กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 13-02-2019, 08:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,179 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุุกร์ที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒

ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกทั้งหมดของเราไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ ที่เรามีความถนัด มีความชำนาญมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๑ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๒ สิ่งที่อยากจะบอกกับพวกเราก็คือว่า การรักษากำลังใจของเราให้มั่นคง ไม่หวั่นไหวต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยเฉพาะช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้ก่อการร้ายยิงพระระดับเจ้าคณะอำเภอพร้อมกับพระลูกวัดเสียชีวิต ที่วัดรัตนานุภาพ อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ถ้าเรารักษากำลังใจไว้ไม่ได้ ก็จะเสียใจ น้อยใจ โกรธแค้น แล้วก็ขาดสติ เราต้องแยกให้ออกว่านั่นเป็นการกระทำของคนกลุ่มหนึ่ง ที่ไม่หวังดีปรารถนาดีต่อประเทศชาติบ้านเมืองของเรา ถึงแม้ว่าคนทั้งหลายเหล่านั้นจะเป็นอิสลามิกชนหรือมุสลิมก็ตาม คนมุสลิมที่ดีนั้นยังมีอยู่ เพียงแต่ไม่กล้าเอ่ยปาก จึงปล่อยให้คนชั่วมีอำนาจ ใช้การกระทำสร้างความหวาดกลัว กดข่มให้ทั้งคนไทยและมุสลิมกลัวเกรง จะได้ชักนำให้ประเทศชาติของเราไปตามแนวทางที่เขาต้องการ

แต่ถ้าเรามีสติสัมปชัญญะ ก็จะเห็นว่า การที่พระครูประโชติรัตนานุรักษ์มรณภาพลงนั้น แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่น่าเสียใจและน่าเสียดาย แต่การมรณภาพของท่านก็ทำให้คนไทยส่วนใหญ่ตื่นขึ้นมา ตื่นจากความฝัน ที่เรียกกันง่าย ๆ ว่าโลกสวย มาเห็นความจริงว่า การที่เราโดนยัดเยียดความสามัคคี ยัดเยียดการอยู่ร่วมแบบพหุวัฒนธรรมให้ โดยที่ทางราชการไม่ได้แยกแยะน้ำออกจากปลา ทำให้เราเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่ตลอดเวลา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-02-2019 เมื่อ 08:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 13-02-2019, 08:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,179 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อตื่นขึ้นมา รู้จักแสดงพลัง รู้จักช่วยเหลือซึ่งกันและกัน นี่เป็นสิ่งที่พระพุทธศาสนาเราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมี เพื่อความยืนยงสถาพรของพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นศาสนาคู่กับชาติไทยของเรามาแสนนาน เพราะฉะนั้น...ถ้าหากว่าเราไม่ขาดสติ รู้จักแยกแยะผลดีผลเสียที่เกิดขึ้น เลือกทำในสิ่งที่เกิดผลดีต่อพระพุทธศาสนา ไม่เปิดโอกาสให้ความขาดสติมาครอบงำ จนกระทั่งเราต้องทำผิดทำพลาด ไปเข้าทางที่ผู้ก่อการร้ายเขาต้องการ

ก็แปลว่าหากมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นอีก เราก็ต้องแสดงพลังและแสดงออกให้รู้ว่า เราก็โกรธเป็นแค้นเป็น แต่เราไม่ขาดสติ แสดงให้เขาเห็นว่า ชาวพุทธของเรามีความสามัคคีกลมเกลียว เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน คนไหนเจ็บทุกคนเจ็บด้วย คนไหนตายเหมือนคนที่เรารักที่สุดตายด้วย ถ้าเราสามารถทำได้อย่างนี้ ศาสนาของเราจะมั่นคง ไม่มีใครมาเบียดเบียนได้

ฉะนั้น...การที่ท่านทั้งหลายจะมีสติตั้งมั่น มีปัญญามองเห็นว่าสิ่งใดควร สิ่งใดไม่ควรในวิกฤตต่าง ๆ นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเริ่มจากอานาปานสติ คือลมหายใจเข้าออก โดยเฉพาะอย่างน้อยที่สุด ต้องเข้าให้ถึงปฐมฌานละเอียด จะได้มีกำลังในการระงับยับยั้ง ไม่ให้ รัก โลภ โกรธ หลง นำทาง มีส่วนของสมาธิไปเสริมให้เกิดปัญญา แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ทั้งทางโลกทางธรรม ให้ออกมาได้ดีที่สุด เหมาะสมกับสถานการณ์นั้นอย่างที่สุด ก็แปลว่าท่านทั้งหลายจะละทิ้งการปฏิบัติสมาธิภาวนาไม่ได้ และโดยเฉพาะต้องทำให้เกิดผลจริง ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-02-2019 เมื่อ 08:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 15-02-2019, 19:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,179 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเราเข้าถึงปฐมฌานละเอียด สติ สมาธิ จะเกิดความแคล่วคล่องว่องไว สามารถประคับประคองอารมณ์เอาไว้ไม่ให้สูญหายไม่ให้ตกหล่น เมื่อท่านทั้งหลายสามารถประคับประคองอารมณ์นี้เอาไว้ได้ ยิ่งนานเท่าไรความสงบเยือกเย็นในใจก็ยิ่งมีมากเท่านั้น ไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งใดง่าย ๆ ก็แปลว่ากำลังใจของเราจะเข้มแข็งมั่นคง เมื่อกำลังใจเข้มแข็งมั่นคง ไม่ฟุ้งซ่านหวั่นไหว ปัญญาก็จะเกิด จะเห็นช่องทางว่า ในขณะนี้เราควรจะทำอย่างไรถึงจะดีที่สุดสำหรับสถานการณ์นั้น ๆ

จึงเป็นหน้าที่ซึ่งท่านทั้งหลายต้องพยายามในการกำหนดภาวนา โดยใช้ลมหายใจเข้าออกควบคู่กับคำภาวนาที่เราถนัด โดยเฉพาะอย่าเปลี่ยนคำภาวนาบ่อย เมื่อเราเริ่มเคยชินกับคำภาวนาอย่างหนึ่ง พอไปเปลี่ยนสภาพจิตก็จะห่วงหน้าพะวงหลัง ของเก่าก็จะไม่ได้ ของใหม่ก็จะไม่ดี ท่านเคยถนัดเคยชำนาญอย่างไหน ใช้คำภาวนาอย่างไรที่ทำให้สภาพจิตของเรานิ่งได้สงบได้ ให้ใช้อย่างนั้น ให้ทำอย่างนั้น เพราะว่าจุดมุ่งหมายของเราก็คือ เมื่อจิตสงบ สมาธิบังเกิด ปัญญาก็จะมีตามไปเอง ถึงเวลาเราก็จะรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรในแต่ละสถานการณ์ ถึงจะเกิดประโยชน์ที่สุด ถึงจะพอเหมาะพอดีพอควรที่สุด

โดยเฉพาะสภาพจิตไม่หวั่นไหวไปกับ รัก โลภ โกรธ หลง ก็ทำให้เรามีความสงบ ความเยือกเย็น ความสุข เกิดแก่เราได้ ตราบใดที่ยังไม่หลุดจากสมาธิ ตราบนั้นสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ก็ยังทรงตัวอยู่กับเรา


ลำดับต่อไปให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันศุกร์ที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒

(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 02:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:13



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว