กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 31-12-2010, 01:46
โอรส's Avatar
โอรส โอรส is offline
นายทะเบียน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 897
ได้ให้อนุโมทนา: 37,411
ได้รับอนุโมทนา 206,438 ครั้ง ใน 3,180 โพสต์
โอรส is on a distinguished road
Default อยากฝึกกสิณ

ถาม : ถ้าใจเราอยากฝึกกสิณ จะทำได้ไหมคะ ?
ตอบ : ได้ทุกคน ถ้าใจรักอยากที่จะทำ แสดงว่าในอดีตเราเคยทำมาแล้ว

กสิณมี ๑๐ กอง เราจะฝึกกองไหนก็หาหนังสือคู่มือปฏิบัติกรรมฐานของหลวงพ่อวัดท่าซุงมา จากนั้นตั้งใจจุดธูปบูชาพระรัตนตรัยที่หน้าหิ้งพระของเรา

กราบขอบารมีพระท่านสงเคราะห์ อธิษฐานว่า "กสิณกองใดที่เราเคยทำได้แล้วในอดีต ถ้าหากว่าทำในปัจจุบันนี้จะได้ผลเร็วที่สุด ขอให้เราอ่านแล้วชอบใจกองนั้นมากที่สุด"

แล้วก็อ่านไล่ไปเลย อาโลกกสิณ อากาสกสิณ ปฐวีกสิณ เตโชกสิณ อาโปกสิณ วาโยกสิณ โลหิตกสิณ ปีตกสิณ นีลกสิณ โอทาตกสิณ พอครบ ๑๐ กองแล้ว ชอบกองไหนมากที่สุดก็หาอุปกรณ์มาแล้วก็ลงมือฝึกได้เลย

การฝึกกสิณนั้นสำคัญอยู่ตรงที่ ย้ำคิดย้ำทำ ยิ่งกว่าพวกโรคจิตเสียอีก ก็คือลืมตามอง หลับตาลงนึกถึงพร้อมกับภาวนา เราจะนึกภาพนั้นได้ครู่หนึ่ง พอภาพหายไปก็ลืมตามองใหม่ พร้อมคำภาวนา ทำอยู่อย่างนี้ตลอดเวลา

พอเลิกจากตรงนั้นไปห้ามทิ้งนะ ต้องนึกถึงภาพนั้นอยู่เรื่อย ๆ นึกไปพร้อมกับคำภาวนาอยู่เรื่อย ๆ แบ่งความรู้สึกส่วนหนึ่งไว้ที่ภาพกสิณ อาจจะสัก ๒๐-๓๐% นึกถึงภาพนั้นพร้อมกับคำภาวนาอยู่ตลอดเวลา ส่วนความรู้สึกอีก ๗๐-๘๐% ก็ทำหน้าที่การงานของเราไป

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-07-2015 เมื่อ 07:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 85 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โอรส ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 31-12-2010, 01:47
โอรส's Avatar
โอรส โอรส is offline
นายทะเบียน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 897
ได้ให้อนุโมทนา: 37,411
ได้รับอนุโมทนา 206,438 ครั้ง ใน 3,180 โพสต์
โอรส is on a distinguished road
Default

ถาม : ต้องแบ่งความรู้สึกอย่างไรคะ ?
ตอบ : แบ่งความคิดเป็น ๒ ส่วน ส่วนหนึ่งอยู่ที่ภาพกสิณ อีกส่วนหนึ่งเอาไว้ทำกิจการงานอื่นไปด้วย รักษาภาพกสิณพร้อมกับคำภาวนาไว้ตลอดเวลา จนกว่าเราลืมตาก็เห็นภาพนั้น หลับตาก็เห็นภาพนั้น คราวนี้ก็คอยประคับประคองเอาไว้ให้ดี ถ้าภาพหายไปก็รีบนึกขึ้นมาใหม่ หายไปก็รีบนึกขึ้นมาใหม่ ไปแบบนี้เรื่อย ๆ

สมาธิที่ทรงตัวตั้งมั่นขึ้นเรื่อย ๆ ภาพนั้นก็จะเปลี่ยนแปลงไปจากสีเดิมก็จะจางลง ๆ เป็นสีขาว จากสีขาวก็กลายเป็นขาวทึบ จากขาวทึบก็กลายเป็นขาวใส จนกระทั่งสว่างเจิดจ้าเหมือนกับเรามองดวงอาทิตย์

ต่อจากนั้นก็ลองกำหนดดู ถ้ากำหนดให้หายไปก็ได้ ให้มาก็ได้ หรือจะให้ใหญ่ก็ได้ ให้เล็กก็ได้ คราวนี้อธิษฐานดูว่าจะมีผลตามที่เราศึกษามาไหม ?

ถ้าเป็นอาโลกกสิณ ก็สามารถทำที่มืดให้สว่างได้ สามารถเห็นนรกเห็นสวรรค์ได้

ถ้าเป็นโอทาตกสิณ ก็สามารถเปลี่ยนสีอื่นเป็นสีขาวได้ สามารถเห็นนรก เห็นสวรรค์ได้

ปีตกสิณ ก็สามารถเปลี่ยนสีอื่นเป็นสีเหลืองได้ สามารถทำของอื่นให้เป็นทองได้

โลหิตกสิณ ก็สามารถเปลี่ยนสีอื่นเป็นสีแดงได้

นีลกสิณ ก็สามารถที่จะเปลี่ยนสีอื่นเป็นสีเขียว เป็นสีดำได้ หายตัวได้ เหล่านี้เป็นต้น

พอทำได้คล่องตัวเต็มที่ ชนิดที่นึกเมื่อไรก็ได้เมื่อนั้นแล้ว เราค่อยก้าวข้ามไปทำกองใหม่ แต่ก่อนจะจับกองใหม่ก็ต้องซ้อมกองเดิมให้เต็มที่ก่อน ถ้าได้คล่องตัวแล้ว ก็แค่พริบตาเดียวเท่านั้นเอง ไม่ถึงสองวินาทีก็เต็มแล้ว เราค่อยฝึกหัดกองอื่นต่อไป

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-07-2015 เมื่อ 07:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 85 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โอรส ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 31-12-2010, 01:51
โอรส's Avatar
โอรส โอรส is offline
นายทะเบียน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 897
ได้ให้อนุโมทนา: 37,411
ได้รับอนุโมทนา 206,438 ครั้ง ใน 3,180 โพสต์
โอรส is on a distinguished road
Default

ถาม : แล้วคำภาวนาจำเป็นไหมคะ ?
ตอบ : จำเป็น คำภาวนาพร้อมกับลมหายใจเข้าออกนั้นสำคัญที่สุด ถ้าไม่มีอานาปานุสติกรรมฐาน กรรมฐานทุกกองจะได้ประมาณแค่อุปจารสมาธิเท่านั้น ทรงฌานไม่ได้

ถาม : ความรู้สึกจะต้องได้ขนาดไหน ?
ตอบ : ถ้าภาพกสิณนั้นสว่างเจิดจ้าเหมือนกับเรามองกระจกสะท้อนแสงอาทิตย์ นั่นก็คือฌาน ๔

ส่วนเรื่องลม ๓ ฐาน ๗ ฐานอะไรนั่น เมื่อถึงตอนนั้นไม่ต้องไปคิดถึง เพราะว่าถึงเวลาบางครั้งคำภาวนาก็หายไปเฉย ๆ เราแค่กำหนดรู้ตามภาพเท่านั้นว่า ตอนนี้เป็นอย่างนี้ ตอนนี้เป็นอย่างนี้

ถาม : จำเป็นต้องทำอานาปาฯ ด้วยหรือคะ ?
ตอบ : จำเป็นต้องใช้เลย กรรมฐานทุกกองที่เหลืออีก ๓๙ กอง ถ้าไม่ได้อานาปานานุสติควบด้วย อย่างเก่งก็ได้แค่อุปจารสมาธิ

ชอบทำกสิณก็ดีเพราะว่ากสิณเป็นพื้นฐานของฤทธิ์ พอได้กสิณคล่องแล้ว ต่อไปก็เล่นสมาบัติ ๘ ต่อ สมาบัติ ๘ นี้ เว้นจากอากาสกสิณ เรายกกสิณขึ้นมากองหนึ่งแล้วเพิกภาพกสิณนั้นเสีย ฝึกทำอรูปฌานให้เกิดขึ้นต่อไป


สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๔๔

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-07-2015 เมื่อ 07:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 85 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โอรส ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:25



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว