กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > เรื่องธรรมะ และการปฏิบัติ

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 22-01-2009, 23:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default ถาม ถาม ถาม

ถาม : เราจะรู้ได้อย่างไรว่าว่าคนนี้เป็นโสดาบัน ?
ตอบ : ก็ต้องเป็นโสดาบัน


ถาม : ถ้าเรามีสติ เราจะมองเห็นทุกอย่างเป็นธาตุ ๔ ใช่หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ต้องมีปัญญาด้วย

ถาม : พระอริยเจ้าท่านทุกข์หรือไม่ ?
ตอบ : พระอริยเจ้าท่านทุกข์แต่ร่างกาย ใจท่านไม่ทุกข์หรอก อย่างเวลาท่านปวดเมื่อยขา ท่านกลับพอใจเสียด้วยซ้ำ ที่ทำให้รู้ว่าร่างกายนี้เป็นทุกข์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-03-2010 เมื่อ 15:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 22-01-2009, 23:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ที่เขาบอกว่าอมปรอทแล้วเหาะได้ จริง ๆ แล้วปรอทนี่ช่วยให้เหาะได้หรือคะ ?

ตอบ : แท้จริงแล้วเขาใช้กำลังของคนที่เหาะเองต่างหาก เพราะกว่าจะทำปรอทสำเร็จได้ ต้องใช้สมาธิมาก ถ้าทำสำเร็จก็ได้อภิญญาดี ๆ นี่เอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-03-2010 เมื่อ 15:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 22-01-2009, 23:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ธรรมสังเวช คืออะไร ?
ตอบ : ธรรมสังเวช คือ สลดใจกับสิ่งที่เราเห็นตามสภาพความเป็นจริง อย่างเราก็สลดใจว่ากิเลสมันแรง

ถาม : หวังว่าคงจะเป็นครั้งสุดท้ายที่รู้สึกแบบนี้
ตอบ : ได้แต่หวังว่า..จะเป็นกำลังใจให้ก็แล้วกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 18-05-2010 เมื่อ 11:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 10-02-2009, 10:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาผมนั่งสมาธิ เหมือนกับเข้าสมาธิลึก ๆ อยู่อย่างนั้นครับ สงสัยว่าสมาธินี้เราจะสามารถดึงมาใช้งานได้หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ได้..ตอนนั้นสมาธิกำลังทำงานอยู่อย่างเต็มที่เลย การใช้กำลังสมาธิที่เราต้องการก็เพื่อความสงบของใจ ใจจะต้องสงบได้ รัก โลภ โกรธ หลง จะต้องหมดไป ตอนนั้นสมาธิกำลังทำหน้าที่กด รัก โลภ โกรธ หลง อย่างเต็มที่ กำลังทำหน้าที่ของเขาอยู่แล้ว และเราได้ใช้งานอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเราไม่รู้เท่านั้นเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-05-2020 เมื่อ 01:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 154 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 10-02-2009, 10:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ช่วงนี้รู้สึกอารมณ์ฟุ้งซ่านตลอดเลย พยายามจับลมหายใจแล้วก็รู้สึกอึดอัด เลยต้องเลิก บางทีก็ภาวนาไม่ได้ บางทีก็ภาวนาคาถาเงินล้าน แต่ว่าท่องไม่จบ อึดอัดไปหมด
ตอบ : ให้ใช้คาถา อิติ สัมมาสัมพุทธัสสะ มะมะ จิตตัง ภาวนานำไปไม่กี่นาทีกำลังใจก็จะนิ่ง แล้วเราจะภาวนาอะไรต่อก็ได้ แต่ว่าให้ใช้คาถานี้ขึ้นต้นก่อน

ถาม : หนูดูรูป ทั้ง ๆ ที่เป็นรูปตัวเอง แต่หนูรู้สึกว่าไม่ใช่หนู แล้วก็เกิดอาการร้องไห้ฟูมฟาย
ตอบ : เรียกว่า ปีติที่ได้เห็นธรรม เห็นความจริงว่า ไม่มีอะไรเป็นของเรา เป็นเรื่องปกติ

ถาม : เดี๋ยวนี้เห็นอะไรก็จะติดร้องไห้ ฟูมฟาย
ตอบ : ก็ปล่อยให้เต็มที่ ถ้าเต็มที่แล้วจะเลิก แต่ถ้ายังไม่เต็มที่ ถึงตรงนั้นเมื่อไหร่ก็จะเป็น

ถาม : ถ้าเคยมีชาติใดชาติหนึ่งที่เราเคยอธิษฐานร่วมกับใครไว้ ที่บอกว่าจะเกิดร่วมกันทุกชาติ แล้วถ้าเราหมดอายุขัยลงมาก่อน ส่วนเขาก็อยู่ข้างบน แล้วเขาก็ยังตามเราอยู่ตลอด แล้วแบบนี้เราจะทำอย่างไรดีละคะ ?
ตอบ : บอกว่าตามมาได้ แล้วอย่าตามเฉย ๆ ต้องช่วยให้ฉันรวยเร็ว ๆ ด้วย ถ้าช่วยให้ฉันรวยไม่ได้อย่ามา

ถาม : แต่หนูฝันเห็นเขามาทวงสัญญา
ตอบ : บอกว่าจะให้ทำตามสัญญาก็ได้ แต่ให้ทำอย่างที่ฉันว่ามาก่อน

ถาม : แต่หนูกลัวเขาค่ะ
ตอบ : ถ้าอย่างนั้นก็จงกลัวต่อไป..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-03-2010 เมื่อ 15:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 14-02-2009, 11:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าขออโหสิแล้วกรรม กรรมนั้นจะจบไปไหม ?
ตอบ : จบแล้วจบเลย นอกจากบางเรื่อง เพราะไม่ใช่ตามอโหสิกันได้ทุกคน และไม่ใช่อโหสิกันได้ทุกเรื่อง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-03-2010 เมื่อ 15:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 145 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 16-02-2009, 14:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การใคร่ครวญในธรรม จัดเป็นธัมมานุสติหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : เป็นโดยตรงเลย

ถาม : ถ้าอย่างนั้นเราควรใคร่ครวญในธรรมที่เป็นปัจจุบัน หรือว่าใคร่ครวญในธรรมที่เป็นอดีตด้วย ?
ตอบ : ใคร่ครวญในธรรมที่เป็นปัจจุบัน และในอดีตด้วย ว่าที่ผ่านมาเราทุกข์เพราะเหตุใด ? และตอนนี้หนุ่มหล่อในอดีตได้ตายกลายเป็นกระดูกไปแล้ว(หัวเราะ) และก็ใคร่ครวญถึงธรรมในอนาคตด้วย ว่าอีกต่อไปทุกสิ่งทุกอย่างเดี๋ยวก็ดับสลาย

ถาม : แล้วควรทำอย่างไร เวลากลับไปจึงจะสามารถรักษาอารมณ์อย่างนี้ให้ต่อเนื่องไปได้ดีตลอด ?
ตอบ : มีสติอยู่กับปัจจุบัน ไม่เหลือบไปทางอื่น..ไปทางหนุ่ม ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 07-12-2011 เมื่อ 09:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 143 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #8  
เก่า 16-02-2009, 14:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่จะละในอารมณ์อันเป็นกุศลและอกุศลก็ดี จะมีวิธีการปฏิบัติหรือพิจารณาอย่างไรเพื่อให้เข้าถึงซึ่งพระนิพพาน ?
ตอบ : ให้ละชั่วทำดี...ละชั่วทำดี...ละชั่วทำดี ไปเรื่อย ๆ ถึงเวลาแล้วกำลังจะปล่อยของเขาได้เอง เหมือนคนเดินขึ้นบันไดก็ต้องเกาะราวบันได พอถึงชั้นบนแล้ว ไม่มีใครเอาราวบันไดนั้นติดมือไปด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-03-2010 เมื่อ 15:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 142 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #9  
เก่า 04-03-2009, 11:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาที่ท่านสอนคนอื่น บางคนท่านใช้วิธีเฆี่ยนแล้วเฆี่ยนอีก แต่ทำไมบางคนท่านถึงได้ใจดีเมตตาเหลือเกิน ?
ตอบ : ตถตา เป็นเช่นนั้นเอง.. แล้วแต่วิสัย บางคนชอบกินแกงจืด จะเอาแกงเผ็ดไปให้ เขาก็กินไม่ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 07-12-2011 เมื่อ 09:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #10  
เก่า 04-03-2009, 16:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำบุญอย่างไรจึงจะได้อานิสงส์สูงสุด ?
ตอบ : ปีติให้ได้มากที่สุด ทำบุญแล้วเกิดอาการปีติให้มาก ๆ เอาให้กระโดดโลดเต้น ตีลังกาไปเลย (หัวเราะ)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-03-2010 เมื่อ 15:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #11  
เก่า 08-03-2009, 22:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ดอกบานไม่รู้โรยเอามาบวงสรวงได้หรือไม่ ?
ตอบ : ได้...โดยเฉพาะสีขาวกับสีม่วงได้สองทิศเลย

สีม่วงทิศใต้ สีขาวทิศตะวันตก สีแดงทิศเหนือ สีเหลืองทิศตะวันออก หลวงพ่อฤๅษีท่านบอกว่า การบวงสรวงทุกครั้งให้มีสีแดงติดไว้กับเครื่องบวงสรวงบ้าง เพราะว่าสีแดงเป็นเครื่องหมายของเทวดาชั้นจาตุมหาราชที่ท่านมาสงเคราะห์


บอกไปแล้วก็ไม่จำ เดี๋ยวก็มาถามใหม่ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าไม่จำแต่ก็จะบอก ถือว่าตักน้ำรดหัวตอ ไม่งอกก็ไม่เป็นไร ให้เปียก ๆ บ้างก็ยังดี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-03-2010 เมื่อ 15:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 151 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #12  
เก่า 19-04-2009, 18:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สงสัยว่าทำความดีขนาดไหน? และอย่างไร ? จึงจะสามารถทำให้ทิพอาสน์ของท่านปู่พระอินทร์ แข็งกระด้างดั่งศิลา
ตอบ : ทำความดีขนาดไหน ? ก็ทำความดีขนาดพระโสดาบันขึ้นไป ทำอย่างไร ? ก็ทำกุศลอันยิ่งใหญ่ในพุทธศาสนา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 07-12-2011 เมื่อ 09:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #13  
เก่า 20-04-2009, 21:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำไมเวลาเขาอธิษฐานฤทธิ์ในกสิณ เขาต้องถอยออกจากฌาน ๔ มาอธิษฐานที่อุปจารสมาธิด้วยคะ ?
ตอบ : อ๋อ...ที่ถอยมาเพราะว่าถ้าอยู่ในฌาน ๔ แล้วจะอ้าปากไม่ได้ คิดไม่ออก นิ่งอย่างเดียว (หัวเราะ) แต่ถ้าคนที่คล่องเขาก็อธิษฐานตอนเป็นฌาน ๔ นั่นแหละ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-03-2010 เมื่อ 15:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 154 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #14  
เก่า 20-04-2009, 22:00
ทิดตู่ ทิดตู่ is offline
สมาชิกยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 168
ได้ให้อนุโมทนา: 27,852
ได้รับอนุโมทนา 47,493 ครั้ง ใน 1,464 โพสต์
ทิดตู่ is on a distinguished road
Default

จริง ๆ แล้ว ทราบมาว่าการอธิษฐานจิตในกสิณนั้น หากเป็นผู้ที่คล่องในการเข้าฌาน ออกฌาน การลดกำลังของใจในระดับต่าง ๆ ของสมาธินี่จะไวแบบไม่ต้องคิด แค่มีดำริของจิต จิตก็ลดกำลังไปตามความต้องการเพียงชั่วลัดนิ้วมือเดียว บางทีการนึกเป็นคำท่านว่า"ยังช้าไป"
ป.ล.ท่านใดทำได้กรุณาคอนเฟิร์มด้วยนะครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 142 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทิดตู่ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #15  
เก่า 02-03-2010, 16:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ท่านที่จะเข้านิโรธสมาบัติได้นั้น ต้องเป็นอย่างไรคะ ?
ตอบ : ถ้าเป็นพระอนาคามีสุขวิปัสสโก เตวิชโช ฉฬภิญญโญ เข้านิโรธสมาบัติไม่ได้ ได้เฉพาะผลสมาบัติ ผู้ที่เข้านิโรธสมาบัติได้ต้องเป็นพระอนาคามีปฏิสัมภิทาญาณขึ้นไปเท่านั้น เพราะต้องใช้ผลจากเนวสัญญานาสัญญายตนฌาน จึงจำเป็นต้องได้สมาบัติ ๘ มาก่อน


ถาม : ท่านที่ได้นิโรธสมาบัติ จะเข้าเป็นปกติหรือไม่คะ ?
ตอบ : ท่านที่ได้นิโรธสมาบัติ ท่านจะใช้เป็นปกติ นิดหน่อยก็เอา เพียงชั่วครู่นี่ท่านทำแน่ เพราะช่วยให้พักเหนื่อยได้ดี ที่กำหนดเวลา ๗ วัน ๑๕ วัน นั้น เป็นการเข้าเพื่อสงเคราะห์ผู้อื่นโดยตรง จึงต้องใช้เวลามาก เพื่อผลแห่งอานิสงส์จะได้ตอบแทนแบบทันตาเห็น

ถาม : ฌานสมาบัติกับผลสมาบัติ ต่างกันอย่างไรคะ ?
ตอบ : ฌานสมาบัติ เป็นผลจากการเข้าฌานของปุถุชน(ฌานลาภีบุคคล)ทั่วไป ผลสมาบัติเป็นผลจากการเข้าฌานของพระอริยเจ้าตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป

ถาม : พระอริยเจ้าท่านเข้าผลสมาบัติเป็นปกติหรือไม่คะ ?
ตอบ : พระอริยเจ้าท่านเข้าผลสมาบัติเป็นปกติ แม้แต่พระอริยเจ้าที่ท่านเป็นสุขวิปัสสโก ก็ต้องพิจารณาวิปัสสนาญาณ จนเข้าถึงฌานสมาบัติตั้งแต่ปฐมฌานขึ้นไป จึงมีกำลังพอที่จะตัดกิเลสได้ เมื่อท่านพิจารณาวิปัสสนาญาณจึงเท่ากับเข้าผลสมาบัติไปด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 11-09-2014 เมื่อ 08:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 128 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #16  
เก่า 02-03-2010, 20:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตอนนั่งเรียน หนูเห็นอารมณ์ตัวรักเข้ามา เวลาที่เข้ามารู้สึกได้ชัดเจนเลยว่ามาเป็นกระแส ค่อย ๆ คืบคลาน แล้วแผ่ขยายลามไปเรื่อย ๆ กิเลสมีแบบเป็นกระแสได้ด้วยหรือคะ ?
ตอบ : มี...ความผิดเพราะเรานั่นแหละ ที่ไปเผลอปล่อยให้มันเข้ามา เวลามาให้หาทางหนี อย่าไปสู้ เพราะกำลังของเรายังสู้ไม่ไหว กำลังเขามีเป็นกองทัพ...มีเป็นหลายหมื่น แต่เรามีแค่สองพัน จะไปไหวได้อย่างไร ? ให้หาทางเลี่ยงไปก่อน

ถาม : มันจะเข้ามาเหมือนมีตารางเวลาเลย มีเวลาประจำด้วย
ตอบ : แสดงว่าพวกนี้น่าคบ เพราะตรงต่อเวลา เราก็เลยคบมาเสียหลายชาติ (หัวเราะ)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 07-12-2011 เมื่อ 09:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 110 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #17  
เก่า 02-03-2010, 21:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาที่มีเรื่องเข้ามาในใจ ขณะนั้นเราไม่รู้สึกว่าโดนกระทบ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราปล่อยวางแล้วจริง ๆ ?
ตอบ : สังเกตดูว่า สิ่งนั้นที่เข้ามานั้น เรายังเก็บเอาไปคิดเวลาอื่นอีกหรือไม่ ? ถ้าเก็บเอาไปคิดอีก แสดงว่าเป็นอารมณ์ฌาน แต่ถ้าเราไม่เก็บเอาไปคิดทีหลัง แสดงว่าเป็นสังขารุเปกขาญาณ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 07-12-2011 เมื่อ 09:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 120 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:09



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว