กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #221  
เก่า 05-12-2019, 22:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,189 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมจำเป็นต้องภาวนาจนจิตรวมไหมครับ ?
ตอบ : ถามว่าจำเป็นไหม ? ต้องดูคุณว่าต้องการแค่ไหน ? หากว่าต้องการมรรคผลก็ควรที่จะทำ เพราะว่าเป็นสิ่งที่ช่วยให้ใจเราห่างจาก รัก โลภ โกรธ หลง แล้วก็มีปัญญาในการพิจารณามากขึ้น แต่ถ้าคุณคิดแค่ว่าเอาแค่ ทาน ศีล ภาวนา เบื้องต้น เราก็อยู่ได้แล้ว จะไปเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ ก็ไม่มีใครเขาว่าอะไร

ฉะนั้น..สำคัญที่เราเอง เวลาใจของเราวุ่นวายมาก ๆ เราเครียดไหม ? เบื่อไหม ? แล้วตอนที่จิตของเรารวมเรามีความสุขแค่ไหน ? อยู่ที่เราเองว่าต้องการแค่ไหน ถามคนอื่นไม่ได้หรอก ถ้าเป็นอาตมานี่โกยได้เท่าไรก็เอาเท่านั้น


ถาม : กลัวทำไปแล้วจะ....?
ตอบ : ไม่ต้องกลัวหรอก อาตมาทำมาแล้ว ทำมาหลายสิบปี ตั้งแต่อายุ ๑๖ ปี อายุ ๑๖ นี่ทุ่มเทปฏิบัติอย่างมอบกายถวายชีวิตเลยนะ ทำจนคนรอบข้าง พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อนฝูง ครูอาจารย์ หาว่าบ้ากันหมด แต่คราวนี้อาตมารู้ว่าถ้าทำแล้วจะได้อะไร จึงไม่กลัวคำนินทา

ถาม : เหมือนกับเราไม่รับผิดชอบกับคนรอบข้าง ?
ตอบ : เรื่องของการมุ่งทางธรรมไม่ใช่ทิ้งทางโลก ไปด้วยกันได้ เพียงแต่ว่ากั้นขอบไว้หน่อยหนึ่ง คืออะไรที่นอกกรอบของศีลเราไม่ไปยุ่งด้วย ไม่ใช่ว่าถึงเวลาปฏิบัติธรรมแล้วทิ้งครอบครัว ทิ้งหน้าที่การงาน อันนั้นผิด ดูตัวอย่างพระโสดาบัน อย่างอนาถปิณฑิกเศรษฐี อย่างนางวิสาขามหาอุบาสิกา แต่ละคนรวยล้นฟ้าก็ยังมีครอบครัว ยังทำมาค้าขายเป็นปกติ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2019 เมื่อ 02:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 136 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #222  
เก่า 05-12-2019, 23:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,189 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “เวลาได้ยินว่าไปเที่ยวกับหลวงพ่อแล้วก็อยากจะไปกันนัก หารู้ไหมว่าหลวงพ่อจะไปตาย..! อย่าลืมว่าความตายอยู่กับเราทุกลมหายใจเข้าออก คราวนี้ถ้าใจของเราเกาะอยู่กับร่างกาย ก็ขึ้นอยู่กับเวรกรรมเก่าของเราแล้ว อย่างดีที่สุดก็เกิดเป็นคนใหม่ นอกจากนั้นก็มีแต่อบายภูมิรอเราอยู่ แต่ถ้ากำลังใจเราเกาะ ทาน ศีล ภาวนา ได้ ก็ยังมีเทวดา นางฟ้า มีพรหม มีพระนิพพานอยู่”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2019 เมื่อ 02:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 144 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #223  
เก่า 06-12-2019, 00:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,189 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "คนที่อายุมาก ๆ ถ้าร่างกายไม่แข็งแรง ต้องอาศัยพึ่งพาคนอื่น จะทำให้เกิดปฏิฆะ คือแรงกระทบทางใจได้ง่าย และก็เกิดโทสะ กระทบแล้วไม่ชอบใจ หงุดหงิด กลัดกลุ้ม ทำอะไรไม่ได้อย่างใจ บางคนก็บ่นลูกบ่นหลานไม่เลิก กลายเป็นคนปากร้าย ลูกหลานก็ยิ่งเบื่อเข้าไปใหญ่

อาตมาถึงได้บอกว่า ยอมเหนื่อยหอบออกกำลังเสียตั้งแต่ตอนนี้ จะได้ไม่ต้องเอาเงินที่หามาทั้งชีวิตไปให้หมอใช้"

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2019 เมื่อ 02:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 141 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #224  
เก่า 06-12-2019, 00:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,189 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าชาวต่างชาติต้องการเปลี่ยนมานับถือพระพุทธศาสนา ต้องแนะนำให้เขาไปแสดงตนเป็นพุทธมามกะไหมครับ ?
ตอบ : บอกเขาว่าลองปฏิบัติตามศีล ๕ ดู ถ้าไม่หนักใจค่อยไปแสดงตนเป็นพุทธมามกะ ขอศีลจากพระอย่างเป็นทางการอีกที ให้โอกาสเขาตัดสินใจ ไม่ใช่เห็นว่าเขาอยากถือศีลของเราแล้วต้องรีบคว้าเอาไว้

โดยเฉพาะบรรดาสาวอิสลามนั้นเชื่อไม่ได้ บอกว่าอยากศึกษาพุทธศาสนา แต่จริง ๆ แล้วก็คืออิสลามร้อยเปอร์เซ็นต์ ท้ายสุดพอแต่งงานขึ้นมาเราก็ต้องเปลี่ยนเป็นอิสลามตามเขาไป

พม่าออกกฎหมายห้ามคนพุทธแต่งงานกับศาสนาอื่น ถ้าแต่งงานกับศาสนาอื่น คู่สมรสคนนั้นต้องเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธด้วย ทันทีที่กฎหมายออกมา โดนประท้วงไปทั่วโลก โดยเฉพาะพวกมุสลิม ปรากฏว่าพม่าสวนกลับว่า ทำไมทีแต่งกับมุสลิมจึงต้องเปลี่ยนเป็นมุสลิมด้วย ? ก็เลยกลายเป็นอ้าปากไม่ขึ้น คุณจะมาเรียกร้องสิทธิมนุษยชน คุณจะมาบอกว่าพระลิดรอนสิทธิเสรีภาพคนอื่น ทำไมศาสนาอิสลามทำอย่างนั้นแล้วไม่โดน เจอรัฐบาลพม่าเล่นแบบนั้นเข้า คนประท้วงก็เลยเซ็ง

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2019 เมื่อ 02:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 139 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #225  
เก่า 06-12-2019, 09:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,189 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีโยมอุ้มเด็กมาถวายสังฆทานด้วย พระอาจารย์กล่าวว่า "ไอ้เจ้านี่โหวงเฮ้งเก็บเงินเก่งมาก เพิ่งจะเกิดก็มีเงินแล้ว ไปยัดเข้าบัญชีไว้ให้เขาเยอะเลย..ใช่ไหม ?

เรื่องของตําราโหงวเฮ้ง จะว่าไปแล้วก็คือบุญกรรมเก่าที่เราเคยทำมา เมื่อทำมาแล้วอย่างไรถึงเวลาก็ส่งผลให้เป็นอย่างนั้น พระพุทธเจ้าท่านถึงได้ตรัสว่า อุตุนิยาม ดินฟ้าอากาศทำให้เป็นไป อย่างเช่นว่าทางแอฟริการ้อนมากก็ผิวดำ ทางยุโรปหนาวมากก็ผิวขาว ทางเอเชียของเราครึ่งร้อนครึ่งหนาวก็ผิวเหลือง นี่คือเป็นไปตามสภาพดินฟ้าอากาศ

พีชนิยาม เป็นไปตามดีเอ็นเอ พีชะก็คือพืชพันธุ์ มาจากพ่อแม่ปู่ย่าตายาย ถ่ายทอดลักษณะมา จิตตนิยาม คือเป็นไปตามกำลังใจ ใจของเราเกาะความดีความชั่วอย่างไร ถ้าเจ้าโทสะก็ออกมาหน้าตาดูไม่ได้ ถ้ามีเมตตากรุณาก็ออกมาสวยงาม อันนี้คือจิตนิยาม"

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2019 เมื่อ 11:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 138 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #226  
เก่า 06-12-2019, 09:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,189 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"กรรมนิยาม คือการกระทำของเราทำให้เป็นไป อย่างเช่นว่าถ้าฆ่าสัตว์ก็อายุสั้น ถ้าหากมีใจเมตตาก็อายุยืนนาน อ่อนน้อมถ่อมตนเกิดในฐานะสูง ยโสโอหังเกิดในตระกูลต่ำ อันนี้เป็นกรรมนิยาม เป็นการกระทำของเราเอง

ท้ายสุดก็คือ ธรรมนิยาม ความเป็นธรรมชาติ ทำให้แปรปรวนไปได้ อย่างเช่นว่าพืชหรือสัตว์เกิดการผ่าเหล่า ถ้าเราดูกฎของเมนเดล หลักพันธุศาสตร์ของเมนเดลเขาบอกว่า ลักษณะเด่นจะปรากฏมา ๓ ลักษณะด้อยจะปรากฏมา ๑ บางอย่างเช่นเด็กเกิดมามีตัวติดกัน

พระพุทธเจ้าท่านรู้จริงที่สุด บอกไว้ครบทุกอย่าง แต่ส่วนใหญ่แล้วพวกเราศึกษากันไม่ค่อยจะครบ หรือไม่ค่อยจะศึกษากัน รออาจารย์ไปอ่านแล้วมาเล่าให้ฟัง เรื่องของเรื่องก็กลายเป็นรู้บ้างไม่รู้บ้าง แล้วก็ไม่รู้เสียมากกว่า"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2019 เมื่อ 11:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 131 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #227  
เก่า 06-12-2019, 09:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,189 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกลูกศิษย์ว่า ถ้าเป็นไปได้ให้อ่านพระไตรปิฎกปีละจบ อาตมาอ่านมาตลอดชีวิตจนถึงอายุ ๖๐ ปีแล้ว เพิ่งจะได้ ๗-๘ จบ ขยันสู้หลวงพ่อท่านไม่ได้ เพราะว่าช่วงท้าย ๆ คือพระอภิธรรมเข้าใจยากมาก พอเข้าใจยากก็วาง กว่าจะมีอารมณ์อ่านอีกก็ผ่านไปเป็นเดือน พอเริ่มอ่านใหม่ อ่านได้หน้าสองหน้าทำความเข้าใจยากก็วางอีก เลยกลายเป็นว่าหลวงพ่อท่านอ่านปีละจบ ส่วนหลวงลูก ๖๐ ปีเพิ่งจะอ่านได้ ๗-๘ จบ

เดี๋ยวนี้พระไตรปิฎกมีหลายฉบับมาก ถ้าจะให้ดีให้อ่านฉบับอรรถกถาของมหามกุฎราชวิทยาลัย ๙๑ เล่ม รายละเอียดจะมีเยอะ แต่เราจะรำคาญกับภาษาบาลีที่ปนมา แต่เป็นบาลีที่เขาแปลให้เลย เพียงแต่เป็นสำนวนเก่า ถ้าอ่านเล่มนั้นก็จะครบถ้วน หรือถ้าจะเอาเฉพาะเนื้อหาจริง ๆ ก็เอาพระไตรปิฎกฉบับแก่นธรรมของมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่มหนา ๆ ใหญ่ ๆ ประมาณ ๔ เล่มเท่านั้น

ฉบับของมหาจุฬาฯ เป็นพระไตรปิฎก ๔๕ เล่ม หน้าปกสีฟ้า บางทีเขาก็ไปเปลี่ยนชื่อจากที่เราคุ้นเคยกลายเป็นไม่คุ้นเคย อย่างอาตมาเปิดหาอปริหานิยธรรม หาไม่เจอ ต้องไปไล่เปิดทีละหน้าจนกระทั่งเจอ ซึ่งเขาใช้ชื่อว่า ปฐมสัตตกสูตร ก็คือสูตรที่ขึ้นด้วยหลักธรรม ๗ ข้อ สูตรแรก ไม่รู้เหมือนกันว่าพระไตรปิฎกเล่มเดียวกัน ทำไมเวลาแปลแล้วแปลไปคนละทิศละทางได้ขนาดนี้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 08-12-2019 เมื่อ 22:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 131 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #228  
เก่า 06-12-2019, 09:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,189 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"บางส่วนที่พวกเราเคยชิน แต่ถ้าไปเปิดหาอาจจะไม่เจอ ก็คือกาลามสูตร จริง ๆ แล้วชื่อนี้ในพระไตรปิฎกไม่มี ที่เราเรียกว่ากาลามสูตรในพระไตรปิฎกเรียกว่า เกสปุตตสูตร แสดงแก่ชาวกาลามะ พวกเราเลยเรียกว่ากาลามสูตร ท่านบอกว่า อย่าเชื่อโดยเขาเล่าสืบ ๆ กันมา อย่าเชื่อเพราะมีบันทึกไว้ในตำรา ไล่ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่ง อย่าเชื่อเพราะสมณะนี้เป็นครูของเรา ถามว่าแล้วจะเชื่ออะไร ? ก็ต้องพิสูจน์ก่อนว่าเป็นจริงตามนั้นไหม พิสูจน์แล้วว่าจริงแล้วค่อยเชื่อ

มา ภพฺพรูปตาย อย่าเชื่อเพราะมีลักษณะน่าเชื่อถือ อาจจะเป็นการไลฟ์สดเพื่อแหกตากันแบบแม่มณีก็ได้ ดูแล้วลักษณะน่าเชื่อถือ มีกระทั่งร้านทอง มีรถยนต์ราคาแพงอีกหลายคัน ที่ไหนได้..ตั้งใจแหกตาชาวบ้านล้วน ๆ

มา ตกฺกเหตุ ไตร่ตรองแล้วเป็นไปตามตรรกะก็เชื่อไม่ได้ อาตมาเคยบอกแล้วว่าบางอย่างเขาหลอกกัน เราเห็นว่าเขาไล่ฆ่าไล่ฟันกันมา เราก็ลากมีดลากปืนไปช่วยเขา เขาจะฆ่าเราตายแทน เพราะว่าเขากำลังถ่ายหนังกันอยู่ เราเห็นเขาไล่ฆ่าฟันกันจริงไหม ? ก็จริง แล้วเรื่องที่เราเห็นจริงไหม ? ไม่จริง..เพราะว่าเขากำลังแสดงหนังกันอยู่

มา ปิฏกสมฺปทาเนน อย่าเชื่อเพราะมีอยู่ในตำรา เพราะว่าบางทีตำราก็เขียนผิด ปัจจุบันนี้ตำราที่เขียนผิดชัด ๆ เลยที่อาตมาเจออยู่ ก็คือการปฏิบัติกรรมฐานสายพองยุบ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2019 เมื่อ 11:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 125 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #229  
เก่า 07-12-2019, 00:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,189 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “รุ่นพวกเรามีหลายคนที่ทันหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ แต่ไม่ได้รู้จักหรือไม่ได้ยินชื่อเสียงเกียรติคุณของท่าน อาตมาเองตั้งแต่เด็ก ๆ เลย น้องชายพี่ชายนี่ตะเกียกตะกายหาหลวงปู่ทิมกัน ตอนนั้นพระสองอย่างที่ต้องมีให้ได้ก็คือพระปิดตาหลวงปู่โต๊ะกับพระกริ่งชินบัญชรหลวงปู่ทิม ปรากฏว่าระยะหลังนี้พระกริ่งชินบัญชรหลวงปู่ทิมองค์ละล้านสองล้าน..ตาย สมัยโน้น ๕๐๐ บาทยังบ่นว่าแพงมาก ...(หัวเราะ)...

หลวงปู่ทิม หลวงปู่โต๊ะ เป็นพระที่เขาใช้คำว่า รุ่นหลัง ๒๕๐๐ ก็คือท่านอยู่มาจนถึงหลัง พ.ศ. ๒๕๐๐ แล้วถึงมรณภาพ เป็นพระรุ่นหลัง ๒๕๐๐ ที่พระขึ้นราคาแพงเป็นพิเศษ เพียงแต่ว่าหลวงปู่โต๊ะท่านสร้างมาก ราคาก็เลยยังอยู่ระดับหมื่นกลาง ๆ แสนต้น ๆ ส่วนหลวงปู่ทิมนี่ของท่านสร้างน้อย แต่ละชิ้นไปหลายแสนหลายล้านแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-12-2019 เมื่อ 03:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 130 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #230  
เก่า 07-12-2019, 00:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,189 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"วันก่อนถามท่านอาจารย์วิสุทธิ์ ซึ่งเป็นอาจารย์ของอาตมาเองว่า “ท่านอาจารย์เคยเห็นพระขรรค์หลวงปู่ทิมไหม ?” ท่านบอกว่า “นั่นของในตำนานเลยนะ ในชีวิตผมยังไม่ได้เห็นเลย” เลยบอกท่านไปว่า “ท่านอาจารย์ไม่ได้เห็น แต่ผมมี ๒ เล่มเลย” ...(หัวเราะ)...

บางอย่างท่านสร้างน้อย อย่างพระขรรค์ทำจากไม้ดำดง ท่านต้องขี่เกวียนไปเอาที่ป่าประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี ยุคนั้นไปกลับตั้ง ๒ เดือน นั่งเกวียนค่อย ๆ รอนแรมกันไป เพราะว่ามีต้นไม้ที่ตายพราย ก็คือยืนตายไม่ยอมล้ม ท่านก็ไปเอามาทำเป็นพระขรรค์ ทำเป็นกริช แล้วหลวงปู่ท่านสร้างวัตถุมงคลประณีตมาก..จารทั้งเล่มเลย อาตมาส่งลูกศิษย์ไปเป็นเจ้าอาวาส ก็ให้ท่านไปเป็นของคู่ตัว บอกว่าเลือกเอาเลย ใครยอมสละเป็นเจ้าอาวาสก็รับไป พวกที่ไม่ยอมเป็นเจ้าอาวาสก็นั่งน้ำลายไหลจ๊อก..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-12-2019 เมื่อ 03:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 132 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #231  
เก่า 07-12-2019, 00:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,189 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"หลวงปู่ทิมส่วนใหญ่พวกเราอยากได้ลูกอมผงพรายกุมาร หารู้ไม่ว่า ถ้าลูกศิษย์หลวงปู่ทิมขนานแท้เขาหานางพรายปิดตากัน ทำจากผงเดียวกันนั่นแหละ ทำเป็นรูปผู้หญิงปิดตา สององค์ที่เอามาออกให้บูชานี้ส่งประกวดได้รางวัลทั้งคู่ งานเดียวกันด้วยนะ จำได้ว่ารางวัลที่ ๒ กับรางวัลที่ ๓ แต่เดี๋ยวนี้ส่งประกวดพระต้องระวังนิดหนึ่ง เพราะว่าเจอเซียนบางคนจ้องไปเอาของเราเลย พอถึงเวลาส่งของเราเข้าไป..หาย แล้วหยิบเอาของเทียมมาวางไว้แทน ก่อนจะส่งนี่ต้องถ่ายรูปไว้ทุกซอกทุกมุม จะได้ดูหลักฐานกันได้

ส่งประกวดพระเดี๋ยวนี้ประมาณองค์ละ ๓๐๐ บาท สมมติว่าในงานมีส่งประกวดสักพันองค์ก็ได้ ๓ แสนบาท แต่ส่วนใหญ่แล้วงานประกวดหลายงานได้เยอะกว่านั้น อย่างงานของตำรวจภาค ๗ ที่จัดที่ผ่านมานั้น ได้ไปตั้ง ๒๐ กว่าล้านบาท เพราะว่าคณะกรรมการเป็นที่เชื่อถือ ผ่านมือผ่านตามานี่แท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แล้วบางคนที่ส่งพระไปประกวดนี่ไม่ได้ต้องการอะไรหรอก ต้องการให้กรรมการช่วยดูว่าแท้หรือเปล่า เพราะว่าถ้าไม่แท้เขาจะส่งคืนเลย”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-12-2019 เมื่อ 03:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 131 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #232  
เก่า 07-12-2019, 00:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,189 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “พระปิดตานี่โบราณเขาถือว่าหาทรัพย์ เอามาจากพระควัมปติที่ท่านเข้านิโรธสมาบัติอยู่ตลอดเวลา ทำให้มีลาภมาก คราวนี้การเข้านิโรธสมาบัติก็เหมือนกับปิดหู ปิดตา ปิดปาก ปิดจมูก เขาก็เลยทำเป็นรูปพระปิดตา หรือที่เรียกว่าพระควัมปติ จึงเป็นที่มาว่าทำไมพระปิดตาถึงได้มีลาภมาก”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-12-2019 เมื่อ 03:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 136 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #233  
เก่า 07-12-2019, 00:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,189 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ระหว่างตะกรุดกำลังแม่พระธรณีกับพระขุนแผน ถ้าต้องการด้านเมตตามหานิยม ควรบูชาองค์ไหนคะ ?
ตอบ : ท่านทำไว้ให้ครบทุกอย่างแล้ว แต่ถ้าเป็นอาตมาจะเลือกพระขุนแผนเพราะว่าเป็นรูปพระ ก็คือจะมากจะน้อย เวลาเราเห็น เราจะนึกถึงพระ ตะกรุดนี่เราไม่ได้เห็นรูปพระ ถ้าหากว่ากำลังใจไม่ดีนี่ บางทีก็นึกถึงพระไม่ออก

พวกเราส่วนหนึ่งพอเจอวัตถุมงคลมักจะรักพี่เสียดายน้อง อยากได้เมตตามหานิยม ถามว่าจะเอาพระขุนแผนหรือตะกรุดกำลังแม่พระธรณี ? ความจริงพระท่านทำให้ครบทุกอย่าง แต่ความเชื่อถือของคนเชื่ออย่างนั้นว่าเป็นด้านเมตตา คราวนี้ถ้าเป็นอาตมาเองก็จะเลือกวัตถุมงคลที่เป็นรูปพระไว้ก่อน

แบบเดียวกับสมัยก่อน อาตมาพกลูกอมหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ เป็นเมตตามหานิยมแท้ ๆ พอไปเจอพระขุนแผนหลวงพ่อสงวน ไม่รู้ว่าหลุดมาจากไหน ๑ องค์ ดูอย่างไรก็ใช่ของท่านแน่ ๆ จึงเปลี่ยนมาพกพระแทน อย่างน้อยตอนเราเห็นรูปพระ ใจก็นึกถึงพระพุทธเจ้า ได้กำไรมากกว่า

ไปเห็นลูกอมก็ต้องนึกว่า ลูกอมหลวงพ่อสงวนท่านทำมา ท่านศึกษาวิชาการมาจากครูบาอาจารย์ กว่าจะนึกถึงพระได้ก็หลายยก ...(หัวเราะ)... ดังนั้น..เอาที่นึกถึงพระได้ง่าย ๆ ไว้ดีกว่า อาตมาเป็นคนขี้เกียจ..มักง่าย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-12-2019 เมื่อ 03:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 134 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #234  
เก่า 07-12-2019, 00:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,189 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “ช่วงนี้คนเป็นหวัดกันเยอะมาก คราวนี้หวัดคนไม่เท่าไรหรอก หน้าหนาวนี่ไข้หวัดนกมักจะระบาด แล้วตอนนี้ก็ติดต่อกับคนได้ง่ายขึ้น เพราะฉะนั้น..บรรดากระทรวงเกษตร กระทรวงสาธารณสุขของเรา ต้องวางแผนป้องกันแต่เนิ่น ๆ ไม่ใช่รอให้เกิดแล้วค่อยมาแก้กันทีละอย่าง”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-12-2019 เมื่อ 03:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 133 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #235  
เก่า 07-12-2019, 00:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,189 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ...(ไม่ชัด)... ไปผูกคอแต่ว่าไม่รู้ตัว ท่านบอกว่าโชคดีจังหวะที่เอาคอเข้าไปในห่วง ท่านรู้สึกตัวพอดีครับ แต่ว่าตอนที่ขึ้นไปผูกเป็นห่วงไม่รู้ตัวครับ ?
ตอบ : แบบเดียวกับที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเล่าให้ฟัง ท่านบอกว่าคนผูกคอตายไม่ได้คิดจะผูกเอง ก็คือว่าพระท่านนั่งส้วมอยู่ แล้วเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง อยู่ ๆ ก็ปีนขึ้นต้นไม้ แล้วก็เอาผ้าแถบ คือสมัยก่อนเขาไม่ได้ใส่ยกทรง เขาใช้ผ้าแถบพันหน้าอก เอาผ้าแถบผูกกับกิ่งไม้ แล้วอีกข้างหนึ่งก็คล้องคอ

พระท่านก็ตกใจโวยวายขึ้นมา คนได้ยินก็เฮกันมาช่วย พอเอาตัวลงจากต้นไม้มา เขาบอกว่าเขาไม่ได้ผูกคอตาย เดินจากบ้านจะไปไร่ธรรมดา เจอขบวนเขากำลังแห่กัน เหมือนกับขบวนแห่สนุกสนานเวลาสงกรานต์หรือว่าบวชพระ แล้วก็มีผู้หญิงคนหนึ่งมาชวนให้เข้าขบวนไปกับเขาด้วย แล้วก็ส่งพวงมาลัยให้คล้องคอ แกบอกว่ากำลังจะหยิบพวงมาลัยคล้องคอ แล้วก็มีเสียงคนโวยวายแล้วกระโดดจับตัวแก คือตัวแกไม่รู้เรื่องเลยนะ คิดว่าแกเอาพวงมาลัยคล้องคอ แต่ที่คนเห็นก็คือกำลังเอาผ้าแถบผูกกิ่งไม้จะรัดคอตัวเองอยู่

ต้องบอกว่ากุศลช่วยไว้ทันจริง ๆ ไม่อย่างนั้นก็เสร็จ เอาเถอะ..ท่านรอดมาได้ก็ถือว่าดีแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-12-2019 เมื่อ 03:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 137 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #236  
เก่า 08-12-2019, 09:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,189 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เมื่อวานรักษากำลังใจทั้งวัน กลับบ้านไปเจอแม่เซอร์ไพร์สอยู่หน้าประตูเลยค่ะ สอบตก ?
ตอบ : ถ้าหวั่นไหวก็สอบตกอยู่แล้ว จะไหวมากหรือไหวน้อยก็แล้วแต่ สำคัญที่ว่าแก้คืนได้เร็วไหม ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-12-2019 เมื่อ 04:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 125 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #237  
เก่า 08-12-2019, 10:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,189 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “ปี ๒๕๑๗ เป็นปีสุดท้ายที่ยังหัวหกก้นขวิดอยู่ ไปเหนือ ไปกลาง ไปใต้ เสาะแสวงหาครูบาอาจารย์ ปี ๒๕๑๘ เจอตำราคู่มือปฏิบัติกรรมฐานของหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง อ่านแล้ว โอ้โห...ทำไมง่ายอย่างนี้ ? คนอื่นเขียนวิธีปฏิบัติธรรมยากอย่าบอกใครเลย ทำไมหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเขียนตำราง่ายขนาดนี้ ? จึงทุ่มเททำอย่างเต็มที่ ในเมื่อง่ายก็เอาเลย

เวลา ๙ ปีที่เกือบจะไม่คุยกับใครเลย ตั้งแต่อายุ ๑๖ ปี จนถึง ๒๕ ปี กลายเป็นคนพูดน้อย นอนน้อย กินน้อย ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติอย่างเดียว ใคร ๆ เขาก็ว่าบ้า ยังโชคดีที่ไปทุ่มเทตอนเป็นฆราวาสตั้งแต่อายุน้อย ๆ เอาไว้มาก พอบวชพระเข้ามาก็เลยสบาย ถ้าให้มาเริ่มทำตอนเป็นพระนี่ก็คงสาหัส

แต่มีหลายอย่างส่วนที่เป็นฆราวาสทุ่มเทเต็มที่อย่างไรก็ไม่ได้ อย่างในส่วนของพรหมวิหาร ๔ ส่วนของอรูปฌาน กรรมฐาน ๔๐ กองอื่น ๆ ไม่ได้รู้สึกว่ายาก มายากอยู่ ๒ หมวดนี้ แต่พอบวชเข้ามา เอ๊ะ...ทำไมง่ายขึ้น พอไปเจอหลวงปู่มหาอำพันก็กราบเรียนถามท่าน ท่านบอกว่า "ก่อนหน้านี้เหมือนกับเราเก็บเงินเพื่อซื้อของแพง เงินยังไม่พอก็ซื้อไม่ได้สักที คราวนี้พอท่านบวชเข้ามา บุญของการบวชเป็นบุญใหญ่มาหนุน ของที่ควรจะได้ก็ได้มาเอง”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-12-2019 เมื่อ 04:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 125 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #238  
เก่า 08-12-2019, 10:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,189 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "บ้านไหนมีหนุ่ม ๆ ถึงสามสี่คน พ่อแม่จะปวดหัวมาก ลูกผู้ชายดูแลยาก แต่ลูกผู้หญิงสมัยนี้ก็ไม่ค่อยจะอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนเหมือนกัน โลกภายนอกกว้าง ขึ้นไปเรื่อย

อาตมาเองลำเอียง รักลูกสาวมากกว่า โดนกรอกหูอยู่ทุกวัน โดยเฉพาะตัวเล็ก ๆ สั่งห้ามรับลูกชายเด็ดขาด ถามว่าทำไม ? เขาบอกผู้ชายใกล้พระได้มากกว่า เดี๋ยวหลวงพ่อรักลูกชายมากกว่า พวกเขาคิดแบบเด็ก ๆ

แต่ที่บอกว่าพ่อแม่รักลูกไม่เท่ากันเป็นเรื่องปกตินะ อาตมาเองมาถึงขนาดนี้แล้วยังรักลูกไม่เท่ากันเลย ใครเป็นเด็กดี ว่านอนสอนง่าย สั่งอะไรทำได้อย่างใจ ก็รักมากหน่อย เพียงแต่ว่าถึงรักไม่เท่ากัน ก็อย่าให้
ต่างกันมากมายจนเกินไป”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-12-2019 เมื่อ 04:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 124 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #239  
เก่า 08-12-2019, 10:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,189 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “ร่ำร้องว่าอยากจะเป็นผู้ใหญ่ ถึงเวลาเจอขนมก็วิ่งเข้าใส่ รับรองว่ายังเป็นเด็ก..!

ถ้าห้ามใจตัวเองไม่ได้ก็ยังถือว่าเป็นเด็ก คนที่หักห้ามใจตัวเองได้จึงถือว่าเป็นผู้ใหญ่ การเป็นผู้ใหญ่ดูง่ายมาก สามารถฝืนใจทำสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบได้เมื่อไร ก็ถือว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-12-2019 เมื่อ 04:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 127 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #240  
เก่า 08-12-2019, 21:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,189 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เล่าเรื่องเมืองจีนต่อ "วันก่อนจบที่วันเสาร์ที่ ๒๐ เราพักอยู่ที่โรงแรมชื่อ “เซวี่ยเฉิงจื่อเตี้ยม” แปลว่าแดนหิมะ ตื่นเช้ามาอากาศไม่หนาวมากหรอก -๔ องศาเซลเซียสเท่านั้น..! เก็บข้าวของลงมาปรากฏว่ายังขึ้นรถไม่ได้ คนขับรถยังไม่มาเปิดรถให้ จึงไปสุมหัวรวมกันที่โรงครัว

อาหารเช้าเริ่มตอน ๐๗.๐๐ น. ดีใจที่เห็นว่ามีไข่พะโล้ ปรากฏว่าตักขึ้นมาชักสงสัย ไข่พะโล้บ้านเอ็งมาทั้งเปลือกเลยหรือวะ..?! สรุปว่าข้าโง่เอง ไม่ใช่ไข่พะโล้ แต่เป็นไข่ต้มใบชา พอต้มนาน ๆ น้ำชาออกมาดำปี๋ อาตมาเห็นก็นึกว่าน้ำพะโล้ แต่เชื่อเถอะ...ทุกคนเห็นก็คิดว่าไข่พะโล้เหมือนกันนั่นแหละ เพียงแต่ว่าไม่พูดหรอก อาตมาเองหน้าแตกก็ยอมรับ หลงผิดคิดว่าเป็นไข่พะโล้ กะว่าจะตักสัก ๒ ฟอง เจอฟองแรกเข้าไป เอ๊ะ...ทำไมมีเปลือกวะ ? ยกขึ้นมาดมก็ไม่มีกลิ่นพะโล้

ท้ายสุดนึกขึ้นมาได้ว่าประเทศจีนเขามีไข่ต้มใบชา ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพิ่มคุณค่าทางอาหารอย่างไร แต่เขาก็ต้มไปแบบนั้นแหละ ก็เลยต้องกินทั้งอย่างนั้นเหมือนกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-12-2019 เมื่อ 12:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 108 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:48



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว