้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลวงปู่หลวงพ่อ พ่อแม่ ญาติพี่น้อง ครูบาอาจารย์ รอเราอยู่ เราต้องไม่ท้อถอย ต้องพากเพียร ให้สมกับที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ได้พบพระพุทธศาสนา ได้ฟังธรรมและน้อมนำมาปฏิบัติ เราจะต้องทำให้เกิดผล จนกระทั่งตัวเราเป็นตัวอย่างแก่บุคคลอื่นให้ได้

ลำดับต่อไปก็ขอให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันอาทิตย์ที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒

(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย นายกระรอก)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-03-2019 เมื่อ 03:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 21 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:21



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว