กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 09-03-2013, 21:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,846 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนมีนาคม ๒๕๕๖

ถาม : การที่คนเราป่วยด้วยโรคผิวหนังต่าง ๆ เช่น โรคท้าวแสนปม สะเก็ดเงิน เด็กดักแด้ กรรมเก่าในอดีตมีผลมากน้อยเพียงไรต่อการป่วยครับ ?
ตอบ : มีผลเต็มร้อยส่วน เรื่องของการเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นเพียงเศษกรรมจากอดีตเท่านั้น ต้นทุนเราต้องไปใช้ในนรก เปรต อสุรกาย หรือสัตว์เดรัจฉานก่อน เศษกรรมที่เหลือถึงทำให้เจ็บไข้ได้ป่วยในชาตินี้

บางท่านที่ไปด่าพระปัจเจกพุทธเจ้าว่า "ไอ้ขี้เรื้อน" ตัวเองก็เลยป่วยเป็นโรคเรื้อนอยู่ ๕๐๐ ชาติ อย่างสุปพุทธกุฏฐิ เป็นต้น กรรมที่ล่วงเกินผู้บริสุทธิ์ขนาดนั้น ด่าทีเดียวตัวเองเป็นไป ๕๐๐ ชาติ ฉะนั้น..กรรมเก่ามีผลร้อยส่วนเต็ม ๆ หมายความว่า อาการเจ็บไข้ได้ป่วยต่าง ๆ เป็นผลมาจากกรรมเก่าอย่างแน่นอน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-03-2013 เมื่อ 02:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 272 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 09-03-2013, 21:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,846 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตอนนี้หนูกำลังฝึกอานาปานสติกรรมฐาน เมื่อเข้าสมาธิไล่ฌานตั้งแต่ปฐมฌานถึงฌานสี่ ในระหว่างนั้นไม่แน่ใจนักค่ะว่าอยู่ในฌานลำดับใด เกิดความรู้สึกว่า ตนเองนั่งอยู่ท่ามกลางที่โล่งแจ้ง ที่กว้างนั้นมืดมิด ความรู้สึกคล้ายกับเรานั่งอยู่เดียวดายภายใต้ท้องฟ้ายามรัตติกาล ในสมาธินั้นมองเห็นดวงดาวนับร้อยนับพันดวงส่องประกายระยิบระยับ ดับวูบแล้วก็หายไป แล้วเกิดใหม่เรื่อย ๆ สีของดวงดาวนั้นเป็นสีขาวประกายพรึกบ้าง สีฟ้าบ้าง และมีสีม่วงบ้างค่ะ หนูนั่งมองอยู่เพียงชั่วครู่ก็ถอนสมาธิออกมา เพราะไม่แน่ใจว่าสิ่งนั้นคืออะไร ครั้งแรกก็ไม่ติดใจอะไรค่ะ แต่ระยะหลังมานี้ ได้เข้าสมาธิและเห็นบ่อยขึ้น หนูขอกราบเรียนถามว่า สิ่งที่เห็นนี้เป็นอุปาทานหรือไม่คะ? แล้วสภาวธรรมที่เกิดขึ้นนี้คืออะไร?
ตอบ : สิ่งที่เกิดขึ้นแปลว่าเข้าถึงอุปจารสมาธิแล้ว แสงสีต่าง ๆ จึงได้ปรากฏ กำลังของอุปจารสมาธินั้นเกือบจะทรงฌานได้ ด้วยความที่สภาพจิตเริ่มปลอดจากรัก โลภ โกรธ หลงชั่วขณะ เพราะกำลังของฌานสูงขึ้น ก็เลยทำให้รู้สึกโล่ง ว่าง เบาสบาย ขณะเดียวกันความเป็นทิพย์ก็เริ่มปรากฏ สิ่งที่อยากจะเตือนก็คือ อย่าเพิ่งทึกทักว่าตนเองได้ฌานนั้นฌานนี้ เพราะเพิ่งจะเริ่มขึ้นอนุบาลหนึ่งเท่านั้น

ถาม : ควรจะทำอย่างไรต่อไป ?
ตอบ : ตั้งหน้าตั้งตาซักซ้อมการภาวนาให้มากกว่านี้ ถ้ารักษาอารมณ์ต่อเนื่องได้นานขึ้น จะได้สมาธิที่สูงขึ้นไปเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-03-2013 เมื่อ 02:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 261 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 09-03-2013, 21:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,846 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การสะเดาะเคราะห์ทำได้โดยวิธีใดบ้างคะ? โดยปกติเห็นหลายท่านนิยมไปที่วัด เขียนชื่อใส่ในโลง และให้พระท่านทำพิธีให้ หากเราปฏิบัติในทาน ศีล ภาวนา ในคุณความดี ก็จัดเป็นบุญที่ช่วยให้เคราะห์ต่าง ๆ เบาบางลงได้หรือไม่คะ ?
ตอบ : ถ้าปฏิบัติในศีล สมาธิ ปัญญาจริง ๆ จะตัดเคราะห์กรรมได้ดีที่สุด แต่วิธีตัดเคราะห์ทั่ว ๆ ไป เท่าที่บุคคลเขาทำกัน อันดับแรกให้ถวายสังฆทาน เพราะการตัดเคราะห์คือกรรมเก่าที่ตามมา ถ้าเราสร้างบุญให้มีกำลังสูงไว้ ก็จะหนีห่างกรรมนั้นไปได้

อันดับที่สองให้ปล่อยชีวิตสัตว์ที่เขาขายไว้เพื่อฆ่า ถ้าตนเองเคราะห์หนักก็ปล่อยชีวิตสัตว์ใหญ่ เช่น ช้าง ม้า วัว ควาย อันดับที่สามให้ทำบังสุกุลตาย บังสุกุลเป็น เป็นการปฏิบัติในมรณานุสติกรรมฐานซึ่งถือว่าเป็นบุญใหญ่ ทำให้หนีห่างกรรมนั้นไปได้ อันดับที่สี่ ถ้าอาการหนัก เห็นว่าแย่แน่ ๆ ให้จัดงานศพตัวเอง นิมนต์พระมา ๔ รูป สวดศพของเราแล้วถวายสังฆทาน และการไปเข้าพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรก็ถือว่าเป็นการสะเดาะเคราะห์อย่างหนึ่ง

แต่ขอให้เข้าใจว่า คำว่าสะเดาะเคราะห์ในความหมายของเรา กับในความเป็นจริงนั้นคนละอย่างกัน คำว่าสะเดาะก็คือทำให้หลุดหรือให้พ้นไป ซึ่งความจริงเคราะห์กรรมนั้นไม่ได้พ้นไป เราแค่ทำความดีแล้วหนีห่างกรรมออกไป ถ้าความดีขาดช่วง เคราะห์กรรมนั้นก็จะตามทันอีก ดังนั้น..ควรที่จะสร้างความดีในศีล สมาธิ ปัญญาไว้บ่อย ๆ จะได้หนีห่างกรรมไปได้เรื่อย ๆ ท้ายสุดถ้าเข้าถึงความบริสุทธิ์ หลุดพ้นไปพระนิพพานได้ถึงจะพ้นกรรมจริง ๆ


ถาม : การสร้างพระ จัดว่าเป็นบุญที่ช่วยให้เคราะห์เบาบางลงหรืออีกนัยหนึ่งคือสะเดาะเคราะห์ได้ไหมเจ้าคะ ?
ตอบ : ได้...การสร้างพระอานิสงส์ใหญ่มาก พุทโธ อัปปมาโณ คุณของพระพุทธเจ้านั้นประมาณไม่ได้ ดังนั้นการสร้างพระจึงถือว่าเป็นการตัดเคราะห์กรรมได้อย่างหนึ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-03-2013 เมื่อ 02:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 274 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 11-03-2013, 20:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,846 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : บ้านผมโทรมมากแล้ว เกรงว่าจะหาปัจจัยมาบำรุงซ่อมไม่ทันการ ผมจึงคิดจะทำพิธีฝากบ้านกับท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ แล้วผมจะทำบุญสังฆทานให้ท่านด้วย แต่ไม่ได้มากมายอะไร ว่าจะใส่ตู้บริจาคของใกล้บ้านแทนเพราะปัจจัยมีจำกัด ?
ตอบ : คุณเข้าใจได้อย่างไรว่าฝากบ้านกับเทวดาแล้วบ้านจะไม่เก่า ? การฝากบ้านกับเทวดาท่านหมายเอาว่า ถ้ามีเหตุร้ายอะไรเกิดขึ้นท่านจะช่วยป้องกันให้ นี่บ้านเก่าจะพังแล้วไปฝากบ้านกับเทวดา บ้านจะได้ไม่พัง ท่านน่าจะช่วยให้พังเร็วขึ้นมากกว่า..!

ถาม : ผมจะบูชาผ้ายันต์มหาพิชัยสงครามมาอาราธนาไว้กับท่านเจ้าที่ แต่ศาลเจ้าที่บ้านผมเป็นศาลเจ้าที่จีนอยู่ในบ้าน ไม่ทราบว่าจะเหมาะสมหรือไม่ครับ ?
ตอบ : เรื่องของมหาพิชัยสงครามนั้น ขอแนะนำว่าติดให้สูงหน่อย ถ้าเป็นศาลเจ้าที่ที่วางติดพื้นแบบศาลจีนก็ติดธงเหนือท่านให้อยู่สูง ๆ ไปเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-03-2013 เมื่อ 03:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 248 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 11-03-2013, 20:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,846 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผ้ายันต์มหาพิชัยสงครามที่เย็บติดกับธงชาติแล้วอาราธนาแขวนที่หน้าบ้าน ปัจจุบันเก่าขาดแล้ว ถ้าจะเปลี่ยนธงผืนใหม่โดยเลาะผ้ายันต์ฯ จากธงเดิมออกมาเย็บติดกับธงใหม่ ส่วนธงเดิมจัดเก็บพับใส่ซองวางที่หิ้งพระ จะเป็นการถูกต้องเหมาะสมหรือไม่คะ ?
ตอบ : ทำได้..แต่ถ้าจะให้ดีเอาธงใหม่สองผืนมาประกบธงเก่าตรงกลางแล้วเย็บติดไปเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-03-2013 เมื่อ 03:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 250 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 11-03-2013, 20:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,846 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ดิฉันหยิบน้ำในตู้เย็นมาดื่ม นึกว่าเป็นน้ำอัดลม พอดื่มถึงทราบว่าเป็นเหล้าหมักจึงบ้วนทิ้ง ล้างปากแล้วหาน้ำเปล่ามาดื่ม อย่างนี้ที่ไปเข้าพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรมาไม่ทราบว่า ยันต์เกราะเพชรจะยังอยู่กับเราหรือเปล่าคะ ? เป็นกังวลค่ะ
ตอบ : ถ้ายังไม่กลืนก็ไม่เป็นไร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-03-2013 เมื่อ 03:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 247 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 11-03-2013, 21:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,846 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมมีความรู้สึกเลื่อมใสในตัวหลวงพ่อฤๅษีลิงดำเป็นปกติ ผมจึงใคร่อยากให้พระคุณเจ้าแนะวิธีทำให้ศรัทธาเต็มด้วยเถอะครับ ?
ตอบ : หล่อรูปหลวงพ่อฤๅษีขนาด ๒ เมตรขึ้นด้วยทองคำแท้ รับรองศรัทธาเต็มแน่นอน..!

ถาม : ผมว่าชาติหน้ายังไม่เต็มเลย ?
ตอบ : หลวงพ่อท่านสอนอะไรมา คุณก็ประพฤติปฏิบัติให้ได้ตามนั้น ยิ่งทำได้มากเท่าไร ศรัทธาจะแน่นแฟ้นมากขึ้นเท่านั้น เพราะเห็นคุณประโยชน์ความดีที่ท่านสอนไว้จริง ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-03-2013 เมื่อ 15:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 264 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #8  
เก่า 11-03-2013, 21:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,846 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนที่เป็นกระเทยผ่าตัดแปลงเพศเป็นผู้หญิงแล้วเรียบร้อย แต่มีความสงสัยว่าถ้าแต่งงานกับผู้ชาย จะผิดศีลข้อสามไหม ?
ตอบ : ผิดตรงไหน ?

ถาม : ก็เขาเป็นผู้ชายด้วยกัน
ตอบ : อย่าลืมว่าการล่วงละเมิดบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตถึงจะมีโทษศีลข้อสาม ถ้าแต่งงานแสดงว่าได้รับการยินยอมจากผู้ปกครองทั้งสองฝ่าย

ถาม : ไม่เกี่ยวกับว่าจะเป็นผู้ชายกับผู้ชาย ?
ตอบ : ผู้ชายกับผู้ชายเขามีมาแต่โบราณแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-03-2013 เมื่อ 03:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 238 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #9  
เก่า 11-03-2013, 21:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,846 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การฝึกกสิณเป็นสมาธิอย่างหยาบ สามารถทำให้มีสมาธิเป็นฌานได้ง่ายกว่าอานาปานสติ จริงหรือไม่อย่างไรครับ ?
ตอบ : เขาบอกว่ากสิณต้องอาศัยของหยาบเป็นเครื่องจูงจิตให้ทรงตัวได้ง่าย เพราะมีวัตถุข้างนอก ไม่ใช่ประเภทไปนึกเอา แต่กสิณไม่ใช่สมาธิอย่างหยาบ เพราะถ้าทำกสิณได้จริง ๆ ต้องเข้าถึงฌานสี่ละเอียดจึงจะใช้งานได้ ต่อไปใช้คำพูดให้ถูก ๆ หน่อย

กรรมฐานทุกกองถ้าทำเป็น ท้ายสุดเข้าถึงพระนิพพานได้ทั้งหมด แม้กระทั่งภาพกสิณระหว่างที่เราฝึกก็มีการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะ ๆ ไป ตามลำดับของสมาธิที่เราเข้าถึง การที่เราฝึกปรืออยู่ก็ต้องประกอบไปด้วยความทุกข์ ต้องใช้ความเพียรพยายามสูง ท้ายที่สุดแม้กระทั่งคนฝึกคือเราก็ต้องตายเหมือนกัน ถ้าสามารถมองเห็นสภาพความเป็นจริงอย่างนี้ได้ หมดความอยากที่จะเกิดอีก ก็ไปพระนิพพานได้เหมือนกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-03-2013 เมื่อ 03:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 244 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #10  
เก่า 11-03-2013, 21:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,846 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเราใช้เส้นเพื่อฝากลูกเข้าเรียน ทำให้คนอื่นเสียประโยชน์หรือไม่คะ ? จะมีวิบากกรรมอะไรหรือไม่คะ ?
ตอบ : เขาเรียกว่าฟุ้งซ่านเกินเหตุ ถ้าเราไม่ได้ใช้เส้นแล้วคนอื่นใช้ ตัวเราเองนั่นแหละจะเสียประโยชน์ อะไรก็ตามถ้าสามารถทำได้โดยไม่ได้ผิดศีลผิดธรรม ก็ทำไปเถอะ เขาเรียกว่าเป็นการมีปัญญาด้วยซ้ำไป แต่ถ้าเป็นประเภทพอตนเองไม่ได้เอาปืนไปจี้หัว ผอ. ขอให้รับลูกเราเข้าเรียน..นั่นก็เกินไป

ถาม : การใช้เส้นเป็นความสามารถพิเศษอย่างหนึ่งหรือครับ ?
ตอบ : เป็นวิธีอย่างหนึ่ง บ้านเราแก้ไขไม่ได้แล้ว ฝังรากลึกไปจนถึงดีเอ็นเอแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-03-2013 เมื่อ 03:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 239 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #11  
เก่า 11-03-2013, 21:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,846 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การสร้างพระพุทธรูปสีดำทั้งองค์ มีความหมายบอกถึงอะไรครับ เพราะปกติคนไทยไม่ค่อยนิยมใช้สีดำในสิ่งที่เป็นมงคล ทำไมถึงมีการสร้างพระพุทธรูปสีดำขึ้นมาบูชาครับ ?
ตอบ : แสดงว่าเกิดช้า..ไม่เคยเห็นพระพุทธรูปโบราณ เขารมดำทั้งนั้นแหละ ไม่ได้สำคัญที่สี แต่อยู่ที่เราชอบ ถ้าสร้างพระมาแล้วได้รูปแบบและสีที่เราชอบ จิตใจของเราจะสบาย เกาะภาพพระได้ง่าย จะสีอะไรก็ทำไปเถอะ สำคัญตรงที่ได้ทำหรือเปล่า ? มัวแต่ไปคิดว่าสีนี้ไม่เหมาะแล้วไม่ได้ทำสักที ก็ตายเปล่าไม่ได้อะไรเลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-03-2013 เมื่อ 03:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 248 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #12  
เก่า 12-03-2013, 20:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,846 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อยากทราบที่มาของตำรับยาวัดท่าซุง เช่นยาเก้าร้อย ยาหนอนตายอยาก ว่าหลวงพ่อท่านเป็นผู้ค้นพบ หรือเป็นผู้ปรุงเอง หรือเป็นตำราโบราณสืบต่อกันมาจากอาจารย์ท่านอื่น ๆ ครับ ? และพระอาจารย์ได้ฉันตำรับยาหลวงพ่อวัดท่าซุงเพื่อการบำรุงและการรักษาบ้างหรือไม่ครับ ?
ตอบ : เคยฉันมาหลายเกวียนแล้ว...!

ถาม : ว่ากันเป็นเกวียนเลยหรือครับ ?
ตอบ : ตำรายาส่วนใหญ่เป็นของโบราณ แต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านเห็นว่าเหมาะสมที่จะใช้งาน ก็นำมาบอกกล่าวกัน บางอย่างเป็นของเก่า พระหรือเทวดาท่านมาเตือนว่าสามารถรักษาโรคนี้ได้ ท่านก็นำมาแนะนำ ท้ายสุดอาจารย์บุปผชาติ พงษ์ประดิษฐ์เห็นว่าควรจะทำขึ้นมาสงเคราะห์คนอื่น เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนสามารถจะเข้าถึงสมุนไพรต่าง ๆ ได้ครบถ้วน ท่านก็เลยทำเป็นยาขึ้นมา แต่ระยะหลังเห็นว่า อย. เล่นงานเสียย่ำแย่เลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-03-2013 เมื่อ 03:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 237 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #13  
เก่า 12-03-2013, 20:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,846 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำไมการเอาพระพุทธรูปไปบรรจุใต้ฐานหรือบรรจุในองค์พระ ซึ่งจะถูกโบกปูนปิดทับไว้ไม่มีใครเห็น หลาย ๆ ท่านทำกันครับ ? เพราะเทียบกับการเอาพระพุทธรูปเหล่านั้นเก็บเอาไว้ด้านนอกเพื่อให้ประชาชนได้กราบไหว้บูชาแบบเห็นองค์จริง น่าจะได้อานิสงส์มากกว่าหรือไม่ครับ ?
ตอบ : อันดับแรก...เขาต้องการอานิสงส์พุทธบูชาแบบเฉพาะของตน ก็เลยเอาไปบรรจุไว้ อันดับที่สอง..พระที่บรรจุไว้ไม่ว่าจะชำรุดทรุดโทรมอย่างไรเสีย เราไม่เห็น กำลังใจไม่เสีย แต่ถ้าเราเอาไว้ข้างนอก บางทีปล่อยให้ฝุ่นจับเขรอะอยู่หรือผุพังเลยก็มี

ดังนั้น..ก็ต้องดูเจตนาว่าเขาตั้งใจสร้างเพื่อให้บูชาเป็นส่วนรวมหรือไม่ ถ้าเป็นส่วนรวมก็ต้องเอาไปแสดงให้คนอื่นเขาเห็น แต่ถ้าอยากได้อานิสงส์เป็นการส่วนตัวก็มักจะบรรจุ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสมัยก่อนเขาตั้งใจเอาไว้ว่า นานไปข้างหน้าถ้ามีผู้ใดมาสืบเสาะพบเห็นเข้า เขาถือว่าเป็นการสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาด้วย พูดง่าย ๆ ว่าถึงข้างนอกพังหมดแล้ว ข้างในก็ยังมีเหลืออยู่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-03-2013 เมื่อ 03:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 239 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #14  
เก่า 12-03-2013, 20:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,846 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การนำเอาเงินเหรียญและของมีค่าไปใส่ไว้ใต้ฐานหรือองค์พระ ผมไม่เข้าใจเลยครับว่าจะเป็นบุญกุศลอย่างใด ถ้าเทียบกับเอาของเหล่านั้นไปขายและนำไปซื้อทอง ซื้อปัจจัยในการหล่อองค์พระแทน หรือนำเครื่องประดับเหล่านั้นมาประดับที่องค์พระ น่าจะได้บุญมากกว่าเก็บเอาไว้ใต้ฐานเฉย ๆ หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : เจตนาเขาตั้งใจถวายเป็นพุทธบูชา แต่เจตนาคุณดันไปดูที่มูลค่าสิ่งของ แสดงว่ากำลังใจต่ำกว่าเขาหลายเท่า เขาถวายแล้วถวายเลย แปลว่าเขามีอุเบกขาในทานบารมี ส่วนคุณนี้ไม่ได้ถวายเองแท้ ๆ ยังหาอุเบกขาไม่ได้ กำลังใจห่างจากเขาลิบโลกเลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-03-2013 เมื่อ 03:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 243 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #15  
เก่า 12-03-2013, 21:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,846 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : นอกจากมนุษย์แล้วจะมีผู้ใดชื่นชอบทองคำและเพชรอีกบ้างไหมครับ ? คุณค่าในทองคำและเพชรเกิดจากที่มนุษย์เห็นได้ด้วยตาและมีอุปาทานว่าสิ่งนี้มีค่ามาก จากการสะท้อนแสงและความคงทนเท่านั้นหรือไม่ ? เพราะถ้าไม่มีแสงก็จะไม่เห็นว่าสวย หรือจริง ๆ แล้วเป็นสัญญาเก่าที่เคยเกิดในสวรรค์ ?
ตอบ : ของจะมีค่ามีราคาก็ต่อเมื่อของนั้นมีน้อย และมีคนต้องการมากจึงตีค่าไว้สูง ถ้าไปดวงดาวบางดวง อาตมาเชื่อว่าเอาก้อนกรวดไปแลกเพชรของเขาได้ เพราะบ้านเขามีแต่เพชรแต่พลอยเต็มไปหมด ไม่มีก้อนกรวดเลย เพราะฉะนั้น..เก็บกรวดไว้เยอะ ๆ นะ เผื่อมีโอกาสเจอเขาจะได้เอาไปแลก..!

สมัยอาตมาเด็ก ๆ เขายังใช้หอยเบี้ยแลกเปลี่ยนอยู่เลย สมัยนี้ไม่เห็นใช้ สมมติเปลี่ยนไป ถ้าเขาตั้งสมมติขึ้นมาใหม่ ให้ก้อนกรวดข้างถนนมีราคา เขาก็จะไปแย่งก้อนกรวดกันต่อ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-03-2013 เมื่อ 03:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 239 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #16  
เก่า 13-03-2013, 20:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,846 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การถวายปัจจัยต่าง ๆ ให้กับดวงวิญญาณผู้เสียชีวิต โดยวิธีโบราณสืบมา คือการนำของดังกล่าวตั้งไว้กลางแจ้งและจุดธูปบอก แล้วนำไปลอยหรือวางไว้โคนไม้ เทียบกับการนำของดังกล่าวเอาไปถวายพระให้ท่านสวดยะถาฯ ให้ จะได้ผลหรือต่างกันอย่างไรครับ ? และถ้าของนั้นอาจไม่เหมาะกับพระสงฆ์ เช่น ผ้าสไบของผู้หญิง หรือของเล่นเด็ก จะยังสามารถถวายพระสงฆ์เพื่อนำส่งบุญและปัจจัยเหล่านั้นต่อดวงวิญญาณผู้เสียชีวิตได้หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าเอาของไปวางแล้วจุดธูปบอก ผีก็จะยืนตาปริบ ๆ เพราะสิ่งที่เขาจะได้เป็นเรื่องของบุญกุศล ไม่ใช่เรื่องของวัตถุ ส่วนเรื่องเอาของไปถวายนั่นทำถูก แต่ของที่ไม่เหมาะสมกับพระ เขาไม่ได้บังคับว่าต้องถวายพระ ก็คือมอบให้กับผู้ใดผู้หนึ่งก็ได้ ถ้าเขารับไปถือเป็นส่วนของทาน อานิสงส์เกิดขึ้นแล้ว สามารถอุทิศให้กับผู้อื่นได้

ฉะนั้น..ถ้ามีสไบก็เอาไปมอบให้กับแม่ชีที่เขาอยู่ปฏิบัติธรรมก็ได้ หรือถ้าเป็นสไบสารพัดสีก็บริจาคให้คนที่ไหนก็ได้


ถาม : จัดว่าเป็นทานเหมือนกัน ?
ตอบ : จัดว่าเป็นทาน มีอานิสงส์ก็ถึงผู้ตายได้เหมือนกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 14-03-2013 เมื่อ 09:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #17  
เก่า 13-03-2013, 20:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,846 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ขณะป่วยภาวนาแยกกายกับจิต แล้วเห็นอนิจจังของโลก การดำเนินชีวิตที่เหลืออยู่กับมรรคมีองค์ ๘ ถือว่าถูกต้องไหมคะ ?
ตอบ : แปลกมาก..เห็นอนิจจังของโลกแทนที่จะเห็นอนิจจังของตนเอง ? เรื่องของธรรมะต้องดูจากข้างในก่อน พอดูจากข้างในจนมั่นใจแล้วค่อยไปดูข้างนอก ถ้าไปดูข้างนอกแต่ลืมข้างใน ก็ไม่ไปถึงไหนหรอก ถ้าสามารถเห็นอนิจจังแสดงว่าก้าวแรกเริ่มไปตรงแล้ว ต่อไปก็ให้ดูความเป็นทุกข์ ความไม่ใช่ตัวตนเราเขา

ถาม : เห็นความไม่เที่ยงอย่างเดียวยังไม่พอใช่ไหมครับ ?
ตอบ : อันดับแรกเอาที่ตัวก่อน ถ้าเห็นตัวเองชัดเจนก็จะเห็นคนอื่น สัตว์อื่น ข้าวของอื่นในลักษณะเดียวกัน

ถาม : เห็นข้างนอกจะเห็นง่ายกว่าครับ ?
ตอบ : เห็นข้างนอกนั่นของเขา เห็นข้างในนั้นของเรา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-03-2013 เมื่อ 02:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #18  
เก่า 13-03-2013, 20:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,846 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หนูปลูกมะเขือเทศไว้ ๑ ต้น รดน้ำแล้วสวดคาถาเงินล้าน ๑ จบ ลูกมะเขือดกมากค่ะ เต็มต้นเลย
ตอบ : ทำไมไม่เอามาถวายพระบ้างล่ะ..?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-03-2013 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 224 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #19  
เก่า 13-03-2013, 20:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,846 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ขอคาถาย่นระยะทางครับ เวลาเดินทางจะได้สะดวกรวดเร็วทันใจ ?
ตอบ : หลับซะ ตื่นขึ้นมาก็ถึงแล้ว..!

ถาม : เป็นคนขับหลับไม่ได้ครับ ?
ตอบ : จริง ๆ คาถาบทไหนก็ได้ ให้ใจมุ่งมั่นเท่านั้น ในตอนต้นนึกว่าต้องการอะไร หลังจากนั้นให้ลืมเสีย แล้วภาวนาอย่างเดียว เพราะคาถาเป็นเครื่องโยงใจให้เกิดสมาธิ เมื่อสมาธิเกิดขึ้นก็จะมีพลานุภาพบันดาลให้เป็นไปตามที่ต้องการ

ถาม : เป็นอธิษฐานบารมีหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : เขาเรียกว่าฌานฤทธิ์ ฤทธิ์ที่เกิดจากฌานสมาบัติ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-03-2013 เมื่อ 02:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 225 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #20  
เก่า 13-03-2013, 21:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,846 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมพิจารณาว่าตัวรูปในร่างกายก็ไม่มีแล้ว ตัวอารมณ์ก็ไม่มีแล้ว เพราะอารมณ์อาศัยร่างกาย เมื่ออารมณ์ไม่มี รูปไม่มี โลกก็ย่อมไม่มี ไม่มีอะไรเหลือเลย ก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปผิดศีล ตัวที่ไปผิดศีลเพราะมาจากสาเหตุตัวนี้ เพราะไม่เหลืออะไรแล้ว ?
ตอบ : ศีลเป็นการกระทำ ถึงแม้เป็นสมมติทางโลก แต่ถ้าเราทำผิดสมมติทางโลกก็ยังเป็นความผิดอยู่ ขณะเดียวกันสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ไม่ใช่อารมณ์ภาวนา แต่ต้องเป็นความเป็นจริงที่มีอยู่ ตราบใดที่เราต้องเสียเวลาพิจารณาก็ยังอีกไกล ต้องเห็นได้ทุกเวลาถึงจะใช้ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-03-2013 เมื่อ 02:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
หิมะขาว

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:24



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว