กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนธันวาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 21-12-2023, 22:10
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,536
ได้ให้อนุโมทนา: 216,769
ได้รับอนุโมทนา 744,006 ครั้ง ใน 36,251 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 22-12-2023, 00:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,575
ได้ให้อนุโมทนา: 151,708
ได้รับอนุโมทนา 4,411,375 ครั้ง ใน 34,165 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ เมื่อคืนซึ่งเป็นวันพระขึ้น ๘ ค่ำ เดือนอ้ายนั้น พวกเราหลังจากเข้าพักที่โรงแรม The Grand Kandyan ก็ได้อาบน้ำอาบท่า เปลี่ยนผ้าเปลี่ยนผ่อนกัน โดยเฉพาะฆราวาสชายหญิงก็เปลี่ยนไปใส่ชุดขาว เพื่อที่จะได้เป็นไปตามธรรมเนียมปฏิบัติของทางด้านศรีลังกานี้ หลังจากนั้นก็ได้นั่งรถออกจากที่พัก แต่มาละล้าละลังอยู่ตรงที่สระน้ำข้างวัดมัลลิกาวะ

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ทางด้านท่านอาจารย์พระมหาสมคิด อตฺถสิทฺโธ ป.ธ. ๗ เจ้าอาวาสวัดหนองโพ จังหวัดราชบุรี รองเจ้าคณะอำเภอโพธารามนั้น ท่านเห็นว่าเวลาที่นัดทางวัดมัลลิกาวะเอาไว้ก็คือ ๑ ทุ่มตรง ยังมีเวลาอีกมาก จึงต้องการให้พวกเราเข้าไปกราบท่านมหานายกะ เมธังกะระ เลขานุการคณะสงฆ์ฝ่ายอัสคีรียะของประเทศศรีลังกาก่อน เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าท่านพระมหานายกะ ผู้เป็นเหมือนสมเด็จพระสังฆราชนั้น ท่านไปประเทศอินเดีย ส่วนท่านเมธังกะระ เลขานุการของท่านได้อยู่ต้อนรับพวกเราแทน

แต่ด้วยความที่ประการแรก ก็คือทางด้านท่านอริยรัตนะไม่ได้บอกกับทางด้านพลขับเอาไว้ และทางเราจึงสื่อสารให้เขาตรงไปยังวัดอัสคีรียะก่อน แต่ท่านอาจารย์พระมหาสมคิดก็ไม่มั่นใจ จึงต้องรอจนผู้ประสานงานของคณะทัวร์ด้านศรีลังกามาถึง จึงได้ตรงไปยังสำนักงานเลขานุการของพระมหานายกะฝ่ายอัสคีรียะ

ท่านมหานายกะ เมธังกะระนั้น ถ้าเปรียบไปแล้วก็เหมือนกับสมเด็จพระราชาคณะของบ้านเรา และมีการวางตัวเอาไว้แล้วว่า ถ้าหากว่าพระมหานายกะผู้ดำรงตำแหน่งรูปปัจจุบันล่วงลับดับขันธ์ไป ท่านเมธังกะระก็จะขึ้นรับเป็นมหานายกะของฝ่ายอัสคีรียะแทน เรียกว่าเป็นว่าที่สังฆราชของฝ่ายอรัญวาสีทีเดียว

เมื่อพวกเราไปถึง ทางเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานก็นำเข้าไปไหว้พระก่อน แล้วค่อยเข้าไปกราบท่านมหานายกะ ซึ่งพอเห็นท่านอาจารย์พระมหาสมคิดท่านก็ดีใจมาก โดยเฉพาะท่านพยายามหัดพูดภาษาไทยจนได้หลายคำอยู่ทีเดียว เมื่อพวกเรามากันพร้อมครบถ้วนแล้ว ก็ได้ถวายสังฆทานกับท่าน ส่วนท่านก็ได้มอบของที่ระลึกให้ทุกรูป/คน ที่กระผม/อาตมภาพรับมานั้น เป็นภาพของหอรักษาการณ์วัดพระบรมธาตุเขี้ยวแก้ว ภาพใหญ่ทีเดียว พร้อมกับตาลปัตรแบบคณะสงฆ์ศรีลังกาอีก ๑ ด้าม

เมื่อสนทนาปฏิสันถารกันแล้ว ก็ได้รับเลี้ยงน้ำชาจากท่าน แล้วท่านก็นำพวกเราวิ่งตรงไปยังวัดมัลลิกาวะ โดยที่พลขับขับรถลุยเข้าไปทางด้านในเลย ผ่านประตูถึง ๓ ชั้นด้วยกัน ซึ่งครั้งก่อนที่กระผม/อาตมภาพมาถึงนั้น แม้แต่ประตูชั้นแรกก็ไม่ได้เข้าไป ต้องจอดรถที่ลานจอดรถด้านล่าง แล้วเดินผ่านประตูต่าง ๆ เข้าไป แต่ด้วยความที่ท่านเมธังกะระเป็นผู้ยิ่งใหญ่ของที่นี่ ประกอบกับท่านอริยรัตนะได้ประสานงานทุกอย่างไว้แล้ว จึงผ่านทุกด่าน เข้าไปอย่างสะดวกราบรื่น มาเอาเครื่องสักการะต่าง ๆ อย่างเช่นบรรดาพานพุ่ม ผ่านเครื่องสแกนหาวัตถุระเบิด แล้วทางเจ้าหน้าที่ก็นำพวกเราไปพักในห้องพิเศษ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-12-2023 เมื่อ 15:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 22-12-2023, 00:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,575
ได้ให้อนุโมทนา: 151,708
ได้รับอนุโมทนา 4,411,375 ครั้ง ใน 34,165 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ท่านอาจารย์พระมหาสมคิดได้อธิบายขยายความให้พวกเราได้ทราบว่า เหตุที่ได้รับความสะดวกคล่องตัวเช่นนี้ เกิดจากการที่ท่านมาประเทศศรีลังกาเป็น ๑๐ ปีแล้ว และยังได้นิมนต์พระมหานายกะทั้ง ๒ ฝ่าย คือฝ่ายอัสคีรียะและฝ่ายมัลวัตตะไปที่วัดหนองโพด้วย เรียกว่ามีความสนิทสนมกันเป็นการส่วนตัว จนถึงขนาดสามารถขอพระบรมสารีริกธาตุเอาไปไว้ที่วัดหนองโพ ๑ องค์..!

พวกเราเตรียมตัวที่จะทำบุญกัน โดยที่กระผม/อาตมภาพนั้นพกเอาของแพงมา ก็คือเหรียญสมเด็จองค์ปฐมมหาสะท้อน เนื้อทองคำ เลี่ยมทอง พร้อมด้วยสร้อยคอทองคำน้ำหนัก ๕ บาท และเหรียญสมเด็จองค์ปฐมยิ้มรับทรัพย์ เนื้อทองคำ เลี่ยมทอง พร้อมด้วยสร้อยคอทองคำหนัก ๓ บาท ญาติโยมทั้งหลายในคณะจึงขออนุญาตเอาไปอนุโมทนากันโดยถ้วนหน้า

พวกเราฉันน้ำชารอจนได้เวลา เจ้าหน้าที่ก็นำไปเข้าแถวรออยู่ที่ด้านข้างอาคารที่ประดิษฐานพระบรมธาตุเขี้ยวแก้ว แต่ด้วยความหวังดีปรารถนาดี ของทางด้านวัดมัลลิกาวะ ต้องการให้พวกเราได้กราบไหว้บูชาพระบรมธาตุเขี้ยวแก้วด้วยความสะดวกสบาย จึงได้ให้รอจนกระทั่งคนหมดจริง ๆ ทำให้พวกเราได้ยืนภาวนาบ้าง ได้อธิษฐานเป็นการส่วนตัวบ้าง อย่างชนิดที่เรียกว่านานนับเป็นชั่วโมงทีเดียว..!

หลังจากที่คนหมดลงจริง ๆ แล้ว พวกเราก็ได้เข้าไปถวายสักการะพระบรมธาตุเขี้ยวแก้วด้านใน แต่ครั้งนี้อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นเวลาปิดหอประดิษฐานพระบรมธาตุเขี้ยวแก้วแล้ว ชั้นด้านในสุดที่สามารถเข้าไปถึงองค์พระเจดีย์ทองคำ ซึ่งประดิษฐานพระบรมธาตุเขี้ยวแก้วนั้น งานนี้กระผม/อาตมภาพเข้าไปไม่ถึง ได้แต่ชะโงกหน้าดู พร้อมกับถวายเหรียญทองคำพร้อมกับสร้อยคอทองคำเป็นพุทธบูชา แล้วก็ออกมาอธิษฐานสวดมนต์กันด้านนอก

จนกระทั่งคณะญาติโยมได้ถวายบูชากันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็พาพวกเราไปไหว้พระพุทธรูปสำคัญต่าง ๆ พร้อมกับชมวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืน ซึ่งดูได้จากบนหอรักษาการณ์ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังพาพวกเรามาหาจุดถ่ายรูป ซึ่งบอกว่าเป็นจุดที่สวยที่สุดอีกด้วย เมื่อเสร็จสรรพจากสิ่งที่ควรจะได้ควรจะมี ก็มีการแจกรางวัลเป็นการใหญ่ บรรดาเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ รับ
กันไปอย่างจุใจทีเดียว แล้วทางด้านท่านพระมหานายกะ เมธังกะระ ก็ให้เลขานุการของท่านนำพวกเรากลับมาส่งที่โรงแรม The Grand Kandyan เมื่อวานพวกเราจึงได้นอนกันในเวลา ๒ ทุ่มครึ่งของประเทศศรีลังกา ก็คือเวลาสี่ทุ่มของบ้านเรานั่นเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-12-2023 เมื่อ 15:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 22-12-2023, 00:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,575
ได้ให้อนุโมทนา: 151,708
ได้รับอนุโมทนา 4,411,375 ครั้ง ใน 34,165 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่กระผม/อาตมภาพเป็นคนมีเวรมีกรรม เพราะว่ากำลังหลับอยู่ดี ๆ ๓ ทุ่มก็มีผู้มาทุบประตูปลุก พร้อมกับแจ้งว่านำอาหารมาส่ง เมื่อปฏิเสธแล้ว กลับมานอนภาวนาใหม่ได้ไม่ถึง ๑๕ นาที ก็มีเสียงทุบประตูอีก โผล่ออกไปก็พ่อเจ้าประคุณรายเดิม..! คิดว่ากระผม/อาตมภาพน่าจะเปลี่ยนใจรับอาหารบ้าง ก็เลยเอาอาหารมาส่งอีกรอบหนึ่ง จนกระทั่งต้องไล่เตลิดเปิดเปิงไป แล้วก็ไม่ต้องหลับต้องนอนกันแล้ว

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่ากระผม/อาตมภาพเป็นคนที่ตื่นแล้วตื่นเลย จึงได้ภาวนาสะสม "เสบียงบุญ" ไป จนได้เวลาก็ลุกขึ้นมาตรวจแก้บันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ตลอดจนกระทั่งติดตามงานกลุ่มไลน์ต่าง ๆ แล้วก็ไปสรงน้ำ เก็บข้าวของใส่กระเป๋า ลงไปรับวันใหม่ทางด้านล่าง อากาศค่อนข้างจะเย็นสบาย และลมแรงดีมาก แต่ไม่ทราบเหมือนกันว่าโรงแรม ๕ ดาวแห่งนี้ก่อสร้างแบบไหน จึงไม่สามารถที่จะรับลมได้ ทำให้ภายในค่อนข้างจะอึดอัดทีเดียว

ครั้นเมื่อทราบว่าห้องอาหารอยู่ชั้น ๔ กระผม/อาตมภาพจึงได้กดลิฟท์ขึ้นไป พอไปถึงก็พบหลวงพ่อพระครูบูรพาวัชราภรณ์นั่งอยู่ก่อนแล้ว ยังไม่ถึงอึดใจ ท่านอาจารย์พระมหาสุรชัย วราสโภ, ดร. ป.ธ. ๗ เจ้าอาวาสวัดหนองน้ำขุ่น รักษาการเจ้าคณะอำเภอเขาชะเมา ก็ตามมาอีกท่านหนึ่ง สรุปว่าคนตื่นเช้าก็ยังคงเช้าเป็นปกติ พอ ๖ โมงครึ่ง เขาเปิดห้องอาหารให้ จึงได้เข้าไปฉันเช้ากัน เสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ออกมานั่งรอเวลา ด้วยการส่งงานตามกลุ่มไลน์ต่าง ๆ

เมื่อมากันครบถ้วนทุกผู้ทุกคนแล้ว ทางด้านโรงแรมก็นำรถไปส่งเรายังจุดจอดรถด้านล่าง ทำการเปลี่ยนไปขึ้นรถบัส แล้วก็วิ่งตรงไปยังวัดเป้าหมายของเรา ก็คือวัดมัลวัตตะ ปรากฏว่าความดีนั้นมีอยู่คนละส่วน ก็คือทางด้านวัดพระบรมธาตุเขี้ยวแก้ว ซึ่งสนิทสนมคุ้นเคยกับท่านอาจารย์พระมหาสมคิด จนคณะของเราถึงขนาดกลายเป็นแขก VVIP นั้น

พอมาถึงวัดฝ่ายมัลวัตตะ ที่คราวที่แล้วกระผม/อาตมภาพสามารถนำรถเข้าไปจอดอยู่ข้างสำนักงานของวัดเลย แต่ว่าพอมากับคณะนี้ กลับต้องเดินเข้าไปค่อนข้างไกลทีเดียว แล้วก็ไปนั่งรับน้ำชารอเวลา ๙ โมงเช้า จึงได้เข้าไปกราบสักการะ ท่านมหานายกะ สิทธารถะ ซึ่งเป็นมหานายกะฝ่ายมัลวัตตะ พูดง่าย ๆ ก็คือเป็นสมเด็จพระสังฆราชฝ่ายคามวาสีนั่นเอง ท่านยังคงมีสุขภาพที่ไม่ค่อยจะแข็งแรงเหมือนเดิม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-12-2023 เมื่อ 15:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 22-12-2023, 00:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,575
ได้ให้อนุโมทนา: 151,708
ได้รับอนุโมทนา 4,411,375 ครั้ง ใน 34,165 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อพวกเราถวายสังฆทานและรับของที่ระลึกจากท่านแล้ว ได้ไปกราบพระประธานในโบสถ์เก่า ซึ่งหลวงปู่อุบาลีเดินทางมาสืบศาสนา และสร้างมาตั้งแต่ยุคอยุธยาตอนนั้น เมื่อเสร็จจากการสวดมนต์ไหว้พระ ก็มากราบรูปหล่อสมเด็จพระสังฆราชสรณังกรและรูปหล่อหลวงปู่อุบาลี ซึ่งทางเอ็นซีทัวร์ โดยครอบครัวคุณนวลจันทร์ เพียรธรรมได้สร้างมาถวายเอาไว้

จึงทำให้เห็นว่ากระผม/อาตมภาพนั้นได้รับความสะดวกสบายทั้ง ๒ ฝ่าย ก็คือทางด้านฝ่ายวัดมัลลิกาวะหรือวัดพระบรมธาตุเขี้ยวแก้ว ได้อาศัยบารมีของทางด้านพระมหาสมคิด อตฺถสิทฺโธ ทำให้เข้านอกออกในได้สะดวกเป็นอย่างยิ่ง แต่ทางฝ่ายมัลวัตตะนั้น คราวที่แล้วได้อาศัยบารมีคุณนวลจันทร์ เพียรธรรม นำเข้าออกอย่างสะดวกสบาย จึงทำให้กลายเป็นความชัดเจนที่ว่า "เส้นใครเส้นมัน" ก็ว่าได้..!

เมื่อเสร็จจากทางวัดมัลวัตตะ พวกเราก็ขึ้นรถยนต์ วิ่งย้อนมายังสถานที่ช็อปปิ้ง คือ ร้าน Royal Kandyan ปล่อยให้ญาติโยมทั้งหลายได้เข้าไปซื้อหาข้าวของกัน แล้วก็รับประทานอาหารกลางวันกันที่ด้านบนของร้านนั้นด้วย เมื่ออิ่มแล้วพวกเราก็นั่งรถต่อไปยังวัดศรีธรรโมทยะ ซึ่งเป็นวัดที่ท่านอาจารย์พระมหาสมคิด ได้มาสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ สูงถึง ๑๒๐ ฟุตเอาไว้

แต่ปรากฏว่าผ่านร้านขายใบชาก่อน ซึ่งทางศรีลังกานั้น ชาซีลอนมีชื่อเสียงมาก พวกเราจึงแวะเข้าไปอุดหนุนกันตามระเบียบ และต้องสละรถบัสใหญ่จอดเอาไว้ที่นี่ นำเอารถบัสเล็กวิ่งไปวัดศรีธรรโมทยะแทน เพราะว่าต้องวิ่งขึ้นเขา ทางคับแคบ ซึ่งรถใหญ่ไม่สามารถที่จะเข้าออกได้สะดวก

พวกเราไปถึงก็สวดมนต์กันหน้าหลวงพ่อโต ซึ่งยังสร้างไม่ทันจะเรียบร้อย ยังขาดพระหัตถ์ทั้งสองข้าง โดยท่านอาจารย์พระมหาสมคิด นิมนต์พวกเราให้มาร่วมกันทอดกฐินในปี ๒๕๖๗ เพื่อจะได้สร้างให้เสร็จไปทีเดียว แล้วก็นั่งรถขึ้นไปยังด้านบนของวัด มีคณะการแสดงมาต้อนรับตั้งแต่เชิงเขา พาพวกเราเข้าไปจนกระทั่งถึงในศาลา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-12-2023 เมื่อ 15:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 22-12-2023, 00:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,575
ได้ให้อนุโมทนา: 151,708
ได้รับอนุโมทนา 4,411,375 ครั้ง ใน 34,165 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อได้ทำการสักการะบูชา ไหว้พระ จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยแล้ว ก็มีการถวายผ้าป่ากัน เสร็จสรรพรับพรกันแล้ว ทางวัดก็ได้มอบของที่ระลึกให้กับพวกเรา เป็นเจดีย์ทองเหลืองบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งดูจากทั้งพระเจดีย์ที่มอบให้แก่ทั้งพระและโยมแล้ว ยังมีตาลปัตรที่มอบให้กับพระทุกรูป จนกระทั่งเป็นห่วงว่า เงินผ้าป่าของเรานั้น จะคุ้มกับของที่ระลึกของเขาหรือไม่..?!

ทางวัดยังมีการเลี้ยงอาหารว่างแก่ญาติโยมทั้งหลาย และถวายชานมแก่พระทุกรูป แล้วเราถึงได้เดินทางกลับลงมาทางด้านล่าง แล้วก็เห็นความมีน้ำใจของคนศรีลังกา ก็คือรถแวนที่วิ่งสวนขึ้นมานั้น อยู่บนเนินพอดี รถใหญ่ของเรากำลังลงเนิน รถแวนจึงยินดีที่จะถอยกลับออกไปเพื่อให้เราลงเนินได้สะดวก มาเปลี่ยนขึ้นรถใหญ่ที่ร้านขายชาซีลอนแล้ว ก็วิ่งตรงไปยังกรุงโคลอมโบ โดยมีการแวะเข้าห้องน้ำข้างทางเป็นระยะไป

จนกระทั่งเวลาประมาณ ๑ ทุ่มของศรีลังกา ก็มาแวะโรงแรม Covanro ให้พวกเราได้อาบน้ำแต่งตัวกันใหม่ ก่อนที่จะขึ้นเครื่องบินในคืนนี้ โดยนัดพร้อมกันที่รถในเวลา ๓ ทุ่มครึ่งของศรีลังกา ก็แปลว่า พรุ่งนี้เช้า ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด กระผม/อาตมภาพจะเดินทางถึงเมืองไทยโดยสวัสดิภาพ

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-12-2023 เมื่อ 15:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:56



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว