กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ในวาระสำคัญต่าง ๆ

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 16-02-2019, 19:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ที่ญาติโยมเห็นนั่งอยู่ใกล้อาตมา นับทางด้านขวามือมาคือครูบาเจษฎา โชติปญฺโญ หรือครูบาหน่อแก้วฟ้า ท่านไปสร้างลานธรรมอรหันตาที่ตำบลหญ้าขาว อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา

ทางด้านซ้ายมือตามลำดับไปก็คือตุ๊พ่อสิงห์ พระอธิการสิงห์ วิสุทฺโธ ท่านเป็นรุ่นพี่ของอาตมาเอง แต่ว่าอายุอยู่ในรุ่นพ่อเลย บวชมาจากโบสถ์วัดท่าซุงเหมือนกัน ท่านมากกว่า ๙ พรรษา

ลำดับถัดไปก็คือหลวงน้อง พระอาจารย์สมมาศ คุณาธิโก ที่พวกวัดท่าซุงเขารู้จักกันในนาม อาจารย์ติงลี่ ตอนนี้ท่านอยู่ที่วัดประตูด่าน ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี

ถัดไปก็คือครูบาวิฑูรย์ ชินวโร ก่อนหน้านี้อยู่ที่วัดวังมุย ตำบลประตูป่า อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ก็ต้องบอกว่าเป็นลูกหลานสายหลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโก อาตมาขอให้ท่านมาเป็นเจ้าสำนักสงฆ์ปรียนันท์ธรรมสถาน ที่อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ ต้องบอกว่าแต่ละท่านล้วนมีความผูกพันกัน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

ส่วนครูบาที่ท่านเห็นนั่งรับอยู่แล้วมีขอสับช้างด้วยก็คือเพื่อนฝูงกัน ครูบาเหนือชัย โฆสิโต ที่ผู้สื่อข่าวเขาให้ฉายากันว่านักบุญแห่งขุนเขา บางคนเขาเรียกพระขี่ม้าบิณฑบาต ช่วยเหลืองานพระพุทธศาสนามาด้วยกัน เกือบ ๓๐ ปีแล้ว

หลายท่านเห็นคิดว่าครูบาท่านเป็นรุ่นพี่ อาตมาขอยืนยันท่านยังเด็กอยู่ เพิ่งจะ ๕๐ กว่าปี อาตมา ๖๐ ปีแล้ว แล้วท่านก็บวชทีหลังด้วย ก็เป็นอันว่าอายุก็น้อยกว่า พรรษาก็น้อยกว่า ไปนั่งด้วยกันทีไร ท่านเรียกพี่ ๆ คนอื่นก็สงสัยว่าแก่กว่าแล้วเรียกพี่ได้อย่างไร อาตมายืนยันว่าอาตมาแก่กว่ามาก แก่กว่าทั้งอายุ แก่กว่าทั้งพรรษา ขออภัย...เป็นความผิดของอาตมาเองที่แก่ช้ากว่าเพื่อนฝูงไปหน่อย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-02-2019 เมื่อ 03:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 110 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 16-02-2019, 19:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วัดนี้มีความเสมอหน้ากันอยู่อย่างหนึ่ง คือท่านจะยิ่งใหญ่มาจากไหนก็ "แบกะดิน" เหมือนกัน หลายท่านมาใหม่ ๆ ก็ละล้าละลัง ไม่เคยชิน เมื่อตอนที่ท่านผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ ๙ รับตำแหน่งใหม่ ๆ ขึ้นมากราบขอพร นายทหารคนสนิทก็วิ่งมาดำเนินการ ต้องอย่างนั้น ต้องอย่างนี้ อาตมาบอกว่า "มึงกลับไปเลย ท่านนายพลไม่ได้ยุ่งเหมือนกับมึงหรอก" เขาก็คงแปลกใจว่าระดับพันโทพันเอกอาตมาไม่ได้ไว้หน้าเลย อาตมาบอกว่าพลเอกอาตมาก็ไม่ไว้หน้า อยู่ในวัด "พระใหญ่ ไม่ใช่มึงใหญ่" ด้วยความเคยชิน...ลืมตัว สั่งลูกน้องจนชินแล้วมาสั่งพระ..!

โยมมองรอบ ๆ ตัวเองอาจจะเจอท่านนายอำเภอบ้าง ท่านหัวหน้าส่วนราชการบ้าง ก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะว่ามาถึงวัดท่าขนุนแล้วราคาเดียวกันหมด ก็คือต้องทำความเคยชินในการแบกับดินให้ได้ ถ้าใครรับไม่ได้ก็ไม่ต้องมาอีก พูดง่าย ๆ ว่าไปวัดต้องทนลำบาก ถ้าอยากสบายโปรดไปที่อื่น

มาวัด...เขาวัดความดีในใจของเรา โดยเฉพาะวัดทิฏฐิมานะ วัดความเห็นแก่ตัว ใครจะมีทิฏฐิน้อย มานะน้อย เห็นแก่ตัวน้อย เห็นกันชัดมาก ที่นั่งข้างหน้าตัวเองกว้างขนาดตั้งวงเตะตะกร้อได้ แต่ไม่ยอมขยับ ไอ้พวกประเภทนี้ต้องบอกว่าไม่มีพ่อแม่คอยสั่งสอน ว่าความเห็นแก่ตัวเป็นอย่างไร

ในเมื่อวัดกิเลสตัวเองไม่ได้ เข้าวัดไปก็ไร้ประโยชน์ แต่ถ้าสามารถวัดได้ว่ากิเลสตัวเองมากหรือน้อย เข้าวัดไปจะมีประโยชน์มาก เพราะว่าเราสามารถฝึกฝนขัดเกลาตัวเองได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 19:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 104 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 16-02-2019, 19:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ญาติโยมทั้งหลายช่วงนี้ต่างประสบกับสภาพเศรษฐกิจที่ตกสะเก็ด ไม่ค่อยจะดี อาตมาพูดอย่างนี้ก็เหมือนกับไปค้านรัฐบาลเขา ทางรัฐบาลยืนยันว่าจีดีพีดีขึ้นทุกอย่าง ไอ้โน่นก็ดี ไอ้นี่ก็ดี แต่ทำไมชาวบ้านไม่มีจะกิน ตัวนี้ทางวัดจะเห็นชัดที่สุด เพราะว่าบิณฑบาตทุกวัน ถ้าชาวบ้านเขาเดือดร้อน โอกาสที่จะสงเคราะห์พระก็น้อยลง จากที่เคยบิณฑบาตได้จำนวนเท่านั้นเท่านี้ มาบิณฑบาตยุคนี้ได้น้อยลงก็เห็นชัด ๆ ว่าเศรษฐกิจไม่ดี

การเป่ายันต์เกราะเพชรของเรานี้ถือว่าเป็นการตัดเคราะห์อย่างหนึ่ง ในเมื่อเป็นการตัดเคราะห์อย่างหนึ่ง ถึงเวลาพระท่านสงเคราะห์ลงมาก็อธิษฐานเอาให้ดี นอกจากจะตั้งใจรับบารมีท่านเอาไว้เพื่อป้องกันตัวเราเองแล้ว ยังขอบารมีท่านช่วยตัดเคราะห์ตัดกรรมทำให้เราทำมาหากินคล่องตัว มีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานด้วย

มีบางท่านก็ไม่เข้าใจ โดยเฉพาะท่านรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ใช้ให้หน้าห้องมาตื๊ออยู่เป็นเดือน ขอให้อาตมาไปเป่ายันต์เกราะเพชรให้ท่านที่บ้าน บอกไปว่าครูบาอาจารย์ให้ทำเฉพาะวัดที่ตนเองสังกัดอยู่ ท่านก็ไม่ฟัง บอกว่าทำได้เฉพาะวันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำ ท่านก็ไม่ว่าง อาตมาเองก็ไม่รู้ว่าจะร้องเพลงอะไร เพราะว่าท่านไม่ยอมเข้าใจอะไรทั้งสิ้น คิดอยู่อย่างเดียวว่านิมนต์แล้วต้องไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 19:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 104 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 17-02-2019, 20:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นท่านที่อยู่ในบริเวณพิธีนี้ ท่านที่อยู่บ้านต่างจังหวัด หรือท่านที่อยู่ต่างประเทศก็ตาม วันนี้เป็นวันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๓ ปีจอ ขอยืนยันว่ายังไม่ใช่ปีกุน ปีกุนจะไปเริ่มที่เดือน ๕

ตามสายครูบาอาจารย์ตั้งแต่หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ลงมาถึงหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง วันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำ เป็นวันบวงสรวงไหว้ครูประจำปี ซึ่งการไหว้ครูตามสายกรรมฐานของครูบาอาจารย์นั้น ท่านสั่งเอาไว้ว่า ถ้าไม่ได้วันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำ ก็ให้ไหว้ครูในวันวิสาขบูชา ถ้าปีนั้นไม่มีวันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำ วันวิสาขบูชาก็ติดภารกิจสำคัญ ก็ให้ไหว้ครูในวันมาฆบูชา ให้ใช้ได้แค่ ๓ วันนี้เท่านั้น วันอื่นทำไปก็ไม่มีผล แล้ววันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำ ถ้าหากว่ามีคำสั่งครูบาอาจารย์ลงมา ก็ให้เป่ายันต์เกราะเพชรเพื่อสงเคราะห์แก่ญาติโยมด้วย

คำว่า ยันต์เกราะเพชรนั้น คือบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เมตตาแผ่ปกลงมาสงเคราะห์บุคคลที่มีความเลื่อมใสในคุณพระรัตนตรัย ตามตำราที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยพระร่วงของกรุงสุโขทัย

ยันต์เกราะเพชรนั้นมาจากส่วนหนึ่งของธงมหาพิชัยสงคราม ซึ่งธงมหาพิชัยสงครามนั้นประกอบขึ้นมาจากส่วนที่เป็นมหามงคลหลายต่อหลายส่วนด้วยกัน ดังที่อาตมาถอดส่วนหนึ่งออกมาเป็นยันต์พุทธบารมี เป็นต้น ส่วนของยันต์เกราะเพชรนั้นอยู่ที่คอธงมหาพิชัยสงคราม เป็นอักขระขอม ซึ่งก็คือคาถาอิติปิ โสฯ นั่นเอง เมื่อถึงเวลาเขียนเป็น ๗ แถว ๆ ละ ๘ ตัว รวมได้ ๕๖ ตัวแล้วชักสูตร จะสำเร็จรูปเป็นยันต์เกราะเพชร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-02-2019 เมื่อ 02:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 95 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 17-02-2019, 20:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ยันต์เกราะเพชรนั้นมีอานุภาพหลายอย่างด้วยกัน อย่างแรกก็คือ ผู้ที่ได้รับยันต์เกราะเพชรไป ถ้าสามารถรักษาเอาไว้ได้ จะไม่ตายโหง คำว่า ไม่ตายโหง ในที่นี้ก็คือ ไม่ตายก่อนหมดอายุขัย ไม่ตายด้วยอุบัติเหตุอันตรายใด ๆ ไม่ตายจากการกระทำของคนหรือสัตว์

เรื่องนี้ไม่ต้องใครอื่น อาตมาพิสูจน์ทราบได้ด้วยโยมแม่ของตนเอง โยมแม่โดนราชรถมาเกย เพราะว่าเป็นคนบุญมาก อยู่ห่างจากถนน ๒๐ กว่าเมตร รถยังวิ่งเข้าไปเกยได้ กระดูกด้านขวามือตั้งแต่กรามลงไปถึงข้อเท้าหักหมดทุกชิ้น นอนอยู่ห้องไอซียู ๑๘ วัน อาตมาไปถวายสังฆทานกับหลวงพ่อวัดท่าซุง กราบเรียนท่านว่าถวายให้โยมแม่ครับ ท่านโดนรถชนอยู่ห้องไอซียูมา ๑๘ วันแล้ว เกรงว่าจะไม่รอด จึงถวายสังฆทานล่วงหน้าไว้ก่อน

หลวงพ่อวัดท่าซุงถามว่า "แม่แกเคยรับยันต์เกราะเพชรไปหรือเปล่า ?" กราบเรียนท่านว่า "เคยรับไปหลายครั้งแล้วครับ" ท่านบอกว่า "ถ้าอย่างนั้นไม่เป็นอะไรหรอก รับรองว่าไม่ตายโหง" แล้วก็เป็นความจริง แต่ว่าต้องออกมารักษาตัวอยู่เกือบ ๓ ปี กว่าที่จะหายเป็นปกติ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-02-2019 เมื่อ 02:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 90 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 17-02-2019, 20:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกรายหนึ่งก็คืออดีตดารา ต้องบอกว่าเงินล้าน เรื่องไหนก็ตาม ถ้าหากว่าเล่น รับประกันได้ว่าได้เงินล้านแน่นอน ก็คือจารุณี สุขสวัสดิ์ ซึ่งสมัยนี้ถ้ายังเล่นหนังอยู่ ก็น่าจะต้องรับบทเป็นคุณย่าคุณยายแล้ว

จารุณีไปรับยันต์เกราะเพชรที่วัดท่าซุง ไปแล้วน่าสงสารมาก นั่งอยู่กับเพื่อนแค่ ๒ คน ไม่มีใครสนใจเลย ทั้ง ๆ ที่โดยปกติแล้วดารายิ่งใหญ่ขนาดนั้น ไปไหนก็มีแต่คนห้อมล้อมเป็นร้อยเป็นพัน แต่ไปวัดท่าซุง มีแต่คนวิ่งไปทำบุญกับหลวงพ่อ ไม่สนใจดารา ก็พอ ๆ กับที่วัดท่าขนุนแห่งนี้ เวลาดารามาแล้วคนวิ่งมาบอก อาตมาบอกว่าไม่รู้จัก เพราะว่านางเอกหนังคนสุดท้ายที่รู้จักชื่อจารุณี ถ้าใหม่กว่านั้นไม่รู้ เพราะว่าอาตมาเลิกดูหนังดูละครตั้งแต่ปี ๒๕๒๗ เชื่อว่าจำนวนมากในศาลานี้ยังไม่เกิด ก็เพราะว่ารักษาศีล ๘ เตรียมตัวบวชก็ทิ้งทุกอย่าง แม้กระทั่งปัจจุบันนี้ในวัดท่าขนุนก็ไม่มีโทรทัศน์ แม้แต่เครื่องเดียวก็ไม่มี เพราะว่าเจ้าอาวาสไม่ดู คนอื่นก็ต้องห้ามดูไปด้วย

จารุณี สุขสวัสดิ์เมื่อรับยันต์ฯ ไปแล้ว ไปถ่ายหนังเรื่องลูกสาวกำนัน มีอยู่ฉากหนึ่งที่ตัวโกงหนีการไล่ล่าของนางเอก เอาน้ำมันเทลงบนแม่น้ำ แล้วจุดไฟ จารุณีต้องขับเรือเร็วฝ่าไฟนั้นไป ด้วยความที่ไฟลุกท่วมแล้วควันหนามาก มองไม่เห็น ก็เลยพุ่งไปชนตอม่อสะพาน ได้รับบาดเจ็บหลังหัก ใคร ๆ ก็คิดว่าไม่รอด แต่ปรากฏว่าจารุณีรับยันต์เกราะเพชรไปแล้ว รักษาตัวหายได้ แต่ปัจจุบันนี้คุณยายปวดหลังเป็นประจำ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-02-2019 เมื่อ 02:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 85 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 17-02-2019, 20:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ประการที่ ๒ บุคคลที่รับยันต์เกราะเพชรไปแล้วจะไม่ตายด้วยพิษของสัตว์มีพิษ ถ้าหากว่าสัตว์พิษกัดต่อยอย่างไรก็ตาม พิษจะไปไม่เกินข้อแรก หมายความว่าถ้ากัดที่ฝ่ามือ พิษจะมาได้ไม่เกินข้อมือ ถ้ากัดที่แขนไป ก็ไปไม่เกินข้อศอก

เรื่องพวกนี้อาตมาทดสอบมาด้วยตัวเอง ไม่ได้ตั้งใจที่จะทดสอบ แต่เนื่องจากว่าเป็นคนดวงซวย..ไม่กลัวงู งูกะปะมากินลูกไก่ ตอนนั้นอาตมาอยู่ที่เกาะพระฤๅษี งูชุมมาก อาตมาก็จับใส่กรงดักหนูไว้ ตั้งใจว่าพรุ่งนี้เช้าจะไปปล่อย แต่กว่าจะบิณฑบาต กว่าจะฉันเช้าเสร็จก็เกือบ ๘ โมงครึ่ง เจ้างูอดหิวโซมาทั้งวันทั้งคืนแล้ว พออาตมาล้วงออกจากกรงมาก็พยายามดิ้นหนี จับด้วยมือขวา ดิ้นหลุดก็คว้าด้วยมือซ้าย จับด้วยมือซ้าย ดิ้นหลุดก็จับด้วยมือขวา พอดิ้นหลุดจากมือขวา เอามือซ้ายคว้าอีกที เจ้างูไม่ยอมทนแล้ว บอกว่า "กูไม่ปลื้ม" งับเลย...! โดนเข้าที่ชีพจรข้อมือเต็ม ๆ ๔ เขี้ยว ทุกวันนี้รอยเขี้ยวยังอยู่ ใครจะขอดูก็มาดูได้

อาตมาก็บีบปากงูง้างออก แล้วก็เอาไปปล่อย หลังจากนั้นก็ล้างน้ำปิดพลาสเตอร์ แล้วไปทำงานตามปกติ เล่นเอามหาเคที่เป็นเด็กปักษ์ใต้เครียดจนหัวแทบหงอก บอกว่า "พระอาจารย์ครับ งูกะปะนี่คนในสวนยางเวลาโดนกัด บวมทั้งตัวเลยนะครับ บวมชนิดเลือดออกตามผิวหนัง แล้วก็เน่าหลุดไปทีละชิ้น" ก็บอกกับท่านไปว่า "ไม่ต้องห่วง ผมรับยันต์เกราะเพชรมาแล้ว จะไม่เป็นอันตรายด้วยพิษสัตว์ ถ้าหากว่าเป็นอันตราย แปลว่าผมรักษายันต์เกราะเพชรไว้ไม่ได้ การรักษายันต์เกราะเพชรไว้ไม่ได้ ก็เพราะว่าละเมิดศีล ๒ ข้อ ก็คือกินเหล้ากับขโมย ถ้าเป็นอย่างนั้น ผมก็สมควรที่จะตาย..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-02-2019 เมื่อ 02:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 85 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #28  
เก่า 17-02-2019, 20:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ปรากฏว่าพิษวิ่งจากตรงข้อมือขึ้นมาจนถึงข้อศอก ปวดเป็นเส้นขึ้นมา รู้ตลอดเลยว่าพิษวิ่งไปถึงไหน พอถึงข้อศอกก็โดนอำนาจยันต์เกราะเพชร ยันกลับไปที่บาดแผลตามเดิม แล้วก็วิ่งกลับขึ้นมาใหม่ วิ่งขึ้นวิ่งลงอยู่ประมาณ ๓ - ๔ รอบ ปวดน่าดูทีเดียว หลังจากนั้นก็สูญไปเฉย ๆ แปลว่าเราไม่เป็นอันตรายด้วยพิษสัตว์จริง ๆ

อีกครั้งหนึ่งมาอยู่ที่วัดท่าขนุนแล้ว ด้วยความที่ดวงซวย เดินบิณฑบาตตอนเช้า เหยียบตะขาบตัวเบ้อเริ่ม โดนกัดเข้าที่นิ้วเท้า ก็ปรากฏว่าทั้งเท้าบวมมาจนถึงข้อเท้า เวลาเดินไม่มีความรู้สึกเลย แต่อาตมาก็ยังคงลากเท้าเดินบิณฑบาตจนเสร็จ

ด้วยความที่พิษไม่สามารถไปต่อได้ ทำให้คันมาก แล้วผิวหนังก็ไหม้ ล่อนเป็นแผ่น ๆ แต่ว่าไม่มีอันตรายใด ๆ หลังจากนั้นก็ยุบ แล้วก็หายเป็นปกติ ต้องบอกว่าพิษของตะขาบใหญ่นั่นร้ายมาก ถึงขนาดหนังไหม้แล้วก็ล่อนเป็นแผ่น ๆ เลย แต่ยืนยันได้ว่าอันตรายจากสัตว์มีพิษทำให้เราถึงแก่ชีวิตไม่ได้ อานุภาพยันต์เกราะเพชรกันได้แน่นอน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-02-2019 เมื่อ 02:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 84 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #29  
เก่า 17-02-2019, 20:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ข้อต่อไปก็คือ บุคคลที่รับยันต์เกราะเพชรไปแล้ว ถ้ารักษาเอาไว้ได้ จะไม่เป็นอันตรายจากไสยศาสตร์ ไม่ว่าใครที่จะทำไสยศาสตร์แก่เราจะไม่บังเกิดผล และอานุภาพประการต่อไปของยันต์เกราะเพชรนั้นยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ ก็คือสะท้อนไสยศาสตร์กลับไปหาผู้ทำ ถ้าผู้ทำแก้ไขไม่เป็น คิดจะทำเราให้เป็นอันตรายเท่าไร ตัวเองก็จะเดือดร้อนเท่านั้น

เรื่องนี้พิสูจน์กันมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ครั้งที่ชัดเจนที่สุดก็คือ หลวงพี่สามารถ ฐานิสฺสโร ปัจจุบันคือทิดสามารถ สุขสาธุ ธุดงค์ไปทางด้านเชียงใหม่ ไปภาวนาที่ถ้ำตับเต่า ซึ่งตอนนั้นยังเป็นที่ร้างอยู่ ยังไม่ได้เป็นวัด มีพระธุดงค์รูปหนึ่งภาวนาอยู่ก่อนแล้ว หลวงพี่สามารถท่านไปกราบทักทายเสร็จ ก็หามุมที่เหมาะสำหรับตัวเองแล้วก็ภาวนาไป

พอใกล้สว่าง พระรูปนั้นก็วิ่งมาเขย่ากลด บอกว่า "ท่าน ๆ เลิกเถอะ ผมพอแล้ว ผมยอม..ผมกลัวแล้ว" หลวงพี่สามารถท่านว่า "ดูท่าจะบ้า อยู่ ๆ ก็มาบอกว่าพอแล้ว กลัวแล้ว" ท่านก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร หลังจากทำวัตรสวดมนต์เสร็จก็ออกบิณฑบาต ก็ปรากฏว่าตอนที่บิณฑบาต ไปเห็นพระรูปนั้นเดินแก้ผ้าอยู่ในตลาด ท่านบอกว่าท่านกลับมาฉันแล้ว ยังตรองอยู่ตั้งนานว่าเขาเป็นอะไร

ท้ายสุดก็นึกได้ว่าท่านอาจจะอยากลองของว่า พระธุดงค์รูปนี้มีอะไรดีบ้างหรือเปล่า ก็คงจะทำไสยศาสตร์ใส่ แต่เนื่องจากว่าหลวงพี่สามารถนั้นท่านไม่รับรู้อะไร เอาแต่สวดมนต์ภาวนาของตนเอง และเคยรับยันต์เกราะเพชรไปจากวัดท่าซุงแล้ว ก็เลยทำให้ไสยศาสตร์สะท้อนกลับไปยังพระรูปนั้น เหมือนอย่างกับว่าหลวงพี่สามารถทำคืนไป ท่านถึงได้มาบอกว่าให้พอแล้ว กลัวแล้ว แต่หลวงพี่สามารถท่านไม่รู้ ท่านจึงปล่อยเลยตามเลย จนกระทั่งอาการหนัก เดินแก้ผ้าในตลาดอย่างที่เห็น แสดงว่าตั้งใจจะทำให้ผู้อื่นถึงขนาดเป็นบ้าเป็นบอเหมือนกัน


บุคคลที่โดนอานุภาพของยันต์เกราะเพชรสะท้อนกลับ ถ้าหากว่าใครรู้จักและท่านยังมีสติอยู่ ให้เขาตั้งใจเอาดอกไม้ธูปเทียนไปกราบขอขมาพระรัตนตรัย และเลิกไสยศาสตร์ที่ตนเองทำอยู่ แล้วจะหายเป็นปกติ ไม่เช่นนั้น ถ้าตั้งใจทำคนอื่นเท่าไร ตัวเองก็จะเดือดร้อนเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-02-2019 เมื่อ 02:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 85 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #30  
เก่า 18-02-2019, 19:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในขณะที่ท่านรับยันต์เกราะเพชร ถ้ายันต์เริ่มเข้าตัวจะมีอาการร้อนหู ร้อนหน้า หนักหัว หนักตัว หนักไหล่ บางคนก็ปวดเมื่อยไปทั้งตัว บางคนถึงขนาดเป็นไข้ไป ๒ วัน ๓ วันเลย โดยเฉพาะอาตมาเองรับยันต์เกราะเพชรครั้งแรก วันที่ ๑๓ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๒๖ ไข้จับไปเกือบ ๓ วัน กราบเรียนถามหลวงพ่อวัดท่าซุงว่า "ทำไมผมแย่ขนาดนี้ละครับ ?" ท่านบอกว่า "เอ็งมันดื้อมาก กำลังใจสูง บารมีพระท่านครอบลงมา แต่กำลังใจไปต้านเอาไว้ เมื่อยื้อกันนาน อาการทางร่างกายก็ปรากฏ พอร่างกายรับไม่ไหว ก็ต้องเป็นไข้ไปก่อน"

ส่วนการรับยันต์ครั้ง ๒ นั้น ก็คือวันที่ ๓ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๒๗ ตอนนั้นร่างกายนี่ขนลุกทั้งตัว ลุกแบบเป็นหนามขนุน เป็นตุ่ม ๆ ทั้งตัวเลย ลูบเท่าไรก็ไม่ลง ขนลุกอยู่นานเป็นชั่วโมง ๆ จนกระทั่งเจ็บไปทั้งตัว หลังจากนั้นมารับยันต์เกราะเพชรอีก ๑๕ ครั้ง ไม่เคยปรากฏอาการอีกเลย

กราบเรียนถามหลวงพ่อ ท่านบอกว่า "มันเต็มแล้ว ยังจะเอาอะไรอีก" ก็แปลว่า ถ้าในระหว่างที่ภาวนารับยันต์เกราะเพชรของทุกท่าน รู้สึกร้อนหู ร้อนหน้า หนักหัว หนักตัว หนักไหล่ รู้สึกขนลุก บางคนก็สั่นไปทั้งตัว ให้รู้ว่าขณะนั้นยันต์เกราะเพชรเข้าสู่ตัวของท่านแล้ว เมื่อท่านรับยันต์เกราะเพชรไปแล้ว จะรักษาไว้เพื่อป้องกันตัวเอง ต้องรักษาศีลเอาไว้อย่างน้อย ๒ ข้อ

ข้อแรก คือห้ามลักขโมยอย่างเด็ดขาด ของอะไรที่เจ้าของไม่ได้ให้ อย่าไปหยิบ อย่าไปฉวย

ข้อที่สอง คือห้ามกินเหล้า ไม่ว่าจะกินเพื่อสังคม กินเอาสนุกหรือว่าผสมในอาหารก็ตาม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-02-2019 เมื่อ 20:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 78 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #31  
เก่า 18-02-2019, 19:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เหล้าที่จะกินได้มีประเภทเดียว ก็คือยาดองโบราณแล้วต้องกินตามสูตร คำว่าตามสูตรก็คือ ครั้งละไม่เกิน ๑ เป๊ก คือประมาณ ๓๐ ซีซี หรือถ้วยชาเดียวเท่านั้น

ระยะนี้ในเรื่องของอาหารก็น่ากลัวมาก อาตมาเจอมามากแล้ว โดยเฉพาะช็อกโกแล็ตไส้บรั่นดี ไอศกรีมรัมเรซิ่น หรือไม่ก็เค้กที่ด้านหน้าเป็นลูกเชอร์รีแช่บรั่นดีมา แล้วยังอาหารจีนที่ผสมเหล้า อาหารญี่ปุ่นผสมเหล้าอีกจำนวนมากด้วยกัน ท่านใดกินเข้าไป ถ้าความรู้สึกไว ๆ จะรู้สึกว่าร้อนวาบออกผิวหนังของตัวเองทันทีเลย

มีอยู่รายหนึ่ง ความรู้สึกไวเป็นพิเศษ บอกว่าระเบิดออกตรงหน้าอกตัวเองจนผ้าสะเทือนเลย ก็แปลว่ายันต์เกราะเพชรบอกว่า "นายจ๋า..ฉันลาก่อน" ฉะนั้น...ถ้าหากว่าท่านรักษายันต์เกราะเพชรเอาไว้ จะต้องไม่ละเมิดศีล ๒ ข้อนี้ ก็คือไม่ลักขโมยและไม่ดื่มสุราเมรัย แล้วในทุกเช้ายังต้องภาวนาอิติปิ โสฯ จนกำลังใจมั่นคง แล้วกลืนน้ำลายลงไป ยันต์เกราะเพชรจะสามารถรักษาท่านได้ทั้งวัน ถ้าไม่มั่นใจ ก่อนนอนก็ภาวนาอิติปิ โสฯ อีกสัก ๓ จบแล้วกลืนน้ำลายลงไป ขอบารมีพระท่านสงเคราะห์ทั้งตอนกลางคืนด้วย เผื่อว่าเราจะเผลอ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-02-2019 เมื่อ 20:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 81 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #32  
เก่า 18-02-2019, 19:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สำหรับท่านที่มีลูกในท้องมาด้วย ถ้าเป็นลูกคนแรก ซึ่งภาษาโบราณเรียกว่า ลูกหัวปี ปีนี่ก็คือ ปี เดือน วัน ไม่ใช่ ลูกหัวปลี หัวปลีนั่นดอกกล้วย อาตมาเห็นหลายคนเขียนลูกหัวปลี ลูกหัวปลีก็ลูกกล้วยนั่นแหละ ก็คงอีกหลายเดือนกว่าจะได้กิน...!

ถ้าเป็นลูกคนแรก คลอดออกมาเป็นชาย จะมียันต์ติดตัวมาด้วย ยันต์นี้ไม่ได้เป็นรูปยันต์เกราะเพชรโดยตรง บางทีก็เป็นจุด บางทีก็เป็นขีด บางทีก็เป็นเส้น บางทีก็เป็นปื้นใหญ่ ๆ เหมือนอย่างกับปาน แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นยันต์เกราะเพชร ? เราจะรู้ได้เพราะสิ่งทั้งหลายเหล่านี้จะอยู่ที่ภายนอกไม่เกิน ๗ วัน ก็จะซึมหายเข้าไปในร่างกายจนหมด

แต่ถ้าเป็นลูกผู้หญิงต่อให้เป็นลูกคนแรกก็ไม่ปรากฏ ถึงเป็นลูกผู้ชาย ถ้าเป็นคนถัด ๆ ไปก็ไม่ปรากฏ เพราะว่าจะไปอยู่ในกระดูกของตัวเองเลย แม้กระทั่งผู้ใหญ่ที่รับไป ก็ไม่ปรากฏให้เห็น จะไปเห็นอีกทีตอนตายแล้วเผา จะมียันต์ติดอยู่ที่กระดูก


ตั้งแต่อาตมาได้รับคำสั่งให้เป่ายันต์เกราะเพชรมา มีเด็กหลายคนที่พ่อแม่ส่งรูปส่งไลน์มาให้ดู ส่งอีเมล์มาให้ดู ลายจริง ๆ บางคนลายเหมือนแตงไทยเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-02-2019 เมื่อ 20:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 78 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #33  
เก่า 18-02-2019, 19:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่สมัยหลวงพ่อวัดท่าซุงนั้น มีอยู่รายหนึ่งอยู่ที่ลพบุรี ยันต์ขึ้นที่หัวเป็นรูปกงจักรสีแดง และขึ้นทุกวันพระขึ้น ๑๕ ค่ำ แม่ก็สงสัย มากราบเรียนถามหลวงพ่อว่าทำไมไม่เหมือนกับที่หลวงพ่อว่าเอาไว้ หลวงพ่อถามว่า "อีหนู คิดดูดี ๆ ตอนรับยันต์เกราะเพชรไปแล้ว เอ็งทำอย่างไร ?" เขาก็บอกว่า "พอรับยันต์เกราะเพชรไปแล้วก็แยกห้องนอนกับสามี ตั้งใจรักษาศีล ๘ เพื่อลูก" นั่นถือว่าเป็นการกระทำที่น่าสรรเสริญมาก ดังนั้น...จึงได้รับอานุภาพยันต์เกราะเพชรที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งพระท่านสงเคราะห์ให้ต่างหาก

อาตมาก็ไม่ได้พบมาหลายปีแล้ว เพราะว่าออกจากวัดท่าซุงมาอยู่ที่นี่ได้ ๒๖ ปีแล้ว เด็กก็น่าจะอายุเลยบวชแล้ว รายนั้นสามารถขอดูได้ทุกวันพระขึ้น ๑๕ ค่ำ ไปขออนุญาตเขาโกนหัวดูว่ายันต์ฯ ขึ้นไหม อาตมาเชื่อว่ายันขึ้น...! ไปโกนหัวเขาต้องโดนยันแน่ ๆ...!

ในเมื่อท่านทั้งหลายรับยันต์ฯ ไปแล้วและรักษาเอาไว้ได้ ก็จะมีอานุภาพดังที่กล่าวไปข้างต้น ก็คือจะไม่ตายโหง แปลว่าถ้าไม่ถึงอายุขัยไม่ตายอย่างเด็ดขาด ทนทรมานเหมือนกับโยมแม่อาตมาก็แค่ ๓ ปีก็หาย อย่างคุณยายจารุณีก็หายสนิท แต่ว่าปวดหลังเป็นประจำเพราะว่าหลังหัก

จะไม่ตายด้วยพิษของสัตว์พิษทั้งปวง แต่ถ้าเป็นไปได้ เมื่อท่านทั้งหลายโดนงูกัด ให้ไปหาหมอก่อนดีกว่า เผื่อเหนียวเอาไว้ก่อน เพราะว่าท่านบ้าไม่เท่ากับอาตมา ของอาตมาเองขนาดงูจงอางตัวสูงท่วมหัวก็จับเล่นมาหมดแล้ว พระวัดท่าขนุนรุ่นเก่า ๆ หลายรูปรู้ดี แล้วที่แน่ ๆ ก็คือคอยเป็นกองเชียร์อย่างเดียว ไม่คิดที่จะช่วยกันเลย...!

ถึงเวลาก็มาแจ้งว่างูอยู่ในห้องน้ำ เข้าห้องน้ำไม่ได้ พระอาจารย์ก็ต้องไปคอยจับให้ ตัวใหญ่ไม่มากเท่าไรหรอก ประมาณขวดน้ำปลา...! ยาวสัก ๔ เมตรกว่า ๆ เท่านั้น เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าท่านไม่บ้าพอ ถ้าโดนสัตว์มีพิษกัด กรุณารักษาหมอแผนปัจจุบันก่อนดีกว่า แต่ถ้าเชื่อมั่นขนาดอาตมาแล้ว ไม่ต้องไปหาหมอก็ได้ ถ้าท่านตาย วัดนี้จะเผาให้ฟรี...!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-02-2019 เมื่อ 20:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 78 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #34  
เก่า 18-02-2019, 19:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

(หลังจากเป่ายันต์ช่วงเช้าเสร็จ) ขออนุโมทนากับญาติโยมทุกท่าน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ แม้กระทั่งคนที่กำลังขับรถอยู่ พระท่านก็สงเคราะห์ให้ อาตมาก็สงสัยเหมือนกันว่า รู้ ๆ อยู่ว่า ๑๐ โมงจะเป่ายันต์ฯ แล้วทำไมเพิ่งจะมา ? หรือไม่รู้ว่าทองผาภูมินั้นไกลขนาดไหน ?

ธูปเทียนที่ใช้ในการรับยันต์เกราะเพชร ญาติโยมเก็บกลับบ้านไปด้วย สามารถใช้แทนมีดหมอได้ ถ้ามีผีเจ้าเข้าสิงคนที่ไหน ให้ว่านะโมพุทธายะ แล้วเอาธูปเทียนนี้จี้ไปผีจะออก..อยู่ไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่อาตมาใช้วิธีว่า เวลาบนพระจะใช้ธูปเทียนชุดนี้จุด เพราะถือว่าได้รับอานุภาพจากพระท่านมาแล้ว เมื่อถึงเวลาก็สามารถที่จะเชื่อมต่อกันได้ง่ายเป็นพิเศษ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-02-2019 เมื่อ 20:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 84 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #35  
เก่า 19-02-2019, 21:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

(ช่วงบ่าย) ส่วนใหญ่ญาติโยมเห็นอาตมาครั้งแรกก็มักงง ๆ เหมือนอย่างกับเอาพระใหม่ทะลึ่งมาทำตัวเป็นเกจิฯ มาถามว่าอายุเท่าไร พอบอกว่า ๖๐ ปี ทำท่าตกใจ...เขาคิดว่าอาตมาเป็นพระใหม่กันอยู่เรื่อย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-02-2019 เมื่อ 20:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 80 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #36  
เก่า 19-02-2019, 21:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ท่านเจ้าคุณองอาจ วัดวีระโชติธรรมาราม ฝากญาติโยมเอาลูกชิ้นมาเลี้ยงโรงทาน อาตมาไม่เห็นสักลูกหนึ่ง ก็เลยบอกว่าไม่เชื่อหรอกว่าส่งมา ต้องเห็นถึงจะเชื่อ...ใช่ไหม ? แล้วถ้าได้ชิมนี่ยิ่งเชื่อใหญ่เลย เห็นก็ไม่เห็น กินก็ไม่ได้กิน แล้วจะไปเชื่ออย่างไร ?

ญาติโยมหลายท่านมาวัดแล้วอาตมาไม่ได้เห็น ที่ไม่ได้เห็นเพราะว่าเวลางานอาตมาจะมองคนสักแต่ว่าเป็นคนเท่านั้น จะไม่จำว่าเป็นใคร พอถึงเวลาอาตมาถามญาติโยมหลายคนว่าวันงานได้ไปหรือเปล่า ? เขาบอกว่าก็เข้าไปทำบุญตรงหน้า อ๋อ...ขอโทษ อาตมาเห็นสักแต่ว่าเป็นคน ไม่ได้ดูว่าใคร

เหตุที่ต้องทำอย่างนั้น เพราะว่าถ้าเราไปตั้งใจดูว่าเป็นใคร จิตใจจะเกิดสภาพความรักชอบเกลียดชังขึ้นมา จะสร้างราคะ ลาภะ โทสะ โมหะเกิดขึ้นแก่ตัวเอง วิธีที่ดีที่สุดก็คือ มองทุกอย่างให้เหมือนกันให้หมด ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นผู้ชาย หมู หมา กา ไก่ โต๊ะ เก้าอี้ เห็นอยู่ในระดับเดียวกัน ราคาเดียวกันหมด ก็เลยจำไม่ได้ว่าใครมา ฉะนั้น...เวลางานโปรดอย่าเสนอหน้า อาตมาไม่รู้หรอกว่าเป็นใคร..จำไม่ได้ ถ้านอกเวลามาได้ คลายกำลังใจลงแล้ว ถึงจำคนได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-02-2019 เมื่อ 20:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 81 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #37  
เก่า 19-02-2019, 21:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ไปนึกถึงในอรรถกถาวิสุทธิมรรค ท่านบอกว่าพระภิกษุรูปหนึ่งเห็นหญิงสาวผู้หนึ่งเดินสวนไปแล้วก็ส่งยิ้มให้ ท่านก็จับเอาฟันของผู้หญิงนั้นพิจารณาอัฏฐิกอสุภกรรมฐาน เมื่อมีญาติโยมเดินผ่านมา ถามว่าเห็นผู้หญิงคนหนึ่งผ่านไปไหม ? รูปร่างเป็นอย่างนั้น หน้าตาเป็นอย่างนั้น ท่านบอกว่าท่านไม่เห็นอะไรเลย เห็นแต่โครงกระดูกเดินผ่านไป

ตอนแรกอาตมาก็สงสัย เป็นไปได้อย่างไร แต่ปัจจุบันนี้เลิกสงสัยมานานแล้ว เพราะว่าขนาดคนคุ้นเคยอยู่ใกล้ชิดกันแท้ ๆ เดินมา อาตมายังจำไม่ได้ ถ้าเป็นช่วงงานไม่ได้ตั้งใจที่จะแยกแยะว่าเป็นใคร ตั้งใจอยู่อย่างเดียวว่าเป็นคนมาแค่นั้นก็พอ

โยมลองค่อย ๆ ไปปฏิบัติดู ถ้าอารมณ์ใจมาถึงตรงนี้ จิตจะประกอบไปด้วยอุเบกขามาก ขณะเดียวกันก็เป็นอัปปมัญญาคือไม่มีประมาณด้วย เพราะว่าไม่ได้ดูว่าเป็นหญิงเป็นชาย สวยงาม อัปลักษณ์ รวยหรือจน มาแล้วราคาเดียวกันหมด

ฉะนั้น...โยมบางคนว่าฉันเป็นนายพล ฉันเป็นนายพัน ฉันเป็นคุณหญิง เป็นคุณนายมา เป็นมหาเศรษฐีระดับประเทศ เป็นดารา มาวัดท่าขนุนแล้วไร้ประโยชน์ เพราะว่าเจ้าอาวาสมองไม่เห็น เจ้าอาวาสเห็นแต่คน ดาราน่าสงสารที่สุด มาถึงวัดท่าขนุนแล้วไม่มีราคา เด็กวัดวิ่งไปขอถ่ายรูปด้วย วิ่งไปบอกหลวงพ่อ หลวงพ่อบอกว่าไม่รู้จัก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-02-2019 เมื่อ 20:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 79 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #38  
เก่า 19-02-2019, 21:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ญาติโยมท่านใดที่ฝากของเข้าพิธีแล้วยังไม่ได้รับคืน รีบมารับด่วน ยังเหลืออีกหลายชิ้น ต้องบอกว่ากระทั่งข้าวของที่เป็นของตัวเองก็ไม่ใส่ใจ งวดนี้รับฝากของเข้าพิธี ๘๐๐ กว่าชิ้น ถ้าบอกชิ้นแล้วฟังดูเหมือนชิ้นเล็ก บางคนก็กระเป๋าเดินทางขนาด ๔๐ ลิตรนี่อัดมาแน่นปึ๋งเลย บางคนก็ลังใหญ่มหึมา นับเป็น ๑ ชิ้นเหมือนกัน

มีหลายคนกะว่ามาครั้งเดียวแล้วไม่ต้องมาตลอดชีวิตก็ได้ เล่นเอามวลสารมาเข้าพิธีเป็นกระสอบ ๆ ก็แล้วแต่ท่านทั้งหลายจะทำมาหากินกัน ถึงเวลาพระท่านสงเคราะห์ อาตมาก็ยินดีด้วย ส่วนท่านทั้งหลายจะไปทำโฆษณากันอย่างไร วัดท่าขนุนไม่เกี่ยว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-02-2019 เมื่อ 20:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 78 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #39  
เก่า 19-02-2019, 21:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ใครต้องการน้ำมนต์เสาร์ ๕ ก็ไปบูชาได้เลย ไปเจอใครโดนไสยศาสตร์หรือว่าโรคที่หมอปัจจุบันรักษาไม่ได้ เอาให้เขากิน เอาให้เขาอาบ ถ้าเป็นเองก็จัดการเองเลย อธิษฐานขอบารมีพระท่านสงเคราะห์ให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บเหล่านั้นด้วย เอาแน่ ๆ ว่าเป็นโรคที่หมอสมัยใหม่รักษาไม่ได้ ไม่ใช่ว่าโรครักษาได้ก็จะกินน้ำมนต์

อาตมากเจอหมอเจอพยาบาลหลายคน รักษาคนไข้ด้วยน้ำมนต์กับน้ำมัน ดูแล้วน่าเครียด อุตส่าห์ร่ำเรียนมา ๖ ปี ๗ ปี เรียนไปเสียเวลาเปล่า รู้อย่างนี้มาเรียนเสกน้ำมนต์ดีกว่า ๖ - ๗ ปีถ้าตั้งใจเรียนนี่เสกได้เกินขลังเสียอีก โดยเฉพาะท่านที่ชัดเจนที่สุดก็คือ คุณหลวงสุวิชานแพทย์

คุณหลวงสุวิชานแพทย์เป็นเจ้ากรมแพทย์ทหารเรือในสมัยโน้น สมัยที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านยังไม่ได้บวช ท่านเห็นหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค รักษาโรคด้วยอำนาจจิตและยาคุณพระ คำว่า ยาคุณพระ ก็คือยาปกตินี่แหละ เพียงแต่ว่าเสกด้วยคุณพระรัตนตรัย ก็เลยเรียกว่ายาคุณพระ คุณหลวงก็เลยเรียนบ้าง แล้วทำขลังเสียด้วย พอถึงเวลาคนไข้ป่วยมา คุณหลวงจะเสกหมากให้กิน เป็นขนาดเจ้ากรมแพทย์นะนั่น ไปเสกหมากให้คนไข้กิน ถ้าไม่รู้จักคุณหลวงสุวิชานแพทย์ เราก็น่าจะรู้จักพระพรหมเอราวัณ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-02-2019 เมื่อ 20:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 77 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #40  
เก่า 19-02-2019, 21:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระพรหมเอราวัณนั้น คุณหลวงสุวิชานแพทย์ท่านเป็นคนตั้งเอง เพราะทุกคนมั่นใจว่าท่านเชิญพระพรหมได้แน่นอน คุณหลวงท่านมีทิพจักขุญาณแจ่มใสมาก มีเรือตังเกอยู่ลำหนึ่ง มีแต่ปัญหาอยู่ตลอด ไม่มีใครแก้ไขได้ เจ้าของมาพึ่งคุณหลวง คุณหลวงนั่งหลับตาสักครู่หนึ่ง ก็บอกลูกเรือให้ไต่ขึ้นไปบนรังกาสิ ถ้าหากว่าเห็นห่อผ้าขาวเก่า ๆ ให้เอาลงมา แล้วโยนลงทะเลไปเลย

ถามว่าอะไร ? กระดูกคนตายแล้ว เขาตั้งใจจะเอาไปลอยน้ำ ปรากฏว่าคนที่จะเอาไปลอยน้ำให้ มีหน้าที่ไปเป็นต้นหน ก็ปีนขึ้นรังกาไปคอยบอกทางให้ คอยดูทางให้ แล้วก็ลืมทิ้งเอาไว้ คนไปใครมาก็ไม่มีใครสนใจ เห็นเป็นห่อผ้าเก่า ๆ คราวนี้ผีเหงา ก็เลยออกมาหลอกคน สรุปว่าคุณหลวงเข้าสมาธิไม่ถึงนาที บอกให้ปีนขึ้นไปเอามาโยนลงน้ำก็แก้ได้แล้ว

ตั้งแต่นั้นมา เรือลำนั้นก็หมดอาเพศ เพราะว่าผีไปกับกระดูกแล้ว แสดงว่าสมัยก่อนความศรัทธาในพระพุทธศาสนายังมีมาก ขนาดหมอสมัยใหม่อย่างคุณหลวงท่านยังมาศึกษาวิชาการด้านแพทย์แผนโบราณ ด้านการรักษาด้วยสมุนไพรและคุณพระ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-02-2019 เมื่อ 20:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 77 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:36



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว