กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมิถุนายน ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 21-06-2023, 17:48
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 340
ได้ให้อนุโมทนา: 3,307
ได้รับอนุโมทนา 18,646 ครั้ง ใน 818 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๖๖


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 22-06-2023, 00:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,410,962 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๒๑ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพต้องขออภัยต่อญาติโยมทั้งหลาย ที่ร่วมกันจัดงานวันเกิดครบ ๖๔ ปีเต็ม ย่างปีที่ ๖๕ ให้แก่กระผม/อาตมภาพที่วัดท่าขนุน

เนื่องเพราะกระผม/อาตมภาพนั้นติดนิสัยคนโบราณ ซึ่งจะจัดงานวันเกิดแค่ในสองรูปแบบ รูปแบบแรกก็คือจัดเมื่ออายุครบ ๖๐ ปี หรือว่า ๕ รอบ หลังจากนั้นก็แบ่งความนิยมออกเป็นสองสาย สายแรกคือจัดทุก ๑๐ ปี ได้แก่อายุ ๗๐ ปี ๘๐ ปี ๙๐ ปี ๑๐๐ ปี เป็นต้น อีกสายหนึ่งก็จัดทุกรอบนักษัตรคือ ๑๒ ปี ได้แก่ ๗๒ ปี ๘๔ ปี ๙๖ ปี ไปจนถึง ๑๐๘ ปี

เหตุที่ความนิยมของโบราณเป็นเช่นนี้ ก็เพราะว่าสมัยก่อนการเดินทางนั้นยากลำบาก ท่านผู้มีบารมีที่จะจัดงานวันเกิดนั้น ก็มักจะมีคนเคารพนับถือมาก
หากว่ามีการจัดงานวันเกิดกันทุกปี ทุกคนก็จะต้องลำบากในการเดินทาง ท่านจึงมีความนิยมจัดงานวันเกิดออกเป็นสองแบบ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น

กระผม/อาตมภาพที่ค่อนข้างจะเป็นคนโบราณ จึงเอาแบบนิยมรอบนักษัตร ตั้งใจว่าจะจัดงานวันเกิดอีกที ก็ตอนอายุ ๗๒ ปี จึงได้เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ ในการเป็นคณะกรรมการสอบซ้อมว่าที่พระอุปัชฌาย์ ที่วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) ทำให้ญาติโยมทั้งหลายไม่ได้พบ แต่ก็ขอเจริญพรขอบคุณขอบใจทุกท่าน ที่ยังนึกถึงวันเกิดของกระผม/อาตมภาพอยู่

อีกประการหนึ่งก็คือชาตินี้เป็นชาติที่กระผม/อาตมภาพนับว่าอายุยืนมาก เพราะว่าดูย้อนหลังไป ๔ - ๕ ชาติ ล้วนแล้วแต่อายุไม่เกิน ๕๐ ปีก็เสียชีวิตแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ชาตินี้ก้าวเข้ามาถึง ๖๕ ปี ก็ถือว่ากำไรมหาศาล ถ้าท่านทั้งหลายตั้งใจที่จะร่วมงานวันเกิดกันจริง ๆ ก็ให้รอปีที่อายุครบ ๗๒ ก็คือพุทธศักราช ๒๕๗๔ ถ้าหากว่ามีชีวิตอยู่ไปถึง ก็จะได้จัดงานวันเกิดกันอีกครั้งหนึ่ง

สำหรับช่วงนี้ เมื่อมีเวลา
กระผม/อาตมภาพก็ได้ศึกษาความรู้ จากคลิปต่าง ๆ ที่มีผู้เมตตาส่งมาถวาย ปรากฏว่ามีคลิปอยู่ชุดหนึ่งที่น่าสนใจมาก ก็คือคลิปที่ว่า ถ้าท่านมีโอกาสเลือกวัตถุมงคลได้แค่ชิ้นเดียว ท่านจะเลือกแขวนรูปหรือว่าเหรียญหลวงพ่อองค์ใด ?

ปรากฏว่าผลที่ออกมานั้น กระผม/อาตมภาพเองยังอัศจรรย์ใจมาก ที่อัศจรรย์ใจมากไม่ใช่เพราะว่าอันดับหนึ่งคือหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ เนื่องเพราะว่าหลวงปู่ทวดนั้น เป็นที่นิยมว่าพระนิรันตรายมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ทำให้พระมหาเถรปูชนียาจารย์รูปนี้ มีชื่อเสียงโด่งดังคับฟ้าเมืองไทย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-06-2023 เมื่อ 01:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 22-06-2023, 00:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,410,962 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ว่าอันดับสองนั้นกลับเป็นหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ซึ่งถ้าหากว่าใครติดตามประวัติหลวงพ่อกวยก็ดี หรือว่าติดตามในสิ่งที่กระผม/อาตมภาพเคยบอกกล่าวก็ตาม ท่านทั้งหลายก็จะเห็นว่า หลวงพ่อกวยนั้นรักลูกศิษย์โดยที่ไม่รักที่ชัง จะเป็นคนดีหรือว่าไม่ดีในสายตาของใคร ถ้าเคารพนับถือท่านแล้ว หลวงพ่อกวยท่านยินดีสงเคราะห์ทั้งหมด..!

ตรงจุดนี้ถือว่าเป็นเมตตาแบบอัปปมัญญา ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง แล้วสิ่งที่ท่านสงเคราะห์ก็มักจะเห็นผลทันตา จึงทำให้บุคคลที่มีโอกาสเลือกรูป หรือว่าเหรียญพระเกจิอาจารย์ หลวงปู่หลวงพ่อที่ตนเคารพนับถือ ได้เลือกหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ซึ่งทางวงการพระเครื่องถือว่าเป็นพระอาจารย์รุ่นใหม่หลัง พ.ศ. ๒๕๐๐

ส่วนลำดับต่อ ๆ ไป นั้นก็คือหลวงพ่อโต วัดระฆัง หรือว่าสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ซึ่งตรงนี้ ถ้าหากว่าเราท่านทั้งหลายศึกษาประวัติของท่านมาก็จะเห็นว่า ในปัจจุบันนี้พระของท่านราคาแพงจนจับไม่ติดแล้ว
พระสมเด็จวัดระฆังองค์สวย ๆ ตอนนี้มีคนสู้ราคาถึง ๑๐๐ ล้านบาท..! ต่อให้เป็นพระสมเด็จบางขุนพรหมหรือว่าพระสมเด็จวัดเกศไชโยที่ท่านสร้าง ก็ยังมีคนสู้ราคาเป็นล้าน ๆ แต่ว่าท่านที่ร่วมกันลงคะแนน คงจะเห็นว่าในเมื่อให้เลือกได้ แปลว่าต้องมีของอยู่ในมือ จึงเลือกเอาหลวงพ่อโต วัดระฆัง มาด้วย

ลำดับต่อไปก็คือหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นอมตเถราจารย์ที่ผู้คนรู้จักกันทั้งบ้านทั้งเมือง จากท่านั่งอันเป็นเอกลักษณ์และวาจาโบราณ ซึ่งกระผม/อาตมภาพที่เคยไปกราบทำบุญกับท่าน ขอบอกว่า "ท่านเป็นพระที่พูดกูมึงได้เพราะที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา" เพราะว่าทุกคำออกจากใจอย่างแท้จริง

ลำดับถัดไปก็คือหลวงพ่อรวย วัดตะโก นี่ก็ถือว่าเป็นพระเกจิอาจารย์รุ่นใหม่ ใหม่กว่าหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตารามเสียอีก แต่ด้วยความที่นอกจากชื่อท่านจะเป็นมหามงคลแล้ว รูปเหรียญของท่านที่ลูกศิษย์นำไปใช้ ยังมีประสบการณ์ช่วยให้ลาภผลเงินทองไหลมาเทมาจริง ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-06-2023 เมื่อ 01:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 22-06-2023, 00:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,410,962 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ลำดับต่อไปก็คือหลวงพ่อเกษม เขมโก แห่งสำนักสุสานไตรลักษณ์ จังหวัดลำปาง ซึ่งกระผม/อาตมภาพได้ไปกราบท่านทั้งขณะที่ยังดำรงขันธ์อยู่ และได้ไปกราบสังขารของท่านหลังจากที่ท่านละสังขารไปแล้ว ขอยืนยันว่าองค์นี้เป็นที่สุดของที่สุดอีกรูปหนึ่ง แม้แต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ครูบาอาจารย์ของกระผม/อาตมภาพ ท่านก็ยืนยันว่า หลวงพ่อเกษมนี้เป็นสุดยอดพระสุปฏิปันโนรูปหนึ่ง โดยเฉพาะการทรงสมาบัติ ๘

อีกท่านหนึ่งก็คือหลวงปู่เจ้าคุณนรรัตน์ (ธมฺมวิตกฺโก) ซึ่งกระผม/อาตมภาพเคารพท่านมาตั้งแต่เด็ก เนื่องเพราะว่าพระเครื่ององค์แรกที่ได้รับมาก็คือ
เหรียญจเรตำรวจ ปี ๒๕๑๓ที่บางคนเรียกว่าเหรียญนาคปรก แล้วก็มีประสบการณ์ทันทีที่ได้รับมา ท่านมีฉายาว่า"พระอรหันต์กลางกรุง" ซึ่งสิ่งที่ท่านมีวัตรปฏิบัติออกมาให้บุคคลเห็นนั้น ทำให้คุณงามความดีของท่านเปล่งประกายออกมาจนปิดไม่มิด จึงเป็น ๑ ใน ๑๐ พระเถราจารย์ที่ถ้าหากว่ามีโอกาสเลือกวัตถุมงคลชิ้นเดียว ก็มีคนเป็นจำนวนมากเลือกเรียญของท่าน

แต่ว่าในจำนวนพระเถระทั้ง ๗ รูปที่กล่าวมานี้ ก็ยังมีเหรียญที่เป็นพระพุทธรูปแทรกเข้ามาอยู่ ๓ เหรียญ ซึ่งความจริงถ้าเป็นกระผม/อาตมภาพ ก็จะเลือกเหรียญพระพุทธรูปก่อน แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าส่วนใหญ่แล้วท่านที่ลงคะแนนเลือก ไม่ได้มีพุทธานุสติแน่นแฟ้นนัก จึงได้มีการเลือกเหรียญพระพุทธเอาไว้ด้านหลังเหรียญพระสงฆ์อยู่มาก

เหรียญพระพุทธที่ถือว่าเป็นเหรียญแรกและทุกคนเลือกก็คือ เหรียญพระพุทธชินราชรุ่นแรก ปี ๒๔๖๐ หลังอกเลา ซึ่งสร้างเป็นที่ระลึกในการที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระปิยมหาราชของพวกเรา ได้เสด็จนมัสการพระพุทธชินราช ณ เมืองพิษณุโลก ในราวปีพุทธศักราช ๒๔๕๘ แต่ว่าเหรียญที่ระลึกนี้มาสร้างเสร็จในปี ๒๔๖๐ แล้วที่นำเอารูปอกเลาประตูของวิหารพระพุทธชินราชมาลงเอาไว้ด้วย ก็เพราะว่าองค์ในหลวงรัชกาลที่ ๕ ตรัสว่า "ของดีอยู่ตรงนี้"

แล้วเหรียญนี้ก็มีประสบการณ์มหาศาล เพราะว่าพระเถราจารย์ที่ร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสก มีทั้งหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ดังนั้น..ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหรียญนี้จะเป็นที่แสวงหากันขนาดไหน โดยเฉพาะติด
๑ ในเบญจภาคีเหรียญพระพุทธรูปเมืองไทยเลยทีเดียว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-06-2023 เมื่อ 01:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 22-06-2023, 00:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,410,962 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกเหรียญหนึ่งก็คือเหรียญหลวงพ่อวัดบ้านแหลม ซึ่งถ้าหากว่าเขียนตามหลังเหรียญที่จารึกเอาไว้ก็คือ เขียนว่า รูปปฏิมากอนคุณพ่อวัดบ้านแหลม

เหรียญนี้ก็สร้างขึ้นในปี ๒๔๖๐ เช่นกัน โดยที่มีพระเถราจารย์ผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือในสมัยนั้น ร่วมปลุกเสกหลายต่อหลายองค์ อย่างเช่น หลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย เจ้าของ
๑ ใน ๙ เครื่องรางสะท้านแผ่นดิน "พิสมรวัดพวงมาลัย" หลวงพ่อหรุ่น วัดช้างเผือก เจ้าของตะกรุดกระดูกห่านขาว หลวงพ่อตาด วัดบางวันทอง เจ้าของธงกันอสุนีบาต หลวงพ่อบ่าย วัดช่องลม ตลอดจนกระทั่งหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม เป็นต้น

โดยเฉพาะหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อมนั้น เป็นที่อัศจรรย์มาก ตะกรุดของท่านติด ๑ ในเบญจภาคีตะกรุดเมืองไทย ก็คือตะกรุดมหาระงับ เสื้อยันต์ของท่านติด ๑ ในเบญจภาคีเสื้อยันต์เมืองไทย คือเสื้อยันต์วิรุฬจำบัง ลูกอมของท่าน ติด ๑ ในเบญจภาคีลูกอมเมืองไทย ก็คือลูกอมมหากัน และเหรียญของท่านติดเหรียญ ๑ ในเบญจภาคีพระเกจิอาจารย์เมืองไทย คือ เหรียญรุ่นแรกฉลองอายุ ๗๗ ปี พ.ศ. ๒๔๘๔

ต้องบอกว่าหลวงพ่อคงท่านเก่งทุกทางจริง ๆ จึงทำให้บุคคลที่เลือกวัตถุมงคลได้ชิ้นเดียว หรือว่ารูปเหรียญหลวงปู่หลวงพ่อที่ตัวเองเคารพแค่เหรียญเดียว ได้เลือกเอาเหรียญหลวงพ่อ วัดบ้านแหลมติดตัวตามที่ตนเองปรารถนา

เหรียญสุดท้ายแต่ไม่ใช่ท้ายสุด เนื่องเพราะว่าปนอยู่ในเหรียญทั้งสิบ ก็คือเหรียญหลวงพ่อโสธรรุ่นแรก ปี ๒๔๖๐ ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ติด
๑ ในเบญจภาคีเหรียญพระพุทธรูป ซ้ำยังแพงที่สุดในประเทศไทยเลยทีเดียว โดยเฉพาะตามประวัติที่กล่าวเอาไว้ว่า มีการสร้างทั้งเนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อสัมฤทธิ์ และเนื้อทองแดง มีทั้งเหรียญรูปเสมาและรูปอาร์ม แต่ว่ารูปเสมานั้นแจกเฉพาะคณะกรรมการ สร้างไม่เกิน ๒๐๐ เหรียญเท่านั้น

ส่วนเหรียญที่นิยมกันถึงขนาดบูชากัน ๔ - ๕ ล้านบาทนั้น ส่วนใหญ่ก็เป็นเหรียญรูปอาร์ม และในชีวิตกระผม/อาตมภาพก็มีโอกาสได้เห็นแค่เนื้อเงินกับเนื้อทองแดงเท่านั้น เนื้อสัมฤทธิ์และเนื้อทองคำไม่เคยได้เห็นเลย

โดยเฉพาะท่านทั้งหลายถ้าสังเกตก็จะเห็นว่า เหรียญพระพุทธรูปสุดยอดนิยมนั้นสร้างในปี ๒๔๖๐ ทั้งหมด ซึ่งในปีทั้งหลายเหล่านั้น เทคโนโลยีในการสร้างรูปสร้างเหรียญยังไม่ก้าวหน้าเพียงพอ ถ้าไม่โด่งดังคับฟ้า เป็นที่เคารพของคนทั้งประเทศจริง ๆ ไม่มีโอกาสที่จะได้สร้างรูปสร้างเหรียญอย่างแน่นอน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-06-2023 เมื่อ 02:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 22-06-2023, 00:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,410,962 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ที่กระผม/อาตมภาพเสียดายก็คือ เหรียญพระแก้วมรกต ปี ๒๔๗๕ เหตุที่ไม่ติดอันดับ ๑ ใน ๑๐ สุดยอดพระเครื่องยอดนิยมในดวงใจ ก็เพราะว่าเป็นเหรียญที่สั่งทำมากจากต่างประเทศ ไม่ได้มีพระเถราจารย์ที่สุดยอดในการปลุกเสก ช่วยให้พวกเราทั้งหลายได้มั่นอกมั่นใจยิ่งไปกว่าการเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองประเทศไทยของเรา จึงทำให้น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่เหรียญพระแก้วมรกตนั้น ไม่ได้ติด ๑ ใน ๑๐ แต่ว่าติด ๑ ในดวงใจของกระผม/อาตมภาพ ซึ่งพยายามเสาะหามาทั้งชีวิต เพิ่งจะได้ของแท้มาแค่ ๒ เหรียญเท่านั้น

ดังนั้น..ในส่วนที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนี้ ถ้าหากว่ากระผม/อาตมภาพเลือกได้ ก็จะเลือกเหรียญพระพุทธก่อน แล้วต่อไปในส่วนที่จะเลือกจริง ๆ ก็คือพระสมเด็จวัดระฆัง เพราะว่าอย่างไรเสียก็เป็นรูปพระพุทธปฏิมากร เป็นอนุสติที่กระผม/อาตมภาพยึดมาตั้งแต่เริ่มปฏิบัติกรรมฐานตอนอายุ ๑๖ ปี มาจนถึงป่านนี้ ก็เกือบ ๆ จะ ๕๐ ปี เข้าไปแล้ว..!

ในส่วนนี้ท่านทั้งหลายที่มีรูปเหรียญครูบาอาจารย์ที่ตนเคารพนับถือ ก็ไม่ต้องไปเสาะแสวงหาสิ่งแพง ๆ เนื่องเพราะว่าท่านที่ผู้จัดให้ลงคะแนนนั้น ท่านสมมติเอาว่าถ้าหากว่าเราเลือกได้ แต่ถ้าหากว่าเราไม่มี แค่ระลึกถึงท่านเป็นพุทธานุสติ หรือว่าสังฆานุสติ ก็เป็นประโยชน์อย่างใหญ่หลวงแก่เราท่านทั้งหลายแล้ว

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๒๑ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-06-2023 เมื่อ 02:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 45 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:59



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว