กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 09-10-2019, 08:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผลจากสุขและทุกข์ที่บุคคลอื่นกระทำต่อเรา ซึ่งเป็นผลมาจากกรรมในอดีตที่เราทำมาเอง อยากทราบว่า ตะกรุดมหาสะท้อนจะยังมีผลต่อบุคคลที่กระทำกับเราหรือไม่ ถ้าสิ่งที่บุคคลอื่นกระทำต่อเรานั้น เป็นเพราะกรรมของเราเองที่จะต้องรับ ?
ตอบ : จะเป็นหรือไม่เป็นก็แล้วแต่ ตะกรุดทำหน้าที่เหมือนกับตำรวจ ถึงเวลาก็มีหน้าที่ไล่จับผู้ร้าย ไม่ได้สนใจว่าผู้ร้ายนั้นเคยเป็นเจ้าหนี้เรา แล้วมาขโมยของเขาคืน
หรือเปล่า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-10-2019 เมื่อ 21:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 09-10-2019, 08:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระโพธิสัตว์ศึกษาแนวทางการบำเพ็ญบารมีแล้วถูกใจการบำเพ็ญบารมีแบบปัญญาธิกะ ศรัทธาธิกะ วิริยาธิกะก็ตาม แปลว่าบำเพ็ญบารมีมาทางนั้นหรือไม่ครับ ?
ตอบ : เรื่องนี้ตอนแรกก็ไม่ได้คิดที่จะทำอย่างนั้น แต่วิสัยเดิมของตนเอง จริตวิสัยเป็นอย่างไร ก็จะเป็นเช่นนั้นไปเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-10-2019 เมื่อ 21:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 09-10-2019, 08:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนที่อธิษฐานว่าให้บุญส่งผลให้ตนเองบรรลุเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอัครสาวก พระมหาสาวก พระสาวกปกติ แล้วแต่ว่าจะถึงอันไหนก่อน กำลังบารมีจะดึงไปทางไหนแรงที่สุดครับ ?
ตอบ : ก็คงเป็นปกติสาวกก่อน ตั้งใจว่าถ้าเก็บเงินได้ ๑๐๐ บาทจะซื้อขนมครก ก็ได้ขนมครกก่อนเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-10-2019 เมื่อ 21:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 09-10-2019, 08:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระปัจเจกพุทธเจ้าท่านไม่จำเป็นต้องมีลักษณะคล้ายกัน เหมือนอย่างของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่บังคับว่าต้องมีพระมหาปุริสลักษณะ ๓๒ พระอสีตยานุพยัญชนะ ๘๐ ใช่หรือไม่ครับ ?
ตอบ : พระปัจเจกพุทธเจ้าไม่ได้บังคับข้อนี้เอาไว้ แต่ส่วนใหญ่ถ้าสร้างสมบารมีมา ก็จะสมบูรณ์เต็มในบุญบารมีของท่านเช่นกัน เพียงแต่บางท่านที่ยังมีเศษกรรมเก่าอยู่ ก็อาจจะทำให้รูปร่างลักษณะไม่เต็มสมบูรณ์เช่นกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-10-2019 เมื่อ 21:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 09-10-2019, 08:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ชาดกนอกนิบาตที่เรียกว่า ปัญญาสชาดก เป็นพระชาติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจริงหรือไม่ครับ ?
ตอบ : จริงหรือไม่จริง ไม่ใช่สาระ สาระสำคัญคือ ถึงเวลาเราน้อมใจนึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือไม่ ? ถ้านึกได้ก็เป็นอนุสติ ถ้ายิ่งมองไปว่าพระองค์ท่านเกิดแล้วเกิดอีก มีแต่ความทุกข์ไม่รู้จักจบ แต่ท้ายสุดพระองค์ท่านก็สามารถหลุดพ้นไปสู่พระนิพพานได้ เห็นพระองค์ท่านเป็นตัวอย่างในการทำความดีเช่นนั้น แล้วเราทำบ้างจึงจะเกิดประโยชน์แก่เราอย่างสูงสุด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-10-2019 เมื่อ 21:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 10-10-2019, 08:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำไมอรรถกถาซึ่งรวบรวมโดยพระพุทธโฆสะ ที่เป็นพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ จึงมีบางจุดไม่ตรงกับพระไตรปิฎก ? เช่น รัตนะจงกรมกัณฑ์ว่า เทวดาที่บรรลุในคราวที่ทรงเทศนาธัมมจักกัปปวัตนสูตรจำนวน ๑๘,๐๐๐ โกฏิ ในขณะที่พระไตรปิฎกหรืออรรถกถาอื่นว่า ๑๘ โกฎิ และไม่สรุปบางเรื่อง เช่น เรื่องสูกรมัททวะ ว่าคือเนื้อหมู ข้าวสุกอ่อนปรุงด้วยปัญจโครสและถั่ว หรือว่าเป็นวิธีปรุงรสแบบหนึ่งครับ ?
ตอบ : ในเรื่องของตัวเลขที่ผิดพลาดเป็นเรื่องปกติ อาตมายังทำผิดเองบ่อยไป มีอยู่เที่ยวหนึ่งทำบัญชี คิดแล้วคิดอีกไม่ลงตัวเสียที ท้ายสุดก็ต้องไปไล่ดูทีละบรรทัด แล้วก็ไปเจอว่าเขียน ๖๓๐ เป็น ๓๖๐

ส่วนในเรื่องที่จะไประบุว่าสูกรมัททวะคืออะไร บางทีท่านรู้แล้วว่าเป็นอย่างนี้ ท่านก็ไม่ได้อธิบายไว้ แค่เขียนชื่อลงไปเฉย ๆ ก็เป็นเรื่องปกติที่คนจะเขียนตำราสักเล่มหนึ่งก็ต้องมีข้อบกพร่อง ไม่สมบูรณ์อยู่บ้าง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2019 เมื่อ 09:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 10-10-2019, 08:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนที่มีความรู้สึกร่วมกับเรื่องต่าง ๆ ง่ายคือจริตแบบใดครับ ?
ตอบ : เรียกว่าใจอ่อน แสดงว่าสติ สมาธิ ปัญญามีน้อย โดยเฉพาะในเรื่องของสมาธิ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2019 เมื่อ 09:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #28  
เก่า 10-10-2019, 08:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนที่เมื่อไปเป็นลูกค้าในร้านค้าใดก็ตาม ระหว่างที่คนเหล่านั้นกำลังอุดหนุนอยู่ ร้านค้าเหล่านั้นจากที่เงียบเหงา ก็มักจะมีลูกค้าตามเข้ามาอุดหนุนไม่มากก็น้อยเสมอ หากเปิดร้านค้าเองจะมีลูกค้าเข้ามาอุดหนุนเสมอแบบเดียวกันหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ไปเปิดดู แล้วจะได้คำตอบเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2019 เมื่อ 09:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #29  
เก่า 10-10-2019, 08:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เมื่อก่อนนี้หากมีคนมาปรึกษาเรื่องอยากฆ่าตัวตาย ลูกคงต้องหาทางช่วยจนสุดทาง เขาก็ฆ่าจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง เห็นใจตนเองมันดิ้นรนเหลือเกินเจ้าค่ะ แต่ ณ ตอนนี้ คนในครอบครัวปรารภว่าจะยิงคู่อริและฆ่าตัวตาย ลูกฟังแล้วใจลูกมันเฉยชาเหลือเกิน ทั้งที่เขาเป็นคนในครอบครัว ได้คิดหดหู่ปลงใจในภพชาติ ในการเกิดและลงตรงคำว่า "กรรม" เขายืนยันว่าเตรียมการไว้แล้ว

ทำไมลูกไม่ดิ้นรนไม่ร้องขอก็ไม่ทราบเจ้าค่ะ ทำไมมันเฉย ใจนิ่งเหลือเกินเจ้าค่ะ มองเขาด้วยสายตาว่างเปล่า ลูกกลายเป็นคนไม่ดีหรือเปล่าเจ้าคะ ที่ไม่สนใจแม้คนในครอบครัว ขาดเมตตาหรือไม่เจ้าคะ ?
ตอบ : ตอนนี้ไม่ได้ขาดเมตตา แต่เลยเมตตา เป็นอุเบกขาไปแล้ว ซึ่งทุกคนควรที่จะทำให้ได้แบบนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2019 เมื่อ 09:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #30  
เก่า 10-10-2019, 08:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่ผมภาวนาพระคาถาเงินล้าน โดยหวังว่าจะช่วยให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินชีวิต แต่เนื่องจากผมยังต้องเรียนหนังสืออยู่ เลยคิดว่าควรจะภาวนาคาถาสหัสสเนตโตฯ ของท่านปู่พระอินทร์ไปด้วย ผมอยากทราบว่า ถ้าผมแบ่งเวลาในการภาวนา โดยแบ่งเป็นตอนเช้าภาวนาพระคาถาเงินล้านประมาณ ๓๐ นาที แล้วก็ใช้เวลาว่างที่เหลือในวันนั้นภาวนาคาถาสหัสสเนตโตฯ ของท่านปู่พระอินทร์อย่างเดียว จะได้หรือไม่ครับ หรือผมควรจะภาวนาแค่คาถาใดคาถาหนึ่งอย่างเดียวครับ ?
ตอบ : ตอบแบบวัยรุ่นสมัยนี้ว่า “เอาที่สบายใจ”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2019 เมื่อ 09:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #31  
เก่า 10-10-2019, 08:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ช่วงหลังมาเมื่อผมภาวนาพระคาถาเงินล้านจนใจสบาย จนดิ่งลึกเข้าไป จิตจะชอบเฝือไปว่ารวยไม่เอา จะเอานิพพาน เงินทองทั้งหลายเป็นตัวขวาง เป็นตัวฉุดรั้งเราไว้กับวัฏสงสาร เราไม่ต้องการ แล้วเมื่อคลายสมาธิออกมา ก็มาทะเลาะกับตัวเองว่า เรายังทำงานหนักเพื่อหาเงินอยู่เลย คนจนก็ไปนิพพานกันน้อย เพราะต้องยุ่งอยู่กับการทำมาหากิน ไปอธิษฐานในฌานอย่างนี้ แล้วเมื่อไรจะพ้นจากการบีบคั้นจากสถานะทางการเงิน ถ้าจิตเราเฝือไปอธิษฐานในฌานแบบนี้ จะปิดลาภผลไหมครับ แล้วทำอย่างไรให้จิตหายเฝือครับ ?
ตอบ : ประเภทนี้เขาไม่เรียกว่าจิตเฝือ แสดงว่าจิตเข้าใจถึงความเป็นจริง แต่ตัวเองโง่กว่า ถึงเวลาสภาพจิตของเราเข้าถึงธรรมบางส่วน ก็จะเอาธรรมส่วนสูงนั้นไว้ก่อน นั่นเป็นส่วนของจิต ส่วนเรามีหน้าที่ เราก็ทำของเราไป ถึงเวลาเราก็ภาวนาตามปกติ

เคล็ดลับของการภาวนาคาถาเงินล้านที่จะเกิดผลก็คือ อย่าไปสนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้น เรามีหน้าที่ภาวนาอย่างเดียว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2019 เมื่อ 09:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #32  
เก่า 10-10-2019, 08:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เศรษฐีนีแถวบ้านผมขับรถทำกระเป๋าเงินร่วงต่อหน้าผมแล้วเขาขับรถหนีหายไปเลย ผมเก็บได้แล้วคุยกับตัวเองแล้วว่า ผมทำไม่ได้ ผมทนเห็นเจ้าของทรัพย์เป็นทุกข์เดือดร้อน ในขณะที่เราเอาเงินเขาไปใช้ไม่ได้ ถึงอุดมการณ์นี้จะทำให้ชาตินี้ทั้งชาติผมมีฐานะแค่เท่าที่เป็นอยู่ก็ตาม ผมจึงรีบขับรถไปตามคืนเจ้าของโดยทันที ความยึดมั่นถือมั่นอย่างนี้ถือเป็นทิฐิมานะตัวหนึ่งใช่ไหมครับ และเป็นภัยอันตรายต่อการปฏิบัติหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ทิฐิแปลว่าความเห็น ความเห็นมีได้ทั้งถูกและผิด คือสัมมาทิฐิและมิจฉาทิฐิ ขึ้นอยู่กับกำลังใจตอนนั้นว่าสูงต่ำขนาดไหน ถ้ากำลังใจต่ำบางทีก็ไม่เห็นว่าผิด ถ้ากำลังใจสูงขึ้นอาจจะเห็นว่าผิดก็ได้ แต่เรื่องทั้งหลายเหล่านี้เป็นเรื่องการหักห้ามความโลภในใจของเรา ไม่ให้ไปหยิบฉวยสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้ น่าจะเกิดคุณมากกว่ามีโทษ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2019 เมื่อ 09:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #33  
เก่า 10-10-2019, 08:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าได้แค่ปฐมฌานละเอียด แต่ติดสุขในฌาน จะฟังดูขัดแย้งกันไหมครับ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่ก็ติดสุขทั้งนั้น ถ้าหากได้สติรู้ตัวเมื่อไร ก็จะเริ่มใช้กำลังฌานกระทำในสิ่งที่พอเหมาะพอสม อย่างเช่นพิจารณาธรรม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2019 เมื่อ 09:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #34  
เก่า 10-10-2019, 08:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ท่านเจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพซึ่งมรณภาพเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ท่านได้รับยันต์เกราะเพชรหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ท่านไม่เคยไปวัดท่าขนุนเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2019 เมื่อ 09:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #35  
เก่า 10-10-2019, 08:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมได้ยินมาว่าการทำบุญในตอนที่เป็นพระ จะได้บุญมากกว่าการทำบุญในตอนที่เป็นฆราวาสแสนเท่า แล้วการที่มีพระท่านเปิดรับบริจาคเพื่อนำเงินไปทำบุญ แล้วผมไปร่วมทำบุญกับท่าน เนื่องจากการที่ท่านเป็นพระเลยได้บุญเป็นแสนเท่าจากปกติ แล้วผมก็เป็นส่วนหนึ่งในบุญที่ท่านทำ ไม่ทราบว่าผมจะได้บุญเป็นแสนเท่าไปด้วยหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ต้องดูว่าพระรูปนั้นท่านกำลังใจสะอาดแค่ไหน เพราะอานิสงส์เป็นแสนเท่านั้น ท่านทำในภาวะของอุดมเพศ คือในความเป็นพระภิกษุ ต้องบอกว่าอยู่ในลักษณะการลงทุน เราลงทุนด้วยศีล ๕ เสมือนเป็นเงิน ๕ ล้านบาท แต่พระลงทุนด้วยศีล ๒๒๗ เป็นเงิน ๒๒๗ ล้านบาท ถึงเวลาถ้าสิ่งนั้นได้กำไรขึ้นมา พระย่อมได้มากกว่าเป็นปกติ แต่ตัวเราไปร่วมบุญกับท่านต้องดูด้วยว่า กำลังใจของท่านผ่องใสแค่ไหน ละกิเลสได้มากน้อยแค่ไหน อานิสงส์ที่เราจะพึงได้ก็มากน้อยไปตามสิ่งที่ท่านทำได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2019 เมื่อ 09:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #36  
เก่า 10-10-2019, 08:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่มีคนมาทำให้ผมโกรธ แล้วผมก็พยายามที่จะระงับ ไม่แสดงความโกรธออกมาทางกายและวาจา แต่ในใจก็ยังรู้ตัวว่ายังโกรธเขาอยู่ ผมเลยไม่คุยด้วยและไม่ไปคบค้าสมาคมกับเขาอีกเลย ผมอยากทราบว่าการที่ผมยังไม่ยกโทษให้เขา แต่ผมก็ยังอยู่ในขอบเขตของการไม่จองล้างจองผลาญ ไม่เอาคืนเขา ไม่ทราบว่าการที่ผมวางกำลังใจแบบนี้ จะถือว่าผมบกพร่องในกรรมบถ ๑๐ หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าเรียกว่าบกพร่องในกรรมบถ ๑๐ ก็ถือว่าเป็นความบกพร่อง เพราะในกรรมบถ ๑๐ มีเว้นจากการพยาบาท คำว่าพยาบาทนั้นก็คือผูกโกรธ โกรธนาน โกรธไม่เลิก ลองพิจารณาดูว่าตัวเองเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2019 เมื่อ 09:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #37  
เก่า 13-10-2019, 20:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลายส่วนที่พวกเราถามมา ส่วนใหญ่จะถามเลยหัวไป คำถามที่ควรจะมีประโยชน์ อย่างเช่นว่าตนเองปฏิบัติมา ตอนนี้มีสภาพอย่างไร ทำอย่างไรจึงจะก้าวหน้า ไม่ค่อยจะมี ไปสนใจแต่เรื่องของชาวบ้านหรือไม่ก็เรื่องเลยตายทั้งนั้น

พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ตัวเราเหมือนอยู่ในบ้านที่ไฟกำลังไหม้ แทนที่จะขวนขวายรีบหนีไปให้พ้นกลับนอนสบายอยู่ รังแต่จะโดนไฟไหม้คาบ้านไป ของบางอย่างรู้ไปก็ไม่เจ็บไม่คันแต่ก็อยากรู้ แต่สิ่งที่ควร
ที่จะรู้กลับไม่ขวนขวายรู้คือทางพ้นทุกข์ ต้องบอกว่าน่าเสียดาย

อย่างที่บางคำถามศึกษาพระไตรปิฎก ศึกษาวิสุทธิมรรค เจอข้อบกพร่องแล้วก็มัวแต่สงสัยอยู่ เหมือนกับอาหารอยู่ตรงหน้าของเรา มัวแต่สงสัยอยู่ว่าทำอย่างไร ? มันใช่ไหม ? แทนที่จะกินให้อิ่มแล้วก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเอง

เรื่องพวกนี้แก้ยาก เพราะนิสัยส่วนใหญ่ฝังรากลึกชาติแล้วชาติเล่า ส่วนหยาบ ๆ ที่แสดงออกแก้ไขได้ง่าย เพราะควบคุมด้วยศีลก็ได้แล้ว ส่วนละเอียดต้องควบคุมด้วยสมาธิ แก้ไขด้วยปัญญา เป็นเรื่องยาก เพราะถ้ากำลังของเราน้อย ทำไม่ถึง บางคนก็ไม่คิดถึงเรื่องเหล่านี้เสียด้วยซ้ำไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 16-10-2019 เมื่อ 20:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 147 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #38  
เก่า 13-10-2019, 20:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "การที่เราทำอะไร ไม่ว่าจะเป็นงานใหญ่งานเล็กก็ตาม ไม่มีใครทำด้วยความมั่นใจ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ว่าจะสำเร็จ ทุกอย่างต้องศึกษาลู่ทางให้ดีที่สุด แล้วก็ตัดสินลงมือทำไปตามข้อมูลที่มีอยู่ ระหว่างนั้นถ้ามีปัญหาก็ต้องปรับแก้ไปตามหน้างาน ซึ่งเรื่องทั้งหลายเหล่านี้พวกเราเจอมาทุกคน ไม่ใช่ว่าพอวางแผนงานมาแล้ว ทุกอย่างต้องเป็นไปตามนั้นเป๊ะ ๆ คราวนี้การปรับตามหน้างานถือว่าเป็นวิวัฒนาการ เราจะเห็นว่า ไม่ว่าพืชหรือสัตว์ก็ตาม ถ้าปรับตัวไม่ได้นี่ก็สูญพันธุ์หมด

มีคนเขาบอกว่า "คนโง่มองว่าตัวเองขาดอะไร คนฉลาดมองว่าตัวเองมีอะไร" อาตมาไปบรรยายเกี่ยวกับการบริหารงานชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุนให้ประสบความสำเร็จว่าต้องทำอะไรบ้าง ก็เลยบอกว่า บังเอิญอาตมาจะว่าโง่ก็ไม่ใช่ จะว่าฉลาดก็ไม่เชิง ก็เลยมองทั้ง ๒ อย่าง คือ มองว่าเราขาดอะไรแล้วสร้างใหม่ขึ้นมา มองว่าเรามีอะไรแล้วปรับให้ดียิ่งขึ้นไป

ฉะนั้น...การจะประสบความสำเร็จจริง ๆ ก็คือ การล้มลุกคลุกคลานมานับครั้งไม่ถ้วน เพียงแต่ว่าต้องไม่ท้อถอย คราวนี้การที่ล้มลุกคลุกคลานนั้น ก็สำคัญตรงที่ว่าใครจะลุกได้เร็วกว่า ก็คือบุคคลที่ไม่ใส่ใจกับความผิดพลาด ความล้มเหลวในชีวิต มีมุมมองที่เป็นแง่บวกเสมอ

โทมัส แอลวา เอดิสัน ทดสอบเรื่องการสร้างหลอดไฟ ล้มเหลวมา ๒๐๐ กว่าครั้งแล้ว ลูกศิษย์บอกว่า "อาจารย์ครับ...เราล้มเหลวมา ๒๐๐ กว่าครั้งแล้ว อาจารย์ยังคิดจะทำต่ออีกหรือ ?" เอดิสันบอกกับลูกศิษย์ว่า "ใครบอกว่าฉันล้มเหลว ? ฉันประสบความสำเร็จมา ๒๐๐ กว่าครั้ง เพราะฉันรู้ว่า ๒๐๐ กว่าหนทางนั้นใช้ไม่ได้" แล้วก็ทดลองหาทางต่อไป จนกระทั่งเรามีหลอดไฟใช้จนทุกวันนี้

ฉะนั้น...สำคัญที่มุมมอง คนที่แพ้เป็น ล้มเป็น จะเจ็บน้อย ไปได้เร็ว การล้มเป็นนี่ต้องดูการต่อสู้แบบพวกยูโด ไอกิโดอะไรพวกนั้น เทควันโดก็ได้ ถ้าหากว่าโดนคู่ต่อสู้ทุ่ม หรือว่าเตะตัด ล้ม ถ้าล้มเป็นจะไม่เจ็บ หรือไม่ก็ผ่อนหนักให้เป็นเบา เจ็บก็เจ็บไม่มาก

คนที่ผิดพลาด ล้มลงแล้วมัวแต่คร่ำครวญอยู่ตรงนั้น จะประสบความสำเร็จยาก ประมาณว่าจิตตก หมดกำลังใจที่จะไปต่อ แต่คนที่ล้มแล้วลุกเลย ไปต่อได้ระยะทางที่ไกลกว่า ถึงที่หมายเร็วกว่า"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2019 เมื่อ 01:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 154 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #39  
เก่า 13-10-2019, 20:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เรื่องของการปฏิบัติธรรมก็เหมือนกัน แต่ละคนผิดพลาดมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ผิดแล้วต้องเริ่มต้นใหม่ ดูว่าที่ถูกกว่านี้ยังมีอยู่ เราล้มครั้งแล้วครั้งเล่า จิตตกครั้งแล้วครั้งเล่า สมาธิตก กรรมฐานแตก นับไม่ถ้วน ความผิดพลาดอยู่ตรงไหน ? เขาถึงได้บอกว่าผิดเป็นครู ก็คือเอาไว้สอนตัวเองว่าจะไม่ผิดอย่างนั้นอีก แต่ส่วนใหญ่พวกเราผิดจนเป็นศาตราจารย์แล้ว แต่ก็ยังแก้ไม่ได้...! คือไม่ใช่ผิดเป็นครูเฉย ๆ แต่ผิดจนเป็นอาจารย์ของอาจารย์ไปแล้ว

เหตุที่การปฏิบัติธรรมของเราล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะว่าเรายังไม่เข็ด ล้มกี่ครั้งก็ไม่เข็ด คนที่เข็ดจะรู้จักระมัดระวัง แล้วก็แก้ไข เพราะว่าไม่อยากเป็นอย่างนั้นอีก แต่คนที่ไม่เข็ด ไม่อยากเป็น แต่ไม่สนใจที่จะแก้ไข ต่างกันอยู่นิดเดียว หรือไม่มีกัลยาณมิตรคอยบอกว่า ทางนี้ไม่ดี ทางนี้ไม่ถูก อย่าไป หรือถึงบอกกูก็จะดื้อไป

อาตมาเองอยู่กับหลวงพ่อวัดท่าซุงมา ปีแล้วปีเล่าจนกระทั่งมั่นใจว่าสิ่งที่หลวงพ่อท่านบอกเรา คือเรื่องที่ท่านเองผิดมานับครั้งไม่ถ้วน ผิดจนกระทั่งท่านหาทางที่ถูกที่สุด ง่ายที่สุดให้กับเราแล้ว แม้ว่าทางนั้นจะเป็นประเภททะเลไฟ กะทะน้ำมันเดือดอะไรก็ไปเถอะ ถ้าทุกด้านคือทางตาย ทางด้านนี้จะตายน้อยที่สุด

แต่พวกเราที่บอกว่ามอบกายถวายชีวิต แล้วไม่ได้มอบอย่างแท้จริง ถึงเวลาครูบาอาจารย์บอกก็ฟัง ๆ ไปอย่างนั้น ลำบากหน่อย กูก็ถอยแล้ว เจออุปสรรคหน่อย กูก็ไม่เอาแล้ว แล้วแบบนี้จะประสบความสำเร็จก็คงจะยาก ต้องยิ่งแพ้ยิ่งสู้ สู้จนกว่าจะชนะ
"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2019 เมื่อ 01:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 151 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #40  
เก่า 13-10-2019, 20:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"มีนางงามอเมริกันคนหนึ่ง มีแมวมองมาบอกว่า คุณสวยพอที่จะเป็นนางงามอเมริกาได้ เขาก็เลยไปสมัครประกวด ปีแรกก็ตกรอบ ปีที่สองก็ตกรอบ ปีที่สามก็ตกรอบ ปีที่สี่ก็ตกรอบ ปีที่ห้าก็ตกรอบ คุณเธอถามว่า "ทุกคนรู้ไหมว่าปีที่หกเกิดอะไรขึ้น ? ฉันก็ยังคงตกรอบ" แล้วเขาบอกทำไม ? บอกให้รู้ว่าเขาสู้ไม่ถอย ท้ายที่สุดเขาก็เป็นนางงามอเมริกาจริง ๆ เพราะว่าเขาปรับปรุงแก้ไข ศึกษาจากประสบการณ์ที่ขึ้นเวทีมาหลายปี กรรมการต้องการอะไร คนดูต้องการอะไร ความสวยเขามีพออยู่แล้ว มีใครบ้างขึ้นประกวดล้มเหลวมาตลอดหลายปี แล้วยังกล้าขึ้นประกวดอีก ?

อาตมาเล่าให้พวกเราฟังว่า เฉพาะแค่ปฐมฌาน อาตมาใช้เวลาทุ่มเทอยู่ ๓ ปี กว่าที่จะทำได้ พวกเราภาวนา ๓ นาที ใจไม่สงบ กูก็เลิกแล้ว แล้วทำไมอาตมาดื้อทำได้ ? ก็เพราะว่าเชื่อครูบาอาจารย์ ครูบาอาจารย์ท่านล้มเหลวมาครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งหาวิธีที่ดีที่สุด ที่ง่ายที่สุดมาบอกเราแล้ว ในเมื่อเราเชื่อท่านก็ต้องทำให้ได้อย่างท่าน ถ้าทำไม่ได้อย่างท่าน แสดงว่าความพยายามของเรายังไม่พอ

ฉะนั้น...ทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ ต่อให้เป็นมาร์ก ซัคเคอร์เบิร์กหรือว่าวอร์เรน บัฟเฟต ไม่ว่าจะทำอะไร ไม่ใช่ว่าเขามั่นใจ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ แต่เขาตัดสินใจจากข้อมูลที่มีอยู่ว่า ถ้าทำแล้วโอกาสสำเร็จมีมากกว่าเขาก็ทำ อาตมาก่อนหน้านี้ก็เป็นแบบนั้น ประเมินสถานการณ์แล้ว มีโอกาสชนะ ๘๐ เปอร์เซ็นต์ถึงจะทำ น้อยกว่านั้นไม่ทำ หลังจากมีประสบการณ์มากขึ้น ๆ ๗๐ ก็เอา ๖๐ ก็เอา ๕๐ ก็เอา เพราะมั่นใจว่าสามารถแก้ไขหน้างานให้ดีและประสบความสำเร็จได้ ปัจจุบันนี้นะหรือ ? ๑ เปอร์เซ็นต์ก็เอา โห...ถ้าสามารถเติมอีก ๙๙ ให้เต็มได้นี่กูเก่งสุด ๆ ชีวิตนี้จะมีรสชาติมาก..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2019 เมื่อ 01:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 154 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:37



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว