กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 21-09-2020, 18:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,116 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๕ กันยายน ๒๕๖๓

ญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๕ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๓ วันนี้อาตมาหนีงานช่วงบ่าย ไปเฝ้าสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อมฺพรมหาเถร) ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เพื่อกราบขอบพระคุณที่พระองค์ประทานข้าวสารช่วยโรงทานต้านภัยโควิดของวัดท่าขนุนไป ๒ วาระ ครั้งละ ๕๐๐ กิโลกรัม และขณะเดียวกันก็เข้าร่วมพิธีการอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคล เนื่องในวาระการสถาปนาวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามครบ ๑๕๐ ปี

ญาติโยมพุทธบริษัทหลายท่านอาจจะเห็นว่า ในเรื่องของวัตถุมงคลนั้น มีความจำเป็นที่จะต้องมีไว้เพื่อเป็นเครื่องยึดโยงกำลังใจของเรา แต่ขณะเดียวกัน..นักวิชาการหลายท่าน ที่ต้องบอกว่าเสียแรงเป็นนักวิชาการ แต่ว่าเบาปัญญาไปนิดหนึ่ง ไม่ได้เห็นสิ่งที่โบราณาจารย์ท่านซ่อนเอาไว้ในวัตถุมงคล ว่าเป็นการสอนให้เราปฏิบัติกรรมฐานกองสำคัญอย่างง่ายดายที่สุด โดยที่ไม่ต้องเคี่ยวเข็ญกันมาก

เพราะว่าวัตถุมงคลนั้น อย่างของวันนี้ก็มีทั้งรูปพระพุทธเจ้า ก็คือพระอังคีรส พระประธานในพระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม มีพระนิรันตรายซึ่งเป็นพระสำคัญที่ในหลวงรัชกาลที่ ๔ ทรงให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันก็มีรูปพระสงฆ์ ตลอดจนกระทั่งพระฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นต้น

ซึ่งสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากเรานำเอารูปพระพุทธรูปไปสักการบูชา คือการที่เราปฏิบัติในพุทธานุสติ เป็นการยึดโยงจิตของเราให้ระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้อย่างเป็นรูปธรรมที่สุด เพราะว่ามีรูปนิมิตก็คือพระพุทธรูป ปรากฏอยู่ตรงหน้าของเราอย่างชัดเจน

ขณะเดียวกันถ้าหากเป็นพระสงฆ์ ก็จะได้สังฆานุสติ คือการระลึกถึงคุณความดีของพระสงฆ์ ตลอดจนถ้าเราระลึกถึงว่าพระสงฆ์นั้นคือหลวงปู่หลวงพ่อของเรา เมตตาสั่งสอนเรามาอย่างไร นั่นจัดเป็นธัมมานุสติกรรมฐาน ถ้ายิ่งเราปฏิบัติตามคำสั่งสอนนั้นอย่างได้ผล ก็ยิ่งจัดเป็นธัมมานุสติกรรมฐานอย่างเต็มระดับ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-09-2020 เมื่อ 19:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 22-09-2020, 09:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,116 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

บางท่านอาจจะสงสัยว่า อย่างพระรูปในหลวงรัชกาลที่ ๕ จัดเป็นกองกรรมฐานอย่างไร ? นั่นก็จัดว่าเราปฏิบัติตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ตรัสไว้ว่า ปูชา จะ ปูชะนียานัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง คือการบูชาบุคคลที่ควรบูชา จัดว่าเป็นอุดมมงคลอย่างสูงสุด

องค์ในหลวงนั้น แต่โบราณมาก็ถือว่าเป็นสมมติเทพ โดยเฉพาะถ้าเป็นสมมติเทพที่ปฏิบัติอยู่ในทศพิธราชธรรม ก็แปลว่าพระองค์ท่านควรค่าแก่การบูชาเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะถ้าท่านทั้งหลาย นึกถึงพระบาทสมเด็จพระชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช องค์ในหลวงรัชกาลที่ ๙ นั้น พระองค์ทรงใช้หลักธรรมในการปกครองประเทศอย่างแท้จริง พระบรมราโชวาทที่ประทานในวาระในโอกาสต่าง ๆ นั้น ล้วนแล้วแต่เป็นหลักธรรมในพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น

ถ้าเราระลึกถึงในส่วนของพระบรมราโชวาทของพระองค์ท่าน ก็จัดเป็นธัมมานุสติกรรมฐาน ถ้าแสดงออกซึ่งการเคารพบูชาพระองค์ท่าน ก็แปลว่ากำลังปฏิบัติตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือพระธรรม ในส่วนที่ตรัสเอาไว้ว่า บูชาบุคคลที่ควรบูชานั่นเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-09-2020 เมื่อ 11:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 22-09-2020, 09:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,116 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น...ในส่วนที่ท่านทั้งหลาย เมื่อถึงเวลาแล้วก็นำเอาวัตถุมงคลไปบูชา ก็แปลว่าท่านทั้งหลายได้ปฏิบัติในกองกรรมฐานใหญ่คือ พุทธานุสติกรรมฐาน การระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธัมมานุสติกรรมฐาน การระลึกถึงพระธรรม สังฆานุสติกรรมฐาน การระลึกถึงพระสงฆ์

ซึ่งการระลึกถึงนี้ ถ้าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง คือระลึกในคุณงามความดีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้แก่ พระบริสุทธิคุณ ที่พระองค์ท่านชำระจิตใจให้ผ่องใสจากกิเลสได้อย่างวิเศษยิ่ง ในพระกรุณาธิคุณ คือทรงเมตตาสั่งสอนสัตว์โลกอย่างไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยากตลอด ๔๕ ปีเต็ม ๆ เป็นต้น

หรือว่าระลึกคุณของพระธรรม ว่าเป็นเครื่องป้องกันเราไม่ให้ตกสู่อบายภูมิ เป็นเครื่องนำเราก้าวพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน หรือว่าระลึกถึงคุณของพระสงฆ์ ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง ปฏิบัติควรต่อธรรม และปฏิบัติชอบแล้วด้วยประการทั้งปวง สามารถเข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้า ตั้งแต่พระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี พระอรหันต์ เป็นต้น

ถ้าเราระลึกถึงในคุณของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ในลักษณะนี้ โดยมีวัตถุมงคลเป็นเครื่องยึดโยงจิตใจ ก็แปลว่าเราเข้าถึงปริศนาธรรมที่โบราณาจารย์ได้แฝงเอาไว้ในวัตถุมงคลอย่างแท้จริง โดยเฉพาะพุทธานุสติกรรมฐานนั้น ท่านกล่าวไว้ว่าเป็นกองกรรมฐานที่พาเราเข้าสู่พระนิพพานได้ง่ายที่สุด เพราะว่าพระองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้อยู่ที่ไหนเลยนอกจากพระนิพพาน เราระลึกถึงพระองค์ท่าน ก็คือเราอยู่ใกล้พระองค์ท่าน เราอยู่ใกล้พระองค์ท่าน ก็คือเราอยู่กับพระนิพพาน

ลำดับต่อไปก็ขอให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันเสาร์ที่ ๕ กันยายน ๒๕๖๓
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย คะน้า)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-09-2020 เมื่อ 11:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 10:00



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว