กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #141  
เก่า 21-08-2018, 23:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"อย่าให้เขากล่าวหาวัดอย่างเดียว ด่าเขาคืนไปบ้าง ด่าไพเราะอย่างนี้แหละ มีพวกเรา (พระ) ประเภทตั้งกระทู้แรง ๆ ถามขึ้นไป "ในเมื่อตำรวจทหารผิด รู้ ๆ อยู่ ทำไมถึงไม่จัดการ ?" ตอบไปว่า "คุณดูสภาพความเป็นจริงไหม ? อันดับแรกไม่มีหลักฐาน แล้วใครจะไปจัดการได้ ไปขอหมายศาล ศาลจะออกให้คุณหรือถ้าไม่มีหลักฐาน ? แค่ได้ยินเขาว่า ต่อให้รู้ ๆ ว่าเขาทำ แล้วถ้าหากต่อกันมา ๗ ช่วง ๘ ช่วง แล้วจะถึงตัวคนผิดไหม ?

ถ้าคุณไปกล่าวหาว่าทหารตำรวจเขาทำ ก็เป็นเพียงส่วนนิดเดียวเท่านั้นเอง เป็นจุดดำจุดเดียวในผ้าขาว แล้วไปกล่าวหาว่าเป็นทหารตำรวจทั้งหมด ก็พอ ๆ กับที่คุณโยนขี้มาบอกว่าพระผิดนั่นแหละ พระ ๒ แสนกว่ารูปมีผิดกี่รูป ? คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ยังไม่ได้เลย ฉะนั้น...ของพวกนี้จึงต้องร่วมมือกัน"

นึกถึงสภาพความเป็นจริงบ้าง ว่ารัฐบาลนี้พยายามจะแก้ไขพวกข้าราชการคอรัปชั่นอยู่ ถ้าเขาทำไม่ทันก็รอรัฐบาลใหม่ ถ้ารัฐบาลใหม่ทำไม่ทัน คุณก็ต้องนึกถึงพระพุทธเจ้าของเรา พระองค์ท่านตรัสว่า "ใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น" อย่าไปใจร้อน


ด่าไม่ดูหน้าคนเลย ตำรวจทหารนั่งเต็มเวที ส่วนใหญ่เขาไปคิดว่าแรงแล้วเท่ ไม่ดูกาลเทศะ แรงได้..แต่ให้อยู่ในกรอบ พูดง่าย ๆ คือพูดให้ชัด แต่อย่าให้เขาเตะถึง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2018 เมื่อ 01:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #142  
เก่า 21-08-2018, 23:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"อาตมาลงมาบอกท่านมหาจีรพันธ์ว่า "พรุ่งนี้หาดี ๆ หน่อยนะ ถ้าไม่ได้เขาต้อนตายเลย โดยเฉพาะพิธีกรสองคนจากหน่วยเฉพาะกิจ รับส่งลูกกันสุดยอดเลย มีแล่บออกข้างนอกด้วยนะ"

ในเมื่อหลวงพ่อชัดเจนขนาดนี้ ขอนอกเรื่องนิดหนึ่งครับ “พระขับรถได้ไหม ?" ก็ถามเขาว่า "แล้วโยมเห็นเขาขับไหมล่ะ ? ถ้าเห็นเขาขับต้องแสดงว่าเขาขับได้สิ ถ้าขับไม่ได้จะเอารถไปได้อย่างไร เพียงแต่ว่าสมควรไหม ?”

“เรื่องนี้ไม่ได้มีข้อห้ามอยู่ในศีลพระ แต่เนื่องจากชาวบ้านเห็นว่าไม่สมควร เราก็มาเอาข้ออ้างในการตีความพระธรรมวินัยในมหาปเทส ๔ ของพระพุทธเจ้ามาจับ "ของที่สมควร พระพุทธเจ้าไม่ได้ห้าม เพราะว่าสมัยนั้นไม่มี แต่ถ้าพิจารณาแล้วว่าไม่สมควร ของนั้นย่อมไม่สมควร" ในเมื่อพิจารณาแล้วว่าการขับรถของพระไม่สมควร ก็เป็นของที่ไม่สมควรแน่ ๆ เพียงแต่เขาปรับแค่อาบัติทุกกฎ คือทำอาการประหนึ่งฆราวาส ถามว่าอาบัติทุกกฎหนักแค่ไหน ? ก็หนักเท่ากับยืนฉี่เท่านั้นเอง"

ชี้แจงไปให้ชัดเจน ดูความจำเป็นของเขาด้วย ถ้าเกิดว่าวัดวาอารามอยู่ในป่าไป ๔๐-๕๐ กิโลเมตร โยมก็ไม่อยู่ขับรถให้เขา เจ็บไข้ได้ป่วยจะตายขึ้นมาใครจะขับล่ะ ? ก็ต้องพระขับเอง ทำอะไรต้องดูบริบท ดูกาลเทศะ ไม่ใช่ถึงเวลาก็ตำหนิอย่างเดียว

ทำไมโยมไม่คิดบ้าง ในเมื่อเรารู้อยู่ว่าการเล่นหวยบนดิน ใต้ดิน เป็นของไม่ดี กินเหล้าเป็นของไม่ดี สูบบุหรี่เป็นของไม่ดี แล้วทำไมโยมไม่ไปด่ารัฐบาล ไม่ไปปิดโรงงานพวกนี้ จะได้หมดเรื่องหมดราวไป เขาไม่ผลิตออกมาคนก็ไม่ต้องกิน ไม่ต้องเล่นกัน แต่ดันมามองว่าพระขับรถก็ผิด
แล้ว

ต้องเล่นคืนให้ได้ อย่าปล่อยให้เขาสอยเราฝ่ายเดียว เอาคืนไปบ้าง ขึ้นเวทีพวกนี้เป็นอะไรที่สนุกมากเลย จนเพลแล้วเขายังไม่อยากลุกเลย อยากฟังต่อ อาตมาบอกว่า “ไป ๆ ๆ ฉันเพลกันได้แล้ว ผมมีธุระ ต้องเข้ากรุงเทพฯ แล้ว”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2018 เมื่อ 01:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #143  
เก่า 22-08-2018, 21:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ญาติโยมหลายคนเริ่มจะใกล้เคียงกับที่อาตมาเคยทำสมัยโน้น ถามว่าสมัยโน้นคือสมัยไหน ? สมัยก่อนอายุ ๒๐ ปี สมัยนั้นหลวงพ่อวัดท่าซุงมารับสังฆทานที่บ้านสายลม พี่ชายก็ไปทำบุญทุกต้นเดือน พอพี่ชายชวนทำบุญ อาตมาก็ฝากเงินไปทำบุญเดือนละ ๑๐ บาท ถามว่า ๑๐ บาทตอนนั้นมีราคาแค่ไหน ? สมัยนั้นกล้วยหอมลูกละ ๕๐ สตางค์ เดี๋ยวนี้อยู่ในร้านสะดวกซื้อลูกละ ๘ บาท..!

ทำอย่างนั้นอยู่เป็นปี ๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเกิดสงสัยว่า หลวงพ่อท่านมีอะไรดี ถึงต้องไปทำบุญอยู่ทุกเดือน ? ต้องไปดูเสียหน่อย ปรากฏว่าไปแล้วไม่หน่อย หลังจากนั้นก็ไปทุกเดือน แล้วเป็นคนชอบไปไหนแต่เช้า ออกไปถึงบ้านสายลม ไปนั่งรอ พอ ๘ โมงครึ่ง หลวงพ่อท่านก็ลงมารับสังฆทาน พอท่านลงมาก็ไปเข้าคิวถวายกับท่าน ถวายเสร็จก็กลับ เป็นอย่างนั้นอยู่เป็นปี ๆ

จนกระทั่งมีอยู่วันหนึ่งเกิดสงสัยว่า แล้วตอนบ่ายเขาทำอะไรกัน ? ด้วยความสงสัยก็เลยอยู่ดูต่อไป ก็ปรากฏว่าช่วงบ่ายโมงมีการฝึกมโนมยิทธิ จึงเข้าร่วมการฝึกกับเขา ด้วยความที่ซื่อมากตามประสาเด็กบ้านนอก ไม่ได้เตรียมอะไรไปเลย บรรดาพี่ป้าน้าอาเตรียมเครื่องบูชาครูให้ ดอกไม้สามสี สีละ ๑ ดอก ธูป ๓ ดอก เทียน ๑ เล่ม และเขาบอกว่าเงิน ๑ สลึงเป็นทานบารมี เธอต้องออกเอง ด้วยความซื่อมาก จึงวิ่งไปยังปากซอยเพื่อแลกเหรียญสลึงมา ไม่รู้ว่าใส่เกินก็ได้

ฝึกมโนมยิทธิครั้งแรกก็ได้เลย พี่ชายไปอยู่ตั้งหลายปีฝึกไม่ได้สักที ด้วยความรู้สึกเดียวกับอาตมาในระยะแรก ๆ คือต้องตาเห็นเท่านั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-08-2018 เมื่อ 02:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #144  
เก่า 22-08-2018, 21:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"จนกระทั่งหลวงพ่อท่านลงมารับรับสังฆทานช่วงบ่าย พอช่วงเย็นท่านขึ้นข้างบนอาตมาก็กลับบ้าน หลังจากนั้นบรรดาพี่ป้าน้าอาเห็นว่าเป็นเด็กวัยรุ่น ใช้งานสะดวกก็เรียกใช้ แต่พอถึงสี่โมงเย็น หลวงพ่อท่านขึ้นข้างบนก็กลับ ทำอย่างนั้นอยู่เรื่อย จนกระทั่งท้ายสุดก็อยากรู้ว่า แล้วกลางคืนเขามีอะไรกัน ? ก็อยู่ต่อ เห็นว่าเขามีการฝึกกรรมฐานรอบค่ำกัน ก็ไปร่วมฝึกกับเขาด้วย หลังกรรมฐานถวายสังฆทานกับหลวงพ่อเสร็จก็กลับ ก็ยังอยู่แบบนั้นอีกเป็นปีเหมือนกัน

พองานเยอะขึ้น บรรดาลุงบรรดาป้าอายุมากขึ้น ทำงานช้าลง เรียกใช้มากขึ้น ท้ายสุดก็ค้างที่บ้านสายลมนั่นแหละ ออกจากบ้านหลังเที่ยงวันศุกร์ กลับเข้าบ้านเช้าวันอังคาร

ระยะนั้นไปวัดเฉพาะตอนวันงาน หลังจากที่ค้างบ้านสายลม คราวนี้ก็ไปวัดก่อนงาน ๒ วันเพื่อไปเตรียมงาน หลังงานเลิกก็เก็บงานอีก ๑ วันถึงจะกลับบ้าน

จากที่กล่าวมานี้ถึงพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า เรื่องของการสร้างบารมีจะเข้มข้นขึ้นไปเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาที่เราทำจริง ๆ จัง ๆ และสม่ำเสมอ อยู่ที่นี่อาตมาสังเกตว่าหลายคนก็เริ่มอยู่ยาวกันแล้ว เช้ากลางวันเย็นกลางคืน เสียดายที่นี่ไม่มีที่ให้พัก จริง ๆ บ้านสายลมก็ไม่มีที่ให้พัก แต่อาตมาเป็นคนกินง่ายนอนง่าย ถึงเวลาก็มุดเข้าห้องกรรมฐานนอนที่นั่นแหละ

พวกเราอย่าเอาหนักขนาดนั้นเลยนะ คงไม่เล่นกันเป็นอาชีพอย่างอาตมา เอาแค่ว่าพอหลังกรรมฐานภาคค่ำก็ให้รีบกลับ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-08-2018 เมื่อ 03:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #145  
เก่า 22-08-2018, 22:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ชีวิตสมัยนั้นต้องบอกว่าอาชีพหลักคือไปวัด อาชีพรองคือทำงาน เถ้าแก่ก็ต้องจ่ายงานให้คุ้มกับที่อาตมาไม่ค่อยจะอยู่ เนื่องจากว่าฝีมือดีจึงเลือกได้ ไปทำงานที่ไหนก็บอกเจ้านายเสมอว่า "ถ้าคิดว่าสิ่งที่ผมทำนี้ไม่ดี ก็ไล่ผมออกแล้วกัน" แต่ไม่มีใครไล่ออก ท้ายสุดกลายเป็นว่า เถ้าแก่จะรู้กำหนดการของวัดท่าซุงดีกว่าอาตมาอีก เพราะเขาจะต้องศึกษาเลยว่า ช่วงงานวัดอาตมาจะต้องไปกี่วัน ? ช่วงบ้านสายลมอาตมาจะต้องไปกี่วัน แล้วจ่ายงานเผื่อไว้เลย

อาตมาเป็นคนไม่กลัวงานหนัก ขอให้ได้ทำสิ่งที่ตนเองชอบ งานหนักแค่ไหนก็สู้ โดยเฉพาะทำงานไปภาวนาไปจะไม่รู้สึกว่าเหนื่อย ก็เลยเป็นลูกน้องบรรดาศักดิ์ เจ้านายเขาไม่อยากไล่ออก เพราะกลัวว่าอาตมาไปอยู่ที่อื่นแล้ว จะมาเป็นคู่แข่งของตัวเอง ฉะนั้น...ถ้าหากว่าใครเป็นประเภทเดียวกันแบบนี้ก็หยิ่งได้

แต่คนสมัยนี้ไม่เห็นจะต้องรอใครไล่ออก ส่วนใหญ่ทำที่ไหน ๓ เดือน ๖ เดือนก็ลาออกกันหมดแล้ว อ้างว่ามีประสบการณ์การทำงาน ไปสมัครงานที่อื่นง่ายขึ้น กำลังใจที่ทุ่มเทให้กับหน่วยงานไม่มี ถ้าอาตมาดูประวัติแล้ว คนประเภทนี้จะไม่รับเข้าทำงานเลย เพราะว่างานของเราจะกลายเป็นทางผ่านเท่านั้น

ต้องดูอย่างญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นเข้าทำงานบริษัท ทุ่มเทยิ่งกว่าเป็นงานของตัวเอง ทำกันชนิดตายคาบริษัทไปเลย เข้าทำงานที่ไหนได้ก็ไม่เปลี่ยนงานจนกว่าจะเกษียณอายุ เกษียณอายุแล้วก็ยังไปหางานอื่นทำ ถ้าใครไปญี่ปุ่นจะเห็นว่า คนทำงานส่วนใหญ่เป็นระดับคุณลุงคุณป้าทั้งนั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-08-2018 เมื่อ 03:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #146  
เก่า 22-08-2018, 22:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ฎีกาเขาบอกว่า ๑ หัวเข็มหมุด เทวดาสามารถอยู่ได้ตั้ง ๘ องค์"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-08-2018 เมื่อ 03:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 167 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #147  
เก่า 22-08-2018, 22:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เราเคยไปช่วยคนแล้ว เขาทำกับเรากลับมาไม่ดี รู้สึกเคือง ยังละไม่ได้ ?
ตอบ : เรายังใช้ปัญญาพิจารณาไม่พอ ทำอย่างไรที่เราจะเห็นว่า โกรธหรือไม่โกรธเราก็ตาย โกรธหรือไม่โกรธเขาก็ตาย เรื่องพวกนี้เหมือนอย่างกับพูดง่าย เอาเข้าจริงแล้วก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องกำลังของสมาธิเพียงพอ กดกิเลสให้อยู่ก่อน พอนิ่งแล้ว หลังจากนั้นเราค่อยไปแก้ไขกัน อย่างเช่นว่าจะตัดจะละกันแบบไหน ทำอย่างไรเราถึงจะไม่รู้สึกในเรื่องนี้อีก

แรก ๆ ก็อาจจะต้องอยู่กับการภาวนาให้เป็นปกติ เพื่อที่กำลังใจจะได้ไม่หลุดไปกับ รัก โลภ โกรธ หลง แล้วก็ค่อย ๆ พิจารณา ค่อย ๆ ตัด ค่อย ๆ ละไป เราเองโกรธหรือไม่โกรธเราก็ตาย เราเองโกรธหรือไม่โกรธเขาก็ตาย ใจเราค่อย ๆ คลายออกมา ท้ายสุดไม่ไปแตะต้องอีกก็จบ ตอนนี้ก็ทนไปก่อนแล้วกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-08-2018 เมื่อ 03:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #148  
เก่า 25-08-2018, 07:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระธาตุมอละอิตกับมอละอะอันเดียวกันไหมครับ ?
ตอบ : คนละองค์กัน เป็นเจดีย์คู่ ยุคนั้นอาตมาวางแผนว่าจะไปอย่างดี แต่ไปไม่ได้สักที ตอนนี้มีโอกาสไป แต่ก็หมดอารมณ์ไปแล้ว

ถาม : เขาบอกว่าปีหนึ่งเปิดแค่ ๓ เดือน ?
ตอบ : ตอนนั้นจะไปจากทางด้านหนองบัว ต้องนั่งรถไป ๒ วัน อุตส่าห์เช่ารถไว้ดิบดี ปรากฏว่าพม่ากำลังรบกับกะเหรี่ยง เขาเลยไม่ให้ผ่าน

ถาม : อยู่ในรัฐอะไรหรือครับ ?
ตอบ : รัฐกะเหรี่ยงต่อไทยนี่แหละ อีกครั้งหนึ่งท่านโมเช่จะพาเดินป่าจากฝั่งไทยลัดข้ามไป ปรากฏว่าหลงกันอยู่ ๒ วัน หลงแบบตลกมากเลย เจอรอยเท้าคน โอ้ย...ดีใจ รีบเดินตาม ที่ไหน...ได้รอยเท้าตัวเอง เพราะว่าจำรอยหยักของรองเท้าได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2018 เมื่อ 15:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #149  
เก่า 25-08-2018, 07:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "ยอดเขาเอเวอร์เรสต์เป็นเรื่องมหัศจรรย์ อินเดียเรียกว่าไกรลาส เพราะว่าเป็นที่สถิตของเทพเจ้าของเขา เนปาลเรียกว่าสักการะมาตา แปลว่า คุณแม่ที่เคารพอย่างยิ่ง ภาษาอังกฤษเขียนคำอ่านแค่ ซาการ์มาทา ทิเบตเรียกว่า โชโมลังมา เหมือนกันเลย แปลออกมาอย่างเดียวกัน ไปที่โน่นแล้วจะรู้ว่าตัวเราเป็นแค่เสี้ยวหนึ่งของโลกเท่านั้นเอง ถ้าเปรียบเทียบกับจักรวาลก็เป็นแค่เศษฝุ่นชัด ๆ"

ถาม : คนที่ไปไต่ยอดเขาได้ต้องใช้ความสามารถสูง ?
ตอบ : กำลังกาย กำลังใจ และกำลังเงิน ถ้าเงินไม่พอก็ขึ้นไม่ได้ เพราะว่าค่าใช้จ่ายสูงมาก ต้องจ้างลูกหาบด้วยอะไรด้วย เป็นหมื่นดอลลาร์ เอาชีวิตไปทิ้งกันไม่รู้เท่าไรแล้ว ตอนแผ่นดินไหวที่เนปาล ที่ Base Camp ก็โดนถมไป ๑๗ ศพ นอนอยู่ดี ๆ หิมะถล่มลงมาเป็นภูเขาเลากา จนป่านนี้ยังหาศพกันไม่ครบเลย แต่ก็อยู่นั่นแหละไม่เป็นไรหรอก อย่างไรก็ไม่เน่า จะช้าจะเร็วก็หาจนเจอ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2018 เมื่อ 15:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #150  
เก่า 25-08-2018, 08:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องความดันขึ้นอาตมาไม่กลัวหรอก เกิดมายังไม่เคยเป็นเลย ยกเว้นตอนมาลาเรียกำเริบ ที่ไม่เคยเป็นเพราะว่า ถ้าสมาธิทรงตัวความดันไม่ขึ้นหรอก"

ถาม : ถ้าเป็นความดันต่ำ ก็ไม่ลงด้วยใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ไม่ลง ขนาดช็อกแล้วยังไปต่อได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2018 เมื่อ 15:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #151  
เก่า 25-08-2018, 08:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พูดถึงหนังสือที่โยมมาถวาย "ขยันซื้อมาอ่านกัน เสร็จแล้วก็เอามาถวายพระต่อ ประเภทนี้เป็นทาสทาน อ่านเสร็จแล้วค่อยเอามาถวายพระ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2018 เมื่อ 15:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #152  
เก่า 25-08-2018, 08:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีคนเชื่อว่าเขาโดนทำเสน่ห์ และตอนนี้เขามีอาการทางจิตแล้ว หมอคิดว่าเป็นไบโพลาร์ พวกทำเสน่ห์เหมือนกับใส่ยากล่อมประสาทหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : ถ้าจะแก้กันให้ถึงรากเลยก็ให้เขาฝึกกรรมฐาน ทรงฌานให้ได้ โดยเฉพาะปฐมฌานละเอียดขึ้นไป ไสยศาสตร์พวกนี้จะโดนทำลายหมดไปเอง เพราะสภาพจิตตัวเองบริสุทธิ์กว่า ประการที่สอง...ถ้าหาอะไรไม่ได้ ก็เอาน้ำมันชาตรีของหลวงพ่อวัดท่าซุงให้เขากินลงไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2018 เมื่อ 15:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #153  
เก่า 25-08-2018, 08:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การดูพระหลวงปู่ปานขี่ไก่ว่าแท้ ตรงไหนที่เป็นจุดตาย ?
ตอบ : อันดับแรกเลยอักขระทุกตัวจะนูนเด่นชัดขึ้นมา อันดับที่สองคือตาจะกลมชัดเจน แล้วหลังจากนั้นค่อยไปดูเนื้อ ถ้าผิดเนื้อผิดพิมพ์ก็เจ๊งเลย อย่างนี้คือพิมพ์ หลังจากนั้นเราก็ค่อยไปศึกษาวัสดุ ว่าถ้าดินท้องนาแบบนี้ถึงเวลาเขาทำออกมาแล้ว การเผาถ้าโดนไฟแรงเป็นอย่างไร ถ้าโดนไฟอ่อนเป็นอย่างไร ไม่อย่างนั้นเสียของดีไปโดยไม่รู้ตัว ถ้าหากว่าโดนไฟแรงจะแกร่งเป็นสีแดง ถ้าเราดูเป็นอย่างเดียวก็ตาย เสียของดีไปโดยไม่รู้ตัว

การเล่นพระหรือเล่นเครื่องราง เขาให้เล่นไปทีละอย่าง ทำเป็นสักอย่างหนึ่งแล้วค่อยขยับไปศึกษาอย่างอื่นต่อ ถ้าโลภมากเอาหลาย ๆ อย่างพร้อมกันแล้วเอาดีไม่ได้หรอก ของพวกนี้ต่อให้เรียนมาด้วยกัน เรียนมาพร้อมกันก็ขึ้นอยู่กับความช่างสังเกต ถ้าไม่ช่างสังเกตนี่ตายเลย ตะกรุดหลวงปู่ศุข วัดปากคลองฯ หรือหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม ลายถักเกือบจะลายเดียวกันเลย คราวนี้แล้วเราต้องดูว่าของหลวงปู่ศุข ส่วนใหญ่แล้วร้อยละ ๙๙ ทำด้วยตะกั่ว แล้วก็ต้องไปดูว่าอายุตะกั่วเป็นอย่างไร ตะกรุดที่คนใช้งาน
ตะกั่วหัวตะกรุดจะละลายติดเป็นเนื้อเดียวกันไปเสียมาก แล้วก็ดูความยาว ส่วนใหญ่ของท่านจะตายตัวอยู่ที่ ๓.๔ นิ้ว ด้วยความเคยชินของแต่ละคนที่ทำมา ทำให้พอแยกแยะออก ไม่อย่างนั้นไปเจอเหมือนกันแล้วแต่ตีผิด ถ้าตีผิดแล้วราคาถูกลงก็ดี แล้วไปตีที่ราคาแพงขึ้นก็จบเห่..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 25-08-2018 เมื่อ 17:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #154  
เก่า 25-08-2018, 21:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

บางคนก็มีทัศนคติในแง่ที่เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ อย่างเช่นคิดว่าพระสมัยโบราณท่านเคร่งครัดมาก ไม่จับเงินไม่จับทอง เพราะฉะนั้นตะกรุดเงินตะกรุดทองไม่มี ถ้าอย่างนั้นเสียของดีไปโดยปริยายเลย ก็ท่านไม่ได้จับเงินจับทองแต่ว่าลูกศิษย์หามา หลวงพ่อก็จารให้ ไม่ต้องใครหรอก...หลวงปู่มั่นเองนั่นแหละจารตะกรุดทองคำเลย นั่นต้นตำรับธรรมยุตเลย ในเมื่อลูกศิษย์ขอท่านก็จารให้

เคยเล่าเรื่องตอนที่ทิดกวางบวชเป็นพระอยู่ พี่สาวพาแม่มาเยี่ยมลูกพระ แล้วบังคับไม่ให้แม่พูดด้วย เพราะว่าพูดแล้วบาป พระพูดกับผู้หญิงไม่ได้ จะเอาเงินถวายพระก็ไม่ได้
เพราะจะทำให้พระตกนรก พระพุทธเจ้าท่านห้ามพระรับเงิน นั่นแหละพวกเรียนอภิธรรมมาสายนี้ทั้งนั้นแหละ เขาเรียกว่ามาแต่นิติศาสตร์ล้วน ๆ รัฐศาสตร์ไม่มีเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2018 เมื่อ 02:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #155  
เก่า 25-08-2018, 22:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “ข้าวของทุกอย่างเวลาใช้ จะได้รับปราณหรือว่าพลังชีวิตของคนใช้ไปด้วย เราจะเห็นว่าข้าวของเวลาใช้งาน หลายอย่างเวลาอยู่กับคนแล้วจะดูสวยกว่าปกติ จริง ๆ แล้วเป็นรัศมีของพลังที่เปล่งออกมา แต่หลังจากที่ทิ้งเอาไว้ระยะหนึ่ง ปราณเริ่มลดลงเราก็จะเห็นว่าหมอง ดูไม่ได้เลย โดยเฉพาะพวกลูกประคำนี่ชัดเลย ขี้ฟ้องเป็นที่สุด”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2018 เมื่อ 02:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #156  
เก่า 25-08-2018, 22:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : แม่ถามว่าทำไมท่องคาถาเงินล้านแล้วไม่ได้ผลเลยคะ ?
ตอบ : เพราะไปท่องอยากจะให้ได้ผล ตัดตัวอยากออกไปแล้วจะได้ผล

ถาม : เลิกคิดไม่ได้ค่ะ ?
ตอบ : ถ้าอย่างนั้นก็จงไม่ได้ผลต่อไป เขาให้ภาวนาเป็นกรรมฐาน ไม่ใช่ให้ท่อง ส่วนใหญ่ไปท่องคาถาเงินล้านก็เจริญ ท่องคือสักแต่ให้จบ ๆ ไป แต่ภาวนานี่คือต้องตั้งใจทำให้ดีที่สุด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2018 เมื่อ 02:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #157  
เก่า 25-08-2018, 22:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมปฏิบัติเพื่อการละมานะ ต้องใช้ความพยายามเยอะไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ใช่แค่เยอะเฉย ๆ ต้องเรียกว่าเยอะเป็นพิเศษ คนที่มีอายุมาก คนที่มีความรู้สูง คนที่มีหน้าที่การงานดี ส่วนใหญ่จะมีมานะเป็นปกติ ต้องพิจารณาให้เห็นด้วยว่า ถ้าเราแบกไว้อย่างนี้ตายแล้วเราจะไปไหน ? แล้วก็ค่อย ๆ ปล่อย ค่อย ๆ วางไป

ถาม : บางทีพิจารณาสักกายทิฐิตามเทปหลวงพ่อฤๅษี พอไปเจอของจริงจึงรู้ว่ามานะละเอียด ?
ตอบ : ทำไมจะไม่ละเอียด ต้องกำลังระดับพระอนาคามีถึงจะละมานะกันได้ รูปราคะ อรูปราคะ อุทธัจจะ มานะ อวิชชา ต้องระดับพระอนาคามีขึ้นไปแล้วถึงจะคุยกันรู้เรื่อง แต่ก็ค่อย ๆ ซ้อมไปก่อน ถึงพระอนาคามีเมื่อไรแล้วถึงจะมีโอกาสตัดได้จริง ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2018 เมื่อ 02:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #158  
เก่า 27-08-2018, 08:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "บาตรที่ใช้รับเงินส่วนตัวที่เห็นอยู่นี่ มีโยมเขาเอามาถวาย โดยที่ไม่รู้ว่าพระห้ามใช้บาตรไม้ เพราะว่าบาตรไม้เวลาใส่อาหารลงไป จะดูดกลิ่นแล้วก็ดูดเอารสอาหารเอาไว้ ถึงเวลาอาหารก็จะบูดง่าย พระพุทธเจ้าจึงห้ามใช้ อย่างเช่นว่าบาตรทองเหลือง บาตรทองแดง บาตรสังกะสี พวกนั้นเป็นสนิมแน่นอน

ส่วนบาตรกะโหลกผีท่านห้าม เพราะว่าส่วนใหญ่พวกเดียรถีย์เขาใช้เพื่อให้ดูขลัง อย่างเช่นเอาผมคนมาทอเป็นผ้านุ่ง เอากะโหลกผีมาทำเป็นบาตร เรียกว่า กปาละ ก็คือกบาลนั่นแหละ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-08-2018 เมื่อ 09:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 153 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #159  
เก่า 27-08-2018, 09:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีคนเขียนจดหมายมาประท้วงว่า วัตถุมงคลในกระทู้หนูออกราคาถูกเกินไป ?
ตอบ : บอกเขาว่า “เอ็งขายห้าพันในตลาด แต่ข้าได้มาฟรี ขายสามพันก็แพงตายชักแล้ว” สมัยก่อนวัตถุมงคลของหลวงพ่อวัดท่าซุงราคามาตรฐานที่ ๒๐ บาท

พวกโรงงาน พวกเซียนพระเขาก็มาต่อว่าหลวงพ่อ ว่าขายผิดราคา เหรียญชุบทองสมัยนั้นต่ำสุด ๕๐ บาท ๖๐ บาท หลายแห่งก็ ๘๐ บาท หลวงพ่อท่านก็ยังขาย ๒๐ บาทเหมือนเดิม เมื่อไปต่อว่า ว่าท่านขายผิดราคา ท่านว่า “ผิดตรงไหน ? ข้าได้มาฟรี เขาถวายมา ขาย ๒๐ บาทก็ได้ ๒๐ บาท ไม่ได้ลงทุนอะไรเลย”

สมัยนี้ในเว็บวัดท่าขนุนมาตรฐาน ๑๐๐ บาท แพงกว่าสมัยนั้นตั้ง ๕ เท่าแล้ว ขายร้อยเดียวก็พอ เพราะว่าได้มาฟรี

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-08-2018 เมื่อ 09:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #160  
เก่า 27-08-2018, 19:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หนูเป็นหวัด หายใจไม่ได้มาสามเดือนแล้วค่ะ กินยาจนเลิกกินแล้ว ?
ตอบ : เปลี่ยนไปใช้สมุนไพรแทน หรือยาคูณธาตุแบบนี้ก็ได้ มันจะไปปรับธาตุในร่างกายของเราให้ดีขึ้น ลองเข้าไปตามร้านหมอแผนโบราณดู ว่าจัดยาคูณธาตุให้ได้ไหม เอาวันเดือนปีเกิดให้เขา

ถาม : จับอานาปานสติไม่ได้ ต้องหายใจทางปากแทน ?
ตอบ : นั่นก็อานาปานสติเหมือนกัน ถ้าหากว่าหมดทางจริง ๆ ก็เอาอย่างชอลิ้วเฮียง หายใจทางผิวหนังแทน ชอลิ้วเฮียงเป็นสุดยอดวิทยายุทธ์แต่ป่วยเป็นไซนัส ต้องหายใจทางผิวหนังแทน คนก็เลยสงสัยว่าไอ้นี่ตกน้ำแล้วทำไมสู้กับเขาไม่เลิก คนอื่นจะตายอยู่แล้วชอลิ้วเฮียงยังไม่ขึ้นมาสักที อ๋อ...ที่แท้หายใจทางผิวแทน จึงไม่เดือดร้อน

ถาม : หายใจทางผิวหนังได้หรือคะ ?
ตอบ : ได้...ขอยืนยัน ถ้าหากว่าใครทรงฌานได้ โอกาสหายใจทางผิวหนังมีเยอะมาก ถึงเวลาแล้วสภาพร่างกายของเราไม่ใช่แท่งทึบนะ แบบเดียวกับพวกต้นเสา เราเห็นว่ามันทึบ แต่ในสายตาของโลกทิพย์ที่ละเอียด เขาจะเห็นว่าช่องโหว่ของวัตถุนี่ใหญ่ขนาด ๑๐ ล้อวิ่งผ่านได้เลย ไม่ต้องแปลกใจว่าพวกที่ได้อภิญญาเดินทะลุกำแพงไปได้ ก็แค่ลอดช่องว่างนั้นไป ฉะนั้น...เรื่องที่ไม่ใช้จมูกหายใจถือเป็นเรื่องปกติของเขา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-08-2018 เมื่อ 00:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 146 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:10



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว