กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 10-08-2009, 23:31
โอรส's Avatar
โอรส โอรส is offline
นายทะเบียน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 897
ได้ให้อนุโมทนา: 37,411
ได้รับอนุโมทนา 206,453 ครั้ง ใน 3,180 โพสต์
โอรส is on a distinguished road
Default หยุดอยู่กับปัจจุบัน

ถาม : มีปัญหาคือว่า ตั้งแต่ช่วงหลังมา ลักษณะการกำหนดดวงใจ จะมีอาการเปลี่ยนแปลงมาก คือเหมือนกับว่า...(ไม่ชัด)...?

ตอบ : ขึ้นอยู่กับเรา ถ้าหากว่าเราส่งใจออกนอก จำไว้เลยนะ อะไรก็ตามที่เป็นปัจจัยให้เราส่งใจออกนอก ก็จะพยายามฉุด พยายามดึง พยายามรั้ง ไม่ให้เราเอาใจกลับเข้ามาข้างใน ปล่อยให้เราฟุ้งซ่านหลงทางไปเรื่อย ถ้าอย่างนั้นโอกาสที่เราจะก้าวหน้าก็ไม่มี มีวิธีเดียว คือ ทำอย่างไรจะรักษาใจของเราให้อยู่ภายใน ให้อยู่กับปัจจุบัน อยู่กับตอนนี้ อยู่กับเดี๋ยวนี้ เพราะว่าสิ่งที่เราฟุ้งซ่านนั้น ส่วนใหญ่ก็คิดไปในอนาคต ว่าต้องเป็นอย่างนั้นต้องเป็นอย่างนี้ หรือไม่ก็คิดย้อนอดีตไป ตอนนั้นถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดี ตอนนี้ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ดี ไม่ได้อยู่กับปัจจุบัน ก็เลยพาให้กำลังใจของเราพล่านไปหมด หาจุดที่จะสงบนิ่งอย่างแท้จริงไม่ได้

ในเมื่อหาจุดที่สงบนิ่งอย่างแท้จริงไม่ได้ ก็หาความก้าวหน้าไม่ได้ แล้วก็รู้สึกว่าจะโดนดึงออกไปสู่ในทางที่ต่ำได้ง่าย ฉะนั้น..หยุดใจให้เป็น ในเมื่อหยุดเป็นอยู่กับปัจจุบันได้แล้ว ทำอย่างไรให้จิตใจเราเข้มแข็ง ให้สติของเรารู้ทันอำนาจของกิเลสที่เข้ามา ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ระมัดระวังอย่างไรจะไม่ให้เข้ามาในใจของเราได้ ถ้าทำได้ก็สบายหน่อย ถ้ายังทำไม่ได้ก็เสียท่าให้โดนลากไปอยู่เรื่อย

ถาม : จริง ๆ ก็คือ พยายามควบคุมอารมณ์ใจ อย่างเช่นตอนเช้าก็ตั้งได้ พอไปทำงานก็ไหลแล้ว ?

ตอบ : ส่วนใหญ่แล้วของเราคือว่า พอเลิกภาวนาแล้วก็เลิกเลยทีเดียว ซึ่งใช้ไม่ได้ นั่นขาดทุนย่อยยับเลย เลิกภาวนาแล้ว เราต้องรักษาอารมณ์ใจสูงที่สุดเท่าที่เราทำได้ ให้อยู่กับเราให้นานที่สุด เวลาไปทำงานก็พยายามประคับประคองอารมณ์ใจ ให้อยู่กับการภาวนานั้นให้นานที่สุด เราจะรู้สึกเลยว่า อารมณ์กระทบรอบข้างเข้ามา ๆ ๆ แต่ถ้าหากว่าใจเรายังเกาะอารมณ์ได้เท่ากับตอนที่เรานั่งอยู่ เราจะกระทบกระเทือนน้อยมาก เหมือนอย่างกับตายด้าน ความรู้สึกช้าไปเลย

ถ้าหากว่าเรารักษาอารมณ์ตัวนี้ให้ทรงตัวอยู่กับเราได้นานเท่าไร รัก โลภ โกรธ หลง ก็กินใจเราได้น้อยเท่านั้น เมื่อ รัก โลภ โกรธ หลง กินใจเราได้น้อยเท่าไร จิตใจเราก็ผ่องใสเท่านั้น จิตใจเรายิ่งผ่องใสเท่าไร ปัญญาก็ยิ่งเกิดมากเท่านั้น ปัญญายิ่งเกิดมากเท่าไร ก็จะไประมัดระวังควบคุม กาย วาจา ใจ ของเราให้อยู่ในขอบเขตของ ทาน ศีล ภาวนา มากขึ้นเท่านั้น ทาน ศีล ภาวนา ยิ่งเจริญมากขึ้นเท่าไร โอกาสที่สิ่งไม่ดี คือ กิเลส ตัณหา อุปาทาน และอกุศลกรรมจะมาสอดแทรกได้ก็น้อยลงไปเรื่อย ๆ

เพราะฉะนั้น..ทำแล้วต้องรักษาอารมณ์ใจให้ต่อเนื่องยาวนานที่สุดเท่าที่เราทำได้ พลาดเมื่อไรให้เริ่มต้นใหม่ พลาดเมื่อไรให้เริ่มต้นใหม่ ไม่ต้องไปเสียเวลาไปนั่งคร่ำครวญเสียอกเสียใจ พลาดแล้วลงมือทำใหม่ได้เลย


สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-09-2014 เมื่อ 16:52 เหตุผล: แก้คำผิด
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 104 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โอรส ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ

Tags
ปัจจุบัน, หยุด, อยู่กับปัจจุบัน


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:11



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว