กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 22-01-2019, 16:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๒

ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราเอาไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกของเราไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ที่เรามีความถนัด มีความชำนาญมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๕ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ เรื่องที่จะกล่าวถึงในวันนี้ก็คือ ในการปฏิบัติธรรมของพวกเรานั้น ส่วนใหญ่แล้วพวกเราขาดความจริงจังและเด็ดขาด อย่างที่ภาษาพระวัดป่าท่านว่า ธรรมะอยู่ฟากตาย ก็คือถ้าไม่แลกกันด้วยชีวิต โอกาสที่จะเข้าถึงธรรมก็ยาก

ในเมื่อเราไม่จริงจังไม่เด็ดขาด โอกาสที่เราจะเอาชนะกิเลสก็มีน้อย ก็เหมือนกับนักมวย ถ้าหากว่าขาดการเอาจริงเอาจัง มุ่งมั่นในการต่อสู้ โอกาสที่จะชนะคู่ต่อสู้ก็ไม่มีเลย

ถามว่าแล้วความเด็ดขาดจริงจังของเราจะมาจากไหน ? ส่วนใหญ่แล้วก็มาจากสมาธิ การที่เรารักษาศีลเป็นการควบคุม กาย วาจา ของเราให้อยู่ในกรอบ ระหว่างที่เราตั้งหน้าตั้งตาระมัดระวังรักษาศีล สติที่กำหนดตามดูอยู่ว่าศีลจะขาดจะพร่องหรือไม่ ก็ทำให้เราเกิดสมาธิ ดังนั้น..เมื่อเรารักษาศีลบริสุทธิ์บริบูรณ์ สมาธิย่อมทรงตัวได้ง่าย คราวนี้การที่สมาธิทรงตัวถึงระดับพอใช้งานได้ อย่างน้อย ๆ ก็ต้องเข้าถึงปฐมฌานก็คือฌานที่ ๑

คราวนี้การที่เราจะเข้าถึงปฐมฌานได้นั้น ก็ต้องศึกษาว่ากฎเกณฑ์ของปฐมฌานประกอบด้วยอะไรบ้าง ? ก็ประกอบไปด้วยวิตก ความคิดนึกอยู่ว่าเราจะภาวนา วิจาร เราภาวนาอยู่ลมหายใจแรงหรือเบา ยาวหรือสั้น คำภาวนาว่าอย่างไรก็รู้อยู่ ปีติ มีอาการต่าง ๆ ๕ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น เช่น ขนลุก น้ำตาไหล ร่างกายโยกโคลง บางทีก็ลอยขึ้นทั้งตัว หรือรู้สึกว่าตัวพอง ตัวใหญ่ ตัวแตก ตัวระเบิด เป็นต้น

สุข มีความสงบเยือกเย็นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เนื่องจากอำนาจของสมาธิเริ่มกดกิเลสให้นิ่งสนิทลงได้ และเอกัคตารมณ์ มีความตั้งมั่นเป็นหนึ่งเดียวอยู่กับการภาวนา สิ่งรบกวนต่าง ๆ ที่เข้ามาทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ไม่สามารถทำให้เราเคลื่อนคลายไปที่ไหนได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-01-2019 เมื่อ 19:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 23-01-2019, 08:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าอารมณ์ใจของเราทรงตัวอย่างนี้ก็คือเราทรงปฐมฌานอยู่ มีหลักพิจารณาง่าย ๆ คือจะรู้ลมอัตโนมัติ ลมหายใจจะเข้าจะออก เราไม่ต้องบังคับลมหายใจ ไม่ต้องตามดูตามรู้ ลมหายใจจะเป็นไปโดยอัตโนมัติ เข้าไปจนสุดออกมาจนสุด เราต้องการสัมผัสกี่ฐาน ก็จะรู้ได้ชัดเจน ดังนั้น ถ้าอาการเหล่านี้เกิดขึ้นกับท่าน ก็ขอให้รู้ว่ากำลังสมาธิของเราเริ่มทรงตัวเป็นอัปปนาสมาธิแล้ว คราวนี้กำลังของอัปปนาสมาธิขั้นปฐมฌาน ถ้าเราเอามาใช้ตัดกิเลส ก็จะตัดกิเลสในระดับของพระโสดาบันและพระสกิทาคามี มากกว่านั้นกำลังยังไม่เพียงพอที่จะใช้งาน

แต่ทีนี้ที่เราพูดถึง ก็คือ การที่เรามีสมาธิทรงตัว กำลังใจจะเข้มแข็งมากขึ้น จะมีความเด็ดขาดจริงจังมากขึ้น เหตุที่เป็นเช่นนั้นเกิดจาก ๒ สาเหตุด้วยกัน สาเหตุแรกคือสมาธิดีขึ้น ความเด็ดขาดมั่นคงก็จะมี ประการที่สองก็คือ เมื่อสมาธิทรงตัว เราจะเห็นคุณพระรัตนตรัย เกิดความรู้สึกว่า แค่สมาธิเบื้องต้นเรายังมีความสุขความสบายขนาดนี้ แล้วสมาธิระดับสูงขึ้นไป ตลอดจนท่านทั้งหลายที่เป็นพระอริยเจ้าไปแล้ว จะมีความสุขขนาดไหน ? ความเคารพใน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จะเต็มล้นในหัวใจ กำลังใจจะทุ่มเทให้การปฏิบัติอย่างไม่เบื่อไม่หน่าย ชนิดที่แลกกันด้วยชีวิตก็ยินดี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-01-2019 เมื่อ 12:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 23-01-2019, 08:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น...ถ้าท่านทั้งหลายต้องการกำลังใจที่เด็ดขาด หนักแน่น มั่นคงในการปฏิบัติ อย่างน้อยท่านต้องกำหนดสมาธิภาวนาให้ถึงระดับอย่างน้อยปฐมฌาน ไม่เช่นนั้นแล้วความหนักแน่นเด็ดขาดมั่นคงก็ไม่สามารถเกิดขึ้นกับใจท่านเลย

เมื่อสมาธิทรงตัวแล้วสิ่งหนึ่งที่จะลืมไม่ได้ก็คือ ถ้าไม่สามารถจะไปต่อได้ ให้คลายสมาธิออกมาแล้วหาวิปัสสนาญาณมาพิจารณา ซึ่งก็คือพิจารณาดูร่างกายของเรานี้เอง ว่ามีความไม่เที่ยงอย่างไร เป็นทุกข์อย่างไร ไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของเราอย่างไร ดูให้ชัดเจนถ้าสภาพจิตยอมรับ ปล่อยวาง ไม่ยึดเกาะในร่างกายนี้ โอกาสที่เราจะเข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้าจะมีขึ้นแก่เราได้

ลำดับต่อไปขอให้ทุกท่านภาวนาพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันเสาร์ที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๒

(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย คะน้า)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-01-2019 เมื่อ 12:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:12



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว