กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #81  
เก่า 29-03-2013, 13:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,074 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เนกขัมมบารมี ต้องบวชเป็นพระเท่านั้นจึงจะสามารถเกิดได้หรือคะ ?
ตอบ : ไม่ได้เกี่ยวกัน...เนกขัมบารมีคือเว้นจากการมีคู่ ตั้งใจประพฤติในพรหมจรรย์ เราจะเป็นผู้หญิงหรือเป็นผู้ชายทำได้ทั้งนั้น ผู้หญิงรักษาศีล ๘ ก็เป็นเนกขัมบารมีแล้ว ถ้ารักษาศีล ๘ อย่างเดียวเห็นไม่ชัดก็โกนหัวบวชชีไปเลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-03-2013 เมื่อ 14:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #82  
เก่า 29-03-2013, 21:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,074 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ภาวนาคาถาเงินล้านไปเรื่อย ๆ พอใจสบายเราควรทำอย่างไรต่อ ?
ตอบ : ยกใจไปกราบพระบนนิพพานสิจ๊ะ

ถาม : ถ้าออกกำลังกายไปด้วย ภาวนาไปด้วย ?
ตอบ : ได้...ควรทำให้ได้อย่างนั้น ทำงานทำการทุกอย่างให้อยู่กับการภาวนาให้ได้ เป็นสิ่งที่ต้องทำเลย ไม่ใช่ว่าถ้าทำแล้วกลัวว่าจะปรามาสพระ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-03-2013 เมื่อ 02:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #83  
เก่า 29-03-2013, 21:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,074 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เครียดเรื่องที่วัด ?
ตอบ : ตราบใดยังวิ่งหาอยู่ข้างนอกก็จะเครียดไปเรื่อย เรื่องจะจบต้องดูข้างใน ไม่ใช่ดูข้างนอก

ถาม : เครียดเรื่องชีวิตประจำวัน
ตอบ : ก็บอกแล้วว่ายังวิ่งข้างนอกอยู่ก็เครียดไปเรื่อย ต้องแก้ที่ข้างใน ถ้ารู้จักพออยู่ที่ไหนก็ได้

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : โดยหลักแล้วก็คือ เรื่องดีให้เปิดเผย เรื่องไม่ดีก็ปิดไว้ หลักการปกครองเขาเป็นอย่างนั้น เรื่องไม่ดีเรามาตีกันเอง เรื่องดี ๆ ยกประโยชน์ให้กับชาวบ้านเขาไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-03-2013 เมื่อ 02:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #84  
เก่า 29-03-2013, 21:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,074 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "อย่าไปคิดมีตัวเล็ก ๆ นะ ลูกคนอื่นน่ารักทุกคน พอเราเลี้ยงเองอยากจะบีบคอให้ตายวันละ ๓ รอบ ...(หัวเราะ)...

เด็ก ๆ เขามาตามบุญตามกรรมที่เนื่องกันมา คนไหนที่อาละวาดกับพ่อแม่ไว้มากก็จะได้รับคืนไปหลายเท่า เรื่องกรรมที่ทำกับพ่อแม่นี่เห็นทันตาจริง ๆ เห็นมาแทบทุกคน ตอนเด็ก ๆ ตัวเองแสบแค่ไหน ถึงเวลาตัวเองเป็นพ่อเป็นแม่แล้วโดนแสบกว่านั้นอีก ถ้าใครรู้ตัวว่าสร้างวีรกรรมไว้มาก พยายามเลี่ยงห่าง ๆ อย่าไปมีลูกเชียว ได้คืนแน่นอน..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-03-2013 เมื่อ 02:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #85  
เก่า 29-03-2013, 21:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,074 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การทำคาถาให้ขึ้น ขึ้นอยู่กับอะไร ?
ตอบ : สมาธิและการทำอย่างจริงจังสม่ำเสมอ ไม่ใช่ว่าภาวนาครั้งหนึ่งแล้วอีกเดือนค่อยมาเริ่มต้นใหม่ อย่างนั้นคงจะทำขึ้นอยู่หรอก

ถาม : ต้องทำจิตให้เข้มแข็งหรือครับ ?
ตอบ : ถ้าสมาธิทรงตัวก็เข้มแข็งเองแหละ ถ้าทำจิตแข็งได้โดยไม่ต้องใช้สมาธิได้ก็ดีสิ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-03-2013 เมื่อ 02:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #86  
เก่า 30-03-2013, 19:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,074 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระเครื่องนี้ พี่ที่ทำงานบอกว่าแท้บ้างเก๊บ้าง แต่ในเว็บเขาบอกว่าเก๊หมดเลยครับ ?
ตอบ : พระหลวงปู่ปานอย่างหนึ่ง หลวงพ่อโตวัดระฆังอย่างหนึ่ง สองท่านนี้ให้พรไว้ว่า พระของท่านจะใหม่จะเก่า ทันท่านหรือไม่ทันท่านก็ตาม ถ้านึกถึงท่าน ก็มีอานุภาพเหมือนกัน

เรื่องของวัตถุมงคลอย่าไปสงสัย สรุปง่าย ๆ ว่าถ้าสะสมวัตถุมงคลก็อย่าไปเข้าตลาดพระ อาตมาเองเห็นเขาให้บูชาพระหลวงปู่ทวดเนื้อว่านพิมพ์ใหญ่ ปี ๒๔๙๗ ราคาสองล้านห้าแสนบาท เห็นว่าของอาตมาสวยกว่าตั้งเยอะ ให้ลูกศิษย์เอาไปลองแหย่ดู เขาให้แค่แสนเดียว..!

เล่นพระอย่าเล่นด้วยหู เขาให้เล่นด้วยตา พยายามศึกษาให้รู้จริงเข้าไว้ พอถึงเวลารู้จริงก็เหมือนเรารู้จักต้นไม้ เรารู้จักว่านี่ต้นมะขาม ต่อให้ต้นใหญ่ต้นเล็กต้นแก่ต้นอ่อน เราดูก็รู้ว่านี่คือต้นมะขาม ไม่ต้องไปฟังใคร ถึงเขาจะบอกว่ามะม่วง เราก็มั่นใจว่านี่เป็นมะขามอย่างแน่นอน

ท่านเจ้าคุณอาจารย์พระราชปริยัติโมลี (โสภา เขมสรโณ ป.ธ.๙) วัดพระงาม จังหวัดนครปฐม ท่านบอก "ตอนแรกกูก็ไม่ได้คิดจะดูพระกับใครหรอก เห็นเขาส่องพระ กูยังตำหนิเขาเลย ไป ๆ มา ๆ พอเขาเอาพระมาให้ โดนปลอมไปหลาย ๆ องค์ ชักรำคาญ มัวแต่อาศัยตาคนอื่นก็เกรงใจ ดูเองก็ได้วะ" พอตำแหน่งท่านใหญ่ขึ้นก็มีคนเอาพระเครื่องมาถวายอยู่เรื่อย พูดง่าย ๆ ว่าผู้ใต้บังคับบัญชาหวังประโยชน์ก็เอาพระมาถวาย ปรากฏว่าพอเอาไปให้เซียนดู เป็นของเก๊อยู่เรื่อย ท้ายสุดท่านก็เลยดูเองดีกว่า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-03-2013 เมื่อ 01:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #87  
เก่า 30-03-2013, 19:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,074 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพ่อสมเด็จฯ วัดชนะสงครามก็เหมือนกันครับ
ตอบ : ตอนสมัยที่ท่านยังอยู่ เวลาไปหาหลวงพ่อสมเด็จฯ วัดชนะสงคราม อาตมามักจะเอาพระไปถวายท่านด้วย พอกราบเรียนท่านว่าผมไม่มั่นใจว่าแท้หรือเปล่า เพราะดูไม่เป็น ท่านนั่งสอนให้เป็นชั่วโมง โยมเห็นว่าอาตมาไม่กลับออกมาเสียที คิดว่ากลับออกไปทางอื่นแล้ว

ตอนไปเปิดงานที่วัดไร่ขิง มีคนถวายพระเครื่อง หลวงพ่อสมเด็จฯ ท่านรอจนงานเขาเสร็จ มีเวลาว่างแล้วท่านก็นั่งส่อง พระที่จะทำความสะอาดเก็บกวาดสถานที่ เห็นหลวงพ่อสมเด็จฯ ท่านนั่งส่องพระอยู่ก็ "หลวงตา..! เขากลับกันหมดแล้ว ยังจะมานั่งส่องพระอยู่อีก" พอท่านเงยหน้าขึ้นมา พระก็เข่าอ่อนร่วงอยู่ตรงนั้นแหละ หลวงตาที่ว่ากลายเป็นหลวงพ่อสมเด็จฯ วัดชนะสงคราม..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-03-2013 เมื่อ 01:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #88  
เก่า 30-03-2013, 20:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,074 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาปฏิฆะเกิด เราเอาวิปัสสนาญาณเข้าไป ตอนแรกมันก็ขาด สักพักก็คิดขึ้นมาอีกแล้วครับ เป็นอย่างนี้อยู่บ่อย ๆ ?
ตอบ : ทำไปเรื่อย ๆ จนกำลังเราเหนือกว่า กดทับเอาไว้ได้ แต่ก็ยังอยู่ เผลอเมื่อไรก็มาอีก แต่ระยะเวลาที่ชนะจะได้นานขึ้นไปเรื่อย ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-03-2013 เมื่อ 01:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #89  
เก่า 30-03-2013, 20:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,074 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระพุทธชินราชกับสมเด็จองค์ปฐมต่างกันอย่างไรครับ ?
ตอบ : แสดงว่าคุณเล่นพระเครื่องไม่ได้แน่ องค์ใหญ่ขนาดนั้นยังไม่เห็นความต่างอีก สมเด็จองค์ปฐมมุมพระโอษฐ์แทบจะไม่มี ลักษณะเต็มอิ่มเลย แต่พระพุทธชินราชมุมพระโอษฐ์จะเห็นชัดมาก คุณลองไปสังเกตดู พิมพ์พระเครื่องมีมากกว่านั้นอีก นี่องค์ขนาด ๔ ศอกยังไม่เห็นความต่างก็เลิกคุยได้เลย ..(หัวเราะ)..
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-03-2013 เมื่อ 01:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 214 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #90  
เก่า 30-03-2013, 21:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,074 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "การออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ถือว่าเราทำหน้าที่ การที่ทำหน้าที่ของตนให้ดีนั้น ถือว่าปฏิบัติตามหลักธรรมของพระพุทธเจ้า ถ้าอยากรู้ว่าหน้าที่ของตนมีอย่างไร ให้ไปดูในสิงคาลกสูตร พระสุตตันตปิฎก พระพุทธเจ้าตรัสกับสิงคาลมาณพที่ไปไหว้หน้าไหว้หลัง ไหว้บนไหว้ล่างอยู่ตลอดทุกวันว่า

"มาณเว..ดูกร..มาณพ เธอกำลังทำอะไรอยู่ ?" มาณพทูลว่า "ก่อนพ่อจะตายท่านสั่งให้ไหว้ทิศทั้ง ๖ ทุกวัน" พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า "สิ่งที่เธอทำเป็นความดี ที่ทำตามที่พ่อสั่ง แต่ถ้าเป็นทิศทั้ง ๖ ในความหมายของตถาคตจะเป็นอย่างนี้..." แล้วพระองค์ก็บอกว่า ทิศเบื้องบนคือสมณชีพราหมณ์ ทิศเบื้องล่างคือข้าทาสบริวาร ทิศเบื้องหน้าคือบิดามารดา ทิศเบื้องหลังคือบุตรภรรยา ทิศเบื้องขวาคือครูบาอาจารย์ ทิศเบื้องซ้ายคือมิตรสหาย ทรงบอกว่าแต่ละทิศเราต้องทำหน้าที่อย่างไรบ้าง

ฉะนั้น..การทำหน้าที่ของเราให้ดีก็คือการปฏิบัติธรรม โดยเฉพาะถ้าเป็นคนตรงไปตรงมา ถึงเวลาไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ทำตามหน้าที่ของเราเท่ากับเป็นการฝึกในสัจจบารมี คนที่มีสัจจบารมีเป็นคนตรงไปตรงมา ทำหน้าที่ทุกประการอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะจะเป็นคนตรงเวลามาก ถ้าใครไม่ตรงเวลาแสดงว่าสัจจบารมียังพร่องอยู่"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-03-2013 เมื่อ 01:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #91  
เก่า 02-04-2013, 20:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,074 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ลูกศิษย์ท่านพระครูสังฆรักษ์คณิศรนิมนต์ให้ไปนั่งปรกตอนหล่อระฆัง เขาบอกว่างานเริ่มประมาณ ๔ โมงเย็น อาตมาก็ไปก่อนเวลาหน่อย ไปถึงประมาณบ่ายสองโมง ปรากฏว่าได้ขึ้นธรรมาสน์เกือบสองทุ่ม เพราะว่างานของเขามีการสวดชินบัญชร ๑๐๘ จบก่อน ไม่รู้ว่านานเท่าไร รู้แต่ว่าคนสวดเกือบจะเป็นลม ...(หัวเราะ)... พุทธาภิเษกเสร็จ กลับไปถึงวัดสี่ทุ่มกว่า

โดนไปงานเดียวนี่เข็ดเลย ต่อไปงานไหนที่ควบคุมเวลาไม่ได้จะไม่ไปอีก ลืมตาขึ้นมาบนธรรมาสน์ ตอนแรกนึกว่าจะลงไปกราบหลวงพ่อราชรัตนมุนี เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม ปรากฏว่าท่านอันตรธานไปตอนไหนก็ไม่รู้ สรุปง่าย ๆ ก็คือ ท่านไหนที่เผ่นได้ก็เผ่นกันหมดแล้ว เหลือแต่อาตมากับพรรคพวกไม่กี่คนที่อยู่จนงานเขาเสร็จ

เห็นประโยชน์อยู่อย่างหนึ่งก็คือเรื่องของสมาธิ ในเมื่อตั้งเวลาว่าให้งานเขาเสร็จแล้วค่อยถอนสมาธิ สมาธิจะไม่ยอมถอนออกมาหรอก อยู่อย่างนั้นแหละ พอเลิกเมื่อไรถึงถอนออกมา ให้ลงจากธรรมาสน์ได้ เรียกว่านั่งกันจนลืมโลกไปเลย

อย่างที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า จิตฺตํ ทนฺตํ สุขาวหํ จิตที่ได้รับการฝึกดีแล้ว ย่อมนำสุขมาให้ ในเมื่อเราซักซ้อมกำลังใจเอาไว้ สามารถเข้าออกสมาธิตามเวลาที่ต้องการได้ อย่างน้อย ๆ กิเลสต่าง ๆ ก็กินเราไม่ได้ชั่วคราว ตราบใดที่ไม่ออกจากสมาธิมาแส่หาเรื่อง เราก็เดือดร้อนน้อยหน่อย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-04-2013 เมื่อ 15:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #92  
เก่า 02-04-2013, 20:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,074 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ดังนั้น..แม้ว่าในขั้นต้น ๆ ของการปฏิบัติ เราทรงสมาธิได้คล่องตัว สามารถหลบหลีกหนีกิเลสได้ แต่ถ้าใครมีปัญญาประกอบมาก พิจารณาเห็นโทษของกิเลส เข้าถึงสาเหตุว่าแต่ละอย่างเกิดจากอะไร แล้วเราไม่ไปแตะต้องสาเหตุของกิเลสนั้น ๆ กิเลสก็ไม่เกิด ถ้าอย่างนั้นกำลังสมาธิก็จะเป็นตัวหนุนเสริมปัญญาในการตัด ละ กิเลสเหล่านั้นลงไปได้

นั่งสบายใจเฉิบอยู่บนธรรมาสน์ รอว่าเมื่อไรจะเสร็จ อาตมาไม่ได้ร้อนไปด้วย เพราะจะขึ้นนั่งปรกแต่ละทีนี่เล็งแล้ว เล็งด้านที่อยู่เหนือลม พอถึงเวลาลมพัดจากข้างหลังไปข้างหน้า ความร้อนก็มาไม่ถึง รูปไหนไปอยู่ทิศที่เป็นใต้ลม กว่าจะเสร็จก็แทบจะกลายเป็นเนื้อย่างรมควัน..!

โบราณเวลาจะแสดงธรรม พระพุทธเจ้าทรงจะแนะนำว่าให้เว้นจาก อุปปริ วาตัง อย่าไปนั่งเหนือลม เพราะถ้าเราลืมอาบน้ำสัก ๓ วัน คนฟังได้กลิ่นคงเป็นลมตายไปเสียก่อน แม้กระทั่งการแสดงธรรมพระพุทธเจ้ายังให้สังเกตทิศทางลม การหล่อพระก็เลยยิ่งจำเป็น ต้องรีบสังเกตทางลมก่อน เพราะว่าปะรำพิธีหล่อพระจะร้อนมากทุกที่ ลมพัดไปทางด้านไหน อาตมาก็ไปนั่งทิศตรงกันข้ามเดี๋ยวนั้นเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-04-2013 เมื่อ 02:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #93  
เก่า 02-04-2013, 20:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,074 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"พรานล่าสัตว์เวลาจะเข้าไปล่าสัตว์ก็ต้องดูให้ตัวเองอยู่ใต้ลม คือให้ลมพัดจากสัตว์มาหาเรา กลิ่นของเราไปไม่ถึง สัตว์จะได้ไม่หนี อาจจะใช้ฝุ่นโรยเพื่อดูทางลมก็ได้ ถ้าหาฝุ่นไม่ได้ก็ให้อมนิ้วมือตัวเองแล้วยกขึ้น ลมมาด้านไหนด้านนั้นจะเย็นกว่า อมเฉพาะนิ้วนะ ไม่ใช่อมทั้งกำปั้น ...(หัวเราะ)... เป็นเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างหนึ่ง

ส่วนใหญ่แล้วสัตว์กินหญ้าจะจมูกไวมาก พวกนี้เชื่อจมูกมากกว่าตา ถ้าจมูกได้กลิ่นจะหนีทันที แต่ถ้าตาเห็นแล้วเรายืนนิ่ง ๆ บางทีเขาก็มองเฉย ๆ ได้ยินนักสัตวศาสตร์เขาบอกว่า พวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีกระดูกสันหลังอย่างเก้ง กวาง วัว ควาย จะเห็นภาพเป็นสีขาวดำ ในเมื่อเห็นภาพเป็นขาวดำ ถ้าเรายืนเฉย ๆ เขาก็ไม่มั่นใจว่าตอไม้หรือเปล่า แต่ถ้าได้กลิ่นเขาจะหนีทันที

แต่จะว่าหนีก็ไม่ใช่ อาตมาอยู่ในป่าบางทีเจอวัวแดงเป็นฝูง ประมาณสิบกว่าตัว เขาเห็นตอนแรกก็ชะงัก อาตมาก็ชะงัก เพราะพระกับวัวเขาลือกันมาแต่ไหนแต่ไรแล้วว่า วัวไม่ชอบสีจีวรพระ อาตมาจึงต้องทำใจดีสู้วัว ยื่นมือไปให้ ตัวหน้าก็ยื่นจมูกมาดม ดมเสร็จก็ร้องบอกเพื่อน เพื่อนก็เดินมาดม สรุปว่าวัวทั้งฝูงมาดมมือจนหมดแล้วก็ไป แสดงว่าเขาดมดูแล้วว่าไม่น่าจะมีอันตราย

พวกพรานป่าล่าสัตว์ต้องกินเนื้อสัตว์เป็นอาหาร ซึ่งจะมีกลิ่นตัวสัตว์อยู่ ที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามไม่ให้พระฉันพวกเนื้อเสือโคร่ง เสือเหลือง เสือดาว ราชสีห์ หมี งู ฯลฯ เพราะถ้าฉันเข้าไปแล้วกลิ่นตัวจะเป็นกลิ่นของสัตว์ชนิดนั้น เวลาเข้าไปในเขตของเขา เขาจะเห็นเป็นสัตว์แปลกหน้าไปบุกรุกถิ่นเขา แล้วจะไล่ทำร้ายไปให้พ้นเขต แต่ส่วนใหญ่แล้วคนเราเวลาโดนทำร้ายมักจะตายเสียก่อน ที่พระพุทธเจ้าตรัสห้ามฉันเนื้อ ๑๐ อย่าง สาเหตุหนึ่งเพราะว่าถ้าฉันไปแล้วอาจจะโดนสัตว์ทำร้ายได้ทีหลัง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-04-2013 เมื่อ 02:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #94  
เก่า 02-04-2013, 20:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,074 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ดิฉันไปถวายของที่วัดสายพระป่า แต่ท่านไม่รับของหลังจากฉันเช้าแล้ว ?
ตอบ : ถูกต้องแล้วจ้ะ

ถาม : เหมือนกับเราทำบาป เพราะเราไม่รู้ว่าท่านไม่รับอาหาร อย่างพวกบะหมี่แห้ง ?
ตอบ : ไม่มีอะไรหรอก พระธรรมยุตท่านเคร่งครัดต่อพระวินัย หลังมื้ออาหารแล้วท่านจะไม่รับอาหารที่มาทีหลัง เพราะว่าในธุดงควัตรจะมีบอกว่าห้ามภัตร คืออาหารที่ตามมาหลังจากฉันแล้ว ท่านกลัวว่าจะผิดศีลตรงนี้ ท่านก็เลยไม่รับ ถ้าวัดไหนที่ท่านไม่ได้สมาทานธุดงควัตรตรงนี้ท่านก็รับได้ ส่วนใหญ่แล้วถ้าเป็นพระป่าสายหลวงปู่มั่น ท่านจะถือธุดงควัตร คราวนี้เราไม่รู้ก็ไม่เป็นไร ถวายไปท่านไม่รับ เราก็เอาไปถวายวัดที่รับเสียก็หมดเรื่อง

ถาม : ท่านรับแล้วค่ะ แต่ท่านก็ตกใจ
ตอบ : เจออาหารยังตกใจ ถ้าเจอสาว ๆ เข้าคงจะยุ่ง เห็นใจท่านเถอะ แสดงว่ายังบวชไม่นาน ตบะยังสู้อาหารไม่ได้..!

ถาม : เหมือนกับเราทำบาป เพราะเราไม่รู้ว่าท่านไม่รับอาหาร เราบาปไหมคะ ?
ตอบ : ไม่เป็นไรหรอก เจตนาเราดีตั้งแต่ต้น กลัวพระจะอด อุตส่าห์เอาอาหารไปถวาย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-04-2013 เมื่อ 02:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #95  
เก่า 02-04-2013, 20:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,074 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เอาจีวรผ้าไหมอย่างดีไปถวายท่าน ท่านต่อว่าเลย ว่าเอาผ้าขาวมาถวายก็พอ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่พระป่าท่านเย็บย้อมจีวรด้วยตัวเอง ดังนั้นถ้าเห็นคำว่า "พระป่า" "วัดป่า" หรือวงเล็บท้ายชื่อวัดมี “ธ” แปลว่า ธรรมยุต เอาผ้าขาวไปถวายก็พอ ที่เหลือเดี๋ยวท่านจัดการเอง แล้วถ้าหลังเก้าโมงเช้าไปแล้ว ก็อย่าเอาอาหารไปถวาย เพราะท่านคงฉันไปแล้ว เราทราบทีหลังก็ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-04-2013 เมื่อ 02:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #96  
เก่า 02-04-2013, 20:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,074 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ช้างป่าที่โดนด่าแล้วรู้ นี่เป็นเพราะว่าเขาฉลาด ?
ตอบ : อันนั้นผีรู้...ส่วนใหญ่ช้างป่าจะมีผีดูแลอยู่ บางทีก็ไม่ใช่ผีแต่เป็นเทวดา ถึงจะเป็นพวกภุมมเทวดาหรือรุกขเทวดาก็ตาม แต่ท่านมีความเป็นทิพย์ ด่าเขาไกลแค่ไหนเขาก็ได้ยิน แล้วก็รู้ด้วยนะว่าใคร ด่าดีนักใช่ไหม ? ว่าแล้วช้างก็ไปกวาดเรียบ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-04-2013 เมื่อ 02:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #97  
เก่า 02-04-2013, 21:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,074 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมยังมีความกังวลใจเวลามีผู้โมทนาบุญผม เพราะบางทีผมหล่อพระแล้วผมก็ด่าคน ผมอยากให้คนอื่นโมทนาบุญแบบบริสุทธิ์ไม่มีอกุศลกรรมของผมเจือปน ?
ตอบ : คนอนุโมทนาเขาไม่โง่หรอก เขาเอาแต่ที่ดี ๆ ส่วนที่ไม่ดีของเรา เราก็รับต่อไปเถอะ อย่าลืมว่า คำว่า "บุญ" ก็คือความดี ความงาม ความเป็นกุศล ความสุข ในเมื่อเขาโมทนาบุญ แปลว่าเขาเลือกแต่ความดี ความงาม ความเป็นกุศล ความสุข เขาไม่ได้เลือกที่คุณกำลังด่าคน เพราะฉะนั้น..จงกลุ้มต่อไป เขาเองสบายไปแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-04-2013 เมื่อ 02:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #98  
เก่า 02-04-2013, 21:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,074 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : จะมีวิธีปฏิวัติความเชื่อของคนได้บ้างหรือไม่ครับ ? เพราะว่าพ่อแม่ผมเชื่อและศรัทธาในร่างทรง ตอนแรกผมก็ว่าจะปล่อย พอตอนหลังเขาก็ปรามาสพระ มีครั้งหนึ่งที่ผมก็เอามีดหมอถอนโบสถ์วัดปรังกาสีกับพระขรรค์โสฬสไป เขาไม่กล้ามองหน้าผม แต่พ่อแม่ผมก็ยังศรัทธาเขาอยู่ ?
ตอบ : มีสองอย่าง...อย่างที่หนึ่ง..ทำตัวของเราเอง ก็คือ พยายามสร้างอภิญญาสมาบัติให้เกิดขึ้นให้ได้ ในเมื่อเรายังอภิญญาให้เกิดขึ้นได้ ในความเป็นฆราวาสเราสามารถทำให้พ่อแม่ดูได้ พอพ่อแม่เห็นแล้วก็เกิดความเชื่อ ความเลื่อมใสขึ้นมา เราค่อยไปเปลี่ยนแนวความเชื่อของเขา ส่วนวิธีที่สอง...อย่าไปยุ่งกับเขาเลย ทางใครทางมัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-04-2013 เมื่อ 02:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #99  
เก่า 02-04-2013, 21:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,074 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : แม่ย่านางรถ ถ้าเราไม่ได้ทำพิธีบวงสรวง ท่านจะมาไหมคะ ?
ตอบ : ปกติต้องเชิญถึงจะมาได้

ถาม : ปกติแม่ย่านางต้องเป็นผู้หญิงหรือเปล่าหรือเป็นผู้ชายก็ได้ ?
ตอบ : ไม่แน่...เจอนายมาเยอะแล้ว

ถาม : แม่ย่านาง ท่านจะต้องตามติดพาหนะไปหรือคะ ?
ตอบ : เป็นงานของท่าน ในเมื่อเป็นงานของท่าน ถึงเวลาท่านก็ต้องไปด้วย

ถาม : ปกติท่านจะมีขอบเขตของท่าน ถ้าออกไปนอกเขต ก็ถือว่าท่านยังตามไปได้ ?
ตอบ : ไปได้ เพราะรถเป็นเขตของท่าน

ถาม : ถ้าเราเช่ารถ รถมีแม่ย่านางอยู่แล้ว หนูจะเชิญแม่ย่านางของหนูไปได้ไหมคะ ?
ตอบ : มีอยู่แล้ว ก็เป็นหน้าที่เขา ใครจะไปยุ่งด้วยเล่า ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-04-2013 เมื่อ 02:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #100  
เก่า 02-04-2013, 21:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,074 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตอนแรก ๆ ก็เห็นว่าต่อมใต้สมองเป็นตัวสั่งให้ร่างกายเคลื่อนไหว แต่พอผ่านไปสักระยะเห็นว่าไม่ใช่สมองสั่ง ?
ตอบ : ใจสั่ง..สมองรับคำสั่งจากใจ แล้วไปบังคับประสาทให้ทำงาน

ถาม : แต่ใจนักวิทยาศาสตร์เขาไม่เชื่อถือ ?
ตอบ : เขาไม่เห็น ไม่เห็นไม่พอ ยังไม่เชื่ออีกด้วย

ถาม : สรุปว่าหนูผิดหรือเปล่า ที่เห็นว่าตัวเริ่มไม่ใช่สมอง ?
ตอบ : อย่าลืมว่าพอฝึกไปตอนท้าย ๆ ใช้คำว่า อยากยืน อยากเดิน อยากนั่ง แล้วพอพิจารณาเข้าจริง ๆ เป็นความอยาก แต่ว่าเป็นความอยากที่ละเอียดมาก เราไม่รู้เพราะสติสมาธิไม่พอ มองไม่เห็น เมื่อละเอียดพอที่จะเห็นเข้าจริง ๆ แล้วที่แท้เราก็อยากทำนั่นเอง

ถาม : ฝึกไปเรื่อย ๆ เราจะสั่งได้ไหม หรืออยู่ที่ตัวเรา ?
ตอบ : ได้..ทุกอย่างอยู่ที่ใจเรา ทั้งหมดเริ่มจากใจ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-04-2013 เมื่อ 02:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:56



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว