กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 23-12-2016, 19:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๙

ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกของเราไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ที่เรามีความถนัด มีความชำนาญมาแต่เดิม จะจับการกระทบของลมจุดเดียว ๓ จุด ๗ จุดก็ตามแต่ที่เคยทำมา

วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๑๐ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ เมื่อครู่ที่ได้กล่าวถึงความถนัด ความชำนาญในการเข้าออกฌาน ในการสลับฌาน ในการทรงฌานตั้งเวลา การที่เราจำเป็นต้องฝึกซ้อมให้คล่องตัวขนาดนั้น ก็เพราะว่าถ้าเราเผลอสติแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว กิเลสจะสามารถแทรกเข้ามาในใจเราได้ทันที ถ้าเราไม่มีความชำนาญในการเข้าออกฌาน เราจะรับมือกับกิเลสไม่ทัน มักจะโดนกองทัพกิเลสยึดบ้านยึดเมืองยึดใจของเราไปก่อนแล้ว

การที่เราจะฝึกซ้อมให้เกิดความคล่องตัวนั้น ต้องพยายามที่จะทรงสมาธิในขณะที่เคลื่อนไหวให้ได้ โดยเฉพาะสิ่งที่สมควรจะต้องฝึกหัดเอาไว้ ก็คือการเดินจงกรม การเดินจงกรมถึงเวลาเรากำหนดภาวนาได้ด้วย ถ้าสมาธิทรงตัวแน่นเราจะก้าวไม่ออก เราก็ต้องคลายสมาธิออกมานิดหนึ่งให้อยู่ในระดับที่เราก้าวได้ หลังจากนั้นสมาธิจะกลับลึกเข้าไปเราจะก้าวไม่ได้อีก ต้องคลายออกมาใหม่

ซักซ้อมทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ระดับที่เราเคลื่อนไหวได้กับสมาธิจะสูงขึ้นไปเรื่อย จนกระทั่งท้ายสุดไม่ว่าจะทรงฌานในระดับไหนก็ตาม เราจะสามารถเดินไปด้วย กำหนดภาวนาไปได้ด้วย หรือถ้าท่านเกรงว่าการเดินจงกรมจะกลายเป็นขี้ปากชาวบ้าน กลัวคนอื่นเห็นแล้วจะว่าเราบ้าบ้าง เพี้ยนบ้าง ถ้าอย่างนั้นเราก็มาปรับให้ทรงอารมณ์สมาธิในขณะที่เราทำงานแทน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-12-2016 เมื่อ 19:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 23-12-2016, 19:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อาตมาเองชอบการถูพื้นศาลา หรือว่ากวาดใบไม้ เวลาไม้ถูหรือไม้กวาดจะไปซ้ายไปขวา ไปแรงไปเบา ไปยาวไปสั้น เรากำหนดรู้ไปด้วย ทำให้เราทำงานโดยเพลิดเพลิน ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย เพราะสมาธิจดจ่ออยู่กับการเคลื่อนไหวของร่างกาย

ถ้าหากว่าเราสามารถทรงสมาธิในขณะที่เคลื่อนไหวได้ อันดับแรกเลย คือ กองกรรมฐานนั้นจะหนักแน่นมั่นคงมาก ไม่พังง่าย เพราะว่าการเคลื่อนไหวนั้น โดยปกติสำหรับคนทั่วไปจะทรงสมาธิไม่ได้ หรือทรงได้ยาก ในเมื่อเราทรงได้กรรมฐานของเราก็จะพังยาก ทำให้เราสามารถประคับประคองรักษาอารมณ์ที่เราปฏิบัติได้ ให้อยู่กับเราได้ยาวนานกว่าการนั่งภาวนาตามปกติ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่เราควรจะซักซ้อมให้คล่องตัวเอาไว้

ส่วนในเรื่องของการทรงฌานตั้งเวลานั้น เป็นการกำหนดจิตให้จำ อย่างเช่นว่าเรานั่งสมาธิลงไป ให้ตั้งใจเลยว่า ๑๕ นาทีนี้เราจะไม่คลายสมาธิออกมา ถ้าบางคนจะนึกเป็นเข็มนาฬิกาวิ่งขึ้นหน้าไป เป็นเลข ๒ หลัก เช่น ๑๕ นาทีก็ได้ เมื่อครบ ๑๕ นาที สมาธิจะคลายออกมาเอง ถ้าเผลอก็จะฟุ้งซ่านไป รัก โลภ โกรธ หลง เลย ถ้าท่านทั้งหลายซักซ้อมแบบนี้ไว้บ่อย ๆ ต่อไปไม่ว่าเป็นเวลาน้อยก็ดีหรือมากก็ดี เราจะสามารถสั่งการได้ว่า จะให้ทรงสมาธินานเท่าไรตามที่เราต้องการ

โดยเฉพาะท่านทั้งหลายที่ต้องมีนาฬิกาปลุก ถ้าหากว่าเราทรงฌานตั้งเวลาได้ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้นาฬิกาปลุกอีก เพราะเราสามารถกำหนดใจปลุกตัวเองได้ทุกเวลาตามที่ต้องการ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-12-2016 เมื่อ 19:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 26-12-2016, 18:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าใครฝึกหัดใหม่ ๆ เมื่อนอนลงไปก็ให้นึกถึงภาพนาฬิกา อย่างเช่นว่าเข็มสั้นชี้ที่เลข ๓ เข็มยาวชี้ที่เลข ๑๒ คือเวลาตี ๓ ตั้งใจว่าถึงตี ๓ ตรง เราจะตื่นนอน หลังจากนั้นก็ภาวนาให้หลับไป แล้วสังเกตดูว่าเราตื่นตรงตามเวลาที่ต้องการหรือไม่ ? พอซักซ้อมบ่อย ๆ เข้า ความชำนาญมีมาก แค่คิดว่าจะตื่นเวลาไหน สภาพจิตก็จะตื่นเวลานั้น ถ้าเรามีกิจ มีความจำเป็นที่จะทรงฌานเท่านั้นชั่วโมงเท่านี้ชั่วโมง พอใจกำหนดภารกิจว่าเท่าไร นานเป็นเวลากี่นาที กี่ชั่วโมง ถ้าหากว่ายังไม่ครบตามเวลาจิตจะไม่เคลื่อนไม่คลายออกมา จะทรงอยู่ในสมาธิได้นานตามที่เราต้องการ

ลำดับต่อไปให้ทุกท่านกำหนดการภาวนาพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันเสาร์ที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๙

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยคะน้าอ่อน)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2016 เมื่อ 19:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:07



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว